Guest
หมวดหมู่ > เว็บบอร์ด จับฉ่าย

ช่องทางการติดต่ออื่น

  • Munkonggadget
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Contact Us

มันดีขึ้นจริงหรือ

Jim Reeves

13/11/2007 23:01:52



สงสัยมานานมากแล้วว่า สายไฟและหัวปลั๊ก นั้นสามารถทำให้เสียงดี ขึ้นหรือไม่ อยากให้ผู้รู้ ช่วยออกความคิดเห็นด้วยครับ สงสัยมานานแล้ว และถามว่าจำเป็นรึเปล่าเราควรเปลี่ยนสายไฟ,สายสัญาณ ต่างๆเป็นยี่ห้อที่ดีดี และ ช่วยบอกหน่อยว่า ถ้าจะเล่นของพวกนี้ควรจะเริ่มที่ยี่อห้ออะไรดีครับราคาด้วยครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 1

Jim Reeves

13/11/2007 23:04:18



จำเป็นต้องเปลี่ยนเป็นแบบนี้หรือไม่
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 2

Jim Reevs

13/11/2007 23:07:11



หัวแบบนี้ 1900 บาท คิดว่า คุ้มไหมครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 3

nopphong

13/11/2007 23:18:11
คงจะดีขึ้น ไม่งั้นคงไม่มีคนบ้าทำออกมาขาย และก็คงไม่มีคนบ้าซื้อเหมือนกัน อิอิ แต่ทีนี้หูใครหูมันครับ หลายๆท่านฟังออก แต่สำหรับผมฟังไม่ออก และไม่คิดจะซื้อครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 4

nopphong

13/11/2007 23:21:05
ปลใไม่ได้ว่าคนที่ซื้อว่าบ้านะครับ ผมหมายถึงว่าถ้ามันไม่ดีจริงแล้วก็ยังซื้อมาก็บ้าแล้วล่ะครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 5

ลทท654

13/11/2007 23:46:13
ถ้าถามว่าเสียงดีขึ้นไหม? ตอบได้เลยว่า ดีขึ้นครับ 5555

ถ้าเป็นวงการหูฟังที่เราเล่นกันอยู่ ปลั๊กผนัง กับ สายไฟ AC จะเห็นผลน้อยกว่า &dquot;สายสัญญาณ&dquot; อยู่พอเยอะพอสมควรครับ

จำเป็นไหมที่เราควรเปลี่ยน สายไฟ,สายสัญาณต่างๆเป็นยี่ห้อที่ดีดี?

อันนี้จำเป็นไม่จำเป็นก็ขึ้นอยู่ที่ตัวคุณ Jim Reeves แล้วละครับ 5555 ว่ามีความพอใจกับชุดฟังเพลงที่ตัวเองมีอยู่มากแค่ไหน

ส่วนที่ถามว่า ถ้าจะเล่นของพวกนี้ควรจะเริ่มที่ยี่อห้ออะไรดีครับ ขอราคาด้วยครับ

คุณ Jim Reevs มีงบเท่าไหร่ครับ 5555 ของพวกนี้ถ้าจะเล่นจริงๆ มีหมื่นก็หมดหมื่น มีแสนก็หมดแสนครับ 5555
รูปที่ 1 คือ หัว Wattgate 330i ประมาณ 3,500 บาท
รูปที่ 2 คือ ปลั๊กผนัง Wattgate 381 ประมาณ 5,000 บาท
รูปที่ 3 คือ หัว Bryant 8266-TSP ประมาณ 1,800 บาท
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 6

Jim Reevs

13/11/2007 23:57:56
ขอบคุณมากครับที่ชี้แนะให้ความรู้ พอเห็นราคา ผมเก็บเงินซื้อ SR225 หรือ MS2i ดีกว่า ครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 7

PeePo

14/11/2007 01:21:45
ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ

ถ้าไฟ AC มันมีผลกับเสียงขนาดนั้นเลยนี่ น่าจะไปเริ่มควบคุมคุณภาพ ที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตจะตรงมากกว่านะครับ

ไม่อีกทีจะปั่นไฟใช้เองก็ไม่ว่ากัน

ส่วนที่จะแปลงไฟตรงจากแบตเตอรี่มาจ่ายนี่ผมมองว่ามันสิ้งเปลืองกันเกินจำเป็นหนะครับ (ตัว UPS กรองไฟนี่ยังพอทำเนา)
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 8

maxsavy

14/11/2007 08:18:36
ผมลองนั่งพิจารณาเหตุผลที่มันช่วยให้เสียงดีขึ้น มันน่าจะมาจาก contact ของปลั๊กที่ดีขึ้น

ส่งผลให้ความถี่กระแสสลับเดินทางราบเรียบขึ้นน่ะครับ แล้วทำไมไม่เปลี่ยนจากการใช้ปลั๊กตัวผู้+ตัวเมีย

ไปเป็น circuit breaker ให้รู้แล้วรู้รอดไปซะเลย จบ....

