กรุณาควักเงินออกมา 10 บาทครับ ของอย่างนี้มันต้องลงทุนกันบ้าง เดินไปร้านหนังสือพิมพ์ใกล้บ้านซื้อมติชนกรอบวันอาทิตย์ที่ 3 มิถุนายน 2550 มาหนึ่งเล่ม เปิดไปที่หน้า 17 คอลัมน์ซ้ายมือ เห็นหัวเป็นรูปหนุ่มหน้าตี๋ถือไม้บาตองนั่นแหละ อ่านโลด
วิธีเริ่มฟังเพลงคลาสสิคที่ง่ายที่สุด - บัณฑิต อึ้งรังษี
นี่คือบุคลากรด้านดนตรีคลาสสิคของไทยที่ก้าวไปไกลที่สุดในระดับโลกแล้วครับ จริงๆ วันนี้ (เสาร์ที่ 2) เขาจะนำวงที่ตัวเองเป็นวาทยากร (Seoul Philharmonic Orchestra) มาแสดงที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทยด้วย ตั๋วหมดเกลี้ยงนานแล้วไม่ต้องไปหา นอกจากความรู้เต็มเปี่ยมในวิชาชีพของเขาแล้ว บัณฑิตยังมีมุมมองที่จะแจ้ง ทะลุปรุโปร่ง เกี่ยวกับสังคมไทยและตะวันตก ในฐานะที่โดดเข้าไปฟาดฟันมาแล้วด้วยตัวเองทุกรูปแบบจนมีทุกวันนี้ แถมยังเป็นคนที่เขียนหนังสือได้กระแทกใจมากด้วย อย่างหนังสือขายดีชื่อ "ต้องเป็นหนึ่งให้ได้" ซึ่งบางคนอาจจะเคยผ่านตามาแล้ว
ส่วนบทความนี้หรือครับ ลองหยิบมาเป็นตัวอย่างนิดๆ ก็แล้วกัน...
อีกอย่างหนึ่ง ที่อาจเป็นอุปสรรคในการฟังเพลงประเภทนี้ คือ อคติ
ผมสังเกตว่าเด็กๆ แค่สองสามขวบ
้ถ้าเปิดหูเปิดตาให้เขาดูดนตรีดีๆ
เขานั่งดูได้ ไม่เบื่อเลย
เพราะไม่เคยมีใครมาบอกเขาว่า
ดนตรีแบบนี้ "ต้องปีนกระไดขึ้นไปฟัง"
... ไงล่ะ 10 บาทแลกกับมุมมองระดับนี้ อย่าได้พลาดเป็นอันขาด เสียดายแทนครับ
Guest
ช่องทางการติดต่ออื่น
nopphong
02/06/2007 15:13:19
จริงๆเรื่องปีนบันใดขึ้นไปฟังนี่เป็นเรื่องคุยกันตลกๆหรือเป็นข้ออ้างในการไม่ฟัง มากกว่าจะเกิดจากอคติครับ
แต่ที่คนไทยจำนวนมากไม่ฟังเพลงคลาสสิค เพราะ ไม่ชอบ ฟังแล้วไม่ถูกหู ไม่ถูกใจ ของอย่างนี้ความชอบของใครของมันครับ ก๋วยเตี๋ยวเจ้าเดียวกัน ต่อให้โด่งดังขนาดไหน ก็ต้องมีคนที่กินแล้วบอก ไม่ชอบ จะบอกว่าโอ๊ยเอ็งไม่ชอบได้ยังไง อติกับร้านหรือเปล่า อันนี้ไม่น่าจะได้
ผมเชื่อเลยว่าคนฟังเพลงนี่เรื่องอตินี่น้อยครับ เพราะเพลงมีหลายประเภทนักฟังย่อมมีพื้นฐาณในการลองฟังเป็นหลักติดตัวอยู่แล้ว แต่ที่ไม่ชอบ เพราะมันไม่ชอบจริงๆมากกว่า พอฟังแล้วไม่ชอบ นี่แล้วจะมาให้นั่งเรียนรู้ ว่าเครื่องดนตรีนั้นฟังอย่างนี้ คนนั้นคนนี้แต่ง อารมณ์มันเป็นอย่างนี้ ผมว่ายาก อะไรก็ตามเกี่ยวกับเพลงมันต้องเริ่มจาก ฟังแล้วเพราะ มาเป็นอย่างแรกครับ
