555555

โหมโรงก่อน FS อีกรอบเหรอครับ 555

บอกผมทีเรื่องนี้ไสยศาสตร์หรือวิทยาศาสตร์ 555+

หูทองคำจริงๆ ผมขอยอมแพ้ กรอๆไปอ่านช่วงเอานิ้ว เอาปากหรือเอาผ้านุ่มๆจิ้มปุ่ม ก็ตื่นตะลึงกับวงการนี้มากๆเลย เห่อๆ

น่าจะมี blind test

เรื่องอื่นๆยังพอเชื่อได้ แต่เรื่อง remote นี่ถ้าไม่ได้ลองเอง ก็ขอยังไม่เชื่อไปก่อนครับ

แต่จะว่าไปก็นับถือเค้านะครับ ถ้าฟังออกจริง แสดงว่ามีการฝึกฝนและมีสมาธิดีเยี่ยม เหลือเชื่อ

จำได้ว่าเคยมีเรื่องประมาณว่า ให้ผู้ชายกดรีโมท กับผู้หญิงกดรีโมท เสียงยังแตกต่างกันเลยครับ

คาดว่าชีวิตของคนพวกนี้คงหาความสุขได้ยากมากๆ

ไม่อุปทานหมู่ก็คงเป็นเรื่องแหกหูล่ะครับ

เรื่องรีโมทคอนโทรลนี่ผมเคยอ่านการทดสอบเครื่องเสียง โดยอาจารย์ไมตรี ทรัพย์เอนกสันติจากนิตยสาร What HiFi ท่านเขียนว่า ตัวรีโมทมีผลต่อเสียงครับ เวลาท่านทดสอบเครื่องเสียงที่มีรีโมท ท่านยังต้องเอาตัวรีโมทไปไว้ห้องอื่น(ที่ไม่ใช่ห้องที่ใช้ทดสอบเครื่องเสียงเครื่องนั้น)เลยครับ ท่านว่าถ้าเอาไว้ใกล้เครื่องตัวแม่ จะทำให้เสียงเพี้ยนไป อันนี้ฟังจากหูท่านนะครับ มิใช่หูของผมแต่อย่างใด ไม่รู้จะเป็นกรณีเดียวกันไหมครับ

เรื่องรีโมท ไว้ในห้องกับเอาออกไปข้างนอก นี่เคยลองครับ เห็นผลเหมือนกัน ต้องเพ่งกันจริงๆ และต้องเป็นเพลงที่คุ้นมากๆ

ส่วนเรื่องคนละยี่ห้อนี่ไม่เคยลองครับ คิดว่าอาจจะมีผลบ้าง

ส่วนเรื่องที่ว่า ผู้ชาย-ผู้หญิงกดรีโมท หรือใช้ นิ้วไหนกดแล้วเสียงเปลี่ยน น่าจะเป็นเรื่องโจ๊ก หรือเรื่องกะแนะกะแหนแดกดันกันมากกว่ากันมากกว่า

และที่ว่าพวกนี้คงหาความสุขได้ยาก อันนี้ไม่จริงครับ นักฟังพวกนี้เขามีความสุขกับการได้รับรู้ความเปลี่ยนแปลง ตั้งแต่เปลี่ยนอุปกรณ์ กลับขั้วปลั๊ก สลับสาย ขยับเลื่อนลำโพง หาอะไรมาทับ มารอง ฯลฯ ครับ

เรื่องรีโมท คุณ echo ฟังออกจริงๆผมต้องยอมรับด้วยความสัตย์จริงเลยครับ ว่าเทพมากๆ
ไม่แดกดันหรือกระแนะกระแหนนะครับ คือผมคิดว่า ถ้ามีคนกล้าบอกว่าฟังออกอย่างจริงๆจังๆ ไม่ใช่เล่นมุข

ผมก็ต้องยอมรับในความสามารถจริงๆ

ส่วนเรื่องหาความสุขที่ผมพิมพ์ไปนั้น คงจะสื่อไม่ครบถ้วนเอง

ที่ผมบอกว่าคนเหล่านั้นคงหาความสุขได้ยาก คือความสุขในการฟังเพลงน่ะครับ
มันเหมือนกับความนึกคิด สติ การโฟกัสทั้งหมดของเขาจะจดจ่ออยู่แต่เรื่องที่ว่า "ต่อไปจะเปลี่ยนแปลงอะไรดี"

