มาพร้อมชุดครับ ทั้งกล่องนอก กล่องใน กล่องกำมะหยี่ ถุงผ้า ถุงใส่สาย ใบรับประกัน ขาดก็แต่ตัวแปลง ¼ เป็น 1/8 ไม่มีแถมมาให้.......

เนื่องจากเป็นหนัง ก็เลยต้องหาครีมรักษาหนังมาบำรุงกัน เพื่อไม่ให้แห้งแตกลายครับ

Yamamoto HA02 คล้อยหลัง L3000 ไม่ถึง 2 อาทิตย์ ด้วยข้อมูลที่บ่งชี้ว่า ไปได้ด้วยดีกับ L3000 บังเอิญหลุดมาในจังหวะติดต่อกัน และมีสภาพเหมือนใหม่แค่ 1 เดือน แถมไฟก็ 240V ผมก็เลยต้องรีบรับไว้ก่อน......

เรื่องเสียง ไปได้ดีกับ L3000 แต่แรกอยู่แล้ว ซึ่งหลังจากเผามาร่วมอาทิตย์ ก็มีแนวโน้มดีขึ้นเรื่อยๆ.........ไม่ผิดหวังจริงๆครับ

แกะกล่อง HA02 มาพร้อมชุดครับ

.....ตัวแอมป์ + หลอดของ Western Electric #408A + สายไฟ + สายMini to RCA + ใบรับประกัน + เจ้าของเดิมให้หลอดเพิ่มมาอีกคู่เป็นของ GE #408A ครับ

เปิดกล่องครับ

ของที่ให้มาครับ

กลางคืนจะประมาณนี้ครับ

ปุ่มเสียงและตัวเครื่องทำมาจากไม้เชอรี่เคลือบเรซินครับ

หลังจาก Yamamoto อีกไม่เกิน 1 อาทิตย์

ก็เกิดรายการหลุดสายตาม มโหฬารบนบอร์ด Head-fi ชุด W2002 + HA2002 ของใหม่เก่าเก็บ....เจ้าของโพสมาร่วมอาทิตย์แล้ว แต่มันยังรอผมอยู่....

ด้วยความสงสัยในความที่ฝรั่งบอกว่าเป็นอีก 1 ชุดสุดยอด สำหรับคนที่ไม่ต้องการหา L3000…..ก็ให้หาชุดนี้....ทั้งที่ความจริงผมว่า ชุด W2002 หายากกว่า L3000 ซะอีก

....ชุดนี้ซื้อเพราะ ความใหม่ + ความสงสัยครับ...............ชุดนี้เพิ่งมาถึงมือผมเมื่อวานนี้เองครับ

หูฟัง หมายเลข 142 ไม่มีกล่องน้ำตาล มีแต่กล่องเหล็ก + ใบรับประกัน และก็เช่นเดิมครับ ขาดก็แต่ตัวแปลง ¼ เป็น 1/8 ไม่มีแถมมาให้....
แอมป์ HA2002 มีสายไฟ + ใบรับประกัน + คู่มือภาษาญี่ปุ่น + หัวแปลง 1/8 เป็น ¼ จำนวน 2 ตัว เพราะแอมป์ตัวนี้มี 2 ช่องหูฟัง……

ด้านในครับ

ตัวหูฟังทำมาจากไม้เชอรี่เคลือบเรซิน เหมือน Yamamoto HA02 ครับ

ลองนำมาวางคู่กันครับ

เนื่องจาก HA2002 ฟังได้ 2 ชุด ซึ่งผมลองนำ L3000 มาเสียบพร้อมกับ W2002 ก็ไม่พบว่าเสียงดร๊อบลงไปแต่อย่างใด......

แต่ผมคงไม่นำ L3000 มาใช้ร่วมกับแอมป์ตัวนี้หรอกครับ แล้วผมจะมาเฉลยว่าเพราะเหตุใด

ด้านหลังเครื่องครับ

Yamamoto จะมีชุด RCA 2 ชุด และ Speaker 1 ชุด นัยว่าสามารถขับลำโพงเล็กๆ 8 โอห์ม ตั้งโต๊ะได้1 คู่ครับ

HA2002 จะมีชุด RCA 2 ชุด สามารถเลือกใช้ช่องสัญญาณ AC หรือ DC ได้ครับ

คงต้องใช้เวลาสักระยะนะครับ

แต่เบื้องต้น L3000 + HA02

รายละเอียดได้ครบๆเต็มอิ่มทุกช่วงครับ...
....ทั้งเนื้อ ทั้งเวที ทั้งมิติ ทั้งความลื่นไหล และ ความเป็นดนตรีที่ฟังอะไรก็ไพเราะถูกใจ....

