ดิฉันชื่อ “ป้าจินตนา” หรือเรียกสั้น ๆ ว่า “ป้าจิน” ก็ได้ค่ะ อายุ 51 ปี เป็นแม่หม้ายลูกติด 1 คน ทำงานเป็นช่างเสริมสวยเล็ก ๆ อยู่หน้าบ้านที่จังหวัดเชียงใหม่ เปิดร้านมาได้สิบกว่าปีแล้ว ชีวิตผ่านทั้งช่วงหวาน ช่วงขม รู้จักคำว่า “อกหัก” ตั้งแต่ก่อนมีมือถือใช้ด้วยซ้ำ แต่ถึงวันนี้ที่ผมเริ่มหงอก มือเริ่มเ่ยวย่น หัวใจของป้าจินยังไม่เคยเกษียณจากคำว่า “รัก” เลยค่ะ และเพราะแบบนี้ ป้าจึงอยากมาเล่าความเห็นของตัวเองเกี่ยวกับเรื่อง “รับดูดวงความรัก” ที่คนรุ่นใหม่และรุ่นเก่าเองก็มักจะมองต่างกัน

สมัยสาว ๆ ดิฉันไม่เคยคิดหรอกค่ะว่าจะต้องพึ่งหมอดูให้มาช่วยบอกเรื่องความรัก เพราะตอนนั้นหัวใจมันยังไว มองตาก็รู้ใจ และทุกอย่างมันดูโรแมนติกกว่าตอนนี้มาก แต่พออายุเริ่มมากขึ้น ผ่านการแต่งงาน ผ่านการเลิกรา ผ่านบทเรียนชีวิตหลายอย่าง จึงเริ่มเข้าใจว่า ความรักไม่ใช่แค่เรื่องของคนสองคนอย่างเดียว แต่มันรวมถึงการเข้าใจตัวเอง การเยียวยาหัวใจ และบางทีก็อาศัยสิ่งที่มองไม่เห็นเข้ามาช่วยยืนยันว่า “เรายังมีหวังอยู่ใช่ไหม”

ตอนนี้กระแสเรื่องการรับดูดวงความรักกลับมาฮิตอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นใน TikTok, Facebook หรือแม้กระทั่งใน YouTube มีหมอดูหน้าใหม่ ๆ โผล่มาทุกสัปดาห์ บางคนมีไพ่ บางคนใช้พลังจิต บางคนดูแบบโหราศาสตร์ไทย ป้าจินมองว่ามันไม่ใช่เรื่องงมงาย ถ้ามองในมุมของคนที่ต้องการที่พึ่งทางใจ เพราะบางครั้งแค่คำพูดที่ว่า “เขายังคิดถึงเธอนะ” จากปากหมอดู มันก็อาจช่วยให้เรากลับมายืนได้อีกครั้งหลังจากที่น้ำตาเปื้อนหมอนมาหลายคืน

อย่างป้าจินเองเคยไปดูไพ่ยิปซีเมื่อตอนที่กำลังลังเลว่าจะกลับไปหาคนรักเก่าดีไหม ตอนนั้นชีวิตมันอึน ๆ รู้สึกเหมือนติดหล่ม เลือกไม่ได้ว่าจะไปต่อหรือพอแค่นี้ หมอดูคนนั้นบอกว่า ไพ่ขึ้น “The Lovers” คู่กับ “The Tower” หมายความว่า ยังมีเยื่อใยกันอยู่แต่ความสัมพันธ์นี้อาจพังได้ถ้าไม่เปลี่ยนวิธีคิด ฟังแล้วก็รู้สึกขนลุกนะคะ เพราะมันตรงมาก และท้ายที่สุด ป้าจินก็ตัดสินใจไม่กลับไป เพราะรู้ว่า...รักไม่ควรทำให้เรารู้สึกเหมือนหายใจไม่ออก