คล้ายๆกับเพื่อนผมหลายคนที่สนใจแต่จะคอยซื้อหูฟังใหม่ๆ เครื่องเล่นใหม่ๆ สายใหม่ๆ
แต่แทบไม่เคยนั่งฟังเพลงเป็นเรื่องเป็นราว กดฟังแต่เฉพาะไฟล์เทสเสียงกีต้าร์ กลอง สแนร์ ไฮแฮท
คือมันสนใจแค่นั้น

ถ้าลองให้ฟังเพลงจริงๆ กลับนั่งฟังเพลงละ 10-20 วิ แล้วก็เปลี่ยนเพลงไปเรื่อยๆ

เข้าใจว่าเค้าก็มีความสุขของเค้าล่ะครับ กับการได้ครอบครอง หรือเปลี่ยนแปลงอะไรไปเรื่อยๆ
แต่ถ้าจะถามว่าคนพวกนี้รักการฟังเพลงเหรอ มีความสุขกับการฟังเพลงเหรอ ผมว่าไม่ใช่

น่าจะเรียกว่ามีความสุขกับการเฟ้นหาอุปกรณ์ถ่ายทอดเสียงที่สุดยอดที่สุด มากกว่า

ไม่ต้องการมาม่าหรือโจมตีใครนะครับ เป็นเพียงความเห็นส่วนตัวเท่านั้นครับผม

อ่านแล้วปวดหัวกับ กลุ่มนักฟ้งกลุ่มนี้ จริงๆเลยครับ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ

ขอตอบต่ออีกสักนิดนะครับ อย่าว่าผมเทพหรืออะไรเลยครับ เพียงแต่ผมสนใจ ชอบฟังชอบอ่าน นานมาร่วม20ปีแล้ว อ่านบทความทั้งของ อ.ไมตรี คุณจงจินต์(เด็กวัด) คุณวิจิตร บุญชู คุณธานี อ่านไปก็ลองทำตาม เห็นผลมั่ง ไม่เห็นผลมั่ง แต่เรื่องที่ได้ผลมากๆ คือเรื่องพวก การจัดวางลำโพง ขยับนิดขยับหน่อย ค่อยปรับจูนไป ฟังเพลงได้สุขมากขึ้นครับ ยกตัวอย่างง่ายๆ เราฟังศิลปินที่ชอบไปทุกวันๆ พอวันนึงเราลองกลับปล้๊กไฟ เสียงไพเราะขึ้นอีก อันนี้เป็นจุดเริ่มต้นแรกของการปรับปรุงแบบไม่เสียเงินครับ

เรื่องรีโมทนี่ อย่างที่บอกครับ ต้องเพลงที่คุ้น ที่ชอบจริงๆ และต้องช่วงที่สังเกตุได้ง่ายๆ ถ้าเพลงที่ฟังน้อยก็แยกไม่ได้

ส่วนเรื่องที่ว่าเขาเหล่านั้นฟังเพลงแล้วมีความสุขไหม อันนี้ขอบอกว่า พวกเขาก็มีช่วงเวลาที่ฟังเพลงแบบฟังเสพสุขจากเพลงจริงๆครับ เพียงแต่บางเวลาก็มาลองเล่นกับอุปกรณ์ หรือเทคนิคประหลาดๆบ้างเท่านั้น

การจัดวางลำโพงนั้นผมเห็นด้วยอย่างเต็มที่ครับ

น่าจะเป็นวิธีที่ฟังความแตกต่างได้อย่างง่ายที่สุดล่ะ เพราะทิศทางเสียงเปลี่ยนไปโดยตรง

แต่มันก็มีบางเรื่องที่ประหลาดเกินสามัญสำนึกของผม
อย่างถ้าอ้างอิงจากในลิงค์ที่คุณ butnotforme ยกมาให้เราอ่านกันนั้น

นอกจากเรื่องรีโมทแล้ว ก็ยังมี วิธีในการกดปุ่มเครื่องเล่นด้วย
มีแจกแจงรายละเอียดกันได้เป็นฉากๆเลย ว่าใช้นิ้วชี้กด เสียงจะเป็นแบบนี้
ถ้าลองใช้ปากกากดปุ่ม เสียงจะเป็นอีกแบบ
และใช้ผ้านุ่มๆมากด เสียงก็จะนุ่มตามเนื้อผ้า......... (อยู่ใน คห.23 ของลิงค์นั้นครับ)

การกดที่ว่าก็คือการกดปุ่ม เล่น ของเครื่องนะครับ กดปุ่มเครื่องเล่นผ่านผ้า ..
ไม่ใช่เอาผ้าไปคลุมลำโพง หรือไปพันหัวตัวเอง ซึ่งแบบนั้นเสียงเปลี่ยนแน่นอน

