ประโยคให้กำลังใจรวมทั้งสร้างแรงผลักดัน เมื่อพบความตึงเครียดและก็บีบคั้น
ความบกพร่องที่เกิดขึ้น ถึงแม้เป็นเพียงแค่เรื่องเล็กน้อย ไม่ว่าจะเกิดเรื่องงาน หรือเรื่องอื่นใดก็ตาม เมื่อมันเกิดมาแล้ว เกิดเรื่องยากที่พวกเราจะไม่ยอมรับว่ามันไม่เคยเกิดขึ้นจริง แม้ว่ามันเกิดขึ้น และก็กำลังสร้างความคับแค้นใจทั้งยังกับพวกเราเอง และก็สหายร่วมงานของพวกเรา
คนทำงานจำนวนมากที่ตกอยู่ในภาวการณ์เครียดแล้วก็บีบคั้น เมื่อจะต้องต่อกรกับข้อผิดพลาด หรือความไม่ประสบผลสำเร็จที่เกิดขึ้นมาจากการทำงาน บางบุคคลเลือกที่จะรับข้อผิดพลาดทั้งหมดทั้งปวงไว้กับตนเอง แม้กระนั้นโน่นไม่ใช่กรรมวิธีการไขปัญหาที่เยี่ยมที่สุด เพราะว่าปัญหามีไว้ปรับปรุงแก้ไข ไม่ใช่มีไว้เพื่อบีบคั้นตนเอง การหาทางออกที่ดีที่สุดต่างหาก เป็นคำตอบของปัญหา
แน่ๆว่าไม่มีผู้ใดต้องการที่จะให้ความบกพร่องอยู่กับพวกเรานาน เมื่อใดก็ตามที่มีความรู้สึกว่าตนเองกำลังเครียดจากการทำงาน อย่าลืมบอก 7 ประโยคนี้กับตนเอง แล้วพวกเราจะทราบดีว่าข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรเลย แม้กระนั้นเป็นบทเรียนบทหนึ่งที่สามารถช่วยให้พวกเราศึกษารวมทั้งเติบโตขึ้นอย่างค่อยๆเป็นค่อยๆไปเพียงเท่านั้น
1. สักครู่มันก็ผ่านไป
ปัญหาต่างๆไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ มันไม่มีทางที่จะอยู่กับพวกเรานาน พอเพียงมันเข้ามาแล้วมันก็จะผ่านไป ปัญหาต่างๆมันอายุสั้น แค่เพียงหันหลังให้กับปัญหาพวกนั้น ปัญหาก็ไม่อาจจะทำอะไรพวกเราได้ แม้กระนั้นการหันหลังให้กับปัญหานั้น แปลว่าพวกเรากำลังหาทางจัดแจงกับมัน โดยที่ไม่ยินยอมให้มันมาทำให้พวกเราไม่สบายใจ มิได้มีความหมายว่าพวกเราจะวิ่งหนีปัญหาเพียงอย่างเดียว
2. พวกเราทำดีที่สุดแล้ว
ขณะใดก็ตามพวกเรารู้สึกถึงความไม่สมหวัง อย่ามัวแต่โทษตนเอง สิ่งที่พวกเราจะต้องทำ พวกเราได้ทำอย่างยอดเยี่ยมที่สุดแล้ว แต่ว่าปัญหามันใหญ่เกินกว่าที่พวกเราจะปรับแก้ผู้เดียวได้ และก็ต้องแน่ใจว่าไม่มีผู้ใดทำเป็นดีมากยิ่งกว่าพวกเรา อย่าให้ความเศร้าใจมาทำลายความมั่นใจและความเชื่อมั่นของพวกเรา
3. มันเป็นบทเรียนที่ดีเลิศ
ความบกพร่องมิได้ส่งผลให้เกิดความไม่สมหวังเสมอ เพราะว่าในบางครั้ง ปัญหาที่เกิดขึ้นก็คือบทเรียนที่ดีเลิศ มันสอนให้พวกเรารู้ดีว่าอะไรเป็นสิ่งที่ไม่ถูก แล้วก็สิ่งไหนเป็นสิ่งที่พวกเราไม่ควรที่จะทำ และก็จดจำไว้ว่า ถ้าหากพวกเราไม่เคยทำผิดมาก่อน พวกเราจะไม่รู้เรื่องเลยว่าอะไรเป็นสิ่งที่ถูก และก็สามารถทำเป็น พวกเราจำเป็นต้องจำความบกพร่องไว้เป็นบทเรียน เพื่อที่พวกเราจะได้ดำเนินการให้ดีกว่าเดิม
4. ความท้าทำให้พวกเราอดทน