ดังนั้นหากจะหาคนฟังคลาสสิคเยอะๆก็ต้องเริ่มจากคัดเพลงที่ฟังง่ายๆและเพราะจริงๆ ออกมาเผยแพร่(เอามาล่อให้ฟังก่อน) พอคนฟังรู้สึกว่าเพราะเดี๋ยวเขาก็ไล่ระดับไปฟังในสเตปที่ลึกซึ้งขึ้นเองในภายหลังครับ
แต่ที่คนไทยจำนวนมากไม่ฟังเพลงคลาสสิค เพราะ ไม่ชอบ ฟังแล้วไม่ถูกหู ไม่ถูกใจ ของอย่างนี้ความชอบของใครของมันครับ ก๋วยเตี๋ยวเจ้าเดียวกัน ต่อให้โด่งดังขนาดไหน ก็ต้องมีคนที่กินแล้วบอก ไม่ชอบ จะบอกว่าโอ๊ยเอ็งไม่ชอบได้ยังไง อติกับร้านหรือเปล่า อันนี้ไม่น่าจะได้
ผมเชื่อเลยว่าคนฟังเพลงนี่เรื่องอตินี่น้อยครับ เพราะเพลงมีหลายประเภทนักฟังย่อมมีพื้นฐาณในการลองฟังเป็นหลักติดตัวอยู่แล้ว แต่ที่ไม่ชอบ เพราะมันไม่ชอบจริงๆมากกว่า พอฟังแล้วไม่ชอบ นี่แล้วจะมาให้นั่งเรียนรู้ ว่าเครื่องดนตรีนั้นฟังอย่างนี้ คนนั้นคนนี้แต่ง อารมณ์มันเป็นอย่างนี้ ผมว่ายาก อะไรก็ตามเกี่ยวกับเพลงมันต้องเริ่มจาก ฟังแล้วเพราะ มาเป็นอย่างแรกครับ
ดังนั้นหากจะหาคนฟังคลาสสิคเยอะๆก็ต้องเริ่มจากคัดเพลงที่ฟังง่ายๆและเพราะจริงๆ ออกมาเผยแพร่(เอามาล่อให้ฟังก่อน) พอคนฟังรู้สึกว่าเพราะเดี๋ยวเขาก็ไล่ระดับไปฟังในสเตปที่ลึกซึ้งขึ้นเองในภายหลังครับ
mazz
02/06/2007 16:27:49
ผมว่าคนส่วนใหญ่จะต้องมีแนวดนตรีที่ไม่ชอบ อย่างผมเนี่ยจะฟังพวกmetal undergroundไม่รู้เรื่องเลยครับ
โดยไม่ได้มีอคตินะครับแต่เห็นพี่ฟัง พอลองฟังก็ไม่เห็นว่ามันจะมีความสุขเลย
โดยไม่ได้มีอคตินะครับแต่เห็นพี่ฟัง พอลองฟังก็ไม่เห็นว่ามันจะมีความสุขเลย
รันตี
02/06/2007 16:56:55
ที่คุณนพพงษ์พูดเรื่องฟังแล้วเพราะก่อนน่ะเหมือนคุณบัณฑิตพูดเปี้ยบเลยครับ :D
ผมก็คนหนึ่งละที่คิดว่าประเภทของดนตรีที่ฟังไม่ได้เป็นเครื่องตัดสินความลึกซึ้งในการรับรู้ของคนฟังแต่อย่างใดเลย ครูเพลงดนตรีไทย นักดนตรีอินเดียที่เล่นดนตรีแนวประเพณี คนพวกนี้ไม่จำเป็นต้องฟังเพลงคลาสสิคแม้แต่ครั้งเดียวในชีวิตก็บรรลุระดับมหาเทพได้ครับ
ผมก็คนหนึ่งละที่คิดว่าประเภทของดนตรีที่ฟังไม่ได้เป็นเครื่องตัดสินความลึกซึ้งในการรับรู้ของคนฟังแต่อย่างใดเลย ครูเพลงดนตรีไทย นักดนตรีอินเดียที่เล่นดนตรีแนวประเพณี คนพวกนี้ไม่จำเป็นต้องฟังเพลงคลาสสิคแม้แต่ครั้งเดียวในชีวิตก็บรรลุระดับมหาเทพได้ครับ
เบียส
02/06/2007 18:01:20
ผม ว่าดนตรีมันก็เหมือนกับ อาหารนั่นแหละครับ 555 บางคนชอบ กินผัก บางคนชอบเนื้อ นม ไข่ บางคนชอบ รส