^ ซึ่งถ้าลองอ่านดู ผมค่อนข้างแน่ใจว่าพวกเค้าไม่ได้กำลังเล่นโจ๊กกันแน่ๆครับ

ถ้าบอกได้ว่าเพราะอะไรถึงได้ผลอย่างนั้นด้วยจะ "มหาเทพ" เลยครับ

เรื่องการจัดวางหรือเรื่อง DPoLS (Dead Points of Live Sound)

อันนี้เห็นผลจริงๆครับ ตอนแรกผมก้ไม่เชื่อ จนได้เจอพี่คนนึงซึ่งเค้าเก่งทางด้านนี้มากมาเดินปรับๆ เคาะๆ ฟังทดสอบไปเรื่อยๆ จนเสร็จเหมือนฟังจากเครื่องเสียงคนละชุด

อุปกรณ์ดี ช่วยให้ฟังความแตกต่างออกครับ
ความแตกต่างที่ว่า ทำให้เราฟังแล้วมีความสุขหรือไม่
ถ้าฟังแล้วมีความสุขกับเสียงเพลง
ก็ถือว่า ได้ทำหน้าที่ตรงตามหน้าที่ของเครื่องเสียง
ประสบการณ์ในการฟัง ก็เป็นปัจจัยส่วนหนึ่งของความสุขการฟังเพลง

ที่เอามาให้อ่านนี่ คือ เรื่องหลายๆเรื่องผมพอรู้และเชื่อว่าทำแล้วเสียงมันต่าง
เช่น block ไม่จูนเสียง วางไปในที่ที่แตกต่างกัน หรือ ตำแหน่งการขยับลำโพง พวกนี้มันฟังไม่ยาก
แต่เรื่อง remote นี่ ถ้าทำเอาสนุกก็โอเค แต่ถ้าใครเกิดเอาไปจริงจังนี่ ผมว่าอย่างนี้ ไม่ใช่คนฟังเพลงแล้วครับ แต่เป็นนักเล่นอุปกรณ์ คนกลุ่มนี้เค้ามีความสุขในรูปแบบของเค้า ฟังเพลงเดิมๆซ้ำๆ แต่สังเกต การเปลี่ยนแปลงของสิ่งที่เอามาลอง เค้าคงมีความสุข ของเค้า
แต่เป็นผมผมคงเบื่อแน่ เพราะเป็นคนชอบหาเพลงเพราะๆมาฟังมากกว่า ที่จะหาอุปกรณ์มาลอง

มีเรื่องผ้าวิเศษสำหรับเช็ดแผ่น CD ด้วยนะครับ เช็ดแล้วเสียงดีขึ้น 555

5555

ลองไปอ่านแถวเวปปิยะนัสดูเน้อ 555

เป็นอะไรที่มหัศจรรย์กับผมมากครับ

เพราะผมเองฟังไม่ค่อยออกถึงความแตกต่างเลย พูดจริงๆ ขนาดบรรดาไอพอดที่มีในกรุ สะสมไว้เพราะชอบเท่านั้น ความแตกต่างของเสียงฟังแล้วก็เพราะได้เหมือนกัน

ดีแล้วที่ฟังไม่ออก จะได้ไม่ต้องเสียตังค์เพิ่ม อิ อิ

รีโมต มีผลต่อเสียงด้วยเรอะ T_T

ลิงค์นั้น เรื่องรีโมตผมอ่านแล้วไม่ปวดตับเท่า บิดตำแหน่งก้อนไม้แล้วฟังออกในทันทีนะครับ T_T

วันดีคืนดี ฝุ่นเกาะยกขึ้นปัดสงสัยต้องเซตระบบใหม่หมด

ผมชอบวิธีบิดเครื่องเล่น cd ทลตามเข็มเสียอย่าง ทวนเข็มเสียงอย่านี่แหละ..แจ่มมากทริคนี้
แล้วถ้าห้องผมมันหันคนละด้านกับห้องที่เค้้าลองกัน ประมาณว่าต้องตั้งเครื่องเล่นหันทวนเข็มไป 180 องศา
เสียงออกมาคงแย่น่าดู ต้องแก้ด้วยการหันเอาตูดเครื่องออกมาทางคนนั่งฟังซินะ หุ หุ

หมุน block ไม้ยังพอเข้าใจครับ แต่เอามือ กดปุ่ม กับเอา remote นี่ดิ
อย่างนี้กดแรงแรง กับกดเบาๆเสียงก็ต้องต่างกันดิ เพราะใช้พลังงานจลน์ ไม่เท่ากัน
ใช้ remote คงห่วยสุด เพราะมีการใช้พลังงาน น้อยสุด 5555555 เรานี่มั่วจริงๆ