ผมเชื่อว่าในเดือนที่ผ่านมามีหลายท่านสนใจเจ้า DAC ลูกเจี๊ยบตัวนี้
เนื่องจากราคามันช่างเย้ายาวใจเสียจริงๆ เนื่องจากค่าตัวมันอยู่แค่ประมาณธนบัตรสีเทาใบเดียวก็สามารถซื้อได้แล้ว
และดูเหมือนว่าจะเป็น DAC ในคลาดล่างสุด เพราะคงไม่มี DAC ในราคาไหนต่ะกว่านี้อีกแล้ว จะมีก็แค่ราคาไล่เลี่ยกัน
แต่สิ่งที่ผมว่าน่าสนใจสำหรับเจ้า DAC ลูกเจี๊ยบนั้นก็คือ มันมาจากค่าย FiiO นั่นเอง
ซึ่งค่ายนี้มักจะทำอะไรเล็กๆ และราคาอยู่ในระดับที่บุคคลเริ่มเล่นจับต้องได้ เช่น แอมป์ลูกเจี๊ยบที่เคยโด่งดังมาแล้ว
ตามมาด้วย DAC-Amp E7 ซึ่งตอนนี้ทาง FiiO ก็ได้คลอด DAC รุ่นเล็กๆออกมาคือ D3 และจะมี D5 ตามออกมา
แต่วันนี้ผมจะนำเสนอเจ้า D3 ก่อน ไว้ D5 เข้ามาค่อยว่ากันว่าผมจะมีแรงทำหรือไม่






แพ็คเกจอยู่ในกล่องกระดาษใบเล็กๆ เล็กมากๆด้วยครับ เล็กกว่าฝ่ามือผมอีกครับ
ซึ่งขนาดมันอยู่แค่ 6.5 x 7.5 x 8 (cm) เท่านั้นเองครับ







Spec มาข้างกล่องแบบนี้ TroRuwA ชอบครับ ไม่ต้องหาข้อมูล ไม่ต้องนั่งพิมพ์เอง สบายเนื้อสบายตัว ^^







อุปกรณ์ทั้งหมดมีตามนี้นะครับ Adapter , คู่มือการใช้งาน , สุดท้ายคือตัว DAC ครับ







คู่มือการใช้งานแบบคร่าวๆ ใช้งานง่ายๆ เพียงเสียบปลั๊ก เสียบสาย Digital เสียบสาย Analog ก็เรียบร้อย












ภาพหัวและท้ายของเข้า D3 อันไหนหัวอันไหนท้ายก็ไม่รู้นะครับ มันมีรูหมดเลย 555
สาย Digital เลือกรับได้ทั้ง Optic และ Coax นะครับ โดยจะมีสวิชให้โยกเพื่อเลือกว่าจะรับ input ใด







สุดท้าย Adapter ครับ รับไฟทางสาย mini USB ซึ่งจากเสปคหม้อแปลง มันไม่ได้เยอะอะไร
ผมก็เดาว่าน่าจะเสียบจาก USB ของคอมออกมาได้ ก็เลยจัดการไปหาสาย USB ของ Ext HDD มาซะ
แล้วก็ลองจิ้ม ผลที่ออกมาก็คือ...............
ไฟมันติดครับ เสียงมันก็ออก สรุปว่าใช้ไฟจาก USB ได้ครับ ดีใจด้วยครับผม
แต่ก็ต้องขอกล่าวคำว่าเสียใจด้วยเช่นกัน ไฟจาก USB มันทำให้เสียงแย่ครับ
แย่กว่าเยอะพอประมาณด้วย เอาเป็นว่าไว้ใช้แก้ขัดละกันนะครับ ถือว่าเป็นทางเลือกในกรณีฉุกเฉินละกันครับ
(เสียบ USB จ่ายได้แต่ไฟนะครับ รับข้อมูลไม่ได้จ้า)


ต่อไปเป็นภาพเครื่องใน เนื่องจากคนเขียนหมดมุข เลยขอไม่บรรยายละกันนะครับ
โยนรูปลงไปให้ดูกันเอง -*-


























-------------------------------------------------------

มาต่อกันในเรื่องของเสียงดีกว่า เพราะเป็นส่วนที่สำคัญที่สุด
ผมขอเทียบกับออนบอร์ดละกันนะครับ เพราะคงไม่มีอะไรเทียบได้ดีไปกว่านี้อีกแล้ว
ออนบอร์ดผมเป็น realtek 892 นะครับ เรียกว่าออนบอร์ดตัวนี้ไม่ได้กระจอกครับ
แต่เมื่อเจอ D3 แล้วก็ต้องบอกว่ากระเด็นละครับ D3 นั้นเหมือนที่ผมเดาไว้เป๊ะ


