ผมก็อธิบายไม่เป็น แต่ขอแจมนิดนึงนะครับ ผมว่ามันจะเป็นแบบ ขยายตัวสัญญาญ เนื้อสัญญาญ ให้เข้มขึ้น แต่ไม่ใช่ดังขึ้นอย่างเดียวนะครับ
เหมือนขยาย แบบว่า volumeคือก็อกน้ำที่เราใช้มือหมุน และการประปาคือเพลย์เยอร์ และแทงค์น้ำปั้มน้ำส่วนตัวคอยเพิ่มแรงดันน้ำจากประปาแล้วปล่อยออกทางก็อกที่เราหมุน จะได้น้ำที่แรงขึ้นเต็มก็อกน่ะครับ รึเปล่าหว่า 55+ คอคอยฟังด้วยคนครับ รู้สึกว่าต่อแล้วมันดีขึ้นแต่ไม่รู้ว่าดีขึ้นได้อย่างไร

ยังมีปัจจัยทางพวกสายนำส่งสัญญาญด้วยครับ

แอมป์นั้นโดยหลักการก็เหมือนการเล่นเครื่องเสียงบ้านล่ะครับ คือมีแอมป์หลากหลายขนาดให้เลือก หลายหลายน้ำเสียง บางตัว 50 วัตต์ บางตัว 100 วัตต์ สุดแท้แต่ใครจะเลือกเล่น

พอมาเป็นแอมป์หูฟังขนาดเล็ก มันก็คล้ายๆๆ กัน จุดประสงค์แรกของการทำแอมป์หูฟัง ก็คือทำเพื่อให้มันดังขึ้น เพื่อใช้งานกับหูฟังที่เปิดเท่าไหร่ก็ไม่ค่อยดังล่ะครับ 555 เรียกว่าออกแบบมาเพื่อการนี้ก่อน หูฟังหลายๆๆ ยี่ห้อ หลายๆๆ ตัว ต้องมีแอมป์เสมอ อันนี้คือเบสิคทั่วไป

แต่หลังจากมีแอมป์แล้ว เราก็ต้องมาพิจารณาว่าแอมป์นั้นแค่ให้เสียงดังอย่างเดียว หรือว่าให้อย่างอื่นได้อีก ก็ปรากฏว่าแอมป์ยังให้มากกว่านั้น คือแอมป์นอกจากขยายอย่างเดียว ยังมีหน้าที่รับสัญญาณเข้ามาแล้วมาจัดระเบียบใหม่ให้เรียบร้อย

การจัดใหม่ก็คือการทำโฟกัสให้นิ่ง ทำให้ซาวด์เสตทกว้างขึ้น เติมเบสในกรณีที่หาย หรือเติมแหลมในกรณีที่แหลมไม่ค่อยดี การที่กำลังเพิ่มขึ้นช่วยให้สุ้มเสียงดีขึ้น ซึ่งไม่ได้หมายความว่าเอากันแค่เพิ่มความดังอย่างเดียวจ้า 555

แต่ก็มีนะครับ แอมป์ไม่ได้เรื่อง ทำได้แค่เร่งดังอย่างเดียวก็มีจ้า 555

จำได้ว่า คุณสมบัติ ของ amp ที่ดีนั้น ต้อง เมื่อรับสัญญาณใดๆ เข้ามา ต้อง ขยายสัญญาณออกมาให้เหมือนต้นฉบับ และมีความผิดเพี๊ยนน้อยที่สุด แต่เนื่องจากอุปกรณ์แต่ละตัว ที่ต่อเข้ามา เลยทำให้มีการปรุงแต่งสัญญาณโดยไม่ได้ตั้งใจ
เพราะยั้งงี้เราเลยได้ยินว่า amp บางตัวไม่เหมาะกับ หูฟังแบบนี้