เปรี้ยว หวาน เค็มเผ็ด ต่าง คนต่างมีพัฒนาการ ในการเสพ ดนตรี ไม่เหมือนกันครับ ตอนที่ผมเริ่มฟังเพลงอย่างจริงจัง ในตอนนั้นผมชอบฟังแต่ rock, Metal หนักๆ เพียงอย่างเดียว
ชีวิตวันๆ มีแต่ ตึง ตัง ตึง ตัง ฉึกๆ ฉักๆ แถมยังไม่ยอมเปิดใจรับเพลงแนวอื่นเลย แบบว่าไม่ฟังเลย
เป็นอย่างนั้นอยู่ 1-2 ปี จนเรียนจบ มัธยมปลายครับ 555
แล้ววันนึง ก้ถามตัวเองว่า "แล้วมึงจะไม่ไปฟังแนวอื่นบ้างเลยเหรอว่ะเนี่ย จะปิดกั้นตัวเองไปทำไม ไหนๆมันก็เรียกว่าดนตรีเหมือนกัน"
หลังจากนั้นก็พยายามหาฟังแนวอื่นมั่ง ชอบมั่งไม่ชอบมั่ง 555 ฟังมันเรื่อยไป จนกระทั่งเดี๋ยวนี้ คิดว่า ฟังมันไปเหอะ ฟังไปอย่างที่เราชอบ เหมือนอาหารที่เราอยากกิน
วันนี้อยากกินเปรี้ยว ก็กินเปรี้ยว วันนี้อยากกินหวาน ก็กินหวาน บางครั้งไม่หิวก็ไม่ต้องกิน แบบนี้สบายกว่า ฟังด้วยความมีความสุข สบายที่สุด
จนตอนนี้ก็ยังไม่รู้เลยว่าตัวเองชอบฟังเพลงแนวไหนมากที่สุด
ยังไม่มีคำตอบซักที บางทีอาจเป็นเพราะประสบการณ์ ในการฟังของเราเอง อีก 10 ปีข้างหน้า เพลงจะเป็นยังไงก็ไม่รู้ จะเหมือนอาหารในตอนนี้ไหมน้อ
อิ อิ อิ
สมัครเล่น
02/06/2007 19:56:33
ขอสะแด๋นหน่อยนะครับ
ผมว่า จริง ๆ แล้วทุกคนอยู่ใกล้ชิดกับเพลงคลาสสิคมาก นี่เป็นเรื่องจริง อย่างเวลาไปชมภาพยนตร์ ยกตัวอย่างเช่น เรื่อง Brave Heart เวลาที่เรื่องดำเนิน ต้องมีดนตรีประกอบ ส่วนมากก็จะใช้ orchestra เป็นหลัก ท่วงทำนองที่บรรเลง ก็สอดคล้องกับบทบาทที่ดำเนินไป
นั่นก็คือกลิ่นอายของเพลงคลาสสิคกลาย ๆ แล้วครับ ถึงแม้ว่าบางเรื่อง อย่างที่ยกตัวอย่างมา มีกลิ่นอายของ Celtic (พวกไอร์แลนด์+สก๊อตแลนด์) มาปนคละคลุ้ง
แต่พอเอาภาพออก ให้ฟังแต่เพลงอย่างเดียว กลับหาว่าปีนกระไดฟัง อันนี้ต้องลองคิดดู
เพลงคลาสสิคที่ชักชวนให้คนมาหลงใหลติดตามฟัง ก็มักจะมาจากทำนองที่ติดหูก่อน อย่างเช่น Fur Elise ของ beethoven ซึ่งก็มีทั้งริงโทน เพลงพักสาย นาฬิกาปลุก สารพัด แล้วถึงมาชอบในส่วนรายละเอียดต่าง ๆ
หรือบางคนอาจจะมีแรงบันดาลใจมากจากเครื่องดนตรีที่ตนชอบ เช่นชอบเสียงไวโอลิน ก็เลยชอบเพลงคลาสสิค ชอบเสียงเปียโน อย่างนี้
เพลงทุกประเภท มีคุณค่าในตัวมันเอง การที่เราไม่ชอบประเภทใด ก็ไม่ได้หมายความว่า เพลงประเภทนั้นไม่ดี เพียงแต่ไม่ต้องกับรสนิยมเราเท่านั้น
ไม่งั้นนางงามจักรวาล ก็เสร็จอเมริกาใต้หมดซิ..
