ช่างซ่อมโบส แนะนำการเลือกซื้อโบส ตระกูลคอมพาเนียน (BOSE Companion) มือสอง (ตอน2)

    มีเพื่อนๆสอบถามวิธีจะเลือกซื้อเครื่องโบส มือสอง เลือกอย่างไร ให้ได้เครื่องดีที่สุด ไม่โดนหลอก โดนย้อมแมว

     เครื่องขยายเสียงจากคอมพิวเตอร์ของโบสตระกูลคอมพาเนียน มีอยู่ไม่กี่รุ่น เราจะมาว่ากันไปทีละรุ่น

    วันนี้เราจะมาพูดถึง คอมพาเนียน 20 ซึ่งเป็นรุ่นที่พัฒนาขึ้นมาอีกหน่อยจากรุ่นคอมพาเนียน1 รุ่นนี้มีคอนโทรลพอด ( ตัวควบคุมการเปิดปิด และหรี่เร่งเสียง) เพิ่มเข้ามา ทำให้การใช้งานสะดวกขึ้น ไม่ต้องไปหรี่เร่งเสียง หรือเปิดปิดที่ตัวลำโพงอีกต่อไป ทำให้การจัดวางลำโพงไว้หลังจอมอนิเตอร์ได้

     มีการพัฒนาวงจร และตัวตู้ ให้ตอบสนองเสียงเบส และเสียงย่านความถี่กลาง ความถี่สูงไม่ให้ออกมาบาดหูมากเกินไป มีวงจรอีควอไลเซอร์ปรับอัตโนมัติ ลำโพงที่ใช้ยังมีขนาดเท่าเดิมกับรุ่นที่แล้ว แต่ไม่ใช่รุ่นเดิม ลำโพงมีแม่เหล็ก 2 ชั้น เพื่อทำให้สนามแม่เหล็กสูง สามารถตอบสนองความถี่ได้เร็วขึ้น แรงขึ้น ทนวัตต์ได้สูงขึ้น เมื่อพัฒนาหลายๆอย่างเพิ่มมากขึ้น สิ่งที่ตามมาคือ ราคาขายก็สูงตามไปด้วย เมื่อเปิดตัวใหม่ๆ (10 ปีก่อน) ตัวแทนในบ้านเราตั้งราคาขายอยู่ที่ 1 หมื่นต้นๆ แต่เพราะคุณภาพเสียงที่ออกมาดีเกินตัว รุ่นนี้จึงขายดีเป็นเทน้ำเทท่าในบ้านเรา

     ผมได้รับเครื่องรุ่นนี้ส่งมาให้ซ่อม ประมาณเกือบ 2 ร้อยชุดแล้ว เป็นรุ่นที่ซ่อมมากที่สุดในตระกูลคอมพาเนียน

     อาการเสียที่จะพบเป็นประจำคือ 

1. เสียงลำโพงแตก รุ่นนี้ลูกค้าสามารถเปิดตะแกรงหน้าออกมาเช็คลำโพงได้ง่ายๆ ด้วยตัวท่านเอง โดยใช้ 2 มือ มือหนึ่งจับตะแกรง อีกมือหนึ่งจับตัวตู้ ดึงแบบโยกบนที ล่างที ตะแกรงจะหลุดออกมาได้ (ตะแกรงยึดติดกับร่องฝาหน้าตู้ด้วยเทปโฟมบางๆ เพิ่มควาฝืดในลิ้นตะแกรงโลหะกับร่องลิ้นเท่านั้น) เมื่อนำตะแกรงออกได้ เราจะเห็นตัวลำโพง เช็คได้ว่า ขอบลำโพงยังดี ฉีกขาด หรือมีร่องรอยแตกตรงไหน

2. อาการเสียงดังเบา อาจจะเบาเท่ากันทั้ง 2 ข้างเท่าๆกัน หรือนอกจากเบาแล้ว ยังมีอีกข้างดังเบากว่าอีกข้างด้วย และถ้าดังเบาแล้วเก็บไว้ ไม่รีบซ่อม เสียงจะค่อยๆเบาลงเรื่อยๆ จนไม่ดังในที่สุด

