ยังไงฮะ ไม่เข้าใจ
กราฟกลางยังไม่ flat นะ มันขึ้นมานิดนุง

ไปตรวจการได้ยินว่าด้อยย่านไหน แล้วปรับปลายทางชดเชยเอานะจ๊ะ

จากที่ฟังกราฟเรียบๆไม่แก้อะไรนะครับ

เบสมาอาการบูมกวนเสียงกลาง
กลางหุบดูถอยงไป
แหลมดูพุ่งไม่มีฐานเสียงจากช่วงกลางรองรับ

ผมจึงลดเบสเพื่อลดอาการบูมและกวนลง ดันกลางขึ้นมาให้อิ่มขึ้นลดรอยต่อช่วงกลางแหลม แหลมก็งไว้เหมือนเดิมเพราะไม่มีอาการทู่อะไร ฟังเป็นเพงขึ้นเยอะมากมาย เสียงเหมือนเครื่องดนตรีจริงมากขึ้นเยอะครับ

เหตุผลที่ต้องปรับให้มันเรียบคืออะไรหรอครับ แล้วเราต้องการจะฟังเสียงที่ต้นฉบับบันทึกมา หรือเราจะไม่สนใจมานั่งปรับให้มันเรียบหมดทุกเพลงเพื่อให้รู้สึกFlat แค่นั้นหรือครับ แล้วเราจะรู้ได้ยังไงครับว่าแต่ละเพลงบันทึกมาแบบไหน ถ้าเขาบันทึกมาแบบจงใจยกย่านใดย่านนึงขึ้นมา แล้วเราไปปรับให้มันเรียบ มันจะไม่กลายว่าเราไปปรุงแต่งเสียงเสียเองหรือครับ

ผมไม่ทราบจริงๆครับ เป็นคำถามนะครับอยากรับรู้ความคิดเห็น
ผมเคยแต่คิดว่า ถ้าอยากให้มันFlatก็แค่ไปซื้อหูฟังที่ให้เสียงFlatเสีย ผมนึกว่าคนที่ต้องการฟังเสียงFlatคือคนที่อยากจะฟังเสียงที่ตรงตามที่เพลงถูกบันทึกมาให้ใกล้เคียงที่สุดเสียอีก การที่เราไปปรับเสียงมันจะไม่เป็นการย้อนแย้งหรือครับ

ถ้าเครื่องไม่ flat
ถ้าหูไม่ flat
ถ้า finetune ระบบให้ flat ไม่ได้

ทางเลือกสุดท้ายคือปรับ EQ ครับ ถ้าไม่ปรับมันก็ไม่ flat จริง แค่ฟังเสียงที่เพี้ยนจากเครื่องและหูมาตรงๆ ผมถึงบอกว่าเป็นทางสุดท้ายไงครับ

คุณนนท์ครับการปรับอีคิวผมรู้สึกว่ามิติเสียไป ออกแบนๆ อันนี้จริงไหมครับ

มันแล้วแต่เครื่องกับชุดครับ ปกติผมก็ไม่ปรับ โม crossover TTPod T2 แทน EQ ก็ทำมาแล้ว แต่บางเคสที่ทำอะไรไม่ได้อีกแล้ว ผมยอมปรับ EQ เพื่อแก้เสียงให้เรียบแล้ว drop หน่อยดีกว่าครับ เวลาเซ็ตเสียงเรียบเสมอกันได้มันฟังเหมือนของจริงกว่า

ถ้าการฟังเพลงมันลำบากมาก ก็อย่าไปฟังมันเลยครับ

นิยามคำว่า เสียง flat คือ เสียงที่ไร้การ เติมแต่ง ไม่ได้ไปเพิ่มหรือลดความถี่ใดความถี่หนึ่ง ต้นฉบับบันทึกมายังงัยก็ยังงั้น

นิยามนั้นใช้ได้กับชุดที่ให้เสียง flat เท่านั้นครับ ถ้าหูฟังไม่ flat dap ไม่ flat เปิดเดิมๆไม่ปรับอะไรเลยเสียงจะออกมา flat เหมือนผู้ผลิตเพลงฟังได้ยังไงครับ

แล้วการที่ไปปรับ EQ แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าเสียงมันไม่เพี้ยนไปจากต้นฉบับทำมา มันน่าจะเพี้ยนไปจนไม่รู้มันเพี้ยนไปทางไหนยังไงบ้าง นักเล่นส่วนใหญ่เขาจะไม่นิยมปรับ EQ กัน เขาจะปรับ system ให้แมชชิ่งกันมากกว่า เวลาซื้อชุดฟังเพลง ไม่ว่าจะชุดบ้านหรือพกพา เขาก็ต้องซื้อที่มันเข้าชุดกัน แมชชิ่งกัน คงไม่มีใครซื้อหูฟัง/DAP หรือ ลำโพง , int สายสัญญาณต่างมา ฟังพอเสียงไม่แมชก็ไปปรับ EQ เอา ผมว่ามันไม่น่าจะเป็นแบบนั้น มันมีทางเลือกอื่นที่จะทำให้เสียงมันออกมา flat หรือ ใกล้เคียง หลักๆมันน่าจะขึ้นอยู่กับการปรับ system มากกว่าการปรับ EQ ทั้งหมดมาจากประสบการณ์การเล่นเครื่องเสียงของผม ผิดถูกยังไงก็ขออภัย

พี่วินโด้ลองอ่านคอมเม้มผมช้าๆอีกทีนะครับ
"นิยามของเสียง flat"

ผมพูดหลายครั้งแล้วนะครับว่าการปรับ EQ เป็นทางสุดท้าย ถ้าอลือกมาไม่ match จะเปลี่ยนสายโม dap แก้ไขหูฟังยังไงก็ได้ครับ แต่ถ้ามันไม่ได้จริงๆการปรับ EQ ก็ช่วยได้ระดับหนึ่งครับ ส่วนจะปรับยังไงก็ถามตัวเองดูครับว่าฟังแล้วเพี้ยนอย่างไร ถ้าปรับไม่เป็นก็ไม่ควรไปแตะมันครับ

เสียง Flat นั้นนิยามจากเสียงที่ได้ยินครับไม่ใช่ชื่อ preset EQ ลอง Google ว่า audio flat ดูสิครับ ใครนิยามถึง EQ flat บ้าง

