Guest
หมวดหมู่ > เว็บบอร์ด จับฉ่าย

ช่องทางการติดต่ออื่น

  • Munkonggadget
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Contact Us

นกฮูก

28/12/2021 11:44:11
5

พอดีดูรายการของ อ วิพล 
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 1

นกฮูก

28/12/2021 11:47:55
5
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 2

LosInBlue

28/12/2021 12:45:35
116
แผ่นเสียง มันเทคโนโลยี ตั้งแต่เมื่อ 70 ปี ก่อน ข้อจำกัดคือ ขนาดข้อมูลมหึมา แถมแผ่นราคาแพงมากๆๆ บันทึกเสียงแบบ อนาล็อค แบบโบราณ


ส่วน DSD พึ่งจะมีไม่นานนี้ ยังพัฒนาได้อีกไกล เป็นดิจิตอลที่คุณภาพดีที่สุด แถมยังพัฒนาคุณภาพเสียงแบบ ไม่จำกัด ไม่ลดขนาดข้อมูลเหมือนแผ่น CD อีก


ไม่น่าแปลกใจครับ 

ส่วน 6G เข้ามาเมื่อไหร่ แล้ว จะมี streaming DSD เมื่อไหร่นั้น เป็นเรื่องของอนาคตครับ 555 (5g กับ hi-res streaming เพิ่งจะมีไม่นานเร็วๆนี้เอง)
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 3

MAII

28/12/2021 17:46:29
2
อันนี้ผมว่าแล้วแต่ความชอบส่วนบุคคลแล้วแต่หูแต่ละคน ส่วนตัวผมเล่นดนตรีด้วย ความแตกต่างสำหรับผมคือ เสียงจากแผ่นเสียง  รายละเอียดไม่ได้เท่าดิจิตอล แต่ความเสมจริงมากกว่าดิจิตอลครับ อย่างผมเล่นเปียโน เสียงจากแผ่นเสียงให้ความสมจริงกว่าครับ เสียงที่ผ่านอากาศการสะเทือนการสั่นสมจริงกว่า clarity มากกว่าอย่างชัดเจน อันนี้เพราะชุดดิจิตอลผมไม่ถึงก็เป็นได้ ชุดเครื่องเล่นแผ่นผมเทิร์นหัวเข็มตัวโฟโน Transrotir zet3 หัว Benz Ruby อีกหัว Koetsu urushi phono ear834p ชุดนี้ประมาณแปดแสน ส่วนดิจิตอล source ใช้ macmini ssd+linear power supply สตรีมไปที่ ultrarendu สัญญาณ ethernet optical จาก streamer ไปที่ DAC Ayre qb9 twenty ชุดนี้ประมาณสองแสน ไม่แน่ใจว่า ถ้า ชุด ดิจิตอลที่สูงกว่านี้จะเสียงสู้ชุดแผ่นเสียงผมได้ไหม
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 4

MAII

28/12/2021 17:54:23
2
ลองฟังอันนี้ดูครับ ส่วนขุดผมที่หัวเข็มราคาสูงกว่าของชุดในคลิปนี้สามถึงห้าเท่า เสียงจากแผ่นของชุดผมดีกว่าชุดในคลิปนี้อีก 30 เปอร์เซ็นต์ ได้ครับ คือ ต้องแยกเอาชุดดิจิตอลออกไปฟังกับชุดสำรอง ชุดสำรองผมใช้ Rega p7 Tonearm rb700 couterweight clear audio หัว Koetsu black goldline โฟโน ifi อันนี้ เสียงจากไฟล์ดิจิตอล ด้อยกว่าไม่มาก อย่างที่ว่าครับ เสียงที่ผ่านอากาศ การสะเทือน การสั่น เสียงจากแผ่นสมจริงกว่า แต่ แลกกับเสียงป้อป กับรายละเอียดที่ไม่เท่าดิจิตอล ผมว่าแล้วแต่ความขอบด้วบครับ  ผมใช้ HQplayer ด้วยครับในชุดดิจิตอล

https://youtu.be/pwL0X2VUSZI
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 5

ผมผ่านมาแล้ว

28/12/2021 20:54:08
เอาเรื่องเสียงนะครับ ถ้า source เป็นระดับสูงที่มีคุณภาพดีที่สุดทั้งคู่ streaming music คือเสียงที่มีความชัดเจน ส่วนแผ่นเสียงคือเสียงที่มีความสวยงามครับ อธิบายสั้นๆเท่านี้ล่ะน่าจะนึกออกนะครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 6

