
ก่อนจะเข้าเรื่องของ Top Ten Earbud ก็มีเรื่องมาบ่นรำพันก่อนเข้าเนื้อหาสักเล็กน้อย เรื่องของเรื่องคือ เมื่อไม่กี่วันมานี้ ผมได้ไปงานแต่งงานของญาติที่สนิทกัน เขาเลยปรี่มาหาผมแล้วก็ถามว่า “ หูฟังแต่ละตัวไม่เหมือนกันหรือ ?” ผมก็งงกับคำถาม ก็เลยตอบไปเบาๆว่า “ ใช่แล้ว ” เขาก็ทำหน้างงๆบ้าง แล้วก็เปรยออกมาว่า
“ อ้าว… นึกว่าทุกตัวเสียงเหมือนกันซะอีก เห็นพวกแพงๆที่เขาขายๆกันก็คิดว่ามันแพงเพราะทนกว่าแค่นั้นเอง ”
เจอคำพูดแบบนี้ ผมถึงกับท้อเลย แสดงว่ายังมีคนอีกเป็นจำนวนมากไม่ค่อยเข้าใจในเรื่องหูฟัง ส่วนหนึ่งก็คงเพราะว่า หนังสือที่จะมีเนื้อหาเกี่ยวกับด้านนี้มันมีน้อยมากๆ ส่วนตัวผมก็อยากให้การฟังเพลงมันเปิดกว้างมากกว่านี้ ไม่งั้นคนทั่วๆไปก็ยังเข้าใจว่า หูแถม iPOD นี่ก็คือสิ่งสุดยอดในชีวิตที่จะหามาได้ หลายต่อหลายครั้งที่ผมนั่งรถไปตามสถานที่ต่างๆโดยเฉพาะเวลาอยู่บนรถไฟฟ้า สิ่งที่ผมเห็นได้อย่างชัดเจนคือ คนใช้หูฟัง iPOD แต่ เสียบอยู่กับ Player อื่นๆ และก็มีบ้างที่เสียบเข้ากับมือถือ ซึ่งเป็นใครก็ต้องดูออกว่า หูฟังปลอมชัวร์ๆ เพราะของแท้มันแพงระดับเป็นพัน และราคาขนาดนั้นก็มีหูฟังดีๆกว่า iPOD ให้เลือกตั้งมากมาย แต่คนส่วนใหญ่ก็คิดแบบญาติผมคือ หูฟังเสียงมันก็เหมือนๆกัน เขาเลยเลือกที่จะใช้หูฟังอะไรก็ได้ ให้มันเป็น Design แบบ iPOD Earbud ก็พอ ผมถือเป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่เขาได้ปิดกั้นโอกาสที่ตัวเองจะได้รับรู้ถึงโลกของ Hi-Fi ที่แท้จริง
บ่นมาเยอะแล้ว ก็มาเข้าเนื้อหากันบ้างนะครับ สำหรับฉบับนี้ผมขอเปลี่ยนจากการ review มาเป็นนำเสนอเรื่องของ Earbud ล้วนๆบ้าง เพราะผมเชื่อว่า ยังมีคนอีกเป็นจำนวนมากที่ชื่นชอบ Earbud มากกว่า In-Ear ดังนั้น ผมจึงเอาใจแฟนๆ Earbud ด้วยการจัดสิบอันดับสุดยอด Earbud ตลอดกาลในสไตล์ของผมเอง
ในการจัดอันดับนั้น ผมสรุปปัจจัยโดยรวมทั้งความยากในการหาซื้อมาใช้ แถมบางตัวยังหาลองได้ยากด้วย รวมทั้งปัจจัยอื่นๆที่มาผสมลงโรงรวมกันและกลั่นออกมาเป็นอันดับทั้งสิบ ดังนั้นอันดับอาจจะดูแปลกๆซักเล็กน้อยเพราะผมไม่ได้ว่าในเรื่องเสียงล้วนๆ 100% เนื่องจากไม่สามารถหามาเทียบเสียงกันได้ เพราะบางตัวจะหายากมากๆและเจ้าของก็ค่อนข้างหวง ผมจึงได้แต่อาศัยการจำจากที่เคยฟังเอาเท่านั้น ก็ลองมาดูกันครับว่า จะถูกใจแต่ละคนหรือเปล่า เรามาเริ่มไล่กันที่อันดับต่ำสุดก่อนนะครับ