สรุปหูใครหูมัน

คห.8 +5 ครับ

เรื่อง eq ผมเองก้อเคยถกเถียงกับพนักงานขายหรือเพื่อนๆมานานละ เวลาผมถามว่าเครื่องเล่นนี้มี eq ไหม มักจะได้คำตอบว่าโดยปกติเขาไม่ปรับกันนะ ผมถามว่าทำไม ส่วนมากจะออกไปแนวๆว่าทำให้เสียงเพี้ยน หนักไปกว่านั้นบอกว่า อาจทำให่หูฟังพังเลยก้อมี บางประเด็น มีเรื่องการไม่เคารพผู้ทำเพลงด้วย
ความเห็นส่วนตัว เราไม่มีทางได้เสียงตามต้นฉบับได้ ถ้าsource ต่างๆไม่ได้เหมือนหรือใกล้เคียงกับคนทำเพลง ตั้งแต่ไฟล์ ไปเครื่องเล่น ไปจนถึงหูฟัง รวมทั้งหูเราด้วย
บางคนเสียเงินมากมายเพื่อหาเสียงที่ใช่ แต่มีกรอบของการปรับ eq มาครอบไว้ว่าไม่ควรปรับ ทำให้อาจหาไม่เจอสักทีก้อมี

หลังๆเครื่องเล่นมี eq ให้ปรับเองแบบหลายย่านอยู่หลายรุ่น ผมแฮปปี้มาก ได้เวลาถอยแล้ว หลังจากอยู่กับชุดเดิมๆมานาน

เห็นด้วยกับความเห็นที่ 11 ส่วนมาก คนที่วุ่นวายอยู่กับ eq มักจะเป็นผู้ทำเพลง หรือนักดนตรีมากกว่า ส่วนผู้ฟัง ผู้เล่นของพวกนี้ มักจะเลือกการ matching ซะมาก สังเกตุได้ว่า ชุดบ้าน แทบไม่มีใครเล่น eq กันแล้ว หรือมีก็น้อยมาก ส่วนมากไป matching อุปกรณ์กันซะมากกว่า ท้าทาย และเห็นผลกว่าเยอะ

แต่อยากจะกระทืบ like ให้ #8 แบบ +100

ผมไม่ปรับ EQ เพราะมันไม่ต้องไปแต่งอะไรนั่นล่ะ ฟังเสียงเอกลักษณ์จากเครื่องเล่นนั้นๆเอา ถามว่าผมชอบ Flat เลยไหมก็ชอบ แต่ผมไม่ได้เก่งแบบจขกท. ที่จะมีความสามารถในการฟังเสียงชดเชยย่านที่เพี้ยนแล้วปรับแก้ได้

ผมไม่รู้ด้วยว่าต้นฉบับแต่ละที่เขาต้องการเสียงยังไง เลยฟังเอามีความสุขดีกว่า ลำพังเล่นสายนี้ก็หมดเงินเยอะล่ะ แล้วต้องมาซีเรียสอีกผมไม่เอา

ความเห็น 8 เห็นด้วยมากมาย จะทำให้มันยุ่งยากทำไม ถ้าซื้อมาแล้วต้องมาปรับ EQ ผมคงไม่ซื้อตั้งแต่แรกแล้ว ถึงซื้อมาแต่ฟังแล้วไม่ใช่คงต้องขายออกไป น่าจะเป็นทางเลือกที่ง่ายกว่า

ทุกวันนี้มีคนเข้าใจคำว่า "เสียง flat" เท่ากับไม่ปรับ EQ อยู่ ผมมาอธิบายให้คนเข้าใจว่าการไม่ปรับ EQ ไม่ได้แปลว่าคุณจะได้เสียงที่ flat บางครั้งคุณอาจต้องปรับ EQ เพื่อให้ได้เสียงที่ flat

ใครที่ไม่ได้ฟังเสียง flat ก็ไม่ต้องเดือดร้อนขนขวายเปลี่ยนเครื่องหรือเลิกฟังไปแต่อย่างใดครับ เข้าใจตรงกันนะ

ผมสงสัยว่า ถ้าปรับไปแล้วจะรู้ได้ยังไงว่าเสียงที่ได้มัน flat จริงๆ ดูจากกราฟ หรือ ใช้หูฟังเอา

ผมว่าคนเข้าใจครับ ไอเรื่อง flat ไม่เท่ากับไม่ปรับ EQ แต่หมายถึงสมมติว่า ไฟล์ต้นทางที่บันทึกเสียงมา เราจะรู้ได้ยังไงว่าอันที่จริงแล้วเขาบันทึกมาแบบไหน ถ้าอย่างนั้นเราไม่ต้องมานั่งปรับมันทุกเพลงเลยหรือครับถ้าบังเอิญการอัดเสียงเพลงนึงยกแหลมมา เพลงนึงยกเบสมา
งั้นคนที่ต้องการเสียงflat ≠ ต้องการฟังเสียงที่ที่แท้จริงที่ถูกบันทึกมาสิครับ

ส่วนคนที่จะฟังเสียง flat จริงๆ คงไม่มาไปซื้อหูฟังที่เสียงไม่flatหรือเครื่องเล่นที่ไม่ flat มาใช้ตั้งแต่แรกอยู่แล้วล่ะมั้งครับ

วัดได้ครับ ออาไมค์จ่อวัดความถี่ได้เลยเหมือนเช็คค่า RT60 FR ในห้องฟัง วัดตรงไม่ตรงก็แล้วแต่คุณภาพอุปกรณ์กับวิธีการวัด

หรือถ้าฟังเก่งหน่อยก็ใช้หูวัดคร่าวๆได้ครับ ดูแค่ช่วงต่ำกลางสูงว่ามากหรือน้อยไป กวนย่านอื่นไหม ผมก็ปรับแค่ลดเบส 1 step เพิ่มกลาง 1 step ให้กลืนกันมากขึ้นครับ

ส่วนไฟล์ต้นทางถ้าใช้แผ่น test tone check sound ที่ได้มาตราฐานมาเซ็ตก็ไม่ค่อยเพี้ยนหรอกครับ แต่ต้องหัดทำฝึกฝนให้เป็นด้วยนะครับ

สำหรับผู้ใช้ก็เลือกจากสินค้าเลยครับ อย่าง fiio รุ่น x3ii ก็ให้เสียง flat ดีครับ westone พวก um ก็ให้เสียง flat กว่า w series

อยากรู้เฉยๆ ว่าการปรับ eq เหมือนกับการทำ dsp ไหมครับ?

dsp คือการแต่งสัญญาณ digital ซึ่ง EQ ก็เป็นหนึ่งในนั้นครับ

ด้วยความเคารพนะครับ คุณ windows X ผมก็อ่านกระทู้ของคุณมานาน ตั้งแต่เวปเฮียยุคแรกๆ ในtaf หรือในเฟส ผมว่าคุณก็ให้ความรู้ในหลายๆเรื่องดีมาก แต่ติดที่วิธีการสื่อสารถามตอบ มันไม่พัฒนาหรือปรับปรุงเลย ยังคงติดอีโก้เล็กๆ ถ้อยคำห้วนๆ ในบางครั่ง หรือตอบเชิงตีกลับกับคนที่มาแย้งบ้าง บางทีการมาตั้งกระทู้อย่าลืมว่าต้องการแชร์ความรู้กัน วันนึงจะกลายเป็นนักวิชาการที่ไม่มีใครสนใจจะฟังเอานะครับ. ยังไงก็คุยแรกเปลี่ยนกันสนุกๆครับ

