สาวเกาหลีนี่มันน่า..จริง ๆ

ในที่สุดมันก็มา...น่าใช้ จอใหญ่ดีด้วย

เห้ย

เสียงดีมั้ยเนี่ย !!!!????

ไม่เคยลอง samsung player แต่รู้ว่าตัวนี้มี soudAlive ระบบเสียงที่มีใน mp3 samsung รุ่นใหม่

ถ้าเสียงดีนะ......

โคตรเมพอ้ะ !!!!!

จอใหญ่ดีแท้ แต่ผมเชื่อว่า ยังไงๆ ipod touch ก้อไม่ตายหรอกนะครับ เหมือนกับ Galaxy tab ที่บอกว่าเป็น iPad killer พอออกมาจริง กลายเป็นว่าโดน ipad kill แทนซะงั้น ลองดูตัวนี้ละกันครับว่าจะ kill ipod ได้รึเปล่า

ถ้าเเค่กินส่วนเเบ่งอะได้ เเต่ killer คงยากครบ เพราะทั้ง Galaxy S และ Galaxy Tab ที่ออกมาจัดการไอโฟนกับไอแพด กลายเป็นโดน kill ไปทั้งคู่ละ

ไม่เห็นจะชูเรื่องเสียงเลย เห็นเน้นแต่เกมส์กับ vdo

เรื่องเสียงผมคงคิดว่าคงดีกว่า touch นะ

ค่ายไหนๆ ก็สู้ยากนะผมว่า

Apple มันมีหมัดเด็ดที่ app store ที่มีการพัฒนากันทุกชาติทุกภาษา แถม app ก็แหล่มๆทั้งนั้น

ค่ายอื่นๆ ถึง hardware เทียบกันได้ แต่ software นี่แหละ หมัดน็อค

นานมาแล้ว...
มีบริษัทหนึ่งเอานี่มาฉายบนทีวี
http://www.youtube.com/watch?v=bVO8o_PKvVg


หลังจากนั้น
http://www.youtube.com/watch?v=StCy9p_78Ok&feature=related

สนุกดี

สงสัยเรื่องเสียงอย่างเดียวนี่แหละ

ใครได้ลองแล้วบ้างคร้าบบบบบบ

ปล. ถ้าเสียงไม่ดีคงต้อง A Series แล้วล่ะ *0*

น่าสนตรง เล่น Flash ได้เนี่ยแหละ ย์ญ์

ตอนนี้ฟ้องกันไปฟ้องกันมาเลยละ 2 บริษัทนี้ =_="

http://www.i3.in.th/index.php/content/view/5593

แต่เรื่อง Killer ก็คงต้องรอดูครับ ติดก็ตรง OS ครับที่เป็นประเด็นหลักๆในการเลือกครับโดย IOS มีหลายคนบอกกันอยู่แล้วว่า IOS มี App เกมส์เยอะที่สุด (และมีค่ายใหญ่ๆเอามาลงเยอะและก่อน แต่จะย้าย Platform หรือไม่ก็แล้วแต่บริษัทนั้นครับ)

มีหลายบริษัทแล้วที่จะออกผลิตภัณฑ์ออกมาชนกับ Apple แล้วก็เกทับออกสื่อกัน สุดท้ายก็แป๊กเยอะ ถ้าได้อ่านแผนการตลาดของ Apple จะตกใจอย่างนึงก็คือ เชื่อหรือไม่ว่าผลิตภัณฑ์ที่ Apple เอามาขายมีต้นทุนต่ำที่สุดในทุกแบรนด์แต่ทำออกมา มีบทความต่างประเทศวิเคราะห์ออกมาและมีคนแปลไทยให้อ่าน :-D

