มีถุงใส่เเค่นี้ หมดเเล้วในกล่อง

สายรวมๆ ขนากไม่ใหญ่ เคลื่อนที่ไปใช้นอกบ้านได้สะดวกสบายเหมือนสายสต๊อก 

ตัวสายน้ำนักเบา สายนิ่มมาก ไม่มีเสียงรบกวนเวลาสายสัมผัสกับเสื้อ

ตัวเเจ๊ก ตัวเเยกสายสวยงาม ความละเอียดของงานก็พื้นๆ ตามราคา

สายสวยงาม เกิน 1 ปี ไม่รู้จะเขียวหรือเปล่า

เสียงเบื้องต้นยังไม่ได้เบิร์น

เสียงเเปลกเเฮะ ไม่ได้ใส สว่าง เเบบที่ควรจะเป็นเงิน (คือคิดว่ามันน้อยกว่าคาด) เสียงไม่ได้คม หรือ สด เเต่กลับเรียบ เป็นธรรมชาติ (งงเด้)

เบส มีเป็นลูกๆ

กลางเเหลม มันเรียบๆ ไม่ได้ สว่ง คม หรือ ใส รายละเอียดปลายเสียงมีพอให้สัมผัสได้นิดหน่อย เสียงมีน้ำหนักดี 

ลองเผาดูก่น เพื่อจะดีขึ้น สัก 100 ชั่วโมงน่าจะอยู่มั้ง

เบิร์ไปได้ประมาณ 50 ชั่วโมง คงพอแค่นี้

เราคงไม่สามารถรีวิวจริงๆ จังๆ ได้เพราะ ผู้รีวิวมีอคติในใจที่ไม่สามารถลบได้ นั่นคือ ผู้รีวิวตั้งธงเสียงของ Pure Silver (พูดง่ายๆคือ ความคาดหวัง) แต่มันออกมาอีกเเบบ

จุดเด่น

จะว่าไป จุดเด่นที่ฟังออกได้ชัดเจนเลยคือ

1 เสียงดังขึ้น และมีความคมชัดสูงขึ้น (ในระดับหนึง)

2 มิติเสียงกว้างขึ้น

เสียงที่ดังขึ้น มันอาจช่วยเรื่องหูฟังที่ความต้านทานสูงๆ ไม้ต้องเปิดดังมาก เเต่ที่สำคัญคือ รู้สึกว่าเสียงมีลักษณะที่ Full Body ฟังเเล้วเต็มอิ่ม (ความรู้สึกเหมือนฟังลำโพงบ้าน)

รายละเอียดต่างๆ ที่ควรจะมีมันก็มี แต่อย่าลืมว่า มันเป็นสายที่ต่ำกว่า 1000 พูดตรงๆ คุณภาพเมื่อเทียบกับ สายราคาเกิน 1000 ยังเป็นรอง

แต่ในเเง่การฟังเพลง มันครบ และ กำลังดี ไม่มากไม่น้อยเกินไป ฟังเพลงได้เพลินๆ แต่ถ้าเอาระดับ Audiophile เเยกรายละเอียดได้ชัดเจน รูปทรงเครื่องดนตรีชัดเจน อันนี้ต้องเพิ่งเงิน ขยับไปในรุ่น หรือ ยี่ห้อที่ราคาสูง ราคาระดับนี้ ทำไม่ได้เเน่นอน

สายนิ่ม ไม่ใหญ่โต ราคาไม่เเพง ใช้เเทนสายสต๊อก ได้ดีทีเดียว
----------------------------

จุดด้อย

เท่าที่ฟัง มันให้ทุกๆด้านในระดับที่พอดี สิ่งที่ควรจะมีมันก็มี แต่คูณภาพไม่ได้สูงมาก หรือ ชัดเจนเด่นล้ำเเบบสายราคาเเพง ก็เลยไม่ณุ้ว่าจะยกตัวอย่างอย่างไร การที่ไม่มีจุดเด่นที่ชัดเจน อาจถือว่าเป็นจุดด้อยก็ได้มั้ง