นกฮูก

29/12/2021 10:22:29
5
อ้างอิง : ความคิดเห็นที่ 3 - MAII
อันนี้ผมว่าแล้วแต่ความชอบส่วนบุคคลแล้วแต่หูแต่ละคน ส่วนตัวผมเล่นดนตรีด้วย ความแตกต่างสำหรับผมคือ เสียงจากแผ่นเสียง  รายละเอียดไม่ได้เท่าดิจิตอล แต่ความเสมจริงมากกว่าดิจิตอลครับ อย่างผมเล่นเปียโน เสียงจากแผ่นเสียงให้ความสมจริงกว่าครับ เสียงที่ผ่านอากาศการสะเทือนการสั่นสมจริงกว่า clarity มากกว่าอย่างชัดเจน อันนี้เพราะชุดดิจิตอลผมไม่ถึงก็เป็นได้ ชุดเครื่องเล่นแผ่นผมเทิร์นหัวเข็มตัวโฟโน Transrotir zet3 หัว Benz Ruby อีกหัว Koetsu urushi phono ear834p ชุดนี้ประมาณแปดแสน ส่วนดิจิตอล source ใช้ macmini ssd+linear power supply สตรีมไปที่ ultrarendu สัญญาณ ethernet optical จาก streamer ไปที่ DAC Ayre qb9 twenty ชุดนี้ประมาณสองแสน ไม่แน่ใจว่า ถ้า ชุด ดิจิตอลที่สูงกว่านี้จะเสียงสู้ชุดแผ่นเสียงผมได้ไหม
เรื่อง Source น่าจะเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เสียงแตกต่างกัน เพราะ file ที่ได้จาก streaming ปัจจุบันยังอยู่ในระดับเทียบเท่า CD แต่ในอนาคต streaming file DSD ได้ผมว่าความแคกค่างระหว่าง แผ่นเสียงน่าจะไกล้เคียงกันมากๆครับ

คุณ MAII อาจหาซื้อ TASCAM DA3000 มา RIP จากแผ่นเสียงเป็น file DSD 5.6Mhz แล้วลองฟังเทียบดูอีกครั้งนะครับ

ผมยังมีประเด็นคาใจอีกเรื่องคือ นักเล่นแผ่นเสียงมักให้ความเห็นว่า เสียงจากแผ่นเสียงดีกว่า file digital แต่ปัจจุบัน studio ใช้ file DSD อัดเสียงแทน reel tape
ดังนั้น Master เป็น file digital แล้วปั้มเแผ่นเสียงขาย ซึ่งตามนี้ เสียงจากแผ่นเสียงที่ปั้มจาก file digital ต้นทาง คุณภาพเสียงต้องไม่ดีกว่า จริงไหมครับ


ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 7

ผมว่านะ

29/12/2021 21:08:27
อ้างอิง : ความคิดเห็นที่ 6 - นกฮูก

ผมยังมีประเด็นคาใจอีกเรื่องคือ นักเล่นแผ่นเสียงมักให้ความเห็นว่า เสียงจากแผ่นเสียงดีกว่า file digital แต่ปัจจุบัน studio ใช้ file DSD อัดเสียงแทน reel tape
ดังนั้น Master เป็น file digital แล้วปั้มเแผ่นเสียงขาย ซึ่งตามนี้ เสียงจากแผ่นเสียงที่ปั้มจาก file digital ต้นทาง คุณภาพเสียงต้องไม่ดีกว่า จริงไหมครับ


ประเด็นนี้ผมว่ามันอยู่ที่ความชอบส่วนบุคคลแล้วล่ะครับ ส่วนตัวผมว่ามาสเตอร์ที่เป็นไฟล์ DSD น่าจะให้ความยืดหยุ่นต่อการนำไปโปรเซสต่อเป็นฟอแมทต่างๆได้ง่ายกว่าสมัยม้วนเทปรับ และผมก็คิดว่าแผ่นเสียงที่ปั้มมาจากมาสเตอร์ดิจิตอลน่าจะฟังแล้วรายละเอียดต่างๆ มันคงต้องตกหล่นหายไปพอสมควรจากการเปลียนแปลงข้อมูลอยู่แล้วไม่มีทางเหมือนต้นฉบับครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 8

