เปิดมาได้ 2-3 แล้วครับที่ห้างงามวงศ์วาน ต้องขอบคุณแฟนๆ หลายๆ ท่านเลยครับ ที่พยายามตามไปอุดหนุนกันถึงที่จริงๆ เรียกว่าหลายๆ ท่านตั้งใจจะไปช่วยผมประเดิมที่ร้านงามวงศ์วานกันเลยล่ะ

ตอนนี้อาจจดูร้านโหรงเหรงเหมือนน้ำต้มก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลา (น้ำใส) เพราะตอนนี้ผมก็อยู่ในขั้นตอนการติดต่อบริษัทผู้นำเข้า เพื่อขอนำสินค้ามาขาย ซึ่งน่าจะทยอยเข้าได้ในเวลาไม่นานนัก

บางทีหลายท่านตั้งใจมาดูตัวเป็นๆ ของผม และ คุณหมูหวาน ว่าจะอัปลักษณ์ขนาดไหน ปรากฏว่าหลายคนคงนึกในใจ "กูว่าแล้ว ไอ้มั่นคงมันทุเรศกว่าที่นึกอีก" 5555 ส่วนไอ้หมูหวานหล่อกว่าที่นึกไว้เยอะ 555

ลูกค้าที่รักครับ ไปนั่งฟังที่ร้านผม ผมมีชากาแฟ ไว้บริการฟรีนะครับ ใครอย่าเผลอไปจ่ายสตางค์ค่ากาแฟล่ะ แล้วใครอยากจะนั่งฟัง ก็นั่งได้เท่าที่ตูดท่านจะนั่งไหว 555 ไม่ต้องกลัวการไล่เตะแต่อย่างใด เพราะผมมีนโยบายลอยแพให้ลูกค้านั่งฟังกันอย่างสะดวกโยธินครับ

ตอนนี้สิ่งที่ลำบากใจก็คือ บรรยากาศของคนที่มาเดินจับจ่ายใช้สอยในห้างครับ คือร้านค้าไอทียังคงโอดครวญกันแทบทุกเจ้า หลายเจ้าหน้าซีดเหลือสองนิ้ว หลายร้านเหลือแค่ครึ่งนิ้ว เพราะอะไร ?

ผมว่ามันน่าจะมาจากการประชาสัมพันธ์ที่ยังไม่ทั่วถึง และไม่แพร่ไปในหมู่กว้าง อาจจะมีคนรู้ว่าตอนนี้ห้างบางลำภูเปลี่ยนเป็นพันทิพย์แค่ไม่มากนัก คนยังมาเดินกันไม่มากนัก

ร้านค้าส่วนใหญ่ ประมาณ 50% ยังคงปิดร้าน โดยไม่ยอมตกแต่ง ผมว่าน่าจะมาจากการรอดูท่าที เต้นติ๊ดชึ่งแบบมวยจังหวะสาม คือถ้าคนเยอะก็จะมาเปิด แต่ถ้าไม่เยอะ ปิดไว้ก่อน จะได้เสียโสหุ้ยน้อยหน่อย

ร้านค้าน้อย คนก็ยิ่งไม่เดิน ผมสังเกตุดู พนักงานขายของแต่ล่ะร้านนั่งเล่นเกมส์บ้าง บางคนฟุบหลับไปกับโต๊ะบ้าง บางคนวิ่งออกมาบิดขี้เกียจหน้าร้านบ้าง

โดยรวมมักจะไปคึกคักเอาที่ชั้น 3 บริเวณสนามพระ และชั้น 6 ที่เป็นโซนเปิดท้าย อันนี้คนเดินกันขวั่ก ส่วนชั้น 2 มือถือนี่กำลังจะเริ่มมาแล้วครับ ภาพรวมคึกคักดี

ลงมาชั้น 1 ไม่ว่าจะเป็นมิสเตอร์บัน โออิชิ หรือ ท็อป แม็ค เอส แอนด์ พี ล้วนแล้วแต่ย่ำแย่ไปตามๆ กัน ผมเรียกว่าเป็นมวยประคองตัวครับ 555 คือยืนหลังพิงเชือก คอยออกหมัดประปรายตลอด ชกไม่ได้คะแนนเป็นชิ้นเป็นอัน 555

