Toggle Dropdown
ค้นหา
ค้นหาชื่อสินค้า
ค้าหารีวิวและบทความ
ค้นหาโปรโมชั่น
ค้นหาฟีดข่าว
ค้นหาไฮไลท์
TH
EN
หน้าแรก
สินค้า
เว็บบอร์ด
เกี่ยวกับเรา
สาขา
วิธีชำระเงิน
ติดต่อเรา
Guest
อีเมล์ / ชื่อผู้ใช้ :
รหัสผ่าน :
ลืมรหัสผ่าน
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
หรือ
ค้นหาโดย Google
ค้นหาทุกคำ
ค้นหาชื่อกระทู้
ค้นหาชื่อผู้ตั้งกระทู้
เว็บบอร์ดจับฉ่าย
หูฟังมือสอง
ซื้อขายจิปาถะ
รีวิวและบทความ
กระทู้เฮีย
คลับ
หมวดหมู่ > เว็บบอร์ด จับฉ่าย
ช่องทางการติดต่ออื่น
All
5
10
15
ขอข้อมูล jbl quantum 800 vs jbl quantum one vs hyperx orbit s
Shared
ติดตามกระทู้นี้
แจ้งลบ
loseman
13/12/2020 22:52:42
0
อยากทราบลายละเอียดหรือความเห็นของคนที่ได้ลองทั้งสามตัวนี้หน่อยครับ
jbl quantum 800 vs jbl quantum one vs hyperx orbit s
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 1
Win Paragon
14/12/2020 11:35:25
สวัสดีคัรบ คุณ liseman สำหรับ ทั้ง 3 รุ่นนี้ก็มีความแตกต่างอยู่พอสมควรเลยล่ะครับ
สำหรับ JBL Quantum 800 จะเป็น Gaming Headset ที่เน้นระบบ Wireless และ Bluetooth เป็นหลักนะครับ ช่อง USB-Type C นั้นจะเอาไว้ชาร์จไฟอย่างเดียว ไม่สามารถชาร์จไป เล่นไปได้ แต่ยังสามารถเชื่อมต่อสาย Aux 3.5 mm. ได้อยู่ครับ อีกทั้งยังมีระบบ Noise Cancelling ที่ช่วยให้โฟกัสเสียงได้ดียิ่งขึ้น แต่ว่าไม่สามารถปิดการใช้งานได้นะครับ นอกจากนั้นก็จะเป็นตัว Software ที่รองรับระบบ 7.1 และยังสามารถตั้งค่า Equalizer เพิ่มเติมได้ครับ ในส่วนของไมโครโฟน ถือว่าตัดเสียงรบกวนได้ดีมากๆ โทนเสียงที่ได้ก็ใสเคลียร์ ชัดถ้อย ชัดคำมากๆ
ในส่วนของโทนเสียง ย่านเบสถือว่ามาแบบพอดีๆ ไม่มาก ไม่น้อย จนเกินไป ให้อิมแพคที่แรง ฟังสนุก เสียงนักร้องใสเคลียร์ เป็นธรรมชาติ อยู่ระดับเดียวกับชิ้นดนตรี เสียงกลางแหลมก็สามารถให้รายละเอียดเสียงชิ้นดนตรีได้อย่างชัดเจน รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ก็มีมาให้ได้ยินแบบครบๆ เลยล่ะครับ ย่านปลายแหลมก็สามารถทอดตัวได้ไกลเป็นประกาย แต่ว่าไม่บาดหู เวทีเสียงถือว่ากว้างมากๆ สามารถแยกแยะทิศทางเสียงได้อย่างแม่นยำ ซึ่งโดยรวมแล้วก็สามารถใช้งานด้านฟังเพลง ดูหนัง และ เล่นเกมได้ดีมากๆ ครับ โดยเฉพาะแนว FPS ที่สามารถแยกทิศทางเสียงได้ดีมากๆ
สำหรับ JBL Quantum One จะเป็นแบบเสียงสาย USB ซึ่งจะเป็น ซาวด์การ์ด หรือ จะเป็นสาย AUX 3.5 mm. ก็ได้ ไม่มีระบบ Wireless และ Bluetooth มีระบบตัดเสียงรบกวน Noise Cancelling เหมือนกับตัว Quantum 800 รวมถึงตัวไมโครโฟน และ Software ก็ใช้งานตัวเดียวกัน แต่ว่าระบบเสียงที่เพิ่มเข้ามาจะเป็นระบบเสียง 3D Sound ที่สามารถใช้งานได้เมื่อเชื่อมต่อผ่านสาย USB เท่านั้น โดยหลักการทำงานจะเป็นการจับ Tracking ของศีรษะแล้วก็จำลองเสียงเป็นรูปแบบ 3 มิติ เวลาผู้ใช้งานหัน ซ้าย ขวา เสียงก็จำลองออกมาให้เหมือนกับเราอยู่ในสถานที่นั้นจริงๆ