ผมว่าผมก็ตอบกลางๆไม่ได้ไปเถียงกับใครนะครับ ใครถามอะไรมาผมก็ตอบ ใครค้านด้วยเหตุผลใดมาผมก็อธิบาย ใครเกรียนมาผมก็ปล่อยครับ

แต่ผมเป็นคนตรงๆ คงตอบให้ถูกใจทุกคนไม่ได้ครับ เรื่องนี้มีคนเข้าใจผิดเยอะก็ต้องมีการกระทบกระทั่งเป็นธรรมดา ถ้าไม่ถูกใจใครก็ขอโทษ ณ ที่นี้ครับ

คงต้องแยกประเด็นนิดหน่อย คือ การปรับ EQ และ การฟังเสียงแบบ flat ผมเข้าใจว่าหลายๆท่านคงจะเข้าใจดีว่า เสียง flat มันเป็นอย่างไร มันคนละเรื่องกับการปรับ EQ ส่วนที่ผมออกความเห็นไป เฉพาะเรื่องการปรับ EQ มันจะทำให้เสียงเพี้ยนไปจากต้นฉบับที่เขาบันทึกมาก็เท่าน้ัน ผมไม่ได้บอกว่าฟังแบบไม่ปรับ EQ มันคือ flat
คนที่ฟังเพลง จะแบ่งเป็นสองกลุ่มใหญ่ๆ คือ กลุ่มที่ฟังตามความชอบของตนเอง ไม่สนต้นฉบับจะบันทึกยังไง เอาที่ถูกใจตัวเองพอ เลือกที่จะปรับโน่นนี่ เพื่อให้ได้เสียงที่ตนชอบก็พอแล้ว (กลุ่มที่ชอบฟัง flat น่าจะอยู่กลุ่มนี้) ส่วนอีกกลุ่ม คือ เน้นฟังเสียงที่ออกมาตรงหรือใกล้เคียงกับต้นฉบับที่เขาบันทึกมา(อาจจะไม่ flat) จะไม่เน้นปรับแต่ง EQ เพราะจะทำให้เสียงเพี้ยนไปจากต้นฉบับ จะเลือกที่จะหา system ที่ถ่ายทอดเสียงได้เที่ยงตรง แม่นยำ ไม่ผ่อนปรน (แต่มันจะฟ้องถ้าไฟล์หรือแผ่นที่บันทึกไม่ดี) ส่วนใครจะชอบเล่นแบบไหนมันก็เป็นเรื่องส่วนบุคคล การปรับ EQ ให้เสียงออกมา flat มันก็เป็นทางเลือกหนึ่ง สำหรับนักฟังบางคนที่ชอบเสียง flat โดยไม่สนใจว่าต้นฉบับจะบันทึกมายังไง

ผมว่าคุณ nuy อาจจับประเด็นของคุณ windows คลาดเคลื่อนไปเล็กน้อยครับ (ทั้งๆที่พวกคุณก็เห็นตรงกันนั่นแหละครับ!)

คือเข้าใจว่าเสียง flat ตามต้นกระทู้ หมายถึง "การตอบสนองของระบบ เป็น flat" ซึ่งจะทำให้ฟังเพลงได้ตรงตามต้นฉบับจริงๆ .. หากต้นฉบับบันทึกมาไม่ flat เช่น เน้นเบสเด่นมากกว่า .. "ระบบที่ flat" จะสามารถ"แสดงผลความไม่ flat" ได้เที่ยงตรง ว่าเบสเด่นมากกว่าเท่าไหร่อย่างไร ตามเจตนาของต้นฉบับครับ

ทีนี้ถ้าเงินไม่พอเพื่ออุปกรณ์ในระบบที่ flat จริงๆทุกชิ้น .. ระบบที่ flat ก็สามารถสร้างขึ้นได้จากการปรับ EQ อย่างถูกต้องครับ เพื่อชดเชยย่านความถี่ด้อย หรือโด่ง "ของระบบ"นั้นๆ

สรุปคือ ปรับ eq ของ"ระบบ"ให้ flat .. ไม่ใช่ปรับให้"เพลง"เป็น flat

เพิ่งสังเกตรูปจากต้นกระทู้ เดาว่าน่าจะเป็นเครื่องเสียงรถยนต์ .. ซึ่งการปรับ eq เพื่อให้ระบบตอบสนองเป็น flat มีความจำเป็นมากกว่าชุดหูฟัง หรือชุดบ้านครับ เนื่องจากข้อจำกัดของตำแหน่งติดตั้งลำโพงที่ไม่มีประสิทธิภาพ เกิดความถี่ด้อยหรือโด่งได้ง่าย โดยเฉพาะตำแหน่งด้านหน้า(;คนขับ)

การที่คนบอกว่าการปรับEQมันทำให้เสียงเพี้ยนเนี่ย มันไม่ใช่หมายถึงเพี้ยนแค่ในหูฟังนะครับ การไปยกหรือลดย่านเสียงมันส่งผลต่อคีย์ และโน๊ตของเพลงด้วยนะครับ เช่นการไปยกย่านต่ำขึ้น มันก็ทำให้เสียงนักร้องหรือเสียงดนตรีมันคีย์ต่ำลงด้วยนะครับ มันถึงได้เพี้ยนไงครับ
เพราะงั้นคนจึงนิยมไปแก้ที่อุปกรณ์มากกว่าการไปยุ่งกับEQ ไอการปรับEQเพื่อให้มันflatเนี่ย ไม่ใช่มีคุณนนท์คิดเป็นคนแรกหรอกครับ มันมีคนคิดได้มานานแล้วถึงได้มีEQเกิดขึ้นมาบนโลก แต่นั่นมันอาจจะเพราะสมัยก่อนตัวเลือกมันมีไม่มากเท่าปัจจุบันนี้นะครับ

ผมก็แค่ผ่านมาพูดคุยเอาความคิดเห็นแหละครับ ให้บอร์ดมีเรื่องคุยบ้าง แต่เอาจริงๆ ฟังเพลงก็ฟังให้มันมีความสุขตามเจตนาของมันที่ถูกสร้างมาเพื่อความบันเทิงนั่นแหละครับ