เอ้า!! หาเจอล่ะ อ่านเป็นกรณีศึกษานะครับ

credit จาก bangkokbiznews ครับ :-D

ถอดรหัสลับ ไอแพด 2 เคล็ดลับพิชิตชัยในตลาดแทบเล็ต
ทั้งสำนักข่าว เว็บไซต์ บล็อกต่างๆ พากันคาดเดาว่า แอ๊ปเปิ้ล จะมีทีเด็ดอะไรมากำราบคู่แข่ง ที่คาดว่าจะพุ่งโฟกัสของตนมาชิงชัยในสมรภูมิแทบเล็ตนี้

ยอดขายเกือบ 15 ล้านเครื่อง ครองส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 90% ในระยะเวลาเพียง 9 เดือน สอดรับกับความตกต่ำของการเติบโตในตลาดเน็ตบุ๊ค ทำให้มองได้ว่า ไอแพดทำให้ตลาดเน็ตบุ๊ค ที่มีผู้ผลิตพีซียักษ์ใหญ่ของโลกมากมายร่วมวงอยู่ ต้องพบกับความยากลำบาก

ไอแพด 2 มาพร้อมกับการดีไซน์ใหม่ที่บางลง 33% มีน้ำหนักเบาลง มีกล้องหน้าและกล้องหลังที่ช่วยเพิ่มความสามารถในการพูดคุยแบบ "FaceTime" มีหน่วยประมวลผลที่เร็วขึ้น 2 เท่า ประมวลผลกราฟฟิกเร็วขึ้น 9 เท่า สามารถแสดงผลออกทางช่องทาง HDMI ได้ ที่สำคัญ ยังมีแบตเตอรี่ที่สามารถใช้ได้ 10 ชั่วโมงเท่าเดิม แม้จะมีขนาดบางลงและมีอุปกรณ์ภายในเพิ่มมากขึ้นก็ตาม

จากคุณสมบัติทั้งหมดที่กล่าวมา ล้วนอยู่ในความคาดหมายของสื่อต่างๆ จนดูเหมือนไม่มีอะไรเซอร์ไพรส์ แต่สิ่งหนึ่งที่ดูเหมือนว่า จะสร้างความลำบากให้กับบรรดาคู่แข่งทั้งหลาย ก็คือ การตั้งราคาของไอแพด 2 และการลดราคาของไอแพดรุ่นแรก จนเรียกได้ว่า "ช็อก" กันถ้วนหน้า ทั้งลูกค้าและคู่แข่ง เกิดคำถามที่น่าสนใจว่าแอ๊ปเปิ้ลทำราคาแบบนี้ได้อย่างไร

(ผมขออาสาไขปริศนานี้ให้ผู้อ่านครับ)

หัวใจสำคัญและถือว่าเป็นเคล็ดลับของแอ๊ปเปิ้ล คือ ดีไซน์ของตัวผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมที่โดดเด่น ยังมีเรื่อง ต้นทุนที่ต่ำกว่าคู่แข่ง (Cost Leadership) อันเนื่องมาจากการควบคุมบริหารจัดการทั้งซัพพลายเชน (Supply Chain Management) ที่ดี

กลยุทธ์หลักที่แอ๊ปเปิ้ลใช้ เรียกว่า "Vertical Integration" ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่เพิ่มอำนาจการตลาด (Market Power) ให้สูงขึ้นโดยการขยายการดำเนินงานไปยังธุรกิจผู้ผลิตจนถึงการควบคุมช่องทางกระจายสินค้าและการขาย

ในกระบวนการผลิตแอ๊ปเปิ้ลจ้างบริษัทผู้ผลิตที่ชื่อว่า "Foxconn" ซึ่งเป็นผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกจากจีน เป็นผู้ประกอบตัวเครื่อง โดยแอ๊ปเปิ้ลถือหุ้น และลงทุนบางส่วนร่วมกับ Foxconn ทำให้มีอำนาจบริหาร และอำนาจตัดสินใจที่สำคัญๆ เกี่ยวกับการผลิต ไม่ว่าจะเป็นการขยายโรงงานผลิตไอแพดเพิ่มโดยเฉพาะจากเดิมผลิตได้ 2.5 ล้านเครื่องต่อเดือน เป็น 6 ล้านเครื่องต่อเดือน

