ส่วนตัวที่มีพื้นหลังทำงานเป็น sound engineer กับ system operator ให้กับหลายๆที่ ได้รู้จักสาย หัวแจ็ค ตะกั่วมาเยอะ ฝีมืองานบัดกรีก็ในขั้นดีถึงดีมาก ผมได้ลองทำสาย mini-mini ให้กับเพื่อนในวงการไปหลายคนแล้ว ส่วนใหญ่ก็คนในที่ทำงานครับ ไม่ได้เอามาใช้แพร่หลาย นี่คือลักษณะสายที่ผมคิดจะทำมาขายครับแต่ขอ Interesting Check ก่อน แต่ชื่อเดิมที่เคยเรียกกันในที่ทำงานของผมคือ &dquot;The Studio Flat&dquot; ครับ
อันนี้คือคุณสมบัติของอุปกรณ์
- สายสัญญาณมาตรฐานสากลที่ใช้ในงานผลิตดนตรี (ไม่บอกยี่ห้อ) เพราะทำตามสเปก
- หัวแจ็คเป็นแบบสั่งทำเองเพื่อมาใช้ในสตูฯโดยเฉพาะ หรือไม่ก็ยี่ห้อทั่วไปอย่าง Amphenol, Neutrik, Switchcraft
- ตะกั่วเงิน (ไม่บอกยี่ห้อ) อิอิอิ รับรองว่าหาใช้ไม่ได้ในประเทศไทย
อันนี้คือข้อแตกต่างที่ภูมิใจเสนอ
- สายสัญญาณจะเป็นเส้นที่ถูกใช้ในงานสตูดิโอมาบ้างแล้ว นั่นคือ burn ไม่ต่ำกว่า 30 ชั่วโมงจนได้ที่ระดับที่เกือบเหมาะสมด้วยเครื่องมือสตูดิโอระดับมืออาชีพ (เช่น mixer Yamaha ผ่าน Headphone Amplifier) ถูกใช้นำสัญญาณตามกฏพลังงาน 0db พอดี นั่นคือที่ต้อง burn ก็คือแค่หัวแจ็คครับ
- สายมีความยืดหยุ่นดีถึงดีมาก แล้วแต่รุ่นสายและหัวแจ็คที่ใช้ในการทำครับ
- บัดกรีด้วยหัวแร้งควบคุมอุณภูมิคงที่เพื่อให้ตะกั่วละลายและซึมเกาะพื้นผิวหน้า contact ได้เป็นอย่างดี
- และที่สำคัญ ราคาต่อเส้นไม่เกิน 800 บาท ต่อสาย 0.3 เมตร
คุณภาพเสียงที่เหมือนกันในสายแต่ละรุ่น
- ให้ Sound Stage อยู่ที่ 180องศาพอดี มิติชัดเจนทั้งแนวตั้งและแนวนอน
- รายละเอียดเครื่องดนตรีเสมือนจริง เป็นไปตามที่ศิลปินและ producer ต้องการให้ผู้ฟังได้ฟังมากที่สุด จะไม่ละเอียดระดับสาย&dquot;เทพๆ&dquot; ที่มีขาย แต่ฟังแล้วได้ทั้งอารมณ์เพลง และ groove เพลงมากกว่าแน่ๆ
- ให้ Dynamic Range ของเสียงที่ไม่พริ้วมาก นั่นคือเสียงไม่วูบวาบ Noise Floor และความต้านทานในสายและหัวแจ็คต่ำ
- เสียงให้ความอุ่นนุ่มขึ้น แต่ยังคงความ alive ในเพลงนั้นๆ
เหมาะสำหรับคนที่ต้องการรีดเอาคุณภาพเพลงออกมาให้ได้เหมือนเดิมที่สุดจากสตูดิโอครับ แต่บรรดาเพื่อนๆนอกวงการเพลงของผมเอาไปแล้วบอกต่อกันบ้าง ทำไปหลายสิบเส้น แล้วครับ มีคนสนใจมั้ยครับ มี 3 รุ่นครับผม