แต่นี่เป็นการเดาจากพื้นฐานความรู้งูๆปลาๆนะครับ ขอผู้รู้ช่วยไขข้อข้องใจให้หน่อยคับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 9

แมวโคร่ง

14/11/2007 09:20:36



ใช้ ตัวกรองไฟ stabilizer กับปลั้กไฟที่ได้มาตรฐาน ก็ได้ผลลัพธ์เท่ากันแล้วครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 10

aor

14/11/2007 09:34:44



มีอีกเรื่องครับสลับขั้วปลั๊กไฟผมลองกับชุดของผมเสียงต่างกันจริงครับ แต่พอไปลองชุดของเพื่อนกับฟังไม่ออก ยังงงมันขึ้นอยู่กับปัจจัยอะไรอีกหรือไม่ครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 11

nopphong

14/11/2007 09:35:15
แจมอีกที อิอิ
เห็นด้วยกับคุณแมวโคร่งครับ

คือผมว่าเมืองไทยหรือเมืองนอกก็จะเหมือนๆกันคือ จากการไฟฟ้าเดินสายไฟมาเส้นโตเบ้อเริ่มเท่าหัวแม่มือขึ้นไป แต่พอมาถึงบ้านเราออกจากเบรคเกอร์มา กลับใช้สายไฟเส้นผ่านศูนย์กลาง 1 mm ซึ่งเล็กลงมาก แถมปลั๊กที่ใช้ก็มักจะใช้ปลั๊กพ่วงห่วยๆอย่าว่าแต่เสียบให้แน่นเลยแค่จะให้มันติดยังต้องคอยขยับ
ผมก็เลยว่ามันเป็นช่องให้บริษัทที่ผลิดของพวกนี้ผลิตออกมา เพราะมันให้ผลดีกว่าแน่ๆถ้าเทียบกับอุปกรณ์ห่วยๆตามปรกติที่ใช้กันอยู่ แต่ในขณะเดียวกัน ถ้าใช้เงินเท่ากันไปเดินสายเส้นโตๆจากหม้อไฟมา ทำเบรคเกอร์เฉพาะและ ทำปลั๊กดีๆแน่นๆ(แต่ไม่ต้องใช้ยี่ห้อที่ราคาเว่อร์ๆ) ผมว่าสิ่งที่ต่างกันก็คงจะเหลือแค่อุปทานแหละครับ

อ้อพิมพ์ไปพิมพ์มานึกขึ้นมาได้ว่าปลั๊กทั่วๆไปตัวเต้ารับมักจะทำขาจากทองเหลือง ซึ่งความต้านทานมันสูงกว่าทองแดงแถมยังมักจะทำบางๆเพราะทองเหลืองมันแพง เป็นไปได้ไหมว่าความต้านทานในส่วนนี้ที่มีผลกับเสียง

แต่สุดท้ายสรุปว่ายังไงผมก็ฟังไม่ออก เลยกลายเป็นคนไม่เคยเห็นผีก็เลยไม่เชื่อเรื่องผีไป ต่างกับคนที่ฟังออกที่คงออกมายืนยันได้ว่าอั๊วเคยเห็นผีมาแล้วฮ่าๆๆ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 12

Woody

14/11/2007 12:04:08



คิดว่าผมคงไปไม่ถึงขั้นนั้นแน่ๆ

ตอนนี้ก็มีแค่เต้ารับ Pana แล้วก็รางปลั๊ก Wonpro ที่รู้สึกว่าเสียบแล้วมันแน่นดี
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 13

นายมั่นคง

14/11/2007 12:24:48
5555

ผมเองเป็นคนหนึ่งที่ชอบเล่นของพวกนี้เป็นชีวิตจิตใจเลยครับ แต่ว่ากันตามตรงของเล่นพวกนี้สำหรับผม ผมจำแนกมันออกเป็นหลายๆกลุ่มความเฮี้ยนนะครับ

กลุ่มแรก...สายสัญญาณต่างๆ สายลำโพง กลุ่มนี้ผมถือว่าได้ผลชัดๆ จะๆ ไม่ต้องไปฝึกวิทยายุทธที่ไหน ก็ฟังกันออกชัดๆ ว่าดีขึ้น หรือต่างไปจากเดิมยังไงครับ 555 เรียกว่าหูชาวบ้านฟังออกแน่นอนครับ

กลุ่มสอง....ปลั๊กไฟ สายไฟ เครื่องกรองไฟ กลุ่มนี้เริ่มต้องตั้งใจจับผิดครับ แต่ก็ยังสามารถฟังออกว่ามันเปลี่ยนไปไง คือไม่มีการเสียตังค์ฟรีแน่ๆ เพียงแต่ผู้ฟังต้องมีทักษะและใช้วิทยายุทธในการฟังแบบจริงจังขึ้นไปอีก

กลุ่มสาม.....พวกทิปโท พวกอิฐมหัศจรรย์ พวกฟิวส์ พวกอุปกรณ์วิเศษทั้งหลาย กลุ่มนี้ผมเริ่มฟังไม่ออก บางทีก็ออกมั่ง ไม่ออกมั่ง ปนเปกันไป 555 หนักไปทางฟังไม่ออกซะมากกว่า