หรือว่ายังไงครับ
ผมว่า จริง ๆ แล้วทุกคนอยู่ใกล้ชิดกับเพลงคลาสสิคมาก นี่เป็นเรื่องจริง อย่างเวลาไปชมภาพยนตร์ ยกตัวอย่างเช่น เรื่อง Brave Heart เวลาที่เรื่องดำเนิน ต้องมีดนตรีประกอบ ส่วนมากก็จะใช้ orchestra เป็นหลัก ท่วงทำนองที่บรรเลง ก็สอดคล้องกับบทบาทที่ดำเนินไป
นั่นก็คือกลิ่นอายของเพลงคลาสสิคกลาย ๆ แล้วครับ ถึงแม้ว่าบางเรื่อง อย่างที่ยกตัวอย่างมา มีกลิ่นอายของ Celtic (พวกไอร์แลนด์+สก๊อตแลนด์) มาปนคละคลุ้ง
แต่พอเอาภาพออก ให้ฟังแต่เพลงอย่างเดียว กลับหาว่าปีนกระไดฟัง อันนี้ต้องลองคิดดู
เพลงคลาสสิคที่ชักชวนให้คนมาหลงใหลติดตามฟัง ก็มักจะมาจากทำนองที่ติดหูก่อน อย่างเช่น Fur Elise ของ beethoven ซึ่งก็มีทั้งริงโทน เพลงพักสาย นาฬิกาปลุก สารพัด แล้วถึงมาชอบในส่วนรายละเอียดต่าง ๆ
หรือบางคนอาจจะมีแรงบันดาลใจมากจากเครื่องดนตรีที่ตนชอบ เช่นชอบเสียงไวโอลิน ก็เลยชอบเพลงคลาสสิค ชอบเสียงเปียโน อย่างนี้
เพลงทุกประเภท มีคุณค่าในตัวมันเอง การที่เราไม่ชอบประเภทใด ก็ไม่ได้หมายความว่า เพลงประเภทนั้นไม่ดี เพียงแต่ไม่ต้องกับรสนิยมเราเท่านั้น
ไม่งั้นนางงามจักรวาล ก็เสร็จอเมริกาใต้หมดซิ..
หรือว่ายังไงครับ
ช่างโชค
02/06/2007 20:45:16
วันนี้ผ่านไปลองฟังที่ร้านตอนเย็นๆ (อ้ายคนที่ลองตัวละ1090บาทนั่นแหละ แต่ขออิ๊บตังค์เมียก่อนซักระยะ แล้วจะไปสู่ขอ)
ขอแจมนิดนึงนะครับ
คือผมเชื่อว่า คนที่หัดฟัง ดนตรีคลาสสิคใหม่ๆ
ต้องมีจินตนาการครับ
อันดับแรกๆ เลย
หมายถึง ฟังไป คิดไป จับรายละเอียด ดนตรีทุชิ้น
เมื่อคุณฟังได้ถึงระดับหนึ่งแล้ว คุณไม่ต้องใช้จินตนาการครับ
เพราะคุณสามารถจะทราบ รุ้ได้ทันทีว่า นักแต่งเพลง กำลังจะสื่อความหมายอะไร หรือเพลงๆ นั้น กำลังจะบอกอะไรกับคุณ
เครื่องดนตรีแต่ละชิ้น มันมีโทนเสียง มีรายละเอียด และมีสิ่งที่น่าติดตาม อย่างไม่มีวันจบสิ้นครับ
ดนตรีคลาสสิค ต่างกับแนวอื่นๆ ตรงที่ การรวบรวมเสียงของเครื่องดนตรี เป็นร้อยๆ ชิ้น ให้กลมกลืน เป็นหนึ่งเดียว และสามารถสร้างเรื่องราว หรือสื่อเรื่องราว ผ่านทางเสียงดนตรีได้ โดยไม่จำเป้นต้องมีนักร้อง
ผิดถูกอย่างไรขออภัยครับ เป็นเพียงความเห็นส่วนตัวผมเองครับ
ขอแจมนิดนึงนะครับ
คือผมเชื่อว่า คนที่หัดฟัง ดนตรีคลาสสิคใหม่ๆ
ต้องมีจินตนาการครับ
อันดับแรกๆ เลย
หมายถึง ฟังไป คิดไป จับรายละเอียด ดนตรีทุชิ้น
เมื่อคุณฟังได้ถึงระดับหนึ่งแล้ว คุณไม่ต้องใช้จินตนาการครับ
เพราะคุณสามารถจะทราบ รุ้ได้ทันทีว่า นักแต่งเพลง กำลังจะสื่อความหมายอะไร หรือเพลงๆ นั้น กำลังจะบอกอะไรกับคุณ
เครื่องดนตรีแต่ละชิ้น มันมีโทนเสียง มีรายละเอียด และมีสิ่งที่น่าติดตาม อย่างไม่มีวันจบสิ้นครับ