ส่วนชุด W2002 ผมว่าไม่ทับกับ L3000 เท่าไรนัก พอจะมีบุคลิกของตัวเองอยู่บ้าง....

ที่ฟังได้ชัดเจนตอนนี้คือ เนื้อเสียงไม่มากเท่า L3000 แต่ให้รายละเอียด กลาง ใส มากกว่า และ Sound stage ที่กว้างกว่า .........

ขอเวลาเผาก่อนนะครับ...ตอนนี้เสียงค่อนข้างคมไปหน่อย

ว๊าว....วววว !! สวยมาก มาก เลย ครับ พี่ ชอบ สี ของเจ้า W 2002 จังเลย ครับ รออ่านรีวิวเรื่องเสียง กันต่อดี กว่า คราวนี้ ขอแบบ ไม่เซ็นเซอร์ นะ ครับ พี่ lek_ultra อิ อิ อิ

โอว... จาติดตาม อย่างใกล้ชิ๊ด....

เห็น w2002 แล้วมันช่างสวยสดงดงามมากๆเลยครับพี่เน็ก

ขอรอชมด้วยคนค่ะ อิอิ

สวย บาดตา บาดใจ ม๊าก....มาก
ผมคงไม่มีวาสนา
มาปูเสื่อ..นอนรอชม ครับ

ได้ทีเลย คุณ lek เปิดกระทู้เลยขอแจมหน่อยครับ คือขอบคุณสำหรับของฝากมากๆครับ นี่กำลังนั่งฟังอยู่เลย ชอบมากๆครับ

ยังไงถ้าแอมป์เสร็จแล้วคงต้องรบกวนขอคำวิจารณ์อีกรอบนะครับ อิอิ

ด้วยความเต็มใจมากๆครับพี่นพพงษ์ อัลบั้มชุดนี้ผมชอบฟังมากๆครับ โดยเฉพาะ &dquot;ราตรี&dquot; ครับ....

เรื่องลองแอมป์...ไม่ได้รบกวนอะไรเลยครับ ผมกลับชอบครับ....ลองฟรีไม่เสียตังค์ 555....โทรเรียกผมได้เลยครับ...

ย๊ากกกกก................!!!!!!!!!!


ที่ผมเห็นมาทั้งหมด มีอะไรที่แสดงถึงความเนี๊ยบจริงๆๆๆของพี่ Lek_Ultra เลยล่ะ......

เดี๋ยวเฉลยตอนท้าย.............


ชุดที่เห้นเหล่านี้...บอกตามตรง ยากที่ใครจะผ่านมือได้ง่ายๆ เพราะอย่างที่บอกล่ะครับ มันเป็นเรื่องของ Limited และเรื่องราคาที่เกี่ยวข้องด้วย หลายๆ ตัวในชุดนี้ เล่นยังไงก็ไม่มีวันขาดทุน เล่นยังไงก็กำไรครับ

เพราะของพวกนี้ ยังมีคนอีกหลายคนเฝ้ารออยู่ทั่วโลกครับ....ผมเองเห็นยังอยากได้มาไว้ในครอบครองเลย แต่ติดว่าใจมันไม่กล้าซื้อเท่านั้นเองครับ 555 การจะทำใจนั้นยากกว่าทำอย่างอื่นทั้งสิ้น.......


แล้วแวะมาเล่าให้ฟังถึงผลการทดลองขีปนาวุธชุดนี้ด้วยนะครับพี่ 555



ที่จะเฉลยตอนท้ายก็คือ ไอ้ครีม Conolly กระปุกนี้ พี่ Lek_Ultra สั่งซื้อมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะหรือเปล่า ถ้าใช่พี่ Lek นี่เนี๊ยบสุดๆๆๆๆๆๆๆ จริงๆๆๆ

แต่ถ้าเค้าแถมมาให้ แสดงว่าเจ้าของเดิมเนี๊ยบกว่า.............555

แต่ผมสันนิษฐานจากกระปุกครีม เปิดใช้ไปไม่มาก แสดงว่าเพิ่งซื้อ ซึ่งน่าจะเป็นพี่ Lek ซื้อเอง แต่ครีมพร่องไปพอสมควร แสดงว่าเอาไปขัดของหลายอย่างเลยนะเนี่ย.....555

มาเล่าเรื่องครีมซะดีๆๆๆ ครับพี่ Lek

เฮียๆๆ

ได้ข่าวว่าพี่เน็กเอาไปขัดหนังรถ !!!