เฟี้ยว

30/12/2021 15:25:34
อ้างอิง : ความคิดเห็นที่ 6 - นกฮูก

อ้างอิง : ความคิดเห็นที่ 3 - MAII
อันนี้ผมว่าแล้วแต่ความชอบส่วนบุคคลแล้วแต่หูแต่ละคน ส่วนตัวผมเล่นดนตรีด้วย ความแตกต่างสำหรับผมคือ เสียงจากแผ่นเสียง  รายละเอียดไม่ได้เท่าดิจิตอล แต่ความเสมจริงมากกว่าดิจิตอลครับ อย่างผมเล่นเปียโน เสียงจากแผ่นเสียงให้ความสมจริงกว่าครับ เสียงที่ผ่านอากาศการสะเทือนการสั่นสมจริงกว่า clarity มากกว่าอย่างชัดเจน อันนี้เพราะชุดดิจิตอลผมไม่ถึงก็เป็นได้ ชุดเครื่องเล่นแผ่นผมเทิร์นหัวเข็มตัวโฟโน Transrotir zet3 หัว Benz Ruby อีกหัว Koetsu urushi phono ear834p ชุดนี้ประมาณแปดแสน ส่วนดิจิตอล source ใช้ macmini ssd+linear power supply สตรีมไปที่ ultrarendu สัญญาณ ethernet optical จาก streamer ไปที่ DAC Ayre qb9 twenty ชุดนี้ประมาณสองแสน ไม่แน่ใจว่า ถ้า ชุด ดิจิตอลที่สูงกว่านี้จะเสียงสู้ชุดแผ่นเสียงผมได้ไหม
เรื่อง Source น่าจะเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เสียงแตกต่างกัน เพราะ file ที่ได้จาก streaming ปัจจุบันยังอยู่ในระดับเทียบเท่า CD แต่ในอนาคต streaming file DSD ได้ผมว่าความแคกค่างระหว่าง แผ่นเสียงน่าจะไกล้เคียงกันมากๆครับ

คุณ MAII อาจหาซื้อ TASCAM DA3000 มา RIP จากแผ่นเสียงเป็น file DSD 5.6Mhz แล้วลองฟังเทียบดูอีกครั้งนะครับ

ผมยังมีประเด็นคาใจอีกเรื่องคือ นักเล่นแผ่นเสียงมักให้ความเห็นว่า เสียงจากแผ่นเสียงดีกว่า file digital แต่ปัจจุบัน studio ใช้ file DSD อัดเสียงแทน reel tape
ดังนั้น Master เป็น file digital แล้วปั้มเแผ่นเสียงขาย ซึ่งตามนี้ เสียงจากแผ่นเสียงที่ปั้มจาก file digital ต้นทาง คุณภาพเสียงต้องไม่ดีกว่า จริงไหมครับ


อันนี้ผมว่าเกินจริงไปหน่อยครับ Studio ปัจจุบันนี้เขาก็ยังใช้ PCM อยู่เหมือนเดิมนี่แหละยังไงความละเอียดมันก็ไม่เกิน 24 - 32 bit 48 - 192 Khz อยู่แล้ว DSD มันยังอีกไกลครับ ถ้าเอามาใช้ในการบันทึกเสียงตอนนี้ HD เท่าไหร่ก็คงไม่พอยาไส้ CPU นี้คงต้องระดับ Super Computer ใหญ่เท่าห้อง กด Playback ทีเสียง 100 กว่าแทร็คพร้อมกันโหลดเป็นชั่วโมงคงไม่เป็นอันทำงานกันพอดีแล้วล่ะครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 9

เฟี้ยว

30/12/2021 15:47:38
ผมว่าสุดท้ายแล้วมันอยู่ที่ความชอบมากกว่ามันไม่ได้มีอะไรที่ดีไปกว่ากันหรอกทุกมันมีทั้งข้อดีข้อเสียไม่มีอะไรที่สมบูรณ์แบบในโลกนี้หรอก แผ่นเสียงข้อดีคือได้ Dynamic Range ที่สูง เนื้อเสียงมี Saturation บางอย่างซึ่งเป็นคาเรคเตอร์เฉพาะหาได้แค่แผ่นเสียงเท่านั้นซึ่งเป็นสิ่งที่คนนั้นหลงไหล แต่ข้อเสียมันก็คือรายละเอียดเสียงที่ไม่ดี Noise Floor ที่สูง และการเก็บรักษาเสื่อมสภาพตามกาลเวลา จากประสบการณ์ที่ผมเคย Mastering เพลงเพื่อเอาไปลงแผ่นเสียงมันจะต้องตัดลดทอนเสียงบางอย่างออกไปเยอะเหมือนกัน เทคนิคหลายๆเทคนิคซึ่งบางแนวเพลงถือว่าเป็นเอกลักษณ์และเสน่ห์ของแนวเพลงนั้นๆก็นำมาใช้ไม่ได้ เพราะเนื่องจากว่าข้อจำกัดทางวิศกรรมของแผ่นเสียง ในขณะที่ Digital มันทำได้เต็มที่ไม่มีข้อจำกัด จะเห็นได้ว่าแนวเพลงบางแนวโดยเฉพาะพวกแนว Modern สมัยใหม่นี้พอนำมาลงแผ่นเสียงนี้เสียงมันจืดสนิท ไม่มีมีเสน่ห์แบบที่มันควรจะเป็น ฟังแล้วไม่น่าสนใจ เท่าแบบที่เป็น Digital
ให้กำลังใจ 1
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 10