จอ IPS ซึ่งเป็นชิ้นส่วนสำคัญของไอแพด ทางแอ๊ปเปิ้ลได้ทำสัญญากับแอลจีมูลค่า 800 ล้านดอลลาร์ และกับซัมซุงอีก 240 ล้านดอลลาร์ ในราคาต้นทุนเพียง 80 ดอลลาร์ (รวม 13 ล้านหน่วย) และยังทำสัญญามูลค่ากว่า 3.9 พันล้านดอลลาร์กับชาร์ป แอลจีและโตชิบา เพื่อสร้างสายการผลิตจอส่งให้ไอแพดเพิ่ม เพื่อป้องกันชิ้นส่วนนี้ขาดตลาดจนส่งผลกระทบต่อดีมานด์ทั้งหมด

เมื่อเทียบต้นทุนจอของแทบเล็ตคู่แข่งอย่างโมโตโรล่าซูม (Xoom) ที่มีต้นทุนต่อหน่วยสูงถึง 140 ดอลลาร์ ทำให้ต้นทุนจอของไอแพดถูกกว่าถึง 1.75 เท่า ซึ่งเป็นผลมาจากการที่แอ๊ปเปิ้ลทำสัญญาซื้อในปริมาณหลายสิบล้านหน่วยนั่นเอง

ซีพียู A4 และ A5 ของไอแพด เป็นซีพียูที่ทางแอ๊ปเปิ้ลออกแบบขึ้นมาเอง ไม่ได้ใช้ซีพียูจากอินเทลหรือของเจ้าอื่นๆ ทำให้ไม่ต้องจ่ายค่าไลเซ่นต่อหน่วยในการใช้ อย่างที่คู่แข่งต้องจ่าย โดยแอ๊ปเปิ้ลได้จ้างซัมซุงซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญการผลิตซีพียูสำหรับอุปกรณ์พกพา เป็นผู้ผลิตซีพียูให้

แฟลชเมโมรี่ที่ใช้เก็บข้อมูล แอ๊ปเปิ้ลก็สามารถซื้อได้ในราคาที่ถูกกว่าคู่แข่งรายอื่นมาก เนื่องจากแอ๊ปเปิ้ลเป็นผู้ซื้อแฟลชเมโมรี่รายใหญ่ที่สุดของโลก ถึง 33% ของซัพพลายทั้งหมดที่ผลิตตลอดทั้งปี ทำให้มีอำนาจการต่อรองกับซัพพลายเออร์สูงมาก สามารถกดราคาซื้อให้ต่ำที่สุดได้ โดยซัพพลายเออร์ที่ขายแฟลชเมโมรี่ให้แอ๊ปเปิ้ล ได้แก่ โตชิบา ไฮนิกซ์ ซัมซุง และไมครอน

ด้วยการออกแบบเพียงแบบเดียว แม้ว่าจะขยายกำลังการผลิตให้มากเท่าใด สายการผลิตที่ใช้ก็ยังเป็นแบบเดิม ช่วยลดขั้นตอนการผลิตที่ซับซ้อน ทำให้ต้นทุนการขยายสายผลิตต่ำลง และช่วยให้การเพิ่มสายการผลิตทำได้อย่างรวดเร็ว

กลยุทธ์ที่แอ๊ปเปิ้ลขยายการดำเนินการ ไปยังบริษัทที่ผลิตวัตถุดิบที่ใช้ผลิตตัวไอแพด ช่วยให้แอ๊ปเปิ้ลสามารถควบคุมวัตถุดิบเข้าสู่สายการผลิต ช่วยควบคุมราคา ปริมาณ คุณภาพ ระยะเวลาและกำหนดการส่งของได้ กลยุทธ์นี้เรียกว่า "Backward Integration"