รอให้พี่เบริด์มาตอบ555+
แต่เห็นด้วยกับความคิดเห็นที่30ครับ^^

ในมุมมองผม คิดว่าเพลง ศิลปินส่วนใหญ่ตอนแต่งหรือบันทึกเสียง คงไม่ได้ให้น้ำหนักกับกร้าฟว่ามันแฟตหรือเปล่า มากกว่าจินตนาการดีไซด์ในส่วนของดนตรีหลอกครับ บางแนวต้องการสียงกลางอิ่มๆ บางวงเป็นวงสามชิ้นอัดสดๆ บางเพลงมีสลับท่อนไหนเด่นอะไร Flat สำหรับผมคงเป็นความเที่ยงตรงของต้นฉบับ ที่เครื่องเล่นของเราจะแสดงออกมาได้ แต่อย่าลืมบุคลิกเสียงของแต่ละเครื่องเล่นนั้นๆด้วยมันก็คงมีผลไม่มากก็น้อย

สำหรับตัวพี่เบิร์ดเองแล้ว มองว่าการปรับให้ flat หรือไม่ flat ปรับที่ตรงไหน ระบบ หรือ EQ เป็นเรื่องความต้องการเฉพาะบุคคล เช่น คนที่เป็นโปรดิวเซอร์ คนที่ทำงานเกี่ยวกับทางด้านเสียงเพลง หรือแม้กระทั่งคนที่จริงจัง ในการฟังเพลง

ซึ่งคนทั่วไป ที่ฟังเพลงผ่านคอม หรือ ซื้อเพลง ไม่ว่าจะทางดาว์นโหลดดิจิตอล หรือซื้อแผ่น cd ส่วนใหญ่คงไม่มีใครมานั่งซีเรียส กันตรงนี้หรอก

ที่เขาต้องการคือเสียงที่ มันออกมาจากระบบ ที่เขามีต่างหากว่าถูกใจหรือไม่ ซึ่งการปรับพวกนี้ก็เป็นส่วนหนึ่ง แต่ไม่ใช่ทั้งหมดของการฟังเพลง

ความสุขของพี่เบิร์ด คือได้ได้ฟังเพลงที่ชอบ กับระบบที่ใช่ และเห็นคนรักการฟังเพลง มีความสุขเช่นเดียวกัน เพราะว่า

พี่เบิร์ดรักทุกคน

กดไลค์ให้พี่เบริด์555

รักพี่เบิร์ดเช่นกันขอรับ
เป็นกำลังใจให้คุณนนท์ด้วยครับผม^_^

ปล.อย่างน้อยแกก็มีอะไรมาให้คิดตลอดๆ หนับหนุนครับ

เห็นด้วยกับพี่เบิร์ดครับ

และขอต่อด้วยนะครับ ว่าคุณ windows x ทราบได้อย่างไรว่า flat ครับถ้
ถ้า flat ในความหมายคือ กราฟที่แสดงให้เห็น ผมก็สงสัยครับว่าสิ่งนี้จริงๆเรียก เสียง flat หรือ กราฟ flat ครับ

* ถ้ากราฟ flat ก็เข้าใจได้ไม่ยากครับ เพราะเห็นการแสดงได้ชัดเจนครับ

* ต่อมาคือ ถ้าบอกว่าใช้หูฟังเอา ว่า flat หมายความว่าเสียงมันเรียบๆไม่มีด้านใดเด่นขึ้นมา

หรือ เสียงเป็นไปตามต้นฉบับที่ทางผู้จัดทำได้อัดมาครับ

* ถ้าหมายถึงไม่มีเสียงใดเด่นขึ้นมา สิ่งแรกที่ควรคำนึงถึงคือ หู ของคนฟังว่ารับเสียงแต่ละย่านได้ดีแค่ไหน

ซึ่งตรงนี้ก็คิดว่าคงเข้าใจได้ตรงกันไม่ยากว่าการตอบสนองต่อความถี่ต่างๆของแต่ละคนไม่เท่ากัน

ดังนั้นคงใช้อุปกรณ์ ใดๆมาชี้วัดว่าสิ่งที่แต่ละคนได้ยินมีความราบเรียบเท่ากันหรือไม่นะครับ

เช่นเดียวกับการกิน บางคนกินแล้วร่างกายดูดซับได้มากกว่า ดีกว่า ก็ได้รับสารอาหารมากกว่าอีกคนที่ การดูดซับไม่ดีเท่า ทั้งๆที่ได้รับอาหารมาเท่าๆกันครับ

ดังนั้นคงเป็นไปตามรสนิยม และ ความสามารถในการตอบสนองแล้วล่ะครับ

และแต่ละเพลง หรือ แต่ละแนว เค้าจะทำให้ทุกย่านไม่มีส่วนไหนเด่นขึ้นมาเลยจริงๆเหรอครับ

ง่ายๆลองนึกถึง RAP , HIP HOP , DUB , BLUES , JAZZ , OPERA

* แต่ถ้าคุณหมายถึง เป็นเสียงที่ตรงตามที่ผู้อัด ได้อัดมา คุณทราบได้อย่างไรครับว่าเค้าอัดมาเสียงเป็นแบบไหน ยกเว้นก็แต่ว่าได้ไปนั่งฟังตอนที่เค้าอัดด้วยนั่นก็เรื่องนึงครับ คงเข้าใจได้

ดังนั้น ผมว่า ช่างมันบ้างก็ได้นะครับบางเรื่อง 555+

มาฟังเพลงให้มีความสุขกันดีกว่าครับ ตามพี่เบิร์ดเลยดีกว่า

ถ้าฟังดนตรีจริงบ่อยๆ ฟังชุดอ้างอิงดีๆบ่อยๆ การปรับเสียงให้ flat ก็ทำได้ไม่ยากครับ ฟังสดมาแบบนี้ ชึดที่ถ่ายทอดชิ้นดนตรีไก้ถูกต้องไม่เพี้ยนเป็นแบบนี้ ก็ปรับได้ครับ

ด้วยความเคารพนะครับ ขออนุญาต

สิ่งที่คุณ windows x ว่ามาน่าสนใจ

แต่ก็ขึ้นอยู่กับ.....ว่าเคยไปฟังวงที่เราฟัง แสดงสด มามั้ย เราจะรู้ได้ไงว่า เค้าปรับเสียงในงานประมาณไหน แล้วคนอัดจงใจให้เสียงออกมาแบบไหน

แค่กีต้าร์คนละตัวเสียงก็ไม่เหมือนกันแล้วอ่ะครับ ถ้าเราติดรสนิยมกีต้าร์ของใครคนใดคนนึงล่ะครับ