โอ้ววว

แม่เจ้า

ผมซื้อมาใช้เองครับเฮีย.....เป็นของ Connolly Made in England แท้ๆครับ....

ไว้ขัดหนังเบาะรถดีเชียวครับเฮีย.....โดยเฉพาะหนังเบาะรถมอไซค์ ที่ต้องตากแดด ตากลมทั้งวัน..หนังเบาะจะได้ไม่แห้ง...แถมลื่นดีด้วย เอาไว้ให้สาวๆนั่งไงเฮีย.....555

ผมซื้อมาใช้เองละครับเฮีย......เป็นของ Connolly Made in England แท้ๆ

เอาไว้ขัดหนังเบาะรถดีมากครับ....โดยเฉพาะเบาะรถมอไซค์ ที่ต้องตากแดด ตากลม ทั้งวัน...แถมลื่นดีด้วย โดยเฉพาะเวลาที่สาวๆนั่ง..5555

ผมซื้อมาใช้เองละครับเฮีย......เป็นของ Connolly Made in England แท้ๆ

เอาไว้ขัดหนังเบาะรถดีมากครับ....โดยเฉพาะเบาะรถมอไซค์ ที่ต้องตากแดด ตากลม ทั้งวัน...แถมลื่นดีด้วย โดยเฉพาะเวลาที่สาวๆนั่ง..5555


โพสครั้งที่ 3 ครับผม

ไม่น่าเชื่อว่าจะได้เห็นสองชุดนี้ในไทย สุดยอดมากครับพี่

รอพี่เน็กเฉลยดีกว่า

แต่ W2002 มันสวยจริงๆ

สวย

โอย...น้ำยายไหย

อิอิ

ประมาณ 48 ชั่วโมงผ่านไป.....สำหรับการเผาแบบไม่มีหยุดพัก.....

อยากจะบอกเพื่อนๆว่า...จะเกิดอะไรขึ้นหากว่า...W2002 มันเริ่มไล่กวดเข้ามาหา L3000 ในด้านความอวบอิ่มของเบส ในขณะที่... มิติ / กลาง / ปลาย สดใสกว่า....

เป็นการเทียบแบบ จังหวะต่อจังหวะ หรือ แม้ในช่วงท่อนเดียวกัน....สลับไปสลับมาระหว่าง W2002 กับ L3000.....

งานนี้ไม่มีหมูแน่ๆครับ

แล้วน้อง Dena รหัส D5000 ไม่น้อยใจแย่หรือ

ตอนนี้การเผาก็ผ่านไปประมาณ 100 ชั่วโมงแล้ว ระหว่างรอก็เลยมาอัพข้อมูลทางเทคนิคเพิ่มเติม
และ รูปเปรียบเทียบระหว่าง L3000 (ซ้าย) และ W2002 (ขวา) ครับ

ข้อมูลทางเทคนิค ......L3000 vs W2002......
Type ; Closed with D.A.D.S (Double Air Damping System) / Closed with D.A.D.S
Headband Type ; Double with Wing Pad / Double with Wing Pad
Driver Type ; 53mm Neodymium 8N-OFC Coil / 53mm Neodymium 8N-OFC Coil
Enclosure Material ; Cherry blossoms wood with CONNOLLY leather / Cherry blossoms wood
Impedance (ohms) ; 48 /40
Frequency Response (Hz) ; 5-45000 / 5-40000
Isolation (dB) ; -15 / -10
Sensitivity (mW) ; 104 / 102
Cable length (cm) ; 300 with 100% Hi-OFC / 300 with 100% Hi-OFC
Weight (g) ; 380 / 340

จากข้อมูลทางเทคนิค แทบจะเหมือนกันเด๊ะ เลย คราวนี้เรามาดูรูปในแต่ละมุมกันครับ

เริ่มจาก Headband ก่อน ของ L3000 จะหุ้มหนังไว้ก็เลยไม่ทราบว่าข้างในเป็นก้านอะไร
แต่ของ W2002 จะหุ้มไว้ด้วยวัสดุคล้ายยางแบบเดียวกับ W1000 แต่ถ้าเป็น W5000 จะเป็นเหล็กแบนเปลือยๆ