นอกจากฮาร์ดแวร์แล้ว ตัวซอฟต์แวร์ที่ทำหน้าที่เป็นระบบปฏิบัติการให้ไอแพด คือ iOS ซึ่งพัฒนาโดยแอ๊ปเปิ้ลเอง ทำให้ไม่ต้องเสียค่าใช้สิทธิในระบบปฏิบัติการ (Loyalty Fee) เหมือนการเสียให้ไมโครซอฟท์หรือกูเกิลอย่างที่คู่แข่งต้องเสียเมื่อใช้ระบบปฏิบัติการวินโดว์สโฟน 7 และแอนดรอยด์

หัวใจสำคัญอันสุดท้าย คือ หน้าร้านที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์ เนื่องจากแอ๊ปเปิ้ลมีร้านค้าปลีกของตัวเอง ทั้งแอ๊ปเปิ้ลสโตร์ที่มีมากกว่า 300 สาขาทั่วโลก และยังมีหน้าร้านออนไลน์ที่เป็นช่องทางกระจายสินค้าสู่มือผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็วและต้นทุนต่ำ เนื่องจากไม่ต้องเสียค่าคอมมิชชั่นหลายต่อ อย่างที่คู่แข่งซึ่งอาศัยช่องทางจัดจำหน่ายของคนอื่น ทำให้ต้องเสียทั้งค่าวางผลิตภัณฑ์ ค่าคอมมิชชั่นจากการขาย และค่าจัดเก็บสต็อกสินค้า ซึ่งกลยุทธ์นี้ เรียกว่า "Forward Integration"

จะเห็นได้ว่าทุกๆ ขั้นตอนตั้งแต่ต้นทางไปจนถึงปลายทาง แอ๊ปเปิ้ลใช้ทั้ง "Backward Integration" และ "Forward Integration" ที่มีต้นทุนต่ำกว่าคู่แข่งทุกกระบวนการ จึงได้เปรียบด้านต้นทุนเหนือคู่แข่งเป็นอย่างมาก และยากมากที่คู่แข่งจะสามารถทำต้นทุนของตัวเองต่ำเหมือนที่แอ๊ปเปิ้ลทำได้

เป็นอย่างไรบ้างครับ สำหรับปริศนาต้นทุนที่ถูกไขออกมา นอกจากนวัตกรรมที่ทำให้เกิดความแตกต่างแล้ว ต้นทุนที่ต่ำและแบรนด์แอ๊ปเปิ้ลที่อยู่ระดับพรีเมียมมากกว่าแบรนด์คู่แข่ง เมื่อรวมความได้เปรียบในการแข่งขันต่างๆ เข้าด้วยกัน และเป็นไปได้ว่าการลดราคาของไอแพดรุ่นแรก เพื่อต้องการมีอำนาจเหนือตลาด เพื่อกดดันคู่แข่งเรื่องราคา และป้องกันคู่แข่งรายใหม่เข้าสู่ตลาด ทำให้ปีนี้มีโอกาสสูงที่จะเป็นปีทองของไอแพด อย่างที่ "สตีฟ จ็อบส์" ประกาศไว้

วรวิสุทธิ์ ภิญโญยาง
ที่ปรึกษาด้านการตลาดออนไลน์
Twitter : @worawisut
Facebook : facebook.com/MktHub


อ่านเต็มๆ => http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/business/ceo-blogs/worawisut/20110310/381011/%E0%B8%96%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B8%AB%E0%B8%B1%E0%B8%AA%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%9A-%E0%B9%84%E0%B8%AD%E0%B9%81%E0%B8%9E%E0%B8%94-2--%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B9%87%E0%B8%94%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%8A%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B9%81%E0%B8%97%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B9%87%E0%B8%95.html

เห็นมานานล่ะครับ

ส่วนตัวผมเชียร์ microsoft แต่เชียร์ไม่ขึ้น
zune กะ windows phone7 เห็นแล้วชอบมาก
แป๊กไม่เป็นท่าซะงั้น