MAII

30/12/2021 18:40:19
2
เห็นด้วยตามความเห็นข้างบนครับ เพลงสมัยใหม่ผมฟังงจากดิจิตอลเพราะกว่า เช่น James Blake Massive Attack หรือ พวกเพลงที่แต่งจากคอม ออโต้จูนเสียงร้องพวกนี้  แต่เพลงที่ผมฟังส่วนใหญ่เป็นแจ๊สเป็นไลฟ์มืวสิค เพลงร้อง เครื่องดีดเครื่องเป่า ออเคสตร้า ฟังจากไฟล์ดิจิตอลมันจะมี digital smeared ยิ่งเพลงออเคสตร้าที่ dynamic range เยอะมากๆ เพลงจากไฟล์ดิจิตอลละเลงปนกันเละครับไฟล์แม้เล่นจาก DSDฟังยังไงก็เพราะสู้แผ่นไม่ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรสนิยมความขอบและปัจจัยครับ เล่นแผ่นใข้งบสูงมากครับ แต่ผมก็ยังไม่ปฏิเสธการเล่นไฟล์ดิจิตอลเพียงแต่อุปกรณ์ชุดดิจิตอลผมอาจจะยังไม่ถึง อันนี้ตามความเห็นส่วนตัวครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 11

headradio

31/12/2021 10:38:22
47

Dynanic Range ของ Digital File น่าจะสูงกว่า Vinyl ประมาณ 10 เท่าขึ้นไปนะครับ

Digital files allow for over 90dB of difference between the loudest and softest sounds, compared to vinyl’s 70dB dynamic range. Digital files, therefore, offer over ten times the dynamic range of vinyl recordings, meaning a much larger difference is possible between the quietest and loudest parts of a recording before noise becomes an issue.

Source: https://www.soundguys.com/vinyl-better-than-streaming-20654/

ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 12

สมัครเล่น

31/12/2021 18:03:59
412
ภาพดิจิตอล ชัด สีเข้ม รายละเอียดสมจริง
ภาพฟิล์ม (อนาล็อก) ภาพเนียน สีนุ่มนวล สวยไปอีกแบบ
แล้วแต่ประเภทครับ ดนตรีบางชนิด ฟังแบบอนาลอก ได้อรรถรส รวมไปถึงบรรยากาศในการฟังเพลงด้วยครับ
ควรจะมีไว้ทั้งสองแบบ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 1
ความคิดเห็นที่ : 13

เฟี้ยว

01/01/2022 14:45:07
อ้างอิง : ความคิดเห็นที่ 11 - headradio

Dynanic Range ของ Digital File น่าจะสูงกว่า Vinyl ประมาณ 10 เท่าขึ้นไปนะครับ

Digital files allow for over 90dB of difference between the loudest and softest sounds, compared to vinyl’s 70dB dynamic range. Digital files, therefore, offer over ten times the dynamic range of vinyl recordings, meaning a much larger difference is possible between the quietest and loudest parts of a recording before noise becomes an issue.