ด้าน Wing ที่สัมผัสศีรษะเรา ฝา Wing ทั้งสองตัวใช้วัสดุและสีเหมือนกันแป๊ะ (รูปบน)
แต่ L3000 จะรองด้วยหนังสีดำ ส่วนของ W2002 จะรองด้วยผ้า เหมือนกับ W5000
แต่ของ W5000 จะเป็น Wing แบบเต็ม ในขณะที่ L3000 และ W2002 จะมีช่องว่างตรงกลาง Wing

Pad ทั้งสองตัวเป็นหนังสีดำ เหมือนกัน ผมดูลักษณะหนังแล้ว รู้สึกว่าชนิดเดียวกันด้วยซ้ำครับ

สายของทั้ง 2 ตัวจะเหมือนกัน คือ เป็นผ้า เงางามคล้ายเส้นไหม แต่จะเหมือนกันเพียงแค่ช่วง Cup
ถึง Y-Connector เท่านั้น ถัดจาก Y-Connector ลงไป L3000 จะเป็นสายแบนๆ
ในขณะที่ W2002 จะยังเป็นเส้นกลมๆ เท่าเดิม ตรงจุดนี้ทำให้ L3000 ดูแข็งแรงทนทานกว่า
แต่ในความเบาสบาย W2002 ก็รับไปแทน

Y-Connector ของ L3000 จะเป็นแผ่นปะด้วยอลูมิเนียมตีตรา ATH ดูหรูหรากว่า W2002 ที่เป็น
แท่งพลาสติกตีตรา ATH ธรรมดา

หัวแจ๊ค ของ L3000 มีการเข้าหัวได้แน่นหนาแข็งแรง ตัวแจ๊คอลูมิเนียม ในขณะที่ W2002 ดูหรูหรา
สวยงามกว่า L3000 ตัวแจ๊คก็ทำมาจากไม้หล่อขึ้นรูป ที่ชอบคือคำว่า “Japan” ส่วนปลาย
เคลือบสีทองเวลาเสียบเข้าแอมป์แล้วดูเข้ากันมากๆ

ปิดท้ายด้วยตัวหูฟังอีกที อันนี้แล้วแต่ชอบครับ...หรูหรา กับ สวยงาม

เรื่องเสียง......รอกันต่อไปนะครับ...

แต่ความคืบหน้าหลังจากเผา

1. ประมาณ 48 ชั่วโมงผ่านไป.....สำหรับการเผาแบบไม่มีหยุดพัก.....

...W2002 มันเริ่มไล่กวดเข้ามาหา L3000 ในด้านความอวบอิ่มของเบส ในขณะที่... มิติ / กลาง / ปลาย สดใสกว่า....

เป็นการเทียบแบบ จังหวะต่อจังหวะ หรือ แม้ในช่วงท่อนเดียวกัน....สลับไปสลับมาระหว่าง W2002 กับ L3000.....

2. ประมาณร่วม 100 ชั่วโมงแล้ว ณ วันนี้ (หลังจาก 48 ชั่วโมงก็หยุดเผาไป 4 วันเพราะไปพักร้อนตจว.) ....สั้นๆ คือว่า

จะเก็บ....หรือจะขาย....ดีหว่า??????

เนื้อเสียงก็ยังไม่เท่า L3000 ในขณะที่กลางและปลาย ก็ยังเปิดกว่าและให้รายละเอียดกว่า L3000...(ไม่ได้มากมายนัก..)

อย่างไรก็ตาม L3000 ยังเป็นที่สุดอยู่ดี...ฟังอะไรก็ได้บรรยากาศโอบล้อมกว่า....เบสลึกกว่า เนื้อเสียงมากกว่า....

ทั้งหมดนี้เทียบระหว่าง L3000 + Yamamoto VS W2002+HA2002 นะ เพราะ

L3000 + HA2002 มันทำให้ L3000 &dquot;เปลืองตัว&dquot;

และเช่นเดียวกัน

W2002 + Yamamoto มันทำให้ W2002 &dquot;เสียของ&dquot;

ถ้าเลือกที่หน้าตาภายนอกแบบไม่รู้ ราคาหรือคุณภาพนี่
ผมคิดไม่นานเลยครับ L3000 สวยสุดๆ เลย:157:

Pad หนังแบบนี้ใส่นานๆ แล้วร้อนไหมครับอยากรู้เหมือนกัน

1. สำหรับหูฟังส่วนใหญ่แล้ว ราคากับคุณภาพมักจะไปด้วยกันครับ

2. ในแง่ของราคา W2002+HA2002 = 2/3 (L3000+Yamamoto) ครับ

3. Pad หนังแบบ Close ส่วนใหญ่ใส่นานๆแล้วร้อนครับ ขนาดใส่ในห้องแอร์แล้วหูยังอุ่นเลยครับ...555

...ความสบายจากมากไปน้อย Denon D5000 > W2002 > L3000...