คนไม่ใช่น้อยบางทีอาจจะเคยรับรู้คำบอกเล่าที่ “What doesn’t kill you, makes you stronger. ” ปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นอาจจะส่งผลให้พวกเรารู้สึกหมดกำลังใจแล้วก็ท้อใจ แต่ว่าพวกเราจะไม่มีทางรู้สึกแบบนั้นอีกเป็นครั้งที่ 2 เพราะว่าพวกเราได้ศึกษาวิถีทางแล้วก็แนวทางคิดจากปัญหาที่เกิดขึ้นแล้ว พวกเราได้ศึกษาว่าวิธีการที่เหมาะสมที่สุดของแต่ละปัญหาที่เกิดขึ้นก็คืออะไร แล้วพวกเราจำต้องปรับแต่งเช่นไร เมื่อปัญหาเกิดขึ้นและไม่ได้ทำให้พวกเราทรุดโทรมจนกระทั่งหาทางออกมิได้ พวกเราก็จะเก่งแล้วก็อดทนขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย
5. ทุกปัญหาย่อมมีทางออก
เตือนสติตนเองไว้เสมอว่า “ทุกปัญหาย่อมมีทางออก” ไม่มีปัญหาไหนที่ไม่มีวันออก หรือเปล่ามีคนไหนที่จะขจัดปัญหานั้นมิได้ แต่ว่าการจัดการกับปัญหานั้นบางครั้งอาจจะมิได้เกิดขึ้นอย่างเร็ว อย่างฉับพลัน แม้กระนั้นจะต้องอาศัยเวลา บางเวลา สิ่งที่ยอดเยี่ยมชอบมาเวลาที่สมควร ไม่อาจจะเกิดขึ้นได้เร็วอย่างที่จิตใจพวกเราคิด แม้กระนั้นพวกเราสามารถหาทางออกให้กับตนเองอย่างไม่ต้องสงสัย ช้าบ้างเร็วบ้าง ขึ้นกับความยากง่ายของปัญหานั้นๆ
6. พวกเราจะไม่ลำพังเมื่อกำเนิดปัญหา
ครั้งใดก็ตามที่พวกเรามีความคิดว่าปัญหาต่างๆกำลังรุมเร้าพวกเรา ให้ทดลองหันไปมองดูบริเวณตัวเรา แล้วพวกเราจะพบว่ายังมีคนอีกหลายคนที่รอให้กำลังใจพวกเราอยู่ ไม่มีแม้กระทั้งผู้เดียวที่ซ้ำเติม หรือรอสมกับข้อผิดพลาดของพวกเรา สหายร่วมงานเป็นแรงใจที่ใกล้ตัวเราเยอะที่สุด โน่นเป็นเหตุผลว่าเพราะอะไรพวกเราก็เลยจำต้องปฏิบัติงานเป็นกลุ่ม เพราะเหตุว่าพวกเราจะได้มีผู้ที่รอช่วยจัดการกับปัญหา แล้วก็ให้กำลังใจพวกเราเมื่อยามที่พวกเราล้มเหลว หรือบกพร่องจากการทำงาน
7. ใครๆก็เผชิญกับปัญหาร่วมกันทั้งหมด
เชื่อมั่นได้เลยว่าพวกเราไม่ใช่คนๆเดียวในโลกที่จะต้องพบเจอกับปัญหา มีคนอีกเยอะแยะ มีเพื่อนผู้ร่วมการทำงานอีกคนไม่ใช่น้อยที่จำต้องเผชิญปัญหาเหมือนกันกับพวกเรา พวกเราไม่ใช่คนๆเดียวในโลกที่จำต้องเผชิญกับความบกพร่อง แล้วก็ปัญหาของพวกเราก็ไม่ใช่ปัญหาที่ใหญ่ที่สุด ถ้าเกิดพวกเราทดลองสนทนากับผู้อื่นดูบ้าง พวกเราบางทีอาจจะมีความคิดว่าปัญหาของพวกเราเกิดเรื่องบางส่วนไปเลยก็ได้
ตอนท้ายแล้ว พวกเราควรจะขอบพระคุณปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้น เพราะเหตุว่าปัญหาทำให้พวกเราได้แลเห็นมุมมองต่างๆไม่ว่าจะเป็นบทเรียนจากการทำงาน กระบวนการจัดการกับปัญหา หรือแม้กระทั้ง ผู้ใดกันแน่เป็นผู้ที่พวกเราเชื่อใจได้ หรือผู้ใดกันที่รอช่วยเหลือพวกเราเมื่อยามที่พวกเรากำเนิดปัญหา แต่ว่าอย่างน้อยที่สุด พวกเราจำเป็นต้องไม่ตอกย้ำความบกพร่องของตัวเราเอง แต่ว่าจำต้องให้กำลังใจตนเองให้สูงที่สุด แม้พวกเราไม่อาจจะให้กำลังใจพวกเราได้ ก็อาจไม่มีผู้ใดบนโลกนี้ซึ่งสามารถทำเป็นอีกแล้ว