Source: https://www.soundguys.com/vinyl-better-than-streaming-20654/

ถ้าเชิงกายภาพก็เป็นแบบนั้นแหละครับ โดยเฉพาะ 24 bit นี้สูงถึง 144 dB แต่มันก็เป็นเพียงแค่เชิงทฤษฏีเท่านั้นแต่ในทางปฏิบัติมันต่างออกไปโดยสิ้นเชิง เพราะมาตรฐานการอัดเสียงแบบดิจิตอลตอนนี้คือ -18 RMS ซึ่งมันเป็นค่าเฉลี่ยที่มีขึ้นมีลงไม่สม่ำเสมอแต่ในที่นี้เราจะติ๊ต่างให้มันเป็นค่า True Peak ไปก็แล้วกัน ก็เท่ากับว่าตั้งแต่ -18 ถึง 0 dB มี Headroom เพียงแค่ 18 dB ในตอนบันทึกเสียงเสร็จ แต่พอหลังจากนั้นก็ต้องเอาไปผ่าน Process อีก ไม่ว่าจะ Edit หรือ Mixing เอาไปผ่านการ Compress โน่นนั่นนี่ไม่รู้ต่อกี่ชั้นต่อกี่ชั้น  จนในที่สุดก็มาเป็น 2 Track ในขั้นตอนก่อนเข้า Mastering ก็เหลือเพียงแค่ -12 ถึง -6 dB พอนำมา Mastering ก็ต้องโดน Compress อีกรอบหนึ่งทำให้ Dynamic Range ที่มีก็ถูกทำต่ำลงไปอีก โดยเฉพาะการ Mastering แบบดิจิตอลที่มีการอัด Maximizer เพื่อดันใหได้ความดังเทียบเท่ากับเพลงในท้องตลาดจน Waveform ของเสียงมันเป็นสี่เหลี่ยมเนื่องจากถูก Maximizer หรือ Limiter กดเอาไว้เพื่อไม่ให้มันไปแตะที่ 0 dB ซึ่งก็จะทำให้ Dynamic Range ที่ก่อนหน้านี้ถูก Compress มา 4-5 ชั้นนั้นถูกลดทอนลงไปอีก คือในเพลงปัจจุบันใครทำให้ Dynamic Range ของเพลงโดยค่าเฉลี่ย Swing อยู่ได้ที่ 8 - 10 dB ก็ถือว่าเก่งโคตรๆแล้วครับ อย่างแนวเพลงหนักๆแบบพวก EDM หรือ Metal นี้อยู่ที่ 0 - 2 dB เท่านั้น แต่กับการ Mastering ลงไวนิลนั้นต่างออกไป พวกการ Compress หนักๆ หรือการที่ดัน Maximizer ให้ดังจน Waveform มันโดนกดจนเป็นสี่เหลี่ยมเป็นสิ่งที่ควรจะหลีกเลี่ยง จนถึงกับอย่าหาทำเลยก็ว่าได้ เพราะว่ามันจะส่งผลถึงการทำงานของหัวเข็มทำให้มันทำงานผิดปกติ เหตุผลเนื่องมาจากอะไรผมก็ลืมไปแล้วเหมือนกัน แต่แน่นอนว่ามันคงยังรักษา Dynamic Range ในขั้นตอนการ Mixing เอาไว้ได้มากกว่าการ Mastering แบบดิจิตอลแน่นอน นั้นก็แปลว่าในเชิงทฤษฎีแล้วดิจิตอลอาจมี Dynamic Range ที่มากกว่าไวนิลก็จริง แต่ในทางปฏิบัติแล้วไวนิลกลับมี Dynamic Range ที่มากกว่าแบบดิจิตอลเพราะมันรักษา Dynamic Range ดั้งเดิมของเพลงได้มากกว่าแบบดิจิตอลครับ ดังนั้นมันก็เลยเป็นเหตุผลที่ว่าพอฟังไวนิลแล้วทำไมไดนามิคเสียงมันกว้างมันลึกกว่าแบบดิจิตอล แต่ข้อเสียของมันก็เนื่องจากไดนามิกของมันนี่แหละที่มันกว้างเกินจนบางครั้งมันขาดความ Punchy ดังนั้นมันจะเหมาะกับแนวเพลงพวก Classic,Jazz ไม่ก็แนวเพลงเก่าๆ หรือพวกที่เน้นความสำอางค์สวยงามหยดย้อย ในขณะที่แนวเพลงสมัยใหม่ที่มันต้องการความแซ่บ ความสะใจ หรือความดุดัน พวกนี้ดิจิตอลจะตอบโจทย์มากกว่าครับ
ให้กำลังใจ 2
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 14

headradio

02/01/2022 01:56:31
47
อ้างอิง : ความคิดเห็นที่ 13 - เฟี้ยว
อ้างอิง : ความคิดเห็นที่ 11 - headradio

Dynanic Range ของ Digital File น่าจะสูงกว่า Vinyl ประมาณ 10 เท่าขึ้นไปนะครับ

Digital files allow for over 90dB of difference between the loudest and softest sounds, compared to vinyl’s 70dB dynamic range. Digital files, therefore, offer over ten times the dynamic range of vinyl recordings, meaning a much larger difference is possible between the quietest and loudest parts of a recording before noise becomes an issue.