สรุปแล้ว การจะซื้อของพวกนี้ ต้องดูองค์ประกอบรวมๆ ของเราด้วยล่ะ อย่าได้ซื้อสายไฟเส้นละ 2 หมื่นโดยที่หูฟังของเราตัวละ 5000 เชียวล่ะ การจัดสรรงบประมาณสำหรับ accessories เป็นเรื่องสำคัฐพอสมควรเลยคร้าบบบ 555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 14

LuisFigo

14/11/2007 14:01:10
ปลายบานครับ เอ๊ย!!! บานปลาย
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 15

poko

14/11/2007 14:33:28
กลุ่มสามมีคนฟังออกคับเฮีย คนที่คุณก็รู้ว่าใคร อิอิ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 16

นายมั่นคง

14/11/2007 15:03:42



555

จริงๆ แล้วในกลุ่มสามก็น่าจะมีคนฟังออกเหมือนกันครับ แต่ถ้าทำทดสอบ blind test มักจะไม่มีใครอยากทดสอบครับ อย่างน้อยก็ผมคนหนึ่งล่ะ 555


แต่ว่ากันตามจริง ของเล่นพวกนี้มันเป็นความสุขทางใจครับ คือมันมีความสุขตั้งแต่คิดจะซื้อ จนถึงซื้อมา จนมานั่งมอง นั่งจับผิดฟังกัน

ถือว่าเป็นสิ่งเติมเต็มในชีวิตละกัน 555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 17

อากง ขอแจม

14/11/2007 15:20:37
แนะนำให้ซื้อบ้านใกล้ๆสถานีย่อยการไฟฟ้าครับ stepdown จาก 22kv ลงมาเป็น 220v ปุ๊บวิ่งตรงเข้าบ้านเราปั๊บเลย สายส่งจะสั้นที่สุด โอกาสที่สัญญาณรบกวนต่างๆที่จะเข้ามากับ line ก็น้อยลง แถมกระแสไฟฟ้าก็ค่อนข้างคงที่ เสียงที่ได้จะสะอาด กระจ่างไปทุกรูขุมขน เสียงเบสมีพลังหนักแน่นแบบไม่น่าเชื่อ ถ้าไม่สามารถซื้อบ้านใกล้สถานีย่อยการไฟฟ้าได้ หรือมีบ้านอยู่แล้ว ให้ไปยัดเงินการไฟฟ้าในเขตพื้นที่ของคุณเพื่อให้มาติดตั้ง stepdown transformer ที่หน้าบ้าน แล้วลากสายไฟ (เอาซักขนาด 50sqmm น่าจะพอ) จากหม้อแปลงตรงเข้าห้องฟังเพลงเลยครับ ปลั๊กไฟไม่ต้องใช้ครับ ใช้เบรกเกอร์ตัวใหญ่ๆแทน(หน้าสัมผัสเป็นทองขาว) สับตูมเดียวเข้าแอมป์อันทรงพลังของเราเลยครับ คุณจะได้ยินเสียงที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 18

tonlove7

14/11/2007 16:07:58
กลุ่มที่สามถ้ามีblind test ผมว่าก็ฟังออกครับเฮีย
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 19

แมวโคร่ง

14/11/2007 17:33:16



ของวิเศษ ในกลุ่มที่ 3 มันจะเหมาะกับบางเครื่อง บางชุดอ่ะ

ใน คห.16 จะประสบปัญหาไฟเกิน เพราะโหลดน้อยเกินไปครับ 5555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 20

DismembeR

14/11/2007 19:36:24
ย้ายไปอยุ่แถวเขื่อน ผมว่าน่าจะได้ เสียงที่ธรรมชาติ ที่สุดนะครับ 5555 มั่วสุดๆผม
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 21

unclepiak

15/11/2007 05:02:36
ผมว่ามันน่าจะมีใครคิดประดิษฐ์ เครื่องปั่นไฟฟ้านิวเคลียร์แบบใช้ในบ้านขึ้นมานะ

คนอยู่กลางป่าจะได้มีไฟฟ้าใช้แบบอนันต์
และคนเล่นเครื่องเสียงจะได้มีแหล่งไฟฟ้าส่วนตัว

สับตูมเดียว ได้เบสลูกใหญ่ ๆ แบบดอกเห็ดบานเลย
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 22

unclepiak

15/11/2007 05:03:07
ผมว่ามันน่าจะมีใครคิดประดิษฐ์ เครื่องปั่นไฟฟ้านิวเคลียร์แบบใช้ในบ้านขึ้นมานะ

คนอยู่กลางป่าจะได้มีไฟฟ้าใช้แบบอนันต์
และคนเล่นเครื่องเสียงจะได้มีแหล่งไฟฟ้าส่วนตัว

สับตูมเดียว ได้เบสลูกใหญ่ ๆ แบบดอกเห็ดบานเลย
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 23

เบียส

15/11/2007 13:22:50



555 ขนาดนั้นเลยเหรอครับลุงเปี๊ยก 555 เอ้าหมูหวานรีบผลิตแอมป์พลังงานนิวเคลียร์ ด่วน อิ อิ อิ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
"มันดีขึ้นจริงหรือ"