สิบสุดยอด Earbud ตลอดกาล
อันดับที่ 10 - Sennheiser MX400

ถือเป็นหูฟังของมหาชนอย่างแท้จริง ด้วยสนนราคาค่าตัวที่ค่อนข้างถูกทั้งๆที่ Brand Sennheiser ก็เป็น Brand ระดับอินเตอร์ด้วยซ้ำ แถมคุณภาพเสียงก็ไม่ผิดหวังด้วย จุดเด่นของหูฟังตัวนี้คือการ Focus เสียงที่ยอดเยี่ยม และเด่นในเรื่องของไลน์กีต้าร์ จึงเหมาะกับเพลง Acoustic หรือ Ballard ที่ไม่เน้นความหวือหวาของเบสมากนัก เพราะตัวหูฟังจะมีเบสค่อนข้างน้อย เนื่องจากจะเน้นเรื่องความโปร่ง และความกว้างของเสียง
สาเหตุที่ผมยกให้มันเป็นอันดับ 10 เพราะมันเป็นหูฟังที่คุ้มค่าต่อราคามากที่สุดในตอนนี้ เป็นตัวให้ที่คุณภาพเสียงเหนือราคาค่าตัวเลยทีเดียว ดังนั้น MX400 จึงเป็นส่วนหนึ่งใน Top Ten ได้ไม่ยากนัก
อันดับที่ 9 - Creative EP-880

ถ้าใครเคยเล่นหูฟังเมื่อช่วงประมาณ 3-4 ปีที่แล้ว จะเคยได้ยินชื่อหูฟังตัวนี้แน่นอนครับ ในช่วงนั้นถือเป็น earbud ที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงระดับหนึ่ง โดยเฉพาะกับมือใหม่ที่มีตัวเลือกในการซื้อไม่มากเท่าเดี๋ยวนี้ จริงๆหูฟังตัวนี้จะมีคู่ฝาแฝดที่เหมือนกันเป๊ะ แต่เป็นของ Audio-Technica รุ่น Cm5 ครับ ว่ากันว่าทั้งคู่ต่างก็จ้างให้บริษัทจากเกาหลีที่ชื่อ “ Cresyn ” เป็นผู้ผลิตให้ ดังนั้นหน้าตาทั้งคู่จึงเหมือนกับพิมพ์เดียวกัน
สไตล์เสียงของ EP-880 จะเน้นที่การให้ Detail ของเสียง เก็บรายละเอียดของเสียงกลางและเสียงสูงได้ดี แต่เสียงร้องจะออกขุ่นนิดๆ ให้ soundstage ที่ดี แต่มิติเสียงกลางไม่ลึกเท่าไหร่ เบสเน้น impact หรือ หัวโน้ตเบสมากกว่าจะเน้นที่เนื้อและ deep เบส โทนโดยรวมจะออกเย็นๆหน่อย เสียงไม่แห้งแสบบาดหู ฟังแล้วสบายๆ
ปัจจุบันตัว EP-880 ไม่มีวางขายแล้ว แต่ด้วยคุณภาพเสียงบวกกับคุณภาพงานประกอบที่จัดได้ว่าดีมากๆเลยทีเดียว ผมจึงยกให้มันอยู่ในอันดับที่ 9 ได้อย่างเต็มภาคภูมิ
อันดับที่ 8 - Audio-Technica CM700