ในเรื่องของโทนเสียง ย่านเบสนั้นจะให้อิมแพค และ มวลเบสที่มีขนาดเล็กกว่า เมื่อเทียบกับ JBL Quantum 800 แต่ว่าจะโดดเด่นในส่วนของย่านนักร้อง หรือ คนพูดแทน โดยจะโดดเด่นนำหน้าชิ้นดนตรีเล็กน้อย ส่วนย่านกลางแหลมก็สามารถให้รายละเอียดเสียงชิ้นดนตรีได้อย่างชัดเจนมากๆ โดยเฉพาะเครื่อง เสียงกลางแหลมก็สามารถถอดตัวได้ไกล เป็นประกาย จิกหูเล็กน้อย ส่วนเวทีเสียงต้องบอกว่ากว้างสุดๆ เลยล่ะครับ แยกทิศทางเสียงได้ดีมากๆ การแบ่งเลเยอร์ของเสียงก็ทำได้ดีมากๆ เวลาดูหนัง หรือ เล่นเกม ก็สามารถระบุเสียงได้อย่างชัดเจน
และ HyperX Orbit S ก็จะเป็นแบบเสียบสายแบบเดียวกับ JBL Quantum One มีซาวด์การ์ดในตัว ไม่มีระบบ Wireless และ Bluetooth รวมถึง Noise Cancelling ดอกลำโพงหูฟัง หรือ Driver ก็มีความแตกต่างอยู่โดยจะใช้ Planar magnetic ซึ่งให้โทนเสียงที่แตกต่างอยู่พอสมควร นอกจากนั้นก็มี Software มาให้ใช้งานเหมือนกัน ซึ่งจะรองรับทั้งระบบเสียงแบบ 7.1 และ ระบบเสียง 3D ซึ่งหลักการทำงานจะเหมือนกัน JBL Quantum One เลยครับ
ในส่วนของโทนเสียง จะให้เสียงย่านเบสที่มีเนื้อ มีหนังมากกว่า ติดโทนนุ่ม ฟังสบาย เสียงนักร้องให้โทนที่หนาอิ่ม ฟังสบาย โดยที่ตำแหน่งของนักร้องจะอยู่ระดับเดียวกับชิ้นดนตรี เสียงกลางแหลมก็ยังคงให้รายละเอีดยเสียงชิ้นดนตรีได้อย่างชัดเจนอยู่เหมือนเดิม เสียงปลายแหลมนั้นก็สามารถทอดตัวได้ไกล แต่ว่ามีลักษณะหัวมลฟังได้นาน ไม่ล้าหู เวทีเสียงขนาดใหญ่ แต่มีลักษณะที่โอบล้อม ตำแหน่งของชิ้นดนตรีก็สามารถแยกออกได้อย่างชัดเจน ไม่มีการทับซ้อนกันแต่อย่างใดครับ โดยรวมแล้วจะเหมาะกับการเล่นเกมแนว เนื้อเรื่อง มากกว่านะครับ
สวัสดีคัรบ คุณ liseman สำหรับ ทั้ง 3 รุ่นนี้ก็มีความแตกต่างอยู่พอสมควรเลยล่ะครับ
สำหรับ JBL Quantum 800 จะเป็น Gaming Headset ที่เน้นระบบ Wireless และ Bluetooth เป็นหลักนะครับ ช่อง USB-Type C นั้นจะเอาไว้ชาร์จไฟอย่างเดียว ไม่สามารถชาร์จไป เล่นไปได้ แต่ยังสามารถเชื่อมต่อสาย Aux 3.5 mm. ได้อยู่ครับ อีกทั้งยังมีระบบ Noise Cancelling ที่ช่วยให้โฟกัสเสียงได้ดียิ่งขึ้น แต่ว่าไม่สามารถปิดการใช้งานได้นะครับ นอกจากนั้นก็จะเป็นตัว Software ที่รองรับระบบ 7.1 และยังสามารถตั้งค่า Equalizer เพิ่มเติมได้ครับ ในส่วนของไมโครโฟน ถือว่าตัดเสียงรบกวนได้ดีมากๆ โทนเสียงที่ได้ก็ใสเคลียร์ ชัดถ้อย ชัดคำมากๆ
ในส่วนของโทนเสียง ย่านเบสถือว่ามาแบบพอดีๆ ไม่มาก ไม่น้อย จนเกินไป ให้อิมแพคที่แรง ฟังสนุก เสียงนักร้องใสเคลียร์ เป็นธรรมชาติ อยู่ระดับเดียวกับชิ้นดนตรี เสียงกลางแหลมก็สามารถให้รายละเอียดเสียงชิ้นดนตรีได้อย่างชัดเจน รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ก็มีมาให้ได้ยินแบบครบๆ เลยล่ะครับ ย่านปลายแหลมก็สามารถทอดตัวได้ไกลเป็นประกาย แต่ว่าไม่บาดหู เวทีเสียงถือว่ากว้างมากๆ สามารถแยกแยะทิศทางเสียงได้อย่างแม่นยำ ซึ่งโดยรวมแล้วก็สามารถใช้งานด้านฟังเพลง ดูหนัง และ เล่นเกมได้ดีมากๆ ครับ โดยเฉพาะแนว FPS ที่สามารถแยกทิศทางเสียงได้ดีมากๆ