ดนตรีคลาสสิค ต่างกับแนวอื่นๆ ตรงที่ การรวบรวมเสียงของเครื่องดนตรี เป็นร้อยๆ ชิ้น ให้กลมกลืน เป็นหนึ่งเดียว และสามารถสร้างเรื่องราว หรือสื่อเรื่องราว ผ่านทางเสียงดนตรีได้ โดยไม่จำเป้นต้องมีนักร้อง
ผิดถูกอย่างไรขออภัยครับ เป็นเพียงความเห็นส่วนตัวผมเองครับ
เอามาฝาก
02/06/2007 21:26:27
เอาเพลงมาฝากครับ four season ของ vivaldi ที่มีการใส่ลูกเล่น เช่นเสียงผิวปากเข้าไปด้วยฟังสนุกดี
Vivaldi - The Four Seasons (great version!)[mp3@320][scans] by Tony
http://www.mininova.org/get/706403
Vivaldi - The Four Seasons (great version!)[mp3@320][scans] by Tony
http://www.mininova.org/get/706403
นายมั่นคง
02/06/2007 22:29:35
5555 ผมเองถ้ามีเวลา ก็จะหัดฟังตอนแก่นี่ล่ะครับ หลังจากยักแย่ยันยันกับพวกร็อค บลูส์ โฟล์คมาน๊านนาน 555
เดี๋ยวเอากับเค้าซักหน่อย....เฮียเปี๊ยกคะยั้นคะยอให้ลองหลายทีแระ 555
สาคร
02/06/2007 23:13:10
ผมมีอีกวิธีจะแนะให้สำหรับคนที่อยากจะเข้ามาสัมผัสโลกของคลาสสิค
ไปหา ซีรีส์ญี่ปุ่นที่ชื่อ Nodame Cantabile มาดูนะครับ 11ตอนแค่นั้นเอง แล้วคุณจะพบว่า
โลกของคลาสสิคช่างงดงาม อลังการ หวานครบรสสุดแท้แต่จะสรรหามาได้ครับ
กะลังปลื้มจัดกะหนังเรื่องนี้ แหะๆๆ
ไปหา ซีรีส์ญี่ปุ่นที่ชื่อ Nodame Cantabile มาดูนะครับ 11ตอนแค่นั้นเอง แล้วคุณจะพบว่า
โลกของคลาสสิคช่างงดงาม อลังการ หวานครบรสสุดแท้แต่จะสรรหามาได้ครับ
กะลังปลื้มจัดกะหนังเรื่องนี้ แหะๆๆ
nopphong
02/06/2007 23:29:53
ขอบคุณ คุณเอามาฝากครับ เพลงเพราะดีครับ ฟังไม่ต่อยเหมือนเพลงคลาสสิคเท่าไรแต่เพราะดี+มันดีครับ ฟังกับ sr80 แล้วเสียงไวโอลินแสบเหมือนฟังของจริงเลยครับ อิอิ
unclepiak
03/06/2007 08:29:09
ขออนุญาตแย้งคุณช่างโชคสักนิดครับ
ในทัศนะผม เพลงคลาสสิกไม่จำเป็นต้องสื่อความรู้สึก หรือต้องใช้จินตนาการเสมอไปครับ มีเพลงจำนวนมาก ที่เขียนขึ้นมาโดยไม่เกี่ยวกับอารมณ์ความรู้สึก
บางทีมันเป็นเพียงเสียงดนตรี ในโทนสูง ๆ ต่ำ ๆ ในเทมโป้ที่เร็ว ๆ ช้า ๆ มีการสอดประสานของเสียงต่าง ๆ กัน เพื่อให้เกิดความงดงามทางดนตรี
ซึ่งความงดงามนั้น อาจจะไม่ได้เกี่ยวกับความรู้สึกรู้สาอะไรก็มีครับ
เหมือนงานศิลปะแขนงอื่น เช่นงานจิตรกรรม ที่สร้างขึ้นมาเพื่อให้เกิดภาพงดงาม โดยผู้สร้างสรรไม่ได้ต้องการสื่อความหมายอะไร นอกจากความงาม
สรุปว่า หากจะฟังเพลงคลาสสิก ก็เพียงแต่หาช่วงเวลาที่ว่างพอสมควร แล้วเปิดโอกาสให้หูได้ยินเสียง
ไม่จำเป็นต้องหาความรู้ลึกซึ้งอะไรก่อนก็ได้ ของเพียงให้เรามีสมาธิพอสมควร เราย่อมพบอะไรบางอย่าง ที่เรียกว่าความงามจากเสียงได้ทุกคนครับ