จะมีคึกคัก ก็ร้านแดรี่ฟาร์ม และ ร้านกาแฟบางร้านที่อยู่ชั้น 3 ผมเห็นชงกันจนมือหงิก ส่วนร้านค้าอื่นๆ ถือว่าต่างฝ่ายต่างพยายามหายใจเข้าปอดลึกๆ ผ่อนลมหายใจกันยาวๆ 555

ลานจอดรถเหมือนเดิม เต็มตลอดจนหาที่จอดไม่ได้ เป็นเพราะว่าขนาดของห้างไม่ใหญ่นัก แต่สถานที่จอดรถเล็กเกินไปเมื่อเทียบสัดส่วนกับตัวห้าง แต่ตอนนี้ได้ข่าวว่า ทางห้างได้ซื้อที่ว่างด้านติดกับตัวห้าง เพื่อทำการขยายพื้นที่จอดรถออกไปอีก

วันนี้มีจัดโชว์เต้นโคโยตี้กันอยู่หน้าห้าง เล่นเอาหนุ่มน้อย และหนุ่มใหญ่ น้ำลายย้อย ไหลเปรอะเปื้อนเสื้อผ้าไปหมด อย่างน้อยก็น้ำลายคุณ MuYong คนนึงล่ะ 555 ผมเห็นเดินหายจ้อยเข้าไปกับฝูงคนที่รุมล้อมโคโยตี้ 555

ชั้น 5 คึกคักหน่อยตรงบริเวณฟู๊ดเซ็นเตอร์ครับ คนไหลเวียนคึกคัก ทำให้หายเบื่อหน่ายไปได้บ้าง ร้านค้าหลายๆ ร้น พอนั่งเบื่อๆ ก็มาหาอะไรกินซะ พอกินอิ่มก็ไปนั่งเบื่อต่อ นั่งไปนั่งมาอ้วนตายกันพอดี

ร้านหนังสือซีเอ็ด ก็ดูหนักใจเหมือนกัน ร้านเสริมสวยสองร้านก็พอใช้ได้ครับ ส่วนลูกค้าธนาคารไทยพาณิชย์ก็บางๆ ตา ไม่ขี่คอแย่งกันเข้าเหมือนที่ห้างอื่นๆ

บรรดาร้านขายไอทีก็ดูเหมือนจะเบื่อๆ ยังไงชอบกล คือปริมาณคนเดินไหลเวียนผ่านไปมาน้อยมาก ยิ่งร้านค้าที่อยู่บริเวณอับ ผมว่ายิ่งน่าเห็นใจ ส่วนร้านของผมนั้น แม้จะอยู่ใกล้ห้องน้ำ และทางออกลานจอดรถ แต่คนก็ยังน้อยอยู่ดี

นี่ยังลำบากใจในเรื่องการจะสต๊อคของอยู่เหมือนกัน ว่างานนี้จะเล่นอีท่าไหนดี จะสู้เต็มตัว หรือสู้ครึ่งตัว หรือจะใส่เกียร์หมาถอยหลังกันดี 555 (ตัวแทนจำหน่ายโปรดทราบ ผมพูดเล่นน่ะครับ)

ก็คงต้องจัดการตามสถานการ์ของห้างครับ ถ้าห้างสามารถดึงคนเข้าห้างมาที่กลุ่มไอทีได้เหมือนเช่นที่ประตูน้ำ งานนี้ร้านผมคงจะมีหวังได้อยู่รับใช้พ่อแม่พี่น้อง แต่ถ้าแผนกไอทีไม่มีคนเดิน ผมก็คงจะใช้เวลาไม่นานในการอำลาพ่อแม่พี่น้องเหมือนกัน 555

แต่ก็ยังมีความมั่นใจในทีมบริหารวางแผนของห้างพันทิพย์ครับ เพราะเท่าที่ได้คุยกัน เค้าพยายามจะโปรโมทและจะช่วยประชาสัมพันธ์ และจัดโปรโมท Grand Opening ให้เร็วที่สุด ซึ่งผมก็เชื่อว่าเค้าทำได้ครับ

จบรายงานข่าวแต่เพียงนี้ก่อน ต้องขอขอบคุณแฟนๆ พ่อแม่พี่น้องหลายๆ ท่านเลยครับ ที่ช่วยแวะไปดูหน้าดูตาว่าเราเป็นยังไง หลายๆ ท่านก็เมตตาช่วยอุดหนุนของไปหลายๆ ชิ้นเหมือนกัน

ผมและ คุณเบียส (ผู้จัดการร้าน) ขอขอบคุณทุกท่านมา ณ ที่นี้ด้วยจ้า 5555