ไหนจะส่วนที่เรานั่งในฮอลล์ ส่วนที่คนอัดนั่ง ตำแหน่งไมค์ อีกจิปาถะอ่ะครับ

ถ้าเรานั่งที่นึง คนอัดนั่งที่นึง กับหูฟังอีกอันของคนอัด เค้าจะอัดให้เหมือนตำแหน่งที่เรานั่งแล้วได้ยิน หรือ ตำแหน่งที่เค้านั่งแล้วได้ยินล่ะครับ

แล้วเพลงที่ฟังส่วนมาก เป็นเพลงคอนเสิร์ตมั้ย หรือในห้องอัด แล้วเราจะรู้ว่าหูของคนที่อัดมาเค้าได้ยินอะไรได้ยังไงครับ

แล้วเราจะรู้ได้ไงว่าเพี้ยนล่ะครับ อย่างเช่นคนอัด หรือ นักดนตรีตั้งใจให้เพี้ยนในแบบของเขาล่ะครับ

ลองคิดถึง Robert Johnson ก็ได้ครับ ง่ายๆ หรือเพลงพวก electronic หรือ DUBSTEP บ้างล่ะครับ

โดยส่วนตัวผมมองคำว่า Flat มันดูนิยามล่องลอย นามธรรมไปหน่อยอ่ะครับถ้ามองมุมนี้ เพราะ flat แต่ละคนคงไม่เหมือนกัน หรือ เท่ากันอ่ะครับ

เพราะใช่ว่าใช้ชุดดีๆ ก็ใช่ว่าแต่ละชุดจะเหมือนกันจริงๆอ่ะครับ บางชุดก็เบสหนา บางชุดก็บาง เร็ว-ช้า ไม่เท่ากัน

ส่วนตัวผมเลยพิมพ์ไปข้างต้นด้านบนโพสต์ก่อนของผมน่ะครับ

ว่าบางทีช่างมันบ้างก็ได้น่ะครับ 5555+

ปล. ถ้าคำพูดไหนที่ผมพิมพ์ออกมา ไปรบกวนสายตา หรือ อารมณ์ของใครเข้าก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ล่วงหน้าเลยนะครับ

มันมีหลัก sound check อยู่ครับ ลองศึกษาเพิ่มเติมดู ถ้าเริ่มต้นง่ายๆก็ลองฟัง concert เล็กๆก่อนก็ได้ ฟังใกล้ๆที่ sound engineer คุม mixer อยู่ ดูว่าเค้าคุม sound ยังไงเวลาแต่ละวงขึ้นมาครับ

https://www.youtube.com/watch?v=qMseqyMeN4Q

https://www.youtube.com/watch?v=5W1tbnleHx8

บ่อยครั้ง ก็ชอบฟังแบบนี้..............โดยเฉพาะการเล่นสดๆ รอบโต๊ะอาหาร ไร้เครื่องขยาย รู้สึกถึงมวลอากาศได้ด้วยผิวหนัง

https://www.youtube.com/watch?v=KEDh0WMLW40

นี่ก็ชอบ จร้า

ขอถามผู้รู้+เสนอแนวคิดหน่อยน่ะครับ

ข้อ 1. file mp3(110100) -> iphone -> หูฟัง -> เสียง(110100) = flat?
ข้อ 2. file mp3(110100) -> iphone -> หูฟัง -> เสียง(110101) = flat?

ถ้า flat หมายถึงข้อ1แล้ว คำถามคือจะทำยังไงให้ output=input

และถ้าการปรับ EQ ทำได้หรือใกล้เคียง เราจะวัดยังไง ใช้อะไรวัด (ใช้เครื่องมือวัดได้ไหม?)

ผมก็เห็นด้วยกับความคิดเห็นที่ 30 กับ 40 นะครับ เพราะถ้าเล่นดนตรีเอง ฟังวง acoustic สดบ่อยๆ เวลาก่อนจะเล่นก็ต้องมีการ sound check แล้ว vanue ที่จัดก็ต้องปรับอครูสติกเหมือนกันครับ แต่พวกการปรับระดับบาล๊านส์เสียงนี่ก็ไม่ได้ปรับตามใจตามความชอบ ต้องมีหลักการ ต้องศึกษาชัดเจนครับ ของผมเล่นดนตรีอย่างเดียวไม่ได้เป็น sound engineer แต่ก็พอจะทราบเรื่องพวกนี้บาง และผมก็เล่น EQ ในชุดเหมือนกันครับ

เรื่อง flat ไม่ flat มันเป็นแค่ tonal balance ซึ่งจริงๆมันแค่ปรับลดระดับความดังของ สูง กลาง ต่ำ ให้มันมาสมดุลย์กันมากกว่านะครับ ส่วนเรื่องเพลงเสียงสังเคราะห์ ต่ำแหน่งที่นั่งฟัง อะไรต่างๆ ถ้าฟังสดจริงๆเสียงต่างกันครับ แต่มันจะมี sweet spot ของมุมกระจายเสียงอยู่ครับ ซึ่งการบันทึกถ้าจะอัดสดทั้งวงก็จะมีการวางไมค์ต่างๆ เพื่อให้ได้เสียงของมุมกระจายที่ถูกต้องครับ EQ มันไม่ได้แก้พวกเบสล้น แหลมแข็ง กลางบี้นะครับ มันแค่แก้ระดับความดังของเสียงเฉยๆซึ่งมันไม่ได้เป็นเครื่องมือที่ออกแบบมาให้แก้ปัญหาความไม่ match ของชุดตั้งแต่แรกอยู่แล้วครับ

ที่สำคัญที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้ คือเพลงที่ฟังๆกันในตลาด เวลาเค้า mix เค้ามีกลุ่มตลาดชัดเจนนะครับ อย่างเช่นพวกเพลงป็อป เอาพวก Adale, Abba, Taylor Swift, Carol King , james taylor, carpenters, beatles ครอบคลุมทุกยุค เค้าตั้งใจอัดเสียงมาให้มันเล่นได้พอดีๆ เป็น wall of sound บนวิทยุครับ ซึ่งวิทยุหรือลำโพงรถ ลำโพงเล็กๆ มันไม่ได้ตอบสนองมามีโทนัลที่เทียงตรงตั้งแต่ต้น ส่วนใหญ่เค้าจะขาดเบสขาดแหลม ขาดไดนามิก เพลงพวกนี้ก็อัดมาแบบ compress ยกเบสยกแหลม เร่งความดัง(ทำให้ไดนามิกน้อยลง) มาตั้งแต่ต้น พอฟังในชุดแบบนี้ เสียงก็ฟังไม่ขาดไม่เกิน เพลงดูดีมีพลัง

