หูฟังสำหรับการฟังเพลงได้รับการพัฒนามาตลอดหลายปี ตั้งแต่เริ่มต้นเป็นหูฟังชนิด ear bud ที่แถมมากับเครื่องเล่นเพลง และพัฒนาต่อมาให้เป็นหูฟังที่ใช้งานกับโทรศัพท์มือถือ การใช้งานหูฟังกับโทรศัพท์ก็จะมีหลายวัตถุประสงค์ ตั้งแต่ใช้ฟังเพลง กับ ใช้พูดคุยซึ่งจะต้องทำหน้าที่กดรับสายหรือวางสายได้ด้วย หูฟังที่ใช้กับโทรศัพท์จะถูกเรียกว่าสมอลทอล์คและคำว่าสมอลทอล์คก็กลายเป็นคำศัพท์ทั่วไป เป็นตัวแทนของสายหูฟังไปในที่สุด
ในยุคแรกหูฟังสมอลทอล์คจะเป็นหูฟังคุณภาพต่ำพร้อมไมโครโฟนบนตัวสาย ใช้เสียบกับโทรศัพท์เพื่อการพูดคุยกัน ไม่ได้ออกแบบเอาไว้ฟังเพลง และพอโทรศัพท์เริ่มพัฒนาคุณภาพเสียงให้พอฟังเพลงได้ เราก็มีหูฟังสมอลทอล์คสำหรับคุยและฟังเพลงได้ แต่ยังเป็นแบบมีสายอยู่ และหูฟังสมอลทอล์คที่มีคุณภาพดีระดับพอใช้ได้ก็คือหูฟังที่แถมมากับโทรศัพท์ราคาสูงอย่าง iphone นับได้ว่าบริษัท apple ได้วางรากฐานอุปกรณ์ด้านนี้เอาไว้หลายอย่าง
ส่วนหูฟังที่เน้นการพูดคุยแต่เพียงอย่างเดียวก็ถูกพัฒนาออกมาเป็นหูฟังบลูทูธ เป็นหูฟังข้างเดียวที่ใช้คุยเป็นหลัก โลกเราใช้หูฟังบลูทูธข้างเดียวอยู่เกือบ 20 ปี จนมีคนเริ่มทำหูฟังสำหรับฟังเพลงแบบไร้สายให้คุยโทรศัพท์ได้ พวกเราเลยมีหูฟังสำหรับฟังเพลงและพูดคุยในชิ้นเดียวกัน และสามารถทำเป็นระบบสเตอริโอสำหรับใช้งานสองหูได้ด้วย
จากการพัฒนาการไม่หยุดยั้งของโทรศัพท์มือถือ ก็ผลักดันให้หูฟังกลายเป็นระบบไร้สาย และ apple ก็ออกแบบหูฟังไร้สายออกมาขาย หน้าตาเป็น earbud แบบเดิมที่เคยมีขาย แต่กลายเป็นไร้สาย หรือ ไม่มีสายแล้ว เอา earbud มาถอดสายออกหน้าตาจะดูตลก แต่ใช้งานได้ดีมาก คุณภาพเสียงดีเหมือนเดิม แถมได้มีการออกแบบวิธีการใช้เสียใหม่ ลดความยุ่งยากที่เคยพบกับการเปิดปิด ลดปัญหาการการเชื่อมต่อลงไปหมดสิ้น แม้แต่การชาร์จไฟก็ออกแบบวิธีใหม่ให้ด้วย
เราเรียกหูฟังไร้สายที่ใช้สำหรับฟังเพลงและคุยโทรศัพท์ว่าเป็นหูฟังชนิด true wireless และจากการใช้งานแสนยุ่งยากของหูฟังบลูทูธในอดีต apple ก็ปรับปรุงวิธีการใช้ วิธีการพก วิธีการชาร์จไฟเสียใหม่ กลายมาเป็นหูฟ้งไร้สายที่มีกล่องใส่ มีแบตเตอรี่ในตัวหูฟังและมีแบตเตอรี่ในตัวกล่องใส่ กล่องนี้ทำงานเหมือนเพาเวอร์แบ๊งค์คอยจ่ายไฟชาร์จตัวหูฟัง เมื่อใช้งานหูฟังจนแบตลดต่ำลงเกือบหมด เราก็แค่เอาไปวางเก็บไว้ในกล่อง กล่องก็จะชาร์จไฟให้กับตัวหูฟัง และเมื่อใดที่เราหยิบหูฟังออกจากกล่อง หูฟังก็จะไปเชื่อมตัวเองเข้ากับโทรศัพท์โดยอัตโนมัติ และกล่องใส่หูฟังที่มีไฟในตัวก็เป็นกล่องที่ต้องอาศัยการเสียบสายชาร์จด้วย วิธีการออกแบบแนวนี้ทำให้หูฟังชนิดนี้น่าใช้งานมาก และลดปัญหาการลืมชาร์จไฟให้กับหูฟังได้อย่างยอดเยี่ยมเลย
apple ออกแบบหูฟังไร้สายใหม่ แล้วก็ขายได้ถล่มทลาย ทุกคนที่เปลี่ยนจากหูฟังแบบสายมาเป็นไร้สายก็จะชอบทุกคน เพราะสะดวกและไม่ต้องปวดหัวกับการต่อสาย ทำให้มีผู้ผลิตรายอื่นเข้ามาร่วมออกแบบ ร่วมผลิตเพื่อแบ่งยอดขายกันเป็นจำนวนมาก และยี่ห้อ Happy plugs ก็ทำหูฟัง true wireless หน้าตาเหมือนของ apple ออกมาขายเช่นกัน โดยใช้ชื่อรุ่นหูฟังนี้ว่า Air1