เป็นหนึ่งในหูฟังที่มีของเทียมออกมาขายมากมาย ซึ่งก็เริ่มมีมาตั้งแต่สมัยที่เป็นตัว CM7 ด้วยซ้ำ ยิ่งตัว CM700 ของเทียมนี่ ผมเคยเห็นวางขายที่คลองถมด้วยซ้ำไป ส่วนหนึ่งก็คงเพราะ Design ในแบบ audio-Technica ที่ออกมาได้สวยงามไม่เหมือนใคร ทำให้ใครๆก็พากันอยากจะได้เป็นเจ้าของ
เสียงของ CM700 ค่อนข้างมีเอกลักษณ์ของตัวเอง การให้ detail เสียงสูงทำได้ดี เสียงกลางมวลค่อนข้างเยอะ แต่ไม่แน่น ตัวเบสจะได้ในส่วนของ impact คล้ายๆกับ EP-880 แต่ให้เนื้อที่แน่นกว่า และมี soundstage ที่กว้าง มิติเสียงกลางกำลังดี มีขนาด image เสียงร้องที่ใหญ่กว่า EP-880 และสามารถแยกชิ้นดนตรีได้ดี แต่โดยรวมจะออกบางหน่อยเมื่อเทียบกับพวกอันดับที่สูงกว่านี้
ข้อเสียของ Cm700 คือราคาที่สูงไปหน่อย ทำให้ไม่สามารถตีร่นขึ้นไปถึงดวงดาวได้ แต่โดยรวมต้องถือว่าเป็น Earbud ที่ดีอีกตัวหนึ่งเลยทีเดียว
อันดับที่ 7 – Yuin PK3

Yuin คือค่ายหูฟังที่ผลิตโดยประเทศจีนแท้ๆ และเป็นหูฟังที่ออกแบบโดยคนจีนเองทั้งหมดโดยไม่ได้เป็นการ clone หรือ copy ใครมาทั้งสิ้น ดังนั้นงานด้าน QC และวัสดุที่นำมาใช้จึงค่อนข้างแย่นิดหน่อย บางล๊อตที่ออกมาก็ดีมาก แต่บางล๊อตก็พังง่ายมาก กระนั้นหลายๆคนก็ยังเลือกให้เป็นหูฟังประจำตัวอย่างขาดเสียไม่ได้
จุดเด่นของหูฟังตัวนี้คือให้เสียงได้ครบทุกย่าน แต่ราคาไม่แพง ถึงแม้ปัจจุบันราคาจะทะลุขึ้นมาที่พันกว่าบาท แต่ในอดีตนั้น ตัวนี้ราคาไม่ถึงพันครับ และเป็นหูฟัง Earbud ที่ให้เบสได้ดีอีกตัวหนึ่งเลยทีเดียว เบสของ PK3 ก็ไม่ใช่เบสบวมๆสร้างความก่อกวนให้กับย่านเสียงกลางด้วย ดังนั้น เสียงกลางจึงเด่นชัด กลองดี เสียงสูงชัดเจน รายละเอียดดี และเบสที่ครบทุกช่วง ตั้งแต่ upper middle ไปจนถึง deep ที่แม้จะไม่ได้ลากลึกเหมือนหูฟังแพงๆอย่างพวก Sennheiser HD650 แต่ในระดับ Earbud แล้ว ถือว่าลงตัวทีเดียวครับ
อันดับที่ 6 – Yuin PK2

ตัว PK2 ถือเป็นรุ่นที่สูงกว่า PK3 ครับ ด้วยรูปแบบเสียงที่ไม่เหมือนใคร ทำให้ Pk2 ได้รับความนิยมค่อนข้างมากในปัจจุบัน แต่ข้อเสียหลักๆของหูฟังตัวนี้ก็ยังคงเหมือน PK3 ทุกประการ คือ ไม่ทนทาน และ QC ไม่ดี หลายๆคนเลยมักจะปัญหาเสียงดับหายไปข้างหนึ่ง บางทีก็ Driver ไม่ดีบ้าง บางทีก็สายในขาดบ้าง แล้วแต่ว่าใครจะดวงดีได้เจออันไหน แต่ที่ผมบอกก็เป็นส่วนน้อยนะครับ มันจะมีมาเป็นล๊อตๆเท่านั้น โชคดีที่ประกันของ Yuin ก็ถือว่าใช้ได้ มีปัญหาก็เคลมได้สบายๆ ทำให้ลดความเสี่ยงลงไปได้เยอะ