แต่ถ้าเอาไปฟังชุดใหญ่ ถ้าคุณไม่มี eq ในชุด แล้วฟังเพลงพวกนี้ในชุด audiophile ที่ตอบสนองดีๆ เสียงมันก็จะออกมาโด่งแหลมเบสล้นไดนามิกอั้น ในเคสนี้ แค่คุณเอา eq มาต่อในชุด ลดเบสลดแหลม ให้มันไม่โด่งไม่ปนกัน ก็ถือว่าได้เสียงที่ flat แบบที่มันควรจะเป็นแล้วครับ ส่วนอัลบั้มที่อัดดีๆตรงๆนี้ถ้ามันตรงสมดุลย์อยู่แล้ว มันก็ไม่ต้องใช้ครับ ผมมองว่ามันเอาไว้แก้ไฟล์ที่อัดมาโทนัลไม่สมดุลย์มากกว่า

สำหรับผม flat neutral คือเสียงมันสมดุลย์ ไม่มีย่านความถี่ไหนโด่งออกมามากกว่าครับ มันมีเรื่องพวก transient, spatial information, dynamic contrast, detail retrival. prat อะไรพวกนี้ที่ส่งผลกับคุณภาพเสียงที่นอกเหนือจากโทนัลความถี่เยอะครับ

สรุปคือใช้ eq มันแค่แก้โทนัลเพี้ยนกลับมาให้โทนัลตรงแค่นั้นเองครับ ซึ่งเวลาเช็ตเครื่องเสียงต่างๆมันเลยมีแผ่น referance ไว้เช็คโทนัลต่างๆว่าสมดุลย์หรือเปล่า ถ้าชุดเราให้โทนัลสมดุลย์แล้วก็เล่นเพลงอะไรแล้วก้ได้ครับ แต่ถ้าเจอต้นฉบับเพลงที่เราอยากฟังมันเพี้ยน ถ้ามี eq ก็แค่ปรับให้มันออกมา neutral เท่านั้นเองครับ ซึ่ง neutral/flat มันก็คือเสียงที่ไม่มีย่านไหนไปกวนกัน ( มันคือเหตุผลที่ทำไมเราต้อง sound check ทุกครั้งเวลาเล่นดนตรี หรือจะอัด ) ส่วนถ้าเพลงที่อัดมามันเพี้ยน ถ้าคุณไปปรับ band eq ให้เรียบ มันก็เหมือนไม่ปรับครับ เสียงก้ยังมีโทนัลเพี้ยน โด่ง ล้น ตามต้นฉบับ แต่ถ้าปรับให้มันสมดุลย์ จากต้นฉบับที่มันไม่สมดลุย์ มันก็จะกลายมาเป็นสมดุลย์ในชุดเราครับ

แต่ฟังเพลงนี่มันก็ไม่ต้องเครียดมากขนาดนี้หรอกครับ แค่เช็ตเสียงด้วยแผ่น reference ดีๆให้มันลงตัว สมดลุย์ ไม่ล้นไม่โด่ง ตามหูเรา ที่เหลือก็ music lover เปิดเพลงไปได้แล้วครับ ส่วนใช้ eq คือสำหรับคนที่จริงจังมากๆแบบปรับเปนเพลงๆไป จะเป็น audio nirvana อะไรก็ไม่ผิดครับ สุดท้ายมันได้ความสุขในการฟังเหมือนกันครับ

น่าสนใจ ไม่เคยคิดจะปรับ EQ ให้เสียงออกมาจนฟังแล้วโทนัล Flat เลย เคยแต่ปรับจนกว่าจะชอบ ไม่รำคาญเพราะเสียงไหนโด่งเกินไปแค่นั้นเอง

ปล. แอบสงสัยจากคอมเมนท์คุณ hvk ว่าใช้คำว่าปรับจนกว่า โทนัลจะบาลานส์ จะตรงกว่าไหมคับ

ใช่ครับ ปรับจนมันไม่ได้มีเสียงสูงกลางต่ำล้นเกินไปนั่นแหละครับ โทนัลบาล๊านส์พอดีมันคือ flat นั่นหละครับ

คุณ window X ครับ คุณมั่นใจรึป่าวว่าหูคุณแฟลตจริงคุณได้ยินความถี่ครบทุกย่านไม่ผิเเพี้ยนg]p ก่อนที่จะอวดรู้กับคนอื่น คุณกล้าไปโรงพยาบาลเช็คหูกับผมไหม...?

คนอย่างคุณเก่งทุกอย่างนำเสนอข้อมูลสไตลเทพๆเพื่อหาแนวร่วมทำตัวให้เหนือเข้าไว้สุดท้ายก็หลอกขายของที่ตัวเองทำ step เดิมๆไม่ได้บอกว่าใครนะคิดเอาเองอย่าร้อนตัว

ขอบคุณน้า hvk ทีช่วยมาอธิบายครับ เสียง flat จริงๆแบบที่ไม่ปรับอะไรนั้นทำยากครับ ขนาดอุปกรณ์ flat ทุกอย่างยังต้องจูนปลั๊กจูนสายใช้ accessories ต่างๆช่วย

ส่วนบางความเห็นที่อ่านนี่ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันนะว่าเขาต้องการจะสื่ออะไร.....

สาเเหตุที่ผู้ผลิตลำโพง หรือแอมป์โซลิทเสตท แอมป์หลอด เครื่องเล่นซีดี เครื่องละหลายๆแสน หลายๆร้าน ถึงไม่ทำให้มันแฟลตออกมาจากโรงงานเลยครับผม

ขอแก้คำผิดหน่อยครับ 55 พิมพ์ไวไปหน่อย หลายล้านบาท ครับ

คำตอบเดียวกับทำไมเขาถึงไม่ทำหน้าจอให้สีเที่ยงตรงหมดจะได้ไม่ต้อง calibrate ครับ

เพราะแฟลตไม่ใช่ทุกสิ่งนี่ครับ คนเราฟังเพลงฟังเพื่อความบันเทิง ความเพลินเพลิน คนนึงชอบเสียงแบบนึง อีกคนชอบแบบนึง ไม่ใช่ว่าลำโพงไม่แฟลต หูฟังไม่แฟลต แอมป์ไม่แฟลตมันจะห่วยสักหน่อย ที่สุดแล้วเป้าหมายในการฟังเพลงก็เพื่อความสุขใจครับ ซึ่งจะชอบแบบไหนก็สุดแล้วแต่รสนิยมเลยครับ มันไม่มีดีไม่ดีหรอกครับ มีแต่ชอบหรือไม่ชอบ

กระทู้นี้ผมอธิบายว่าเสียง flat เป็นยังไงเฉยๆนะครับ ไม่ได้เชิญชวนหรือห้ามใครให้ฟังเพลงยังไง

ถ้าเรื่องจอ ไปศึกษาให้ดีๆก่อนว่ามันมีกี่ชนิด อะไรบ้าง มีสเปคสำคัญอะไรบ้าง ทำไมจอจอบางรุ่นบางยี่ห้อแพงจัง ทำไมบางยี่ห้อ คนละรุ่น ความละเอียดเท่ากันราคาไม่เท่ากัน ทำไมยี่ห้อ EIZO ถึงราคาแพงบ้าเลือดกว่าชาวบ้านๆ ทั้งๆที่ใช้ panel ของ LG แท้ๆ แต่ทำไมทำจอได้มือสนิทกว่า ฯลฯ

จะว่าคล้าย ก็ไม่เชิง พูดก็พูดแค่เรื่องเสียงเถอะครับ จขกท.