สำหรับ JBL Quantum One จะเป็นแบบเสียงสาย USB ซึ่งจะเป็น ซาวด์การ์ด หรือ จะเป็นสาย AUX 3.5 mm. ก็ได้ ไม่มีระบบ Wireless และ Bluetooth มีระบบตัดเสียงรบกวน Noise Cancelling เหมือนกับตัว Quantum 800 รวมถึงตัวไมโครโฟน และ Software ก็ใช้งานตัวเดียวกัน แต่ว่าระบบเสียงที่เพิ่มเข้ามาจะเป็นระบบเสียง 3D Sound ที่สามารถใช้งานได้เมื่อเชื่อมต่อผ่านสาย USB เท่านั้น โดยหลักการทำงานจะเป็นการจับ Tracking ของศีรษะแล้วก็จำลองเสียงเป็นรูปแบบ 3 มิติ เวลาผู้ใช้งานหัน ซ้าย ขวา เสียงก็จำลองออกมาให้เหมือนกับเราอยู่ในสถานที่นั้นจริงๆ
ในเรื่องของโทนเสียง ย่านเบสนั้นจะให้อิมแพค และ มวลเบสที่มีขนาดเล็กกว่า เมื่อเทียบกับ JBL Quantum 800 แต่ว่าจะโดดเด่นในส่วนของย่านนักร้อง หรือ คนพูดแทน โดยจะโดดเด่นนำหน้าชิ้นดนตรีเล็กน้อย ส่วนย่านกลางแหลมก็สามารถให้รายละเอียดเสียงชิ้นดนตรีได้อย่างชัดเจนมากๆ โดยเฉพาะเครื่อง เสียงกลางแหลมก็สามารถถอดตัวได้ไกล เป็นประกาย จิกหูเล็กน้อย ส่วนเวทีเสียงต้องบอกว่ากว้างสุดๆ เลยล่ะครับ แยกทิศทางเสียงได้ดีมากๆ การแบ่งเลเยอร์ของเสียงก็ทำได้ดีมากๆ เวลาดูหนัง หรือ เล่นเกม ก็สามารถระบุเสียงได้อย่างชัดเจน
และ HyperX Orbit S ก็จะเป็นแบบเสียบสายแบบเดียวกับ JBL Quantum One มีซาวด์การ์ดในตัว ไม่มีระบบ Wireless และ Bluetooth รวมถึง Noise Cancelling ดอกลำโพงหูฟัง หรือ Driver ก็มีความแตกต่างอยู่โดยจะใช้ Planar magnetic ซึ่งให้โทนเสียงที่แตกต่างอยู่พอสมควร นอกจากนั้นก็มี Software มาให้ใช้งานเหมือนกัน ซึ่งจะรองรับทั้งระบบเสียงแบบ 7.1 และ ระบบเสียง 3D ซึ่งหลักการทำงานจะเหมือนกัน JBL Quantum One เลยครับ
ในส่วนของโทนเสียง จะให้เสียงย่านเบสที่มีเนื้อ มีหนังมากกว่า ติดโทนนุ่ม ฟังสบาย เสียงนักร้องให้โทนที่หนาอิ่ม ฟังสบาย โดยที่ตำแหน่งของนักร้องจะอยู่ระดับเดียวกับชิ้นดนตรี เสียงกลางแหลมก็ยังคงให้รายละเอีดยเสียงชิ้นดนตรีได้อย่างชัดเจนอยู่เหมือนเดิม เสียงปลายแหลมนั้นก็สามารถทอดตัวได้ไกล แต่ว่ามีลักษณะหัวมลฟังได้นาน ไม่ล้าหู เวทีเสียงขนาดใหญ่ แต่มีลักษณะที่โอบล้อม ตำแหน่งของชิ้นดนตรีก็สามารถแยกออกได้อย่างชัดเจน ไม่มีการทับซ้อนกันแต่อย่างใดครับ โดยรวมแล้วจะเหมาะกับการเล่นเกมแนว เนื้อเรื่อง มากกว่านะครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 2
loseman
14/12/2020 15:09:21
0
เป็นประโยชน์ในการตัดสินใจมากๆครับ ขอบคุณครับคุณ Win Paragon
เป็นประโยชน์ในการตัดสินใจมากๆครับ ขอบคุณครับคุณ Win Paragon
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ตอบกระทู้ :
"ขอข้อมูล jbl quantum 800 vs jbl quantum one vs hyperx orbit s"
รายละเอียด :
ชื่อ :
รหัสความปลอดภัย :
ตกลง
ตั้งค่าใหม่
แจกหูพิเศษ :
แจ้งลบกระทู้ / ข้อความ
สาเหตุ :
โพสที่แจ้งลบ
แจ้งโดย
เหตุที่แจ้ง
สถานะ