เรื่องแอปเปิ้ลกับชัมชุง มันก็ การตลาดอย่างนึงละครับ ไม่มีชัมชุง แอปเปิ่ลทำอะไรลำบากขึ้นเยอะ อีกอย่าง ผมว่าเป็นการสร้าง กระแส ไห้เกิดสาวกเลยและ เพราะพวกที่คิดว่าชัมชุงผิดก็จะกลายเป็นพวกคลั่งแอปเปิ้ลไป เอาเรื่องพวกนี้ไปกระจาย อี่กด้านพวกที่ว่าแอปผิด ก็จะกลายเป็นสาวกชัมชุงแล้วก็กระจายข่าวไปเหมือนกัน ถึงจะบอกว่าไม่ไช่แค่เป็นกลาง แต่การเลือกข้าง มันเท่ากับว่าเป็นการยอมรับเขามาแล้วไม่มากก็น้อยละครับ ผมว่า2ค่าย นี้ทำอะไรเจ็บๆๆไส่กัน ไม่ได้ตั้งใจขัดขาหรอก

สร้างกระแสทั้งนั้น

galaxy tabของผม เล่นเพลงยังไม่ลื่นเลย ตัวนี้คงไม่ต่างอะไรกันมาก

ส่วนตัวเคยใช้ Zune HD ชอบระบบมันมาก แล้วก็ตั้งตารอ Window Phone7 ระหว่างนั้นไม่ได้สนใจ apple เลย เพราะมองว่ามันผูกมัดมากเกินไปในหลายๆเรื่อง เลยไม่สนมัน

พอ Galaxy Tab ออกมา ก้ลงทุนไปยืนเล่นเป็นชั่วโมงๆ พบว่า ระบบ แอนดรอยด์ (ตอนนั้น) มั่นค่อยๆช้าลงช้าลง จนอืดตึ๊ดเลย ... กำ

ถึงตอนนี้ Galaxy ตัวใหม่ๆที่ออกมา ทัช ของมันลื่นไหลดีพอๆกับ iPhone เลยทีเดียว แต่ผมยังมีความเชื่อว่า มันจะค่อยๆช้าลงช้าลงเหมือนเดิม ...

ท้ายที่สุด ...​ผมก็มาเป็นอีกคน ที่ใช้ Mac ... MBA.. ใช้แทน PC Windows 7 CPU Intel Quad Core .... ดูเหมือนบ้าๆ แต่มัน OS X ของ Apple มันทำให้ผมมั่นใจตลอดเวลาที่ใช้งานว่ามันจะไม่ช้าลงช้าลง และไม่Hang เหมือนWindows .. 55

อาจจะนอกประเด็นเรื่อง IPOD TOUCH KILLER แต่ที่พล่ามมาเนี่ย ก็แค่อยากจะบอกว่า ยอมรับและนับถือ คนที่พยายามสร้าง technology ต่างๆ มาให้พวกเราได้ใช้กันครับ ไม่ว่าอะไรจะมาฆ่าอะไร ก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของมัน เราๆคนใช้งาน ก็ขอให้เลือกในสิ่งที่ตัวเราเองชอบและไว้ใจครับ

จุ๊บย์ๆ

ชื่อกระทู้คงกระทบใจคนรัก apple ไปหน่อยต้องขอโทษด้วยครับ

เพียงแต่ผมเห็นว่าเจ้าตัวนี้มันทำให้เรามีตัวเลือกมากขึ้นสำหรับตลาด smart player

ผมอยากให้มี smart player อีกหลาย ๆ เจ้าออกมาเยอะ ๆ นะครับ จะได้ไม่มีการผูกขาดตลาด

ซึ่งจะทำให้ ผู้ค้าเอาเปรียบผู้บริโภคมากไป

อย่างที่เห็นเจ้าตัวนี้ จอ 5 นิ้วครับ มันอาจจะบีบให้ ipod touch ตัวใหม่จอใหญ่ขึ้นก็ได้

กล้อง 3 ล้าน ก็เช่นกัน

ไม่รู้มีระบบ DNSe เหมือนพวก P2, P3 รึเปล่า

ถ้ามีก็แหล่มเลย