ทำแบบที่ท่านอื่นว่าดูครับ ลองไปทดสอบหูกับเค้าดู เพราะหูคนเราได้ยินไม่เท่ากันจริงๆนะ

อ่อ ผมไม่ได้ตอบคุณวินฯสิบครับ ผมตอบคห.54ที่ว่าทำไมถึงไม่ทำให้แฟลตให้หมด

@shorttoeh จอจะถูกจะแพงยังไงถ้าอยากได้สีที่ไม่เพี้ยนก็ต้อง calibrate เหมือนกันหมดครับ เหมือนชุดเครื่องเสียงที่ไม่ว่าจะถูกหรือแพงมันก็ต้อง finetune ถ้าต้องการฟังเสียง flat จริงๆ นั่นคือประเด็นที่ต้องการจะสื่อครับ

ส่วนเรื่องหูคนเราได้ยินไม่เท่ากันนั่นไม่เกี่ยวเลยครับ ไป concert sound engineer เค้าก็ mix ให้ทุกคนที่ได้ยินไม่เท่ากันฟัง

@นานาเซะมารุ ครับผม ขอโทษที่เข้าใจผิดครับ :)

ถ้าคุณคิดว่า calibrate แล้วเหมือนกันหมด แสดงว่าคุณไม่รู้แล้วล่ะครับ งั้นจอแพงๆ มันก็ขายไม่ได้สิครับ การคาลิเบรต มันช่วยให้จอถูก ทำสีให้เที่ยงตรงขึ้นระดับหนึ่งครับ ไม่ได้หมายความว่ามันจะเที่ยงตรงจริงๆ เพราะมันมีความจำกัดของ hardware ของจออยู่ แม้แต่ชนิดของ panel เอง ไม่งั้นคงไม่มีใครซื้อ EIZO, NEC ทำงานแล้วครับ ไม่งั้นลองไปคาลิเบรตจอ notebook รุ่นธรรมดาสักรุ่น ไปเทียบจอ dell ultrasharp ที่ไม่ได้คาลิเบรตสักรุ่นดูครับ หรือกับ apple cinema display รุ่นที่ยังเป็นตัวกรอบจอ aluminium ดู

เครื่องเสียง อย่างไงก็ไม่มีทาง flat เพราะอุปกรณ์ทุกตัว มันมีคุณสมบัติเฉพาะของมันหมด ถ้าคุณเคยโม ก็น่าจะรู้ว่าเปลี่ยนคาปา ก็เสียงเปลี่ยนแล้ว หรือแม้แต่หูฟัง รู้ไงว่ามันเหมือนดนตรีที่เล่นกันจริงๆ เอาเป็นว่าเราฟังแล้วมีความสุข แค่นั้นน่าจะดีกว่า มันแต่มาคิดเรื่องแบบนี้จะฟังแล้วไม่มีความสุขซะเปล่า

ผมเองฟังเพลงที่มีกลอง มีเบสหนักๆ เมื่อก่อนก็ไม่ปรับ ขนาดแอมป์ผมเบสหนักอยู่แล้ว ตอนหลังก็ลองมาปรับ eq จาก jriver ดู มันมันส์กว่ามากกกกกกกกกกกกก 555 คือไม่ต้องคิดไรหรอก เราฟังจากหูฟังเราได้ยินคนเดียว มีความสุขคนเดียวครับ

ผมไม่ได้บอกว่ามันจะเหมือนกันหมดนะครับ ผมบอกว่า calibrate ไม่ให้สีเพี้ยน เพื่อนผมก็ซื้อจอ EIZO Ultrasharp มาใช้ทำงาน graphics หลายคน ก็ซื้อตัวนี้มาใช้กันเยอะครับ

https://www.xrite.com/i1display-pro

จอดีแค่ไหนแต่ถ้าไม่ calibrate เลยมันก็มีสีเพี้ยนมากน้อยตามคุณภาพจอกับสภาพแวดล้อม ไม่ต่างอะไรกับเครื่องเสียง การ calibrate ให้สีเพี้ยนน้อยลงไม่ได้แปลว่าจะทำให้จอดูดีเหมือนกันหมด ทำไมคุณอ่านแล้วชอบคิดไปเองตลอดเลยครับเนี่ย

เสียง flat นั้นมันมีมาตราฐานที่ฟังแล้วรับรู้เหมือนกันได้หมดครับ ถ้าไม่ flat เสียงก็เพี้ยนจากของจริงเยอะ ทำให้ flat มากกว่าเดิมก็คล้ายเครื่องดนตรีจริงมากขึ้น คนที่ฟังแล้วชอบแบบไม่ flat มากกว่าก็สิทธิของเขาครับ ขนาดวงการเครื่องเสียงบ้านเกือบทั้งตลาดก็ไม่ได้พยายามที่จะไปฟังของจริงแล้วทำชุดตัวเองให้เหมือนอะไรขนาดนั้นเหมือนกัน

ต่างคนต่างความคิดครับพี่วินโด้
ผมคนนึงที่ไม่เห็นด้วยกับความคิดของพี่ (อย่าโกรธกันนะ^^)

คุณ taweelap ที่เคยรีวิว ts 211 MKII เวป Tac ใช่มั๊ยครับเนี่ย

เห็นต่างกันผมไม่คิดอะไรหรอกครับ แต่ถ้าคิดแทนกันแบบข้างบนผมก็ต้องอธิบายครับว่ามันไม่ใช่แบบนั้นนะ ผมไม่เคยพูดแบบนั้นก่อนที่มันจะลากยากจนออกทะเลไปครับ

ใช่ครับคุน love song ที่ tac ผมรีวิวไว้หลายตัวครับ^^

รีวิวได้ดี ผมชอบอ่านครับ

ตอบความเห็นที่ 31
"ผมว่าคุณ nuy อาจจับประเด็นของคุณ windows คลาดเคลื่อนไปเล็กน้อยครับ (ทั้งๆที่พวกคุณก็เห็นตรงกันนั่นแหละครับ!)"
ผมเห็นต่างในเรื่องปรับ EQ ให้เสียง flat เฉพาะประเด็นที่ ปรับแล้วต่อให้เชี่ยวชาญแค่ไหน เสียงมันก็จะเพี้ยนไปจากต้นฉบับที่เขาบันทึกมา สรุปแล้ว โดยรวมผมไม่เห็นด้วยกับวิธิการแบบนี้ แค่นั้นเองครับ

