จัดไปครับ ผมถามอากู๋มาให้แล้วจ้า เข้าไปอ่านได้เลยครับ


http://en.wikipedia.org/wiki/Vacuum_tube

ฮว๊ากกกกกกก จขกท.อังกฤษเกรด2

อูวววว มึนตึ๊บ กำลังพยายามนั่งแกะ+ใช้บริการซัพนรกของgoogle -..-

vacuum tube, electron tube (ตามแบบอเมริกาเหนือ), or thermionic valve หรือ หลอด ในภาษาทั่วไปนั่นเอง คือเครื่องมือที่ทำงานด้วยการเคลื่อนที่ของกระแสไฟฟ้าผ่านสุญญากาศ หลอด สามารถแก้ไข เพิ่มแรงขับ ทำหน้าที่เป็นสวิสหรือทำหน้าที่คล้ายกับตัวสร้างสัญญาณไฟฟ้าได้ หลอดที่ว่าทำงานด้วยกระบวนการ Thermionic Emission หรือคือการที่กระแสไฟฟ้าวิ่งจากสสารที่มีความร้อนสูง (เพราะพลังงานความร้อนให้พลังงานแก่อิเล็กตรอน ทำให้มันมีพลังงานมากพอจะเด้งหลุดออกมาจากอะตอมได้ ) ตัวปล่อยกระแสไฟฟ้าคือ cathode และตัวรับเรียกว่า anode อิเล็กตรอนดังกล่างที่ถูกปล่อยออกมาทำให้ หลอด ที่ว่าสามารถทำหน้าที่เป็นสวิสไฟฟ้าหรือขยายสัญญาณไฟฟ้าได้

แปลมาจาก

http://en.wikipedia.org/wiki/Vacuum_tube
http://www.britannica.com/EBchecked/topic/591505/thermionic-emission

อ่าน-แปลรวดเดียวเลยนะครับ ผิดบ้างขออภัย ฮ่าๆๆ

เป็นสูญญากาศ ข้างใน แสงสีส้มแดงใน เป็นไส้หลอดที่ จุดกระแสให้อิเลคตรอน
ที่ร้อน วิ่งออกมา หาขั้วต่างๆ ภายในที่ออกแบบไว้ในส่วนที่ทำหน้าที่ต่างๆ
ส่วนการนำสัญญาณ จะนำพาสัญญาณเสียง จาก อินพุทที่เราป้อนเข้าไป
ขี่หรือเกาะหลัง อิเลคตรอนไปเรียกว่า ความถี่คู่ควบ และ ขยายเสียงผ่าน
ภาคแปลงสุดท้าย จากไฟตรง ให้เป็นกระแสเสียง ขับขาน ลำโพงหรือหูฟัง
เสียงจะดี หรือ ไม่ดีเพียงไร อยู่ที่วงจรการออกแบบ
ว่าจะมีความเหมาะสมเพียงใด หลักการทำงานคล้ายๆ ออปแอมป์ เพียงแต่ ในโซลิด
ระยะการวิ่งอิเลคตรอน สั้นมากๆ ทำให้เสียงมีความไว แข็งมากกว่า
หลอด ซึ่งนุ่มนวลกว่า คงจาก อิเลคตรอนวิ่งฝ่าสูญญากาศ ในระยะดิเลย์ มากกว่า
ความมีสเน่ห์ แห่งเสียงจากหลอด จึงชวนฟังมากกว่า
ถึงแม้บางครั้ง ค่าการวัดกับ เครื่องวัดค่าความเพี้ยน จะสูงกว่าโซลิด
แต่การรับฟังด้วยหู อาจจะฟังดีกว่า สนุกกว่า ฟังได้นานไม่ล้า ง่ายๆ

การออกแบบวางหลอด มีหลายสไตล์ ที่วางโชว์ เพื่อสวยงาม และการระบาย
ความร้อน ด้วยประการหนึ่ง