โย่วววว 555

ข้อมูลระดับคุณภาพล้วนๆ เลยครับ อันนี้ต้องเก็บข้อมูลเข้าฐานไมโครชิพ เพราะการที่คนจะมีสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ และสมเด็จบางขุนพรหม สวยระดับแชมป์ พร้อมกันนี่หาได้ยากครับ

ผมว่าแม้แต่ฝรั่งก็ไม่น่าจะมีเจ้า 2 ตัวนี้พร้อมกันในเวลาเดียวกัน..........
ยิ่งรายละเอียดปลีกย่อยนี่แทบไม่ต้องพูดถึง จะใช้เอาไว้อ้างอิงได้ในทุกโอกาสเลยล่ะครับพี่ Lek


เพราะเจ้า 2 รุ่นนี่เป็นของประเภทหายเข้ากรุไปแล้ว และเหลือแต่ตำนานเอาไว้เล่าขานกันเท่านั้น 555


เย้.........เผาเสร็จมาเล่าต่อเด้อพี่ Lek 555

บทสรุป....วันที่ 24 มีนาคม 2551

....การเปรียบเทียบระหว่าง 2 ชุดนี้
1. เป็นการเปรียบเทียบทั้งแบบ ช่วงเพลงต่อช่วงเพลง และ ในท่อนเพลงเดียวกัน กับเพลงที่ผมชอบฟังทดสอบเพียงไม่ถึง 10 เพลงครับ
2. อุปกรณ์ประกอบก็ทั้ง CD Player – NAD660 / iPod VDO ; lossless file + Dock Marantz IS201 / สาย Purist Museaus (ลงทุนซื้อมา 2 ชุดเลย)

...................ความจริงตั้งแต่ช่วงผ่าน 100 ชั่วโมงไปแล้ว ผมแทบจะฟังไม่ออกแล้วว่าการเบิร์นต่อไปจะมีผลต่อเสียงของ W2002 อย่างไร
แต่ถึงกระนั้น ผมก็อดไม่ได้ที่จะเปิดทิ้งไว้อีกให้ผ่าน 200 ชั่วโมง...........

ทุกค่ำคืนที่ผ่านไป ผมเฝ้าเพียรจับสังเกต ถึงการเปลี่ยนแปลงของ W2002 แต่ผมก็ไม่อาจสังเกตได้ ดังนั้นผมมีความเห็นว่า W2002
ใช้เวลาในการปรับให้อยู่ตัวค่อนข้างเร็ว......เนื่องจาก

ช่วง 1-50 ชั่วโมงแรก อาจเรียกได้ว่าเป็นช่วง “บ่มเพาะ” กล่าวคือ
ความจัดและบาดคมของ ขอบเสียงในช่วงเสียงกลางร้อง และปลาย เริ่มคลายตัว ในขณะเดียวกัน ความอวบอิ่ม
ของเบสในช่วง Upper และ Mid เริ่มเผยให้สัมผัสและรับรู้ได้อย่างชัดเจน......เน้นครับว่า “ชัดเจน”…..

ช่วง 50 – 100 ชั่วโมงต่อมา ช่วงนี้ผมขอเรียกว่าเป็นช่วง “ผลิบาน” กล่าวคือ
เสียงกลางร้องและปลาย สดใสและมีรายละเอียดมากขึ้นชนิด “ผิดหู” ครับ.....หวาน....สดใส....เปิดเผย.....
เบสก็เช่นกัน.....ไดนามิกดีขึ้นมาก....รายละเอียดในทุกช่วง มาครบๆ เต็มๆ โดยเฉพาะในช่วง Mid Bass
สังเกตการเปลี่ยนแปลงได้ชัดเจนที่สุดใน 50 ชั่วโมงนี้....... ขณะเดียวกัน Deep Bass ชัดเจนขึ้นบ้าง เมื่อเทียบ
กับช่วง 50 ชั่วโมงแรก ถึงแม้ว่า ไดนามิกช่วง Deep Bass อาจจะยังไม่สะใจผมนัก เมื่อเทียบกับ L3000

ช่วง 100 ชั่วโมงขึ้นไป ช่วงแห่งการ “พร้อมเชยชม” อย่างที่เรียนให้ทราบแต่แรกครับ....
ผมแทบแยกการเปลี่ยนแปลงในช่วงนี้กับ 100 ชั่วโมงที่แล้วไม่ออกเลย......ทุกอย่างเหมือนเดิม......