ขอบคุณครับที่ติดตาม แต่ตอนนี้ผมอิ่มตัวแล้วกับเครื่องเสียงบ้านเพราะลองมาเยอะ เลยหันมาทาง gadget บ้าง ครับ^_^

Eizo มันยี่ห้อ เป็นจอของญี่ปุ่น มีชื่อเสียงทางด้านการทำงานกราฟฟิคมานานตั้งแต่จอหลอดแก้ว รุ่น 27 นิ้วราคา 7-8 หมื่น เมื่อก่อนแพงกว่านี้อีก

Ultrasharp คือรุ่น เป็นจอรุ่นหนึ่งของ Dell ที่ผลิตมาเพื่องานมืออาชีพ ถ้าความละเอียดเท่ากัน จอขนาดเท่ากัน Dell ราคาราวๆ 2 หมื่นกว่าบาท

แค่ยี่ห้อกับรุ่นยังไม่รู้เลย เรื่องจอนี่ ดูไม่ค่อยรู้เรื่องแล้วก็อย่าพูดเลยครับ


อยากให้ความรู้คนอื่น อยากเป็นผู้เชี่ยวชาญ มีคนนับถือ ก็หาความรู้ให้มันแน่นๆกว่านี้ ผมเห็นคุณตอบมาหลายกระทู้แล้ว จริงๆกระทู้นี้ผมก็ไม่อยากยุ่งหรอก ผมกลัวววววววววววว... อิๆ

เรื่องจอนี่ คุณเป็นคนพาไปก่อนไม่ใช่เหรอครับ จำไม่ได้เหรอ เลื่อนขึ้นไปดูสิ...

ยินดีด้วยครับคุณshorttoeh คนที่คุณคุยด้วย คือ Window X ตัวจริงครับ

อ่า คุยกับคุณนี่เหนื่อยนะครับ คิดไปเองแล้วเถียงข้างๆคูๆ คุณจะบอกว่าซื้อจอ eizo มาแล้วไม่ต้อง cal รึไงครับ

ผมพิมพ์มือถือเลยพิมพ์รวมๆไป ถ้าจะเถียงด้วยหลักตรรกะวิบัติแบบนี้ผมขอหยุดแค่นี้ละกันครับ

คุณแคะหูครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ครับ wendow x

มั่วแล้วอย่าแถ windows x มั่วนิ่ม dell ตังหากรุ่น ultra sharp อะดูซะก่อนจะตอบคนอื่น Eizo เขารุ่น coloredge ตังหาก

ปล.ผมชอบอ่านรีวิวคุณทวีลาภ มีประโยชน์มากกว่าบทความชวนทะเลาะออกทะเลหาฝั่งไม่เจอไร้สาระเพ้อเจ้อจับต้องไม่ได้โชว์ห่วยเหมือนบางคน

>> เหมือนชุดเครื่องเสียงที่ไม่ว่าจะถูกหรือแพงมันก็ต้อง finetune ถ้าต้องการฟังเสียง flat จริงๆ นั่นคือประเด็นที่ต้องการจะสื่อครับ

งั้น windows x ก็ไปซื้อเครื่องเสียงบ้านหม้อมาแล้วเอาหูที่เพิ่งแคะขี้หูมาปรับ eq ลองให้มันแฟลตดูซิเสียงมันจะเหมือนมาร์คลีวินสันไหม

เข้ามาดูเฉยๆ เพราะหูผมมันไม่ Flat (ผลตรวจร่างกายมันฟ้องทุกปี) แต่เรื่องเสียงดีเสียงห่วยอันนี้พอจะแยกออกบ้าง

ถึงบอกไงว่าไอ้คนที่บอกว่า eq ปรับให้เสียงเฟลตได้ หูของมันแฟลตรึป่าวตรวจหูครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ ว่าตรรกกะคนอื่นวิบัติตัวเองวิเศษระดับใหนเชียวถึงได้สอนคนอื่นดูถูกคนอื่นขนาดนั้น มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันพัฒนาวงการเครื่องเสียงให้ดีขึ้นบ้างรึป่าวนอกจากหากินกับเวปบอร์ดเครื่องเสียงไปวันๆ

Flat ถ้าเป็นทางคนเล่นดนตรี จะหมายถึง เสียงราบเรียบเกินไป ไม่มีอารมร์ูความรู้สึก ใช้เป็นคำตินักดนตรีได้เช่น 'เล่นเสียง Flat เกินไป ใส้อารมณ์ดนตรีให้มันมากกว่านี้'

ส่วนถ้าใช้เกี่ยวกับเครื่องเสียงหูฟัง จะหมายถึงเสียงเที่ยงตรง ถ้าไม่ Flat จะคือ เสียงติดคัลเลอร์ เสียงไม่เที่ยงตรง
ไม่ได้ถ่ายถอดความรู้สึกดนตรีตาม ที่อัดไว้จริง

ใครมี หูฟัง System เครื่องเล่นที่มี EQ ว่างๆเจอผมจะลองปรับให้ดูครับ  ว่าเสียงที่นอกจากจะ Flat อย่างแท้จริงแล้ว ยังได้อารมณ์ดนตรีอย่างแท้จริงแล้ว ยังไพเราะมากที่สุดด้วย นั้นแท้จริงแล้วเป็นอย่างไรครับ ^^

(เอา flat ที่สุดง่ายๆจริงๆคือ Recorder/ Audio Interface + หูฟัง Monitor ดีๆแหล่ะครับ 5555)

ถ้าอยากให้มัน Flat คุณก็ไปหาไมค์ RTA มาตั้งไว้ตำแหน่งที่เหมาะสมจากนั้นก็มองกราฟ Frequency เอานะครับแล้วปรับ EQ ไปเรื่อยๆ Calibrate ไปจนกว่าทุกย่านความถี่มันจะสม่ำเสมอราบเรียบทั้งหมด แล้วคุณจะรู้ครับว่ามันไม่ใช่เสียงมีอรรถรสทางดนตรีที่น่าฟังเลยแม้แต่น้อย ถ้านึกไม่ออกก็ให้นึกถึงเสียง White Noise ครับ แล้วคือสิ่งที่ทำอยู่คือการทำให้เพลงมี Tonal Balance โดยรวมออกมาเป็นแบบ White Noise ก็เสียงแห้งๆ แหลมๆ แสบนั่นแหละครับคือเสียง Flat ที่แท้จริง