ในทัศนะผม เพลงคลาสสิกไม่จำเป็นต้องสื่อความรู้สึก หรือต้องใช้จินตนาการเสมอไปครับ มีเพลงจำนวนมาก ที่เขียนขึ้นมาโดยไม่เกี่ยวกับอารมณ์ความรู้สึก
บางทีมันเป็นเพียงเสียงดนตรี ในโทนสูง ๆ ต่ำ ๆ ในเทมโป้ที่เร็ว ๆ ช้า ๆ มีการสอดประสานของเสียงต่าง ๆ กัน เพื่อให้เกิดความงดงามทางดนตรี
ซึ่งความงดงามนั้น อาจจะไม่ได้เกี่ยวกับความรู้สึกรู้สาอะไรก็มีครับ
เหมือนงานศิลปะแขนงอื่น เช่นงานจิตรกรรม ที่สร้างขึ้นมาเพื่อให้เกิดภาพงดงาม โดยผู้สร้างสรรไม่ได้ต้องการสื่อความหมายอะไร นอกจากความงาม
สรุปว่า หากจะฟังเพลงคลาสสิก ก็เพียงแต่หาช่วงเวลาที่ว่างพอสมควร แล้วเปิดโอกาสให้หูได้ยินเสียง
ไม่จำเป็นต้องหาความรู้ลึกซึ้งอะไรก่อนก็ได้ ของเพียงให้เรามีสมาธิพอสมควร เราย่อมพบอะไรบางอย่าง ที่เรียกว่าความงามจากเสียงได้ทุกคนครับ
รันตี
03/06/2007 09:15:52
ดีจังครับมาออกความคิดเห็นกันหลายๆ แง่ ยังไงอย่าลืมซื้อมติชนเช้านี้อ่านบทความคุณบัณฑิตกันหน่อยนะคร้าบ :D
เฮียมั่นคงฟังแนวๆ นี้ แต่ก่อนต้องเคยไปสิงสู่ร้านวู้ดสต็อกแถวแยกประตูน้ำแน่ๆ เลย
เฮียมั่นคงฟังแนวๆ นี้ แต่ก่อนต้องเคยไปสิงสู่ร้านวู้ดสต็อกแถวแยกประตูน้ำแน่ๆ เลย
สมัครเล่น
03/06/2007 17:00:00
จริง ๆ แล้ว เสียงที่สอดประสาน มุ่งความไพเราะทางเสียงนั้น ก็แฝงความรู้สึกด้วยนะครับ ป๋าเปี๊ยก
มีคนเคยถามกันว่า ดนตรีคืออะไร แล้วก็มีคนตอบว่า ดนตรีคือภาษาสากล อาอ้วน อาจารย์ผม เสนอว่า ดนตรีควรจะเป็นการแสดงออกซึ่งความรู้สึกเป็นเสียงดนตรี มากกว่าจะมาเรียกว่าภาษาสากล โดยยกตัวอย่างว่า ถ้าเป็นภาษา เล่นแล้วให้ฟังออกว่า หิวข้าวแล้ว หาข้าวให้กินหน่อย ได้ขนาดนั้นก็ดีสิ ไม่ต้องพกดิกชันารี
ผมฟังแล้วก็ขำดี ว่าก็น่าจะเป็นอย่างนั้น เพราะสุขหรือทุกข์ ก็สามารถแสดงออกได้ทางเสียงดนตรี เพลงงานศพ ไม่ว่าศพไทย ฝรั่ง จีน ลาว เขมร แขก หรือ คนป่าเกาะบอร์เนียว ก็น่าจะฟังออกเหมือนกันว่ามันเศร้า เสียใจ
แต่ก็สนับสนุนที่ป๋าเปี๊ยกว่าอย่างยิ่งคือ คุณชอบฟังเพราะมันเพราะ ทำนองเพราะถูกใจ ดนตรีมีไว้เพื่อฟังเป็นอย่างแรกครับ ที่เหลือเป็นผลพลอยได้ เพราะฉะนั้น ชอบอะไร ชอบแบบไหน ในขั้นต้น ไม่ต้องสนใจเรื่องรายละเอียดมาก
เพราะเมื่อฟังไปสักระยะหนึ่ง ก็จะเริ่มแยกแยะว่า การที่คนสองคนเล่นเพลงเดียวกัน ไม่เหมือนกันตรงไหน ทั้ง ๆ ที่โน้ตก็เหมือนกัน แล้วก็จะเริ่มเข้าสู่ความเพลิดเพลินในการฟัง และเปรียบเทียบ และก็เริ่มเข้าสู่อาณาจักรการฟังเพลงคลาสสิค
มีคนเคยถามกันว่า ดนตรีคืออะไร แล้วก็มีคนตอบว่า ดนตรีคือภาษาสากล อาอ้วน อาจารย์ผม เสนอว่า ดนตรีควรจะเป็นการแสดงออกซึ่งความรู้สึกเป็นเสียงดนตรี มากกว่าจะมาเรียกว่าภาษาสากล โดยยกตัวอย่างว่า ถ้าเป็นภาษา เล่นแล้วให้ฟังออกว่า หิวข้าวแล้ว หาข้าวให้กินหน่อย ได้ขนาดนั้นก็ดีสิ ไม่ต้องพกดิกชันารี
