Toggle Dropdown
ค้นหา
ค้นหาชื่อสินค้า
ค้าหารีวิวและบทความ
ค้นหาโปรโมชั่น
ค้นหาฟีดข่าว
ค้นหาไฮไลท์
TH
EN
หน้าแรก
สินค้า
เว็บบอร์ด
เกี่ยวกับเรา
สาขา
วิธีชำระเงิน
ติดต่อเรา
Guest
อีเมล์ / ชื่อผู้ใช้ :
รหัสผ่าน :
ลืมรหัสผ่าน
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
หรือ
ค้นหาโดย Google
ค้นหาทุกคำ
ค้นหาชื่อกระทู้
ค้นหาชื่อผู้ตั้งกระทู้
เว็บบอร์ดจับฉ่าย
หูฟังมือสอง
ซื้อขายจิปาถะ
รีวิวและบทความ
กระทู้เฮีย
คลับ
หมวดหมู่ > เว็บบอร์ด จับฉ่าย
ช่องทางการติดต่ออื่น
All
5
10
15
ขนาดDriver Unit,Sensitivity,ImpedentและFequency Responseมีผลยังไงต่อหูฟังบ้างครับ
Shared
ติดตามกระทู้นี้
แจ้งลบ
Onwan
08/12/2008 01:44:10
เอาไว้ประดับเป็นความรู้ และตัดสินใจเลือกซี้อ แล้วมีตารางเปรียบเทียบพร้อมราคามั้ยครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 1
นายมั่นคง
08/12/2008 13:39:28
0
พวกนี้จะเป้นตัวเลขสเปคในห้องปฏิบัติการหรือแลปครับ คือวัดจากเครื่องมือที่ใช้วัดเกี่ยวกับเสียง และก็ร่ายสเปคอยู่ข้างกล่องให้เรางงเล่นๆๆ จากที่ผมเคยเล่นมา การอ่านสเปคของหูฟังนั้น แทบไม่มีประโยชน์จริงๆๆ ครับ คือไม่เคยเห็นรายไหนแจ้งแล้วตรง หรือว่าได้สุ้มเสียงตามที่ว่าเลยล่ะจ้า...555
driver unit ก็คือ ตัวไดรเวอร์ที่อยู่ในตัวหูฟัง ถ้าเป้นพวก inear ก็มักจะทำเป็นอันเดียว หรือแยกแบ่งออกมาเป็น 2 อัน เพื่อขับเสียงต่ำ อีกตัวขับเสียงแหลม เรียกว่ามี 1-2-3 ให้เลือก แต่เอาเข้าจริงต้องฟังอยู่ดี และไดรเวอร์หลายๆๆ ตัวก็มักจะแพงกว่าครับ
sensitivity คือความไวครับ หูฟังใดระบุตัวเลขนี้ไว้มากกว่า ก็แสดงว่าเล่นได้ดังกว่า โดยไม่กินแรงเครื่องครับ เรีรยกว่า หูฟังมีความไวที่มากกว่านั่นเองจ้า...