     การจะเช็คว่าเสียงดังปกติหรือไม่ ให้ใช้สัญญาณออกจากโทรศัพท์มือถือนำไปเข้าเป็นอินพุตให้เครื่อง หากเร่งวอลลุ่มที่โทรศัพท์ และที่คอนโทรลพอดสูงสุดทั้งคู่แล้ว เสียงที่ดังออกจากลำโพง ดังมากจนเรารำคาญ ต้องรีบลดวอลลุ่มลงทันที อย่างนี้อนุมาณว่า เครื่องดังปกติ แต่หากเสียงออกมาฟังสบายๆ เหมือนเราฟังเบาๆในห้องเงียบๆ หรือต้องเงี่ยหูฟัง แบบนี้ถือว่า เครื่องผิดปกติ คือดังเบา

3. ขณะหมุนเพิ่มลดเสียงที่คอนโทรลพอด แล้วเสียงที่กำลังได้ยินอยู่ เบาลง หรือดังๆเบาๆ หรือบางช่วงเสียงเงียบไปเลย แบบนี้ตัววอลลุ่มในคอนโทรลพอดไม่ดีแล้ว

     อาการเสียบ่อยๆ ที่พบในรุ่นนี้ก็มีเท่าที่กล่าวมา 

     ดังนั้น หากเราจะซื้อเครื่องมือสอง มาใช้ควรใช้ข้อมูลอาการเสียที่กล่าวมา เป็นเครื่องประกอบในการเลือกซื้อ

     ความดังของเครื่องต้องปกติ เสียงดังเท่ากันทั้ง 2 ข้าง แกะตะแกรงออกดูขอบลำโพง จะต้องไม่แข็ง ส่วนโค้งของครึ่งวงกลมในภาคตัดขวาง ต้องสมมาตร ไม่เบ้เป็นเหมือนภาคตัดปีกเครื่องบิน เนื้อยางยังมีสปริงดี กดเบาๆ แล้วปล่อย กรวยจะมีแรงเด้งคืนเร็ว เนื้อยางขอบไม่เปื่อย

     ควรจะต้องลองฟังเสียงจากเครื่องจริง จึงจะสามารถแยกได้ว่าเสียงออกมาปกติหรือไม่ ดังเท่ากันทั้ง 2 ข้างหรือไม่

     ตัวคอนโทรลพอด เราต้องลองปรับตั้งแต่ดังเบาๆ ไปจนสุดเสียงดังสุด มีอาการดังๆเบาๆ หรือไม่

     เมื่อเราลองทุกอย่างตามที่กล่าวมาแล้ว หากเครื่องยังปกติทุกอย่าง แบบนี้ถ้าเราซื้อมาใช้ เราจะยังคงใช้งานได้อีกระยะหนึ่ง แต่เนื่องจากเครื่อง มีอายุมานานแล้ว โอกาสจะเสียยังคงมีอยู่

     บางครั้งการที่เราซื้อเครื่องที่ผ่านการซ่อมจากช่างที่ชำนาญแล้ว เราจะใช้เครื่องได้ต่ออีกหลายปี โดยไม่ต้องซ่อมอีก แต่หากซื้อเครื่องที่ยังไม่เคยผ่านการซ่อม ย่อมจะใช้ได้เช่นกัน แต่อาจจะไม่นาน แล้วเสีย ลองคิดถึงค่าใช้จ่ายในการซ่อมไว้ด้วยก็ดี

     ผมรับซ่อมเครื่องรุ่นนี้ ทุกอาการเสีย มีค่าซ่อม ที่ตั้งไว้แบบเหมาจ่าย เช่น ซ่อมแผงวงจร(อาการเสียงดังเบา ดังไม่เท่ากัน ไม่ดัง ) ค่าซ่อม 1400 บาท หากต้องเปลี่ยนขอบลำโพงทั้ง 2 ข้างด้วย คิดเพิ่ม 600 บาท และถ้าต้องซ่อมคอนโทรลพอดด้วย เพิ่ม 300 หรือ420 บาท (ขึ้นอยู่กับอะไหล่ที่ต้องเปลี่ยน)

     วันนี้ขอจบเรื่องการเลือกซื้อเครื่องโบส ตระกูลคอมพาเนียน 20 ไว้เพียงเท่านี้ ตอนหน้าจะกล่าวถึง รุ่นคอมพาเนียน 3 ต่อไป หากท่านสนใจเรื่องความรู้ และโพสต์งานซ่อม เครื่องโบส กดติดตามได้ที่เพจ "ช่างซ่อม BOSE  มืออาชีพ"ครับ ผมจะทะยอยลงโพสต์ไปเรื่อยๆ