อ่อ จุดด้อยอีกข้อน่าจะเป็นตัวคล้องหู มันม้วนๆยังไงพิกล ไม่สะดวก (หรือว่าอันที่เราได้ มันด้อยคุณภาพหว่า)

OSTRY KC09

หูฟังตัวนี้เเพง ซื้อมาฟังได้ไม่นาน ก็โยนเข้ากล่องไป ถึงเเม้ว่าจะลองสายเเบบ Silver Plated 16 cores หรือ ทองเเดงล้วน 8 cores ก็ยังไม่ค่อยโดนเท่าไหร่

พอมาลองกับ TRN T3 ทางด้าน Soundstage กว้างขึ้นอีกนิดหน่อย ไม่ได้เด่นอะไร เสียงมีน้ำหนัก เเละ ดังเพิ่มขึ้น รู้สึกว่านี่เเระ กำลังดี (เเต่ถ้าเทียบกับ Silver Plated 16 cores ตัวเก่ง เสียงจาก 16 เเกนจะเบากว่า คุณภาพเสียงสูงหว่า แต่ความรู้สึกมันยังมาไม่เต็ม)

เอาเป็นว่าในที่สุด OSTRY KC09 กลับมาใช้งาน ไม่ต้องอยู่ในกล่องเเระ (ทำมัยออกมาช้าเเบบนี้ ทำให้ต้องไปเสียเงินกับ หูฟังอีกหลายตัว)

SENFER DT06 and SENFER DT06 PRO

รุ่นนี้ก็เป็นหูฟังที่ Soundstage ไม่กว้างประมาณว่าอยู่ในศรีษะ ถึงเเม้ว่าจะเปลี่ยนสายอัพเกรด ก็ไม่ดีขึ้น

นอกจากนี้เเนวเสียงจะออก เเนวดาร์ก สาย Sliver Plated กับ สายทองเเดงก็ไม่ค่อยช่วยอะไร

พอเปลี่ยนมาเป็น TRN T3 เรื่องของ Soundstage ก็กว้างขึ้นในระดับหูฟังทั่วๆไป คือ ออกมาบริเวณรอบศรีษะได้

ส่วนเสียงที่ออกเเนว ดาร์ก ก็ต้องบอกว่า มันไม่ได้ ใสหรือสว่างขึ้น ตามสไตล์ Pure Silver เเต่บอกได้เเค่ว่ามันไม่รู้สึกว่าเสียง ดาร์ก เเล้ว

ส่วนรายละเอียด รุ่นนี้ไม่ค่อยดีนัก เพราะถ้าไปดูจากกราฟ มันกดความถี่พอควร เเต่หลังจากลอง TRN T3 แล้ว มันดีขึ้น แต่คิดว่ามันดีขึ้นจากเสียงที่มันโปร่ง และ ดังขึ้น เลยทไให้รู้สึกว่ารายละเอียดมันดีขึ้น

เอาเป็นว่า ทำมัยถึงเพิ่งออกมา ไปเสียเงินซื้อตัว DT6 Pro ที่อัพเกรด ออกมาเร็วกว่านี้ก็ไม่ต้องเสียตังค์เเระ

อ๊ะ ลืมรูป 

อย่างไรก็ตาม ถึงเเม้ว่าจะพึงพอใจ แต่ก็เล็งๆ สาย OHFC ของ Nicehck อยู่

ราคาเคลียร์เเล๊นซ์ปลายปี จาก 50 เหรียญ เหลือ 18 เหรียญ ใครจะอดใจทดลองได้

เดี่ยวสอยเเล้ว จะมาเล่าให้ฟัง 

จริงๆเเล้วอยากได้สาย UPOCC ซึ่งราคาเริ่มลดลงมาเเล้ว คิดว่ารออีกสัก 2 - 3ปี ช่วงโปร ราคาน่าจะหล่นเหลือไม่เกิน 30 เหรียญ

เคยคัน อยากลองเหมือนกันแต่ตอนนี้ใช้แต่ TWS เลยไม่รู้จะซื้อมาทำไมละ 55