ไม่แน่ใจว่าตรงไหม ลองไปอ่านดูคร๊าบ
http://www.rocketroberts.com/techart/amp.htm

แอมป์มีหลายปรัชญาในการออกแบบ บางคนเลือกทำแบบบริสุทธิ์ไร้การแต่งแต้มสีสัน บางคนเลือกทำแบบที่ถูกใจแฟนเพลงบางกลุ่ม มันก็เลยเป็นที่มาที่ทำให้เราต้องปวดหัวตอนเลือกล่ะครับ 55

ผมเปรียบเทียบกับรถดีกว่า ถ้าคุณใช้รถ 4 ประตูขนาดใหญ่ ระหว่างใส่เครื่อง 2500 กับเครื่อง 1300 ซีซี ทั้งคู่ก็วิ่งได้เหมือนกัน แต่ที่แตกต่างคืออะไรคงไม่ต้องบอก

หรือถ้าเทียบกับเครื่องเสียงบ้าน เอาแอมป์มาขับลำโพงตั้งพื้นคู่นึง แล้วใช้แอมป์ 20 วัตต์ กับแอมป์ 100 วัตต์ ไอ้ดังน่ะดังแน่ แต่คุณภาพเสียงที่ออกมามันคงไม่เหมือนกันแน่นอน

ก็เหมือนกับ ภาคขยายใน player ต่างๆซึ่งทำงานด้วย IC ตัวจิ๋วๆให้แรงขับไม่กี่มิลลิวัตต์ เทียบกับแอมป์ภายนอกที่ให้กำลังมากกว่าหลายเท่า ผลที่ได้ย่อมต่างกัน ทั้งในแง่คุณภาพและปริมาณ

สำหรับหูฟังขนาดเล็กอาจไม่เห็นผลเท่าไร แต่สำหรับหูดีๆที่ให้เสียงมีรายละเอียดสูง จะเห็นความแตกต่างได้ค่อนข้างชัดเจนครับ

ทีนี้ก็แล้วแต่ผู้ใช้ล่ะครับว่าอยากได้เสียงดีขนาดไหน และชอบแบกชอบพกพานาดไหน ผมเองตอนเล่นหูฟังใหม่ๆก็เสาะแสวงหาแอมป์มาใช้กับ ipod หลายตัวเหมือนกัน แต่สุดท้ายทนรำคาญกับการใช้งานไม่ไหว ที่ต้องต่อสายต่อแอมป์หลายชิ้น สุดท้ายตอนนี้เลยต่อตรงอย่างเดียวสำหรับชุดพกพา เพราะเวลาไปนอกบ้านต้องการแค่ฟังเพลงเพลินๆไม่ต้องการคุณภาพรายละเอียดเท่าไร

ถ้าต้องการฟังแบบซีเรียสก็จะใช้ชุดที่บ้าน ที่มีครบชุดเป็นเรื่องเป็นราวไปเลย ทั้ง Comp+Dac+Amp+Full Size Headphone

เข้ามาเช็ค เป็น ระยะ ครับ 55

จากความคิดเห็นทั้งหมดที่อ่านดูผมสรุปได้ว่า
1. ถ้าต่อตรงแล้ว ไม่ดัง ใช้แอมป์ ซะ
2. ถ้าต่อตรงแล้ว ดัง อันนี้ก็ต้องมาดูกันอีกทีว่า ชอบเสียงมันมั้ย ถ้าชอบก็แล้วไป ถ้าไม่ชอบก็เป็นอันได้ควักกระเป๋าครับ

ป.ล. ในกรณีนี้ผมพยายามหลีกเลี่ยงไม่ใช้คำว่า เสียงดี หรือ เสียงไม่ดี นะครับ เพราะคิดว่า การฟังเพลง มันน่าจะเป็นเรื่องของความรู้สึกซะมากกว่าครับ
มันเลยเป็นเรื่องของ ชอบ หรือ ไม่ชอบ มากกว่า ถ้าหูเรื่องมากก็ต้องเสียตังค์กันเยอะหน่อย ถ้าหูพอเพียง ก็เสียน้อยหน่อยครับ

โอเค รอดู คนอื่นต่อไปครับ