จุดเด่นของ PK2 คือ การให้ soundstage ที่กว้าง และให้มิติเสียงกลางที่กว้างไปในระยะเดียวกันกับ soundstage ทำให้คนฟังรู้สึกว่ามันโปร่งโล่ง แถมยังเป็นหูฟังที่ให้รายละเอียดเสียงสูงได้ดีมากตัวหนึ่งเลยทีเดียว ดังนั้นคนที่ฟังเพลง Acoustic , Jazz , Ballard หรือ Pop ทั่วๆไป จะค่อนข้างชอบ PK2 เป็นพิเศษ
ถึงแม้จะรายละเอียดดี แต่ก็ให้ความรู้สึกหยาบๆนิดหน่อยในย่านเสียงสูง ส่วนหนึ่งก็เพราะการปรับจูนให้ PK2 สามารถถ่ายทอดรายละเอียดของดนตรีให้ครบถ้วนที่สุด แต่คุณภาพของ driver มันก็มีขีดจำกัด ดังนั้นก็ต้องมีการเสียสละบางส่วนลงไปบ้าง
แม้ว่าอาจจะมีข้อเสียบ้าง แต่ก็ถือเป็นหูฟังที่คุ้มค่าในระดับราคาสองพันกว่าๆ ถ้าไม่ติดเรื่องงาน QC และความหยาบเล็กๆของเสียงสูง ตัว PK2 ก็อาจจะได้อันดับที่สูงกว่านี้ก็เป็นได้ครับ
อันดับที่ 5 - Sennheiser MX90VC

ผมถือว่า MX90VC คือ Earbud ที่ดีที่สุดของ Sennheiser เท่าที่ทำออกมาเลยทีเดียวครับ ทั้งงานผลิต วัสดุ และ package ที่ใส่หูฟัง ทุกอย่างล้วนอยู่ในระดับยอดเยี่ยมแทบทั้งนั้น ข้อเสียอย่างเดียวของ MX90VC คือ การใส่ที่ค่อนข้างจะวุ่นวายพอสมควรครับ ถ้าไม่ติดเรื่องการใส่แล้ว ตัว MX90VC ไม่หยุดอยู่แค่อันดับ 5 แน่นอนครับ
จุดเด่นของ MX90VC อยู่ที่ความลงตัวของทุกย่านเสียง แม้จะไม่ได้ให้ soundstage ที่กว้างมากแบบ PK2 และไม่ได้ให้มิติเสียงกลางที่ลึกมากๆ เหมือนพวก Shure แต่ MX90VC ก็ให้คุณภาพเสียงที่ดีเยี่ยมเลยทีเดียว โดยเฉพาะเสียงของกีต้าร์ที่ถือเป็นไฮไลท์ของ MX90VC เพราะมันสามารถถ่ายทอดน้ำหนักการกรีดลงบนเส้นสายของกีต้าร์ได้ดีมากๆ และดีที่สุดในบรรดา earbud ทุกตัวด้วยซ้ำครับ เสียงกลางก็แน่น น้ำหนักกลองก็ลงได้ดีมาก เสียงร้องก็ชัดเจน มีมวล ไม่หนาเว่อร์ หรือบางเกินไป การแยกชิ้นดนตรีก็ทำได้ดีมากเช่นกัน ส่วนเบสก็ให้ได้ดี แม้จะไม่อลังการเท่ากับ PK3 แต่ก็อยู่ในระดับที่พอเหมาะกับการฟังเพลงแล้วครับ และที่สำคัญคือ มันไม่ออก Dark ตามแบบฉบับของหูฟัง Sennheiser เลย ดังนั้นจึงโดนใจใครต่อใครได้ไม่ยากนัก
อันดับที่ 4 - Sony MDR-E888