Source: https://www.soundguys.com/vinyl-better-than-streaming-20654/

ถ้าเชิงกายภาพก็เป็นแบบนั้นแหละครับ โดยเฉพาะ 24 bit นี้สูงถึง 144 dB แต่มันก็เป็นเพียงแค่เชิงทฤษฏีเท่านั้นแต่ในทางปฏิบัติมันต่างออกไปโดยสิ้นเชิง เพราะมาตรฐานการอัดเสียงแบบดิจิตอลตอนนี้คือ -18 RMS ซึ่งมันเป็นค่าเฉลี่ยที่มีขึ้นมีลงไม่สม่ำเสมอแต่ในที่นี้เราจะติ๊ต่างให้มันเป็นค่า True Peak ไปก็แล้วกัน ก็เท่ากับว่าตั้งแต่ -18 ถึง 0 dB มี Headroom เพียงแค่ 18 dB ในตอนบันทึกเสียงเสร็จ แต่พอหลังจากนั้นก็ต้องเอาไปผ่าน Process อีก ไม่ว่าจะ Edit หรือ Mixing เอาไปผ่านการ Compress โน่นนั่นนี่ไม่รู้ต่อกี่ชั้นต่อกี่ชั้น  จนในที่สุดก็มาเป็น 2 Track ในขั้นตอนก่อนเข้า Mastering ก็เหลือเพียงแค่ -12 ถึง -6 dB พอนำมา Mastering ก็ต้องโดน Compress อีกรอบหนึ่งทำให้ Dynamic Range ที่มีก็ถูกทำต่ำลงไปอีก โดยเฉพาะการ Mastering แบบดิจิตอลที่มีการอัด Maximizer เพื่อดันใหได้ความดังเทียบเท่ากับเพลงในท้องตลาดจน Waveform ของเสียงมันเป็นสี่เหลี่ยมเนื่องจากถูก Maximizer หรือ Limiter กดเอาไว้เพื่อไม่ให้มันไปแตะที่ 0 dB ซึ่งก็จะทำให้ Dynamic Range ที่ก่อนหน้านี้ถูก Compress มา 4-5 ชั้นนั้นถูกลดทอนลงไปอีก คือในเพลงปัจจุบันใครทำให้ Dynamic Range ของเพลงโดยค่าเฉลี่ย Swing อยู่ได้ที่ 8 - 10 dB ก็ถือว่าเก่งโคตรๆแล้วครับ อย่างแนวเพลงหนักๆแบบพวก EDM หรือ Metal นี้อยู่ที่ 0 - 2 dB เท่านั้น แต่กับการ Mastering ลงไวนิลนั้นต่างออกไป พวกการ Compress หนักๆ หรือการที่ดัน Maximizer ให้ดังจน Waveform มันโดนกดจนเป็นสี่เหลี่ยมเป็นสิ่งที่ควรจะหลีกเลี่ยง จนถึงกับอย่าหาทำเลยก็ว่าได้ เพราะว่ามันจะส่งผลถึงการทำงานของหัวเข็มทำให้มันทำงานผิดปกติ เหตุผลเนื่องมาจากอะไรผมก็ลืมไปแล้วเหมือนกัน แต่แน่นอนว่ามันคงยังรักษา Dynamic Range ในขั้นตอนการ Mixing เอาไว้ได้มากกว่าการ Mastering แบบดิจิตอลแน่นอน นั้นก็แปลว่าในเชิงทฤษฎีแล้วดิจิตอลอาจมี Dynamic Range ที่มากกว่าไวนิลก็จริง แต่ในทางปฏิบัติแล้วไวนิลกลับมี Dynamic Range ที่มากกว่าแบบดิจิตอลเพราะมันรักษา Dynamic Range ดั้งเดิมของเพลงได้มากกว่าแบบดิจิตอลครับ ดังนั้นมันก็เลยเป็นเหตุผลที่ว่าพอฟังไวนิลแล้วทำไมไดนามิคเสียงมันกว้างมันลึกกว่าแบบดิจิตอล แต่ข้อเสียของมันก็เนื่องจากไดนามิกของมันนี่แหละที่มันกว้างเกินจนบางครั้งมันขาดความ Punchy ดังนั้นมันจะเหมาะกับแนวเพลงพวก Classic,Jazz ไม่ก็แนวเพลงเก่าๆ หรือพวกที่เน้นความสำอางค์สวยงามหยดย้อย ในขณะที่แนวเพลงสมัยใหม่ที่มันต้องการความแซ่บ ความสะใจ หรือความดุดัน พวกนี้ดิจิตอลจะตอบโจทย์มากกว่าครับ

ขอบคุณมากครับ ผมลองเข้าไปดูข้อมูลใน https://dr.loudness-war.info/ แล้ว Vinly มี DR มากกว่าค่อนข้างชัดเลยครับ แต่พวก album เก่า เช่น Led Zeppelin, The Beatles ที่ Remaster ใหม่ CD กับ File Download จะมี DR พอๆ กับแผ่นเสียงเลยครับ ??  

แล้วจะมีพวก mixdown แบบ Dolby Atmos (ไม่แน่ใจว่าเป็น Technology เดียวกันกับ Apple ที่นำมาใช้ใน Apple Music รึเปล่า) เห็นหลายๆ Album มี DR มากกว่า Vinyl (แต่ดันเป็น Codec แบบ Lossy)

ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 15

เฟี้ยว

02/01/2022 08:07:21
อ้างอิง : ความคิดเห็นที่ 14 - headradio

อ้างอิง : ความคิดเห็นที่ 13 - เฟี้ยว
อ้างอิง : ความคิดเห็นที่ 11 - headradio

Dynanic Range ของ Digital File น่าจะสูงกว่า Vinyl ประมาณ 10 เท่าขึ้นไปนะครับ

Digital files allow for over 90dB of difference between the loudest and softest sounds, compared to vinyl’s 70dB dynamic range. Digital files, therefore, offer over ten times the dynamic range of vinyl recordings, meaning a much larger difference is possible between the quietest and loudest parts of a recording before noise becomes an issue.