เพราะแนวเสียงของ FiiO ก็คือ เน้นกลางและต่ำ เป็นตัวชูโรงแน่นอน พูดง่ายๆ เอาใจวัยรุ่นล่ะ
ฟังสนุกเอาไว้ก่อน สิ่งที่ได้เพิ่มจาก ออนบอร์ดก็คือ กลางที่อิ่มกว่า มีมวลและขึ้นรูปมากกว่า มันเด่นมาก
เวทีเสียงมันจะถูกเขยิบขึ้นมาด้านหน้าอีก จากที่จมอยู่ด้านหลังก็ถูกผลักออกมาด้านหน้าเพิ่มขึ้น
แถมยังกว้างขึ้นอีกด้วย เรียกว่าโอ่อ่ากว่าออนบอร์ดเยอะ จริงๆแล้วมันดีกว่าออนบอร์ดทุกด้านเลยนะครับ
แต่ขออธิบายแบบละเอียดหน่อยละกัน เดี๋ยวจะหาว่าคนเขียนน่ะขี้เกียจ หรือพูดสั้นๆว่า มักง่าย
แต่เรื่องเบสนี้ถึงมันจะลงได้ลึกขึ้น เป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น แต่ผมกลับไม่ชอบเอาซะเลย เพราะว่ามันเยอะเกินไป
บางทีรู้สึกว่าเยอะจนล้นเลยทีเดียว ชุดที่เทสใช้เป็นลำโพง Creative T20 S2 นะครับ
ไฟล์เป็น Lossless ทั้งหมด
แต่คงถูกใจขาเบสเชียว แถมเสียงก็สะอาดขึ้นด้วย ไม่แหบแห้งเหมือนตอนใช้ออนบอร์ด
Emi Fujita เสียงร้องมีน้ำมีนวลขึ้นมากเลยทีเดียว
เสียงสูงกลมขึ้นไม่บางและแบน แถมยังทอดตัวได้ยาวขึ้น(เพียงแค่เล็กน้อย)
และที่สำคัญมันมีพละกำลังมากมาย ทำให้แรงประทะดีขึ้นอีก การกำหนดช่องไฟก็ดีมากขึ้น
ช่องว่างระหว่างตัวโน๊ตนั้นมีมากขึ้นกำลังดี ฟังแล้วค่อยข้างสบายหู แต่เนื้อเสียงจะอวบนิดหน่อย
ใครไม่ชอบคงต้องแก้ด้วยสายสัญญาณหรือชุดลำโพงแล้วล่ะครับ ผมว่ามันน่าจะเข้ากับ Pro1 ได้ดี
เพราะ Pro1 ขาดเนื้อเสียงไปบ้างและช่วงเสียงต่ำยังขาดความลึกอยู่ ส่วนหูฟังผมยังไม่ค่อยได้สัมผัสเท่าไหร่ในช่วงนี้
เลยไม่รู้จะแนะแนวหรือแนะนำยังไง >.< (แอบเขิล)


อะไรอีกล่ะ ฟังก่อน นึกก่อน....
อ่อ นึกออกแล้ววันก่อนตอนเทสเจ้า uDAC2 ผมลองทะเล้นเอา D3 ไปเสียบเข้ากับ Int Amp moon i.5
ผลคือเรี่ยวแรงไม่พอ เสียงที่ได้ไม่มีพลังเลย แห้งเ่ยว หางกุด โฟกัสเบลอไปหมด อย่างว่ามันก็ตามราคา
ค่าตัวห่างกันตั้งหลายเท่าตัว แต่จากที่ลอง D3 เข้ากับ Creative T20 S2 โดยใช้สายเกรดคลองถมทั้งหมด
แบบว่าหาซื้อได้ตามร้านขายของชำทั่วไป พูดง่ายๆว่าชุดประหยัดน่ะแหละครับ สายเส้นละ 20 บาท อิอิ
ผลคือพลังมันเหลือเฟือจริงๆครับ เวที รูปวง ดีกว่าเก่าทั้งหมด เบสก็ลงได้ลึกขึ้น เนื้อเสียงอวบขึ้น
แต่เรื่องรายละเอียเหมือนจะเท่าๆเดิม แต่ก็ถือว่าเท่ทุนในจุดนี้ละกันครับ
ผมว่าเจ้า D3 เป็นอะไรที่น่าลงทุนสำหรับคนงบน้อย ไหนๆที่เขียนมาก็มีแต่ชม ขอติบ้างดีกว่า
คือด้วยการใช้งานที่ต้องเสียบสายทั้งสองด้าน ทำให้ใช้งานลำบาก และยากต่อการวางหน้าคอมให้ดูสวยงาม
เรื่องทั้งหมดก็เป็นเช่นนี้แหละครับ สำหรับ มินิรีวิวของเข้า DAC ลูกเจี๊ยบ ก็คงขอหมดแต่เพียงเท่านี้
เนื่องจากผู้เขียนหมดมุขแล้วละคร๊าบบบบบบบบ ไว้เจอกันใหม่ เมื่อมีอะไรมาให้ลองเล่นอีกครับ ^^