เป็นหูฟังที่ต่อยอดมาจากความสำเร็จของ earbud ในอดีตอย่าง E484 และเป็นหูฟัง Earbud ที่ค่อนข้างได้รับความนิยมอย่างสูงในกลุ่มผู้เล่นหูฟังทั่วโลกอย่าง Head-fi.org ในประเทศไทยเองก็ถือเป็น earbud ที่ค่อนข้างได้รับความนิยมอย่างมากเลยทีเดียวในปัจจุบัน ด้วยรูปลักษณ์ที่ดูดี และน้ำเสียงที่เป็นเอกลัษณ์ที่ให้ลักษณะสไตล์เสียงออกเย็นๆเป็นประกาย ให้เบสที่นุ่ม มิติเสียงกลางที่ลึก soundstage ที่กว้างในระดับกำลังดี ชิ้นดนตรีทุกชิ้นเหมือนลอยหลุดออกมาจาก Driver หูฟังทำให้เวลาฟังเพลงจะรู้สึกเหมือนไม่ได้กำลังเสียบหูฟังอยู่ เป็นหูฟังที่เหมาะกับการฟังเพลง Jazz และเพลง POP อย่างมาก
ปัจจุบันตัว E888 ยังมีวางขายอยู่ แต่ในเมืองไทยไม่สามารถหาได้แล้ว ต้องสั่งมาจากญี่ปุ่นหรือประเทศฮ่องกงเท่านั้น ตัวปัจจุบันที่มีวางขายจะเป็น Version Made In Thailand แต่ตัวที่ดีที่สุดก็ยังคงเป็นตัว Made in Japan เช่นเดิม ถ้าใครอยากได้หูฟังที่ฟังเสียงร้องหวานๆ เบสนุ่มๆ กีต้าร์พริ้วๆ ตัว E888 ทำให้คุณสมหวังได้ไม่ยากครับ เป็นหูฟังที่ควรค่าแก่การซื้อมาเก็บไว้อีกตัวหนึ่งเลยทีเดียว
อันดับที่ 3 - Yuin Pk1

ใครที่เคยมี PK1 ในครอบครอง หรือเคยฟังตัวนี้ผ่านๆมาก่อน ก็คงจะไม่อาจจะปฏิเสธน้ำเสียงที่ยอดเยี่ยมของหูฟังตัวนี้ ตัว PK1 ค่อนข้างพิเศษเหนือใครๆ เพราะให้ย่านเสียงที่ครบถ้วนแต่เป็นเสียงที่มีคุณภาพสูง ไม่ได้หยาบแบบ PK2 และไม่ได้มุทะลุด้านเบสอย่างเดียวเหมือน PK3 เป็นเสียงที่มีความกลมกล่อม นุ่มนวล และสดใสไปพร้อมๆกัน ย่านเสียงสูงจะให้ความสดและชัดเจน ในขณะที่เสียงกลางมี impact ที่ดี เสียงร้องก็ได้มวลที่ดี ตามด้วยเบสที่มีครบทุกช่วงตั้งแต่ Upper Middle ไปจนถึง Deep
ในปัจจุบันนี้ต้องยกให้ PK1 เป็นสุดยอด Earbud ที่ยากจะหาใครมาเทียบได้ ข้อเสียอย่างเดียวที่ทำให้มันไปไม่ถึงอันดับ 1 คือ มันขับยากเพราะโอห์มสูงถึง 100 โอห์ม ทำให้เวลาฟังต้องยุ่งยากในการหาแอมป์มาประกบ ทำให้มันต้องหล่นมาอยู่ที่สามอย่างน่าเสียดาย
อันดับที่ 2 – Sony MDR-E484