....กลางสดใส...ร้องหวาน.....เบสดีกระชับเก็บตัวเร็ว .... บรรยากาศโดยรวมกลางๆ ไม่อวบอิ่ม ไม่นุ่ม ไม่อุ่น
ไม่ถึงกับโอบล้อม....รายละเอียดเสียงดนตรีต่างๆ ถ่ายทอดได้ชัดเจนเป็นโน๊ตๆ
.....Sound Image ดี มีความเป็น 3 มิติ จับได้ชัดเจน ....Soundstage ค่อนข้างดี ไม่อัดอั้น ออกไปทาง
ด้านกว้าง มากกว่าด้านลึก....แต่ก็กว้างมากกว่า L3000 เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
.....ช่วงเสียงและการไต่ระดับเสียง.....ถึงแม้ว่า W2002 จะให้ Dynamic Range ที่ดีกว่าเล็กน้อย ทำให้ฟังแล้วรู้สึกเปิดเผยกว่า L3000
แต่ L3000 จะให้ Dynamic Contrast มากกว่า จุดนี้อาจเป็นเหตุให้ L3000 ฟังเพลงได้เพราะกว่า เนื่องจาก
ได้ความต่อเนื่องของการไต่ระดับเสียงที่ราบรื่นมากกว่า มีบรรยากาศโอบล้อมในการฟังเพลงที่ดีกว่า

สรุปคือ......
ระหว่าง W2002 กับ L3000 ถ้าเป็นมวยศิษย์ค่ายเดียวกัน ครูมวยเดียวกัน ก็จะรู้ทางและทับทางกันพอควร

ถึงแม้ว่า W2002 จะเพรียวกระฉับกระเฉงกว่า ไม่ได้ดุดันแต่ออกไปทางสุขุม ซึ่งในขณะที่ L3000 อาจจะเจ้าเนื้อ ดูนุ่มนวลกว่า

แต่ก็ถือได้ว่า..........“ซัดกันคนละหมัด”......... เพียงแต่ว่า...... “น้ำหนักและทิศทาง” ....การซัดของ L3000 &dquot;แรงและหนักหน่วงกว่า&dquot; นั่นเอง.....



................ประสบการณ์ เฝ้าสังเกตและเปรียบเทียบ 2 ชุดนี้ ประทับใจและมีค่าสำหรับผมจริงๆครับ.................

ประสบการณ์ เฝ้าอ่านข้อเขียนของคุณ ก็ประทับใจและมีค่าสำหรับผมจริง ๆ ครับ....

ขอบคุณครับ....

555 แหม่ รออ่านตั้งนาน ครับพี่ lek_ultra นึกว่า แอบไปชื่นชมคนเดียวแล้วไม่ยอมบอกต่อกันซะอีก 5555 แสดงว่า เสียง ใกล้ เคียงกัน

แต่มีหมัดเด็ด กันคนละแบบเหรอ ครับ พี่ 555 ไม่ได้ฟังตัวจริง แค่รีวิวก็ได้ยินเสียงแล้วนะ เนี่ย 555 ขอบคุณ สำหรับข้อมูล ครับ อิ อิ อิ

555 พี่ Lek_Ultra นี่ใช้ศัพท์แสงได้เสียวซ่านจริงๆๆๆๆ 555

แหม มีช่วง บ่มเพาะ กับผลิบานซะด้วย ไม่เบาจริงๆเลยครับ ช่างโชคดีอะไรเช่นนี้ในการเล่นแบบค่อยๆ สังเกตุการเปลี่ยน นี่คือการเล่นแบบเล่นจริงๆๆๆ เลยนะเนี่ย


เอ้า มีอะไรมาอัพเดทต่อเด้อ..............

อยากได้ เรือดำน้ำมั่งอ่ะครับ

ดันให้ของแรง เพื่อมีคนอยากเห็นหูฟังเทพ

สวยทั้งคู่เลย ชาตินี้จะได้ใช้แบบนี้บ้างไหมเนี่ย = =&dquot;