ระบบการบันทึกเสียงแบบ mulitrack มีมานานตั้งแต่ยุค analog แล้วครับ ไม่ได้เพิ่งมีในยุค digital มันเริ่มมาใช้กันแพร่หลายตั้งแต่ยุค 70s แล้วครับ เป็นการอัดเสียงลง tape reel แล้วทำการบันทึกเสียง overdub ทับลงไปเรื่อยๆจนกว่าจะพอใจ ก็คิดง่ายๆว่าถ้าเทคโนโลยีนี้ไม่มีวง queen ก็คงไม่สามารถทำเพลง bohemian rhapsody ได้ พวก david bowie หรือ pink floyd ก็คงไม่มีซาวด์ล้ำๆให้เราฟัง แต่ที่ซาวด์ยุค 90s เป็นต้นมามันฟังดูมีความแตกต่างจากยุคเก่าๆเป็นอย่างมากมัไม่ได้เกิดมาจากเทคนี้การใช้ไมค์ครับ เพราะเทคการใช้ไมค์แบบ close miking ที่ให้เสียงเครื่องดนตรีชัดๆมันก็เกิดมาพร้อมๆกับเทคโนโลยีบอร์ด mixer กับการบันทึกเสียงแบบ mulitrack นี่แหละ
แต่ที่เป็นแบบนั้นมันเกิดจากการมาของระบบคอมพิวเตอร์ software ในการทึกเสียงที่ทำให้สามารถทำ digital audio edit ได้ซึ่งมันละเอียดกว่าการ audio edit ยุคก่อนหน้านี้เป็นอย่างมาก เพราะว่ายุคก่อนนี้ต้องตัดเทปมาแปะกัน แต่อันนี้ใช้โปรแกรมตัดแปะเคลื่อนย้ายได้ตามใจนึกในระดับ millisecond จนไปถึง microsecond หรือจนในระดับ sample ก็ยังได้ อีกทั้งยังมี digital signal processor ที่มีความแม่นยำ และมีความ transparent สูงยกตัวอย่างเช่น EQ ที่มีค่า Q ที่แคบมากๆ และค่า slope ที่ชันมากๆอย่างที่ EQ แบบ hardware analog ไม่มีวันทำได้ ทำให้การ cut หรือ filter ย่านความถี่เครื่องดนตรีเวลาตอนมิกซ์นั้นมีความละเอียดและแม่นยำสูงมาก ทำให้เสียงที่ได้ออกมาคมชัด สะอาด และไม่เบลอ เพราะไม่มีการสูญเสียงย่านความถี่ดีๆที่ต้องการเก็บเอาไว้ของเครื่องดนตรี