สุดยอด Earbud จากทาง Sony ถือเป็นตัวในตำนานที่นักเล่นหูฟังหลายๆคนอยากจะมีไว้ในครอบครอง ด้วยเอกลักษณ์น้ำเสียงที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร เสียงครบทุกย่านและเด่นในเรื่องของเบสกับมิติเสียงร้อง ที่เบสทรงพลัง และถ่ายทอดน้ำหนักได้ดี แน่น และมีรูปร่างชัดเจน แถมเสียงร้องยังมีมวลที่ดี สไตล์ออกไปทาง Analog มากกว่า เพราะเสียงร้องจะให้เนื้อที่ออกขุ่นๆหน่อย ในขณะที่ย่านอื่นไม่มีความขุ่นเลย พูดง่ายๆคือย่านเสียงกลางจะออกขุ่นนิดๆ แต่เสียงกลองจะทรงพลังมาก กลองตีได้รุนแรงและหนักแน่นที่สุดในบรรดา earbud ทุกตัว เวลาฟังเพลงจะให้ความรู้สึกเหมือนกำลังฟังหูฟังแบบ Full-size เลยทีเดียว
ถึงแม้ตัว E484 นี้จะให้เสียงที่ยอดเยี่ยม แต่ถ้าเทียบกับหูฟังในปัจจุบันอย่าง PK1 ก็ต้องถือว่ามันไม่ได้เหนือกว่าเลย แต่ที่ได้อยู่อันดับ 2 เพราะความหายากของมัน และเอกลักษณ์น้ำเสียงที่โดดเด่นหาตัวจับได้ยากสมกับที่มันเป็น earbud ในตำนาน ดังนั้นจึงยกตำแหน่งนี้ให้อย่างไม่ต้องเสียดายเลย
และ อันดับที่ 1 – Aiwa HP-D9

ถ้า E484 ว่าหายากแล้ว ตัว HP-D9 ต้องถือว่าเป็นหูฟังที่แทบจะหมดโอกาสได้สัมผัสเลยทีเดียว ความหายากของมันทำให้ผมไม่เคยได้มีโอกาสฟังหูฟังตัวนี้เลยสักครั้ง ในเมืองไทยนี่นับได้น้อยคนมากที่จะมี HP-D9 ในครอบครอง ในขณะที่ E484 ยังมีหลายคนที่มี
เหตุที่ผมยกให้เป็นอันดับหนึ่ง เพราะคนที่เป็นเจ้าของ E484 และ HP-D9 ต่างก็บอกว่า HP-D9 เหนือกว่า E484 โดยเฉพาะรายละเอียดของเสียงสูงที่ HP-D9 ทำได้เหนือกว่า แต่ย่านอื่นๆถือว่าคล้ายๆ E484 มาก จริงๆใน Head-fi บางคนก็บอกว่า ตัว HP-V9 ซึ่งเป็นรุ่น Studio Design จะให้น้ำเสียงที่เหนือกว่า แต่ผมคิดว่า หูฟังแบบนั้น น่าจะมีความเป็น Musical น้อยกว่า HP-D9 ดังนั้น ผมจึงยกให้ HP-D9 เป็นสุดยอดหูฟังตลอดกาล
ครบถ้วนทุกอันดับแล้วนะครับ อาจจะไม่ตรงใจบางคนแต่ผมก็ประเมินจากความคิดของผม โดยดูจากปัจจัยโดยรวมมากกว่าจะพูดถึงน้ำเสียงอย่างเดียว และแน่นอนว่าผมไม่ได้ให้คะแนนเพราะความชอบครับ ไม่งั้น Cm700 ไม่ติดอันดับแน่นอน ใครที่มี Earbud เก่าๆอยู่ที่บ้าน ก็ลองรื้อๆมาปัดฝุ่นดูกันสักหน่อยนะครับ เผื่อว่าจะพบขุมทรัพย์ชั้นยอดที่ซ่อนอยู่ เหมือนกับที่เพื่อนๆผมได้เจอ E484 นอนกองอยู่ที่บ้านอย่างไม่มีคนสนใจนะครับ ถ้าเกิดไม่ได้เล่นหูฟัง ก็คงจะไม่มีวันได้รู้ว่ามันเป็นของดีอย่างแน่นอนครับ
ปรเมศร์ พิริยะกุลชัย