เห็นด้วยกับประเด็นนี้ครับ ผมเลยเก็บเฉพาะ CD 16 bit แล้วมาริปเป็น wav เอา เพราะไม่รู้จะหา 24 bit ที่เป็น Master เดียวกันจากไหน Sheffield Lab ก็ไม่ย่อมปล่อย File Studio Master ของป้า Clair Marlo ออกมาขายสักที จะได้ฟังเทียบกันจะๆ ว่าจะต่างกันมากมายแค่ไหน
สุดท้ายผมก็เลยต้องฟังจากไฟล์ wav ที่ริปจาก CD จนทุกวันนี้
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 17
hvk
10/10/2014 22:53:08
11
จริงๆมันมีเรื่อง Marketing ด้วยครับ ไม่นับไฟล์หรือค่ายที่ทำออกมาเป็น 24 bit แท้ๆนะครับ คือเพลงทุกเพลงบนโลก ถ้าทำมาเป็น format audio cd มันจะเป็น 16 bit ทั้งหมดนะครับ ไม่ว่าปกจะเขียนว่า 24 32 64 บิตก็ตาม บิตที่ปกที่มากกว่า 16 bit มันคือความละเอียดของไฟล์ที่เค้าใช้ทำ mastering ครับ ไม่ใช่ไฟล์ที่อยู่ใน Audio cd
จุดนี้ถ้าคำนึงปัจจัยทั้งหมด จะพบความจริงว่า ที่แผ่นซีดีปั๊มต่างๆปีต่างๆ เสียงต่างกัน เพราะการทำ mastering ที่ต่างกันครับ เอาอัลบั้มที่คนฟังกันบ่อยๆหรือเห็นบ่อยๆ grover washington - winelight / Dave brubeck - Time out / Bellafonte - Carnegie hall หรือว่า Eagle - Hell Freeze Over ออกมาหลายชุด 16 บิตเหมือนกัน เสียงต่างกันฟ้ากับเหวครับ
ดังนั้น bit มันไม่ได้บอกครับว่าจะต่างไม่ต่าง ไม่งั้น time out ทุกตัวที่เป็น 16 bit เสียงต้องเหมือนกันทุกคัวครับ เรื่องเสียงในซีดี มันไม่ได้เข้าใจยากครับ แต่ต้องเข้าใจว่าอะไรทำให้คุณภาพมันต่าง คล้ายๆกับคุณขับรถอะครับ จำนวนบิต เปรียบได้เหมือนแรงม้า คุณจะบอกว่า รถสองคัน แรงม้าเท่ากัน วิ่งลื่น นุ่ม เร็ว ได้เท่ากัน มันไม่ได้ครับ มันมีองค์ประกอบอื่นด้วยครับ การทำเพลงก็เช่นกันครับ รถมีแรงบิด น้ำหนัก ความต้านลม เสียงก็มีเทคนิคการวางไมค์ อครูสติกของห้อง คุณภาพของไมค์ที่ใช้อัด ต่างๆนาๆ เป็นตัวประกอบครับ ไม่ใช่เห็นบิตเยอะกว่าแล้วจะเสียงดีกว่าเสมอไปครับ ฉนั้นบริโภคอย่างฉลาดครับ
จริงๆมันมีเรื่อง Marketing ด้วยครับ ไม่นับไฟล์หรือค่ายที่ทำออกมาเป็น 24 bit แท้ๆนะครับ คือเพลงทุกเพลงบนโลก ถ้าทำมาเป็น format audio cd มันจะเป็น 16 bit ทั้งหมดนะครับ ไม่ว่าปกจะเขียนว่า 24 32 64 บิตก็ตาม บิตที่ปกที่มากกว่า 16 bit มันคือความละเอียดของไฟล์ที่เค้าใช้ทำ mastering ครับ ไม่ใช่ไฟล์ที่อยู่ใน Audio cd
จุดนี้ถ้าคำนึงปัจจัยทั้งหมด จะพบความจริงว่า ที่แผ่นซีดีปั๊มต่างๆปีต่างๆ เสียงต่างกัน เพราะการทำ mastering ที่ต่างกันครับ เอาอัลบั้มที่คนฟังกันบ่อยๆหรือเห็นบ่อยๆ grover washington - winelight / Dave brubeck - Time out / Bellafonte - Carnegie hall หรือว่า Eagle - Hell Freeze Over ออกมาหลายชุด 16 บิตเหมือนกัน เสียงต่างกันฟ้ากับเหวครับ
ดังนั้น bit มันไม่ได้บอกครับว่าจะต่างไม่ต่าง ไม่งั้น time out ทุกตัวที่เป็น 16 bit เสียงต้องเหมือนกันทุกคัวครับ เรื่องเสียงในซีดี มันไม่ได้เข้าใจยากครับ แต่ต้องเข้าใจว่าอะไรทำให้คุณภาพมันต่าง คล้ายๆกับคุณขับรถอะครับ จำนวนบิต เปรียบได้เหมือนแรงม้า คุณจะบอกว่า รถสองคัน แรงม้าเท่ากัน วิ่งลื่น นุ่ม เร็ว ได้เท่ากัน มันไม่ได้ครับ มันมีองค์ประกอบอื่นด้วยครับ การทำเพลงก็เช่นกันครับ รถมีแรงบิด น้ำหนัก ความต้านลม เสียงก็มีเทคนิคการวางไมค์ อครูสติกของห้อง คุณภาพของไมค์ที่ใช้อัด ต่างๆนาๆ เป็นตัวประกอบครับ ไม่ใช่เห็นบิตเยอะกว่าแล้วจะเสียงดีกว่าเสมอไปครับ ฉนั้นบริโภคอย่างฉลาดครับ
1. Linda Ronstadt - What's New ของ HDtrack
2. Anne Sophie Mutter - Carmen Fantasy ของ DG/HDtracks
3. Arne Domnérus - Jazz At The Pawnshop ของ FIM first impression music เป็น SACD ครับ
4. Miles Davis - Kind of Blue ของ Mobile Fidelity เป็น SACD ครับ
5. Count Basie - At the Sands: Before Frank ของ Mobile Fidelity เป็น SACD ครับ
1. Linda Ronstadt - What's New ของ HDtrack
2. Anne Sophie Mutter - Carmen Fantasy ของ DG/HDtracks
3. Arne Domnérus - Jazz At The Pawnshop ของ FIM first impression music เป็น SACD ครับ
4. Miles Davis - Kind of Blue ของ Mobile Fidelity เป็น SACD ครับ
5. Count Basie - At the Sands: Before Frank ของ Mobile Fidelity เป็น SACD ครับ