Source: https://www.soundguys.com/vinyl-better-than-streaming-20654/

ถ้าเชิงกายภาพก็เป็นแบบนั้นแหละครับ โดยเฉพาะ 24 bit นี้สูงถึง 144 dB แต่มันก็เป็นเพียงแค่เชิงทฤษฏีเท่านั้นแต่ในทางปฏิบัติมันต่างออกไปโดยสิ้นเชิง เพราะมาตรฐานการอัดเสียงแบบดิจิตอลตอนนี้คือ -18 RMS ซึ่งมันเป็นค่าเฉลี่ยที่มีขึ้นมีลงไม่สม่ำเสมอแต่ในที่นี้เราจะติ๊ต่างให้มันเป็นค่า True Peak ไปก็แล้วกัน ก็เท่ากับว่าตั้งแต่ -18 ถึง 0 dB มี Headroom เพียงแค่ 18 dB ในตอนบันทึกเสียงเสร็จ แต่พอหลังจากนั้นก็ต้องเอาไปผ่าน Process อีก ไม่ว่าจะ Edit หรือ Mixing เอาไปผ่านการ Compress โน่นนั่นนี่ไม่รู้ต่อกี่ชั้นต่อกี่ชั้น  จนในที่สุดก็มาเป็น 2 Track ในขั้นตอนก่อนเข้า Mastering ก็เหลือเพียงแค่ -12 ถึง -6 dB พอนำมา Mastering ก็ต้องโดน Compress อีกรอบหนึ่งทำให้ Dynamic Range ที่มีก็ถูกทำต่ำลงไปอีก โดยเฉพาะการ Mastering แบบดิจิตอลที่มีการอัด Maximizer เพื่อดันใหได้ความดังเทียบเท่ากับเพลงในท้องตลาดจน Waveform ของเสียงมันเป็นสี่เหลี่ยมเนื่องจากถูก Maximizer หรือ Limiter กดเอาไว้เพื่อไม่ให้มันไปแตะที่ 0 dB ซึ่งก็จะทำให้ Dynamic Range ที่ก่อนหน้านี้ถูก Compress มา 4-5 ชั้นนั้นถูกลดทอนลงไปอีก คือในเพลงปัจจุบันใครทำให้ Dynamic Range ของเพลงโดยค่าเฉลี่ย Swing อยู่ได้ที่ 8 - 10 dB ก็ถือว่าเก่งโคตรๆแล้วครับ อย่างแนวเพลงหนักๆแบบพวก EDM หรือ Metal นี้อยู่ที่ 0 - 2 dB เท่านั้น แต่กับการ Mastering ลงไวนิลนั้นต่างออกไป พวกการ Compress หนักๆ หรือการที่ดัน Maximizer ให้ดังจน Waveform มันโดนกดจนเป็นสี่เหลี่ยมเป็นสิ่งที่ควรจะหลีกเลี่ยง จนถึงกับอย่าหาทำเลยก็ว่าได้ เพราะว่ามันจะส่งผลถึงการทำงานของหัวเข็มทำให้มันทำงานผิดปกติ เหตุผลเนื่องมาจากอะไรผมก็ลืมไปแล้วเหมือนกัน แต่แน่นอนว่ามันคงยังรักษา Dynamic Range ในขั้นตอนการ Mixing เอาไว้ได้มากกว่าการ Mastering แบบดิจิตอลแน่นอน นั้นก็แปลว่าในเชิงทฤษฎีแล้วดิจิตอลอาจมี Dynamic Range ที่มากกว่าไวนิลก็จริง แต่ในทางปฏิบัติแล้วไวนิลกลับมี Dynamic Range ที่มากกว่าแบบดิจิตอลเพราะมันรักษา Dynamic Range ดั้งเดิมของเพลงได้มากกว่าแบบดิจิตอลครับ ดังนั้นมันก็เลยเป็นเหตุผลที่ว่าพอฟังไวนิลแล้วทำไมไดนามิคเสียงมันกว้างมันลึกกว่าแบบดิจิตอล แต่ข้อเสียของมันก็เนื่องจากไดนามิกของมันนี่แหละที่มันกว้างเกินจนบางครั้งมันขาดความ Punchy ดังนั้นมันจะเหมาะกับแนวเพลงพวก Classic,Jazz ไม่ก็แนวเพลงเก่าๆ หรือพวกที่เน้นความสำอางค์สวยงามหยดย้อย ในขณะที่แนวเพลงสมัยใหม่ที่มันต้องการความแซ่บ ความสะใจ หรือความดุดัน พวกนี้ดิจิตอลจะตอบโจทย์มากกว่าครับ

ขอบคุณมากครับ ผมลองเข้าไปดูข้อมูลใน https://dr.loudness-war.info/ แล้ว Vinly มี DR มากกว่าค่อนข้างชัดเลยครับ แต่พวก album เก่า เช่น Led Zeppelin, The Beatles ที่ Remaster ใหม่ CD กับ File Download จะมี DR พอๆ กับแผ่นเสียงเลยครับ ??  