ผมฟังแล้วก็ขำดี ว่าก็น่าจะเป็นอย่างนั้น เพราะสุขหรือทุกข์ ก็สามารถแสดงออกได้ทางเสียงดนตรี เพลงงานศพ ไม่ว่าศพไทย ฝรั่ง จีน ลาว เขมร แขก หรือ คนป่าเกาะบอร์เนียว ก็น่าจะฟังออกเหมือนกันว่ามันเศร้า เสียใจ
แต่ก็สนับสนุนที่ป๋าเปี๊ยกว่าอย่างยิ่งคือ คุณชอบฟังเพราะมันเพราะ ทำนองเพราะถูกใจ ดนตรีมีไว้เพื่อฟังเป็นอย่างแรกครับ ที่เหลือเป็นผลพลอยได้ เพราะฉะนั้น ชอบอะไร ชอบแบบไหน ในขั้นต้น ไม่ต้องสนใจเรื่องรายละเอียดมาก
เพราะเมื่อฟังไปสักระยะหนึ่ง ก็จะเริ่มแยกแยะว่า การที่คนสองคนเล่นเพลงเดียวกัน ไม่เหมือนกันตรงไหน ทั้ง ๆ ที่โน้ตก็เหมือนกัน แล้วก็จะเริ่มเข้าสู่ความเพลิดเพลินในการฟัง และเปรียบเทียบ และก็เริ่มเข้าสู่อาณาจักรการฟังเพลงคลาสสิค
สมัครเล่น
03/06/2007 17:06:07
สมัยก่อน ผมอ่านหนังสือของ อ.ไขแสง ซื้อจากศูนย์หนังสือจุฬาฯ ชื่อหนังสือว่า สังคีตนิยมว่าด้วยดนตรีตะวันตก และอีกเล่มชื่อว่า สังคีตนิยมว่าด้วยเครื่องดนตรีในวงออร์เคสตร้า ทั้งสองเล่มนี้ ชื่ออาจผิดเพี้ยนไปได้บ้าง เพราะหลายปีแล้วครับ
หนังสือทั้งสองเล่มนี้ เป็นคู่มือที่ดีในการเริ่มฟังเพลงคลาสสิค เพราะมีการชี้นำ และมีชื่อเพลงที่แนะนำด้วย
ปัจจุบัน ไม่ทราบว่ามีหนังสือแนวนี้ เพิ่มมากขึ้นบ้างหรือเปล่าครับ
หนังสือทั้งสองเล่มนี้ เป็นคู่มือที่ดีในการเริ่มฟังเพลงคลาสสิค เพราะมีการชี้นำ และมีชื่อเพลงที่แนะนำด้วย
ปัจจุบัน ไม่ทราบว่ามีหนังสือแนวนี้ เพิ่มมากขึ้นบ้างหรือเปล่าครับ
unclepiak
04/06/2007 04:31:31
หาซื้อไม่ได้แล้วครับ ผมเข้าไปคุ้ยที่ศูนย์หนังสือจุฬาฯ สองหนแล้ว(ปีกลาย) ได้แต่บรรเลงรมย์ ของป้าจิ๋ว
เล่มเด็ด ๆ ของ อ.ไขแสง(ดนตรีปริทรรศน์, สังคีตนิยม) รวมทั้ง จากดวงใจ ของ จ.มงครขจร และอ.สาทิส หาไม่ได้แล้วครับ อยากได้มาก ๆ ใครไปเห็นแถวตลาดหนังสือเก่าจตุจักร ซื้อเก็บได้เลยครับ ของมีค่าล้วนๆ
มีหนังสือใหม่อยู่บ้างครับ ผมได้อ่านของคุณต่อพงศ์ฯ เป็นรวมเล่มจากคอลัมน์ที่เขียนในผู้จัดการฯ สำนวนการเขียนยุคแรก ๆ ของคุณต่อพงศ์ ไม่่ค่อยต้องรสนิยมผมนัก พักหลังวิธีเขียนแกคลี่คลายลงมาก ทำให้อ่านสนุก และชอบมากขึ้นครับ
อีกเล่มที่ได้อ่าน เป็นงานเขียนของคุณหมอชื่ออะไรจำไม่ได้ หนังสือแกทำขนาดเล่มไม่เข้าพวก จัดเข้าตู้หนังสือยาก ทำไปทำมาเลยหายไปไหนก็ไม่รู้
เล่มที่ทำให้ผมสนใจเพลงคลาสสิก เป็นหนังสือเล่มเล็ก ๆ ชื่อ "ดนตรีที่รัก" เขียนโดย อ.สรรพสิทธิ์ คุมพ์ประพันธ์
ปัจจุบันแหล่งค้นคว้าที่ดีที่สุดคือ google.com ครับ *: )
เล่มเด็ด ๆ ของ อ.ไขแสง(ดนตรีปริทรรศน์, สังคีตนิยม) รวมทั้ง จากดวงใจ ของ จ.มงครขจร และอ.สาทิส หาไม่ได้แล้วครับ อยากได้มาก ๆ ใครไปเห็นแถวตลาดหนังสือเก่าจตุจักร ซื้อเก็บได้เลยครับ ของมีค่าล้วนๆ