ป้าจินเชื่อว่า ความรักที่ดีต้องมีพื้นที่ให้หายใจ ต้องมีความเข้าใจ ไม่ใช่การครอบครอง ความรักที่มั่นคงไม่ใช่เพราะคำสัญญา แต่เป็นการกระทำที่สม่ำเสมอ และที่สำคัญคือ คนเราต้องรักตัวเองให้ได้ก่อนที่จะรักคนอื่นให้เป็น บางคนอยากรู้ว่าแฟนคิดยังไง รักเราหรือเปล่า แต่ตัวเองยังไม่เคยหยุดถามใจตัวเองเลยว่า “เราอยากได้ความรักแบบไหน” การดูดวงความรักจึงกลายเป็นกระจกสะท้อนใจเราไปในตัว ไม่ใช่แค่รอฟังว่าใครจะมารัก แต่ได้โอกาสถามใจว่า “เราพร้อมจะรักตัวเองพอหรือยัง”

ความสัมพันธ์ไม่ว่าจะวัยไหนก็ต้องการความเข้าใจ และต้องมีรากฐานของความจริงใจ ไม่ใช่เพราะเหงา ไม่ใช่เพราะกลัวแก่ ไม่ใช่เพราะอยากมีใครในรูปคู่หน้าวอลล์ ป้าจินเองก็ไม่ปฏิเสธนะคะว่ายังมีความรู้สึก ยังมีความเหงา และยังเฝ้ารอใครสักคนอยู่ในมุมหนึ่งของใจ แต่จะไม่ยอมเอาหัวใจไปฝากไว้กับใครง่าย ๆ อีกแล้ว เพราะคนเราต้องเรียนรู้จากอดีต และไม่ยอมให้ความรักทำร้ายเราอีก

ในวัย 51 ปี ความรักไม่ใช่เรื่องฟุ้งฝันเหมือนสมัยสาว ๆ แต่เป็นเรื่องของความสุขสงบ ความมั่นคง และการมีเพื่อนคู่คิด ถ้ามีคนมาถามว่าควรจะดูดวงความรักไหม ป้าจินจะตอบว่า “ดูได้ ถ้ารู้จักใช้มันให้เป็นประโยชน์” เพราะมันเป็นเพียงเครื่องมือหนึ่ง ไม่ใช่คำตัดสินชีวิต ใครที่ดูดวงแล้วได้กำลังใจ ป้าก็เชียร์เต็มที่ แต่ใครที่ดูแล้วเอามาเป็นทุกข์ มานั่งรอวันที่เขาจะกลับมาโดยไม่ขยับชีวิตตัวเอง แบบนั้นป้าจินขอบอกว่า “หนูอย่าทำร้ายตัวเองเลย”

และถ้าจะพูดถึงเรื่องดวงแบบวิชาการสักหน่อย ป้าจินก็อยากเล่าให้ฟังว่า คนเกิดวันศุกร์อย่างป้า ช่วงปีนี้มีดาวพฤหัสโคจรเข้าเรือนคู่ ทำให้มีโอกาสพบเจอคนใหม่ ๆ ที่เข้ามาในชีวิต แต่ต้องระวังอย่าหลงรักใครเร็วเกินไป เพราะดาวราหูยังวนเวียนอยู่ ทำให้มีโอกาสเจอความสัมพันธ์ที่ไม่ชัดเจน เพราะฉะนั้นต้องตั้งสติและฟังหัวใจตัวเองให้ดี

สุดท้ายนี้ ป้าจินอยากจะฝากไว้ว่า ความรักไม่มีอายุจำกัด และหัวใจของผู้หญิงไม่ว่าจะวัยไหนก็ยังต้องการการดูแล แค่เราต้องรู้ว่าความรักที่ดีไม่ควรทำให้เราเจ็บปวดบ่อย ๆ ไม่ควรทำให้เรารู้สึกโดดเดี่ยวทั้งที่มีอีกคนอยู่ข้าง ๆ และถ้าการดูดวงความรักช่วยให้เรากลับมาเข้าใจตัวเอง ป้าจินก็ว่ามันคุ้มค่านะคะ

ขอให้ทุกคนเจอรักที่ใจไม่ต้องฝืน และถ้าอยากดูดวงก็อย่าลืมดูหัวใจตัวเองด้วยนะจ๊ะ