impedance คือความต้นทาน มีหน่วยเป็นโอห์มครับ อันนี้ผมไม่ทราบว่ามันมาจากอะไร เพียงแต่ทราบแบบคนทั่วไปว่าถ้าตัวเลขน้อย ยิ่งเปิดได้ด้งกว่า ขับได้ง่ายกว่า อย่างเช่น 16 โอห์ม ขับง่ายกว่า 32 โอห์ม และ ขับง่ายกว่า 300 โอห์ม
Fequencey Response อันนี้คือการตอบสนองความถี่เสียง ปกติหูคนเราฟังเสียงได้แค่ 20Hz- 20000HZ และหูฟังก็มักจะโฆณามั่วว่า ทำได้ถึง 15-250000 หรือบางเจ้าบ้ามากกว่านี้ ก็เขยนสเปคมั่วๆๆ ให้เราอ่านครับ ซึ่งอันนี้แนะนำว่าอย่าสนใจ ถึงเวลาเอาเข้าจริง ทำไม่ได้ซักกะราย 555
สุดท้าย ก็คือต้องฟังเทียบด้วยตัวเองจริงๆๆ ถึงจะรู้ว่าอันไหนดีกว่าอันไหน สเปคอาจจะใช้ได้กับวงการอื่น แต่วงการเครื่องเสียงหูฟัง ผมว่ามันยังไม่ได้จ้า 555
พวกนี้จะเป้นตัวเลขสเปคในห้องปฏิบัติการหรือแลปครับ คือวัดจากเครื่องมือที่ใช้วัดเกี่ยวกับเสียง และก็ร่ายสเปคอยู่ข้างกล่องให้เรางงเล่นๆๆ จากที่ผมเคยเล่นมา การอ่านสเปคของหูฟังนั้น แทบไม่มีประโยชน์จริงๆๆ ครับ คือไม่เคยเห็นรายไหนแจ้งแล้วตรง หรือว่าได้สุ้มเสียงตามที่ว่าเลยล่ะจ้า...555
driver unit ก็คือ ตัวไดรเวอร์ที่อยู่ในตัวหูฟัง ถ้าเป้นพวก inear ก็มักจะทำเป็นอันเดียว หรือแยกแบ่งออกมาเป็น 2 อัน เพื่อขับเสียงต่ำ อีกตัวขับเสียงแหลม เรียกว่ามี 1-2-3 ให้เลือก แต่เอาเข้าจริงต้องฟังอยู่ดี และไดรเวอร์หลายๆๆ ตัวก็มักจะแพงกว่าครับ
sensitivity คือความไวครับ หูฟังใดระบุตัวเลขนี้ไว้มากกว่า ก็แสดงว่าเล่นได้ดังกว่า โดยไม่กินแรงเครื่องครับ เรีรยกว่า หูฟังมีความไวที่มากกว่านั่นเองจ้า...
impedance คือความต้นทาน มีหน่วยเป็นโอห์มครับ อันนี้ผมไม่ทราบว่ามันมาจากอะไร เพียงแต่ทราบแบบคนทั่วไปว่าถ้าตัวเลขน้อย ยิ่งเปิดได้ด้งกว่า ขับได้ง่ายกว่า อย่างเช่น 16 โอห์ม ขับง่ายกว่า 32 โอห์ม และ ขับง่ายกว่า 300 โอห์ม
Fequencey Response อันนี้คือการตอบสนองความถี่เสียง ปกติหูคนเราฟังเสียงได้แค่ 20Hz- 20000HZ และหูฟังก็มักจะโฆณามั่วว่า ทำได้ถึง 15-250000 หรือบางเจ้าบ้ามากกว่านี้ ก็เขยนสเปคมั่วๆๆ ให้เราอ่านครับ ซึ่งอันนี้แนะนำว่าอย่าสนใจ ถึงเวลาเอาเข้าจริง ทำไม่ได้ซักกะราย 555
สุดท้าย ก็คือต้องฟังเทียบด้วยตัวเองจริงๆๆ ถึงจะรู้ว่าอันไหนดีกว่าอันไหน สเปคอาจจะใช้ได้กับวงการอื่น แต่วงการเครื่องเสียงหูฟัง ผมว่ามันยังไม่ได้จ้า 555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ตอบกระทู้ :
"ขนาดDriver Unit,Sensitivity,ImpedentและFequency Responseมีผลยังไงต่อหูฟังบ้างครับ"
รายละเอียด :
ชื่อ :
รหัสความปลอดภัย :
ตกลง
ตั้งค่าใหม่
แจกหูพิเศษ :
แจ้งลบกระทู้ / ข้อความ
สาเหตุ :
โพสที่แจ้งลบ
แจ้งโดย
เหตุที่แจ้ง
สถานะ