ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนว่า ผมนี่เป็นมนุษย์ที่ติด TV อย่างหนัก ยิ่งละครด้วยแล้ว ติดงอมแงมเลย
และสิ่งหนึ่งที่ผมมักจะโดนสวรรค์กลั่นแกล้งก็คือ ผมต้องอยู่ทำงานดึก ในวันที่ละคร "อวสาน"
จนทำให้สิ่งที่ผมบรรจงเฝ้าดู เฝ้าติดตามมานานแสนนาน ต้องดับสลายไปในวันสุดท้าย
หลายต่อหลายครั้งที่ต้องเดินคอตกขึ้นรถเมล์กลับบ้านตอนดึกๆ ทั้งๆที่เพื่อนๆบางคนก็ได้นอนดูละคร ดูรายการโปรดอยู่ที่บ้านอย่างสบายใจเฉิบ
และด้วยที่ทำงานอยู่ไกลสุดแสนจะไกลจากที่พัก ผมจะตื่นนอนก่อน6โมงเช้า และต้องรีบออกไปรอรถรับส่งก่อน 6โมงครึ่ง
ซึ่งช่วงเวลานี้เองที่ผมมักจะเปิด TV เพื่อUpdate ข่าวสารในแต่ละวันว่ามีอะไรบ้าง แต่มันก็มีเวลาแค่นิดเดียว บางทีติดพันกับข่าวอยู่ อยากดูต่อ ก็ดูไม่ได้ ต้องรีบไปรอรถไปทำงาน
ผมทนเก็บความกล้ำกลืนตรงนี้ไว้เป็นแรมปี แรม2ปี จนถึงแรม4ปี เมื่อวานพอมีเวลาบ้างช่วงเย็น เลยได้ไปเดินห้าง
แล้วผมก็ไปเจอกับเจ้า TV เคลื่อนที่ตัวนี้เข้า น้ำตาของอดีตลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่แทบจะไหลหลั่งพรั่งพรูออกมาอาบสองแก้ม ผมใช้เวลาเลือกเจ้า TV เคลื่อนที่ตัวนี้ประมาณ 30นาที ก็ได้มันมาเป็นสมบัติอีกชิ้นที่สามารถเคลื่อนที่นำพาตัวมันเองไปไหนต่อไหนกับผมได้ เรียกได้ว่าเป็นเพื่อนคู่ทุกข์แก้เหงากันได้ว่างั้นหล่ะ
แล้วความสุขเล็กๆน้อยๆของผมก็เกิดขึ้นอีกครั้ง ณ วันที่ฝนตกหนัก จนทำให้ผมกลับบ้านไม่ได้ ต้องยืนหลบฝนอยู่ในห้างสรรพสินค้า เมื่อก่อน ผมอาจจะกระวนกระวายอยากให้ฝนหยุดตกเร็วๆ เพื่อที่จะได้กลับไปดูรายการTV ที่ชอบ
แต่เมื่อวานนี้ ผมไม่ต้องกระวนกระวายแล้ว เพราะผมมีเพื่อนคลายเหงาตัวนี้
ผมขอตั้งชื่อมันว่า "Blueberry TV แก้เหงา"