มีหนังสือใหม่อยู่บ้างครับ ผมได้อ่านของคุณต่อพงศ์ฯ เป็นรวมเล่มจากคอลัมน์ที่เขียนในผู้จัดการฯ สำนวนการเขียนยุคแรก ๆ ของคุณต่อพงศ์ ไม่่ค่อยต้องรสนิยมผมนัก พักหลังวิธีเขียนแกคลี่คลายลงมาก ทำให้อ่านสนุก และชอบมากขึ้นครับ
อีกเล่มที่ได้อ่าน เป็นงานเขียนของคุณหมอชื่ออะไรจำไม่ได้ หนังสือแกทำขนาดเล่มไม่เข้าพวก จัดเข้าตู้หนังสือยาก ทำไปทำมาเลยหายไปไหนก็ไม่รู้
เล่มที่ทำให้ผมสนใจเพลงคลาสสิก เป็นหนังสือเล่มเล็ก ๆ ชื่อ "ดนตรีที่รัก" เขียนโดย อ.สรรพสิทธิ์ คุมพ์ประพันธ์
ปัจจุบันแหล่งค้นคว้าที่ดีที่สุดคือ google.com ครับ *: )
ชุมนุมคนรักดนตรีคลาสสิค
04/04/2010 14:25:53
สวัสดีครับทุกคน
คือ ตอนนี้เราพยายามรวบรวมคนที่ใจรักและชอบฟังเพลงคลาสสิค
ย้ำนะครับ เราอยากเปิดโอกาสให้เพื่อนๆคนอื่นได้รู้จักกับดนตรีคลาสสิคมากขึ้น เราจึงอยากรวมคนที่ชอบฟังและมาร่วมแบ่งปันความรู้ให้กับคนอื่นๆ ใครที่สนใจจะร่วมเป็นเครือข่ายสมาชิกชุมนุมคนรักดนตรีคลาสสิค กรุณาเข้าไปที่
http://sites.google.com/site/thailandclassicalmusicfanclub/home
หากใครมีเว็บหรือบล็อกของตัวเอง กรุณาวาง link ไว้ให้ด้วยนะ^__^
และช่วยวางชื่อเว็บเราไว้ในเว้บ/บล็อกคุณ เพื่อรวมกลุ่มเครือข่าย
ช่วยโพสด้วยว่า คุณ คือ
สมาชิกเครือข่ายชุมนุมคนรักดนตรีคลาสิค
ขอบคุณครับ มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับเราในการสร้างชุมชนคนรักดนตรีคลาสสิค เรารอทุกคนอยู่ ^__^
คือ ตอนนี้เราพยายามรวบรวมคนที่ใจรักและชอบฟังเพลงคลาสสิค
ย้ำนะครับ เราอยากเปิดโอกาสให้เพื่อนๆคนอื่นได้รู้จักกับดนตรีคลาสสิคมากขึ้น เราจึงอยากรวมคนที่ชอบฟังและมาร่วมแบ่งปันความรู้ให้กับคนอื่นๆ ใครที่สนใจจะร่วมเป็นเครือข่ายสมาชิกชุมนุมคนรักดนตรีคลาสสิค กรุณาเข้าไปที่
http://sites.google.com/site/thailandclassicalmusicfanclub/home
หากใครมีเว็บหรือบล็อกของตัวเอง กรุณาวาง link ไว้ให้ด้วยนะ^__^
และช่วยวางชื่อเว็บเราไว้ในเว้บ/บล็อกคุณ เพื่อรวมกลุ่มเครือข่าย
ช่วยโพสด้วยว่า คุณ คือ
สมาชิกเครือข่ายชุมนุมคนรักดนตรีคลาสิค
ขอบคุณครับ มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับเราในการสร้างชุมชนคนรักดนตรีคลาสสิค เรารอทุกคนอยู่ ^__^
ปรทิม
17/06/2010 22:38:29
ฟังเพลงคลาสสิคมาหลายปีแล้วครับ ตั้งแต่ยุค อ.พิชัย วาศนาส่ง จัดทาง fm ปัจจุบันฟังวันอาทิตย์ 96.5 ช่วง 21.00-23.00น.จัดโดยน.พ.ทวีศิลย์ ศรีแสงนาม และฟังทางวิทยุจุฬา ทุกวันช่วง 21.30-24.00น.(อยู่ต่างจังหวัดครับต้องฟังทางเน็ต)ไม่ทราบว่ามีช่องใหนอีกครับ จะตามไปฟัง