ก่อนอื่นไปดูรูปกันก่อนเลยครับทุกๆท่าน
เวลา Burn in ทำแบบในรูปเลยครับ Burn ไปแล้วไม่ต่ำกว่า 300 ช.ม. แน่นอน โดยใช้ไฟล์เพลง 320kbps เท่านั้นครับในการ Burn (ถ้าบอกว่าไม่ได้ฟังเลยคงไม่มีใครเชื่อ เอาออกมาฟังบ้างครับแต่ส่วนมาก Burn อย่างเดียว)
ด้านตัวหนังสือใหม่ กิ๊บๆ
อยู่ในกระเป๋า Grodo อย่างเรียบร้อย ซื้อที่ร้านเฮียมั่งคงเหมือนกัน ราคา 590.-บาท
พร้อมกระเป๋ากันกระแทกอย่างดี กันกระแทกรอบตัวกระเป๋า แต่ไม่กันน้ำนะครับ ราคา 750.-บาท
เวลาใส่ในกระเป๋ากันกระแทกพร้อมกระเป๋า Grado จะเป็นแบบนี้
ซื้อเมื่อวันที่ 26/6/2552 พร้อมใบเสร็จ
อุปกรณ์ครบกล่อง พร้อมแจ็คแปลง พร้อมตลับใส่ จาก ฟิชเชอร์แมนเฟรม
เอาทั้งหมดนี้ไปเลยครับ
ราคาซื้อมาทั้งหมด หูฟัง Grodo sr80i 4,050 กระเป๋า Grodo 590 กระเป๋ากันกระแทก 750 บาท รวม 4,050+590+750= 5,390.-บาท
แต่ผมไม่รู้ว่าจะตั้งราคาขายที่เท่าไหร่ ต่อรองกันมาเลยครับ ขายได้ขายครับ ไม่เรื่องมากอยู่แล้วครับ แต่อย่าให้เข้าเนื้อมากนะครับ ขอบคุณมากๆครับ
แต่ถ้าทุกท่านถามว่าขายทำไม จะมีคำตอบให้ครับ
ในตอนแรกที่เข้ามาศึกษาเรื่อง หูฟังจากเวปเฮียมั่งคงนี้ก็ได้ความรู้ไปมากมาย รวมทั้ง ทริกเล็กทริกน้อย ส่วนมากจะนั่งดูนั่งอ่าน เฮียกัดคนอื่นมากกว่า และก็อ่านไปเรื่อยๆจนได้คำตอบของตัวเองว่าตัวเองชอบแนวไหน รวมไปถึงว่างบประมาณเราเท่าไหน ก็เลยตัดสินใจซื้อ Grodo sr80i ถามว่าใช่หรือเปล่าต้องยอมรับว่าใช่เลยครับ สำหรับงบประมาณเพียงเท่านี้ แต่มันติดอยู่ที่ผมชอบ แนว Rock แต่อยากได้ Bass อีกนิดหนึ่ง เลยต้องเก็บเงินเพื่อที่จะซื้อ Amp เพื่อที่จะได้ Bass เพิ่มมาอีก แต่และแล้วเหมือน ฟ้ามาประทาน มีหูฟังราคาไม่กี่บาท Design ที่สวยสุดยอดนั้นคือ JBL SOFT OAK By Asaki มันให้เสียงที่เหมือนกัน Grado sr80i มากๆไม่รู้ว่าหูของกระผมจะดีหรือเปล่า และมันก็ตอบโจทย์ของผมได้คือ มันให้ Bass ได้อย่างดีจนไม่น่าเชื่อ มันเป็นเหมือนหูฟัง เอนกประสงค์ที่ว่า ฟังเพลงแนวไหนก็ดีไปหมด จนทำให้ผมได้ทอดทิ้ง Grado sr80i ไปอย่างง่ายดาย จนทำให้ JBL SOFT OAK By Asaki สามารถเรียกชื่อ ได้ว่า พระกาฬท่าให้ลอง (แอบยืมเฮียมาหน่อยนะครับ) ไปดูรูปกันเลยครับ
ใช้ ipod photo 30gb เป็นตัว Burn in ตลอดครับ
ดูกันใกล้ๆ
มาดูกันใกล้ๆอีกทีครับ โดยให้ marco ถ่ายให้ดูเนื่องาน ทำได้ดีมากๆ