Proposal
HP = Headphone point (0-1000)
EP = Easy driving point (0-500)
PP = Potential point (0-1000)
L = Lower bar (minimum HP: 0-500)
U = Upper bar (maximum HP: 0-1000)
a = Alpha (0.00-1.00)
EP = a[ L ]
PP = (1-a)[ U ]
HP = EP + PP
Specifications
1. หูฟังที่ขับยากๆมักจะมี a ค่อนข้างต่ำ (อย่าง k1000 ก็ราวๆ 0.1 อะไรแบบนี้) อัพ source แล้วไม่ค่อยเห็นผลก็จะมี a ค่อนข้างสูง (L3000 ประมาณ 0.9) ถ้าอัพ source แล้วเห็นผลพอประมาณก็ควรอยู่ราวๆ 0.4-0.6
2. หูฟังที่ต่อตรงก็เพราะได้จะมี L ค่อนข้างสูง (อย่าง L3000 ราวๆ 450) ต่อตรงแล้วทุเรศเลยก็มี L ต่ำ (k1000 ประมาณ 50)
3. หูฟังที่ยิ่ง source ดียิ่งไปได้ไกลควรจะมีค่า U มากๆ ( k1000 700, orpheus 950) ถ้าความต้องการ source ไม่สูงอย่างพวก IEM ก็ควรจะมีค่า U ต่ำ (ep630 40, cx300 100, super.fi 200)
เท่าที่ดูประเทศไทยคงต้องเป็นผู้บริโภคต่อไปอีกนาน
เมื่อมีใครคิดอะไรดีๆใหม่ แต่ตรูไม่รู้ บ้านตรูไม่เคยสอน
ไม่ได้ปล่อยมันดังกว่าตรูไม่ได้ต้องดึงมันลงมาให้ต่ำ...ความคิดของคุณ Windows X เป็นความคิดที่ดีมีจิตตนาการ ได้เรื่องเครื่องมงเครื่องมือ และนวัตกรรมมันก็เกิดจากความคิดและจินตนาการทั้งนั้น
เท่าที่ดูประเทศไทยคงต้องเป็นผู้บริโภคต่อไปอีกนาน
เมื่อมีใครคิดอะไรดีๆใหม่ แต่ตรูไม่รู้ บ้านตรูไม่เคยสอน
ไม่ได้ปล่อยมันดังกว่าตรูไม่ได้ต้องดึงมันลงมาให้ต่ำ...ความคิดของคุณ Windows X เป็นความคิดที่ดีมีจิตตนาการ ได้เรื่องเครื่องมงเครื่องมือ และนวัตกรรมมันก็เกิดจากความคิดและจินตนาการทั้งนั้น