แล้วจะมีพวก mixdown แบบ Dolby Atmos (ไม่แน่ใจว่าเป็น Technology เดียวกันกับ Apple ที่นำมาใช้ใน Apple Music รึเปล่า) เห็นหลายๆ Album มี DR มากกว่า Vinyl (แต่ดันเป็น Codec แบบ Lossy)

การ Remaster มันทำอะไรได้ไม่เยอะครับเพราะมันคือการเอา Source เดิมที่มันเคย Mixing แบบโบราณๆมาทำ Mastering ใหม่แต่จะคงจะใช้เทคนิคแบบยุคสมัยปัจจุบันไม่ได้ครับ เพราะซาวด์มันไม่ได้คลีนแบบการ Mixing ในยุคปัจจุบัน เนื่องจากการอัดในยุคนั้นเป็นแบบอนาลอคแท้ๆที่มีเท่าไหร่ก็ต้องอัดลงไปให้เต็มกราฟเพราะว่าเสียงที่อัดต้องดังกว่า Noise Floor ในเทป Reel ที่โคตรอภิมหาเยอะ ทั้งนี้ก็เพื่อให้ Signal to Noise Ratio ดังนั้นเสียงที่ได้มันจึงโคตรจะสกปรก การกด Compress แบบหนักๆแบบเทคนิคในปัจจุบันคงน่าจะเป็นสิ่งที่ควรหลีกเพราะมันคงไปดัน Noise Floor ขึ้นมาบานดังนั้นมันเลยทำได้แค่ทำให้เสียงมันชัดขึ้น แต่ Dynamic Range ยังคงแบบเดิมแบบตอนสมัยทำลงไวนิล
ให้กำลังใจ 1
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 16

ตาม

02/01/2022 12:19:10
เพลงสมัยนี้อัดดีกว่าสมัยก่อนเยอะ

ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 17

MAII

02/01/2022 22:59:13
2
ได้ความรู้มาก ขอบคุณคุณเฟี้ยว ตอนนี้คงยังไม่ถึงเวลาของดิจิตอลสำหรับผม ฟังแผ่นต่อไป แผ่น Daft Punk Random Access Memoties อัดลงแผ่นมาดีมากครับ ความ punchy ไม่แพ้ฟังจาก DSD อันนี้ขึ้นอยู่กับการมิกซ์เสียงลงแผ่นใช่ไหมครับ เคยตามหาแผ่น Radiohead In Rainbows from the basement เป็นบันทึกวิดิโอสด อัดด้วยกล้องไฟล์ MPEG-4 มีขายเป็นไฟล์เสียงแบบดิจิตอล และ ไฟล์วิดิโอ แต่ไม่มีปั๊มแผ่นออกมาเสียดายมาก เวลาฟังจากแผ่นเสียงที่อัดจากบันทึกการแสดงสด นี่เหมือนเข้าไปนั่งฟังในที่แสดงเลย ฟังจากไฟล์ดิจิตอลยังไงก็ไม่ได้ รอ quantum computation ละกันครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 18

LosInBlue

05/01/2022 16:14:54
116
แต่ streaming ชนะขาดไปแล้วเรื่องความสะดวก และการใช้งานครับ (ถ้าฟังเพลงหลายๆแนวนะ)  มีอัลบั้มมหาศาลไม่จำกัด แถมเพิ่มเพลงใหม่ๆแทบทุกวัน


เอาแค่ในโทรศัพท์ dap ผม มีเพลงที่ฟังจริงๆกว่า 400 อัลบั้ม เกิอบ 2000 เพลง (ในคอมมีอีกเป็น 2 เท่า)

ลองคิดดูถ้าหมดนั่นทุกอัลบั้มเป็น แผ่นเสียง หรือ แผ่น CD นี่ต้องตู้หนังสือขนาดใหญ่ล่ะครับ ถึงจะเก็บหมด

แถมกว่าจะหาแผ่นเสียงที่จะฟังได้ ทีละแผ่น นี่ลำบากเอาเรื่อง ต้องมาเปลี่ยนแผ่นฟังทีละแผ่นอีก


ไม่ต้องรอมันหรอกครับ quantum computation  digital ชนะไปตั้งนานแล้วครับ 555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 19

surachai_pal

10/01/2022 11:40:19
9
LosInBlue   เอาเพลงที่แปลงแล้วมาขายเป็นการแบ่งปันบ้างก็ดีนะครับ   มีคนสนใจแน่ถ้าเพลงแนวที่ชอบครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
"streaming music vs แผ่นเสียง"