คห.ส่วนตัวอย่างน้อยต้อง 125e ไม่ก็ข้ามไป 225e ไปเลย ประมาณนี้ครับ

sr225eจบที่ตัวนี้ได้เลยช่วงนี้มีโปรลดเหลือแค่6,600

สอบถามอีกนิดครับ 225e นี่แหลมคมไปจริงปะครับ ตอนนี้ที่เล็งๆไว้คือ 80,125,225 ความจริงอยากไปลองฟังที่ร้านแต่ช่วงนี้มี covid นี่สิ

เรื่องเสียงแหลมคม อันนี้แล้วแต่คนครับ อย่างผมฟังมันนานๆไม่ได้ แต่กับคนอื่นก็เป็นหูฟังประจำกายของเขาเลย

เท่าที่เคยฟังก็แหลมคมพอๆกัน แต่ 125 และ 225 ใช้ไดรเวอร์รุ่นสูงกว่า 80 ครับ และวัสดุประกอบของ 225 ดีที่สุดในสามตัวนี้ครับ

ถ้ารอไม่ไหวจะซื้อโดยไม่ฟัง 225 เป็นตัวที่คุ้มที่จะลงทุนครับ แต่จริงๆอยากให้ลองฟังก่อนมากกว่า

อยากถามว่าตัวไหนขับง่ายสุดครับ สำหรับแบรนด์นี้ อยากได้ตัวที่ เสียง balance หน่อยครับ

225e คือคำตอบของกระทู้นี้ครับ

สารพัดประโยชน์สุดๆ  ดูหนัง  ฟังเพลง  เล่นเกมส์ยังได้

ถ้าเคยฟัง Grado มาก่อนบ้างแล้ว น่าจะพอรู้คร่าวๆว่า Grado เสียงมาโทนไหน และถ้าชอบสไตล์แล้ว เวลาจะเลือกจริงๆ ผมอยากให้เลือก Grado SR225e ครับ

เพราะเป็นตัวที่อยู่ตรงกลางจริงๆของรุ่น Pretiege ราคาก็กลางๆ ไม่แพงจนจับต้องไม่ได้ แต่เสียงนี่ดีระดับทิ้งกับตัวแพงไม่ถึงกับห่างหรือขาดลอยครับ

 Grado เสียงนั้นจะมีโทนเสียงคล้ายๆกัน แต่อัพเลเวลไปทีละนิดทีละหน่อยตามความสูงของรุ่นไปเรื่อย แต่ไม่ได้หมายความว่ารุ่นท็อปสุดทิ้งขาดรุ่นน้องแบบห่าง อันนี้ไม่เป็นแน่นอนครับ

ถามเพิ่มอีกนิดครับ sr225e กับ ms1e เสียงร้องผู้ชาย ใครทำได้ดีกว่างับ 

พอๆๆกันครับ แต่ถ้านักร้องหญิง MS1e ทำได้ดีกว่านิดนึงครับ ปลายแหลมมันให้รายละเอียดมากกว่า(จริงๆคือเยอะกว่า) เวลาฟังเสียงสูงจะได้ยินครบย่านมากกว่าครับ

ขอบคุณพี่ๆทุกคอมเม้น รวมถึงเฮียมั่นด้วยครับ -/\- มีแววจะได้ 225 ครับ

เพิ่งรู้ว่า MS ย่อมาจาก Music Series ตอนที่กล่องส่งมาถึงวันนี้ 55 ผมว่าจะเลิกเข้ากระทู้ที่มีคำว่า grado 55

MS1e กับ MS1 Retro แตกต่างกันยังไงบ้างครับ

MS1e ย่านเสียงแหลมเค้าจะใสเคลียร์กว่า มีเบสที่กระชับขึ้นเล็กน้อย แต่ MS1 Retro บอดี้จะแบนทำให้เสียงอิ่มขึ้นเนื้อเบสออกมากขึ้นจังหวะจะช้ากว่า MS1e นิดๆครับ แต่โดยรวมถือว่าฟังง่ายและเสียงหวานทั้งคู่เลยครับ

ความต่างประการแรกคือที่ตัวถ้วยพลาสติก หรือ Housing ครับ ตัว Retro ก็คือถ้วยพลาสติกหน้าตาเก่าเมื่อสิบกว่าปีก่อน ส่วนตัวใหม่หน้าตาใหม่กว่า(แต่ก็หลายปีเหลือเกินแล้ว 555)

อีกประการที่ทำให้เสียงต่างกันบ้างก็คือการพันลวดวอยซ์คอยส์ครับ ค่าย Grado เค้ามีเทคนิคตรงนี้ซึ่งไม่มีใครทราบ การพันด้วยลวดที่คุณภาพต่างกัน การพันลวดด้วยจำนวนรอบที่ต่างกัน และการพันด้วยลวดที่ขนาดแกนไม่เท่ากัน พวกนี้ทำให้เสียงต่างกันทั้งหมดครับ

เห็นกระทู้ https://www.head-fi.org/threads/huge-comparison-of-almost-all-grado-headphones-post-your-own-comparisons-here-thanks-giogio.808325/
เปรียบเทียบกันแบบนี้เชื้อถือได้มั้ยคับ

ไม่มีรุ่น 225e (รุ่นไม่มีรหัส รุ่น i และรุ่น e เสียงต่างกัน คงจะเอามาอ้างอิงแทนกันไม่ได้)
แต่อ่านที่เขาเทียบ Sr80e กับ Sr125e ก็ตรงอยู่นะครับ แต่ไม่รู้ว่า 125e กับ 125 ดั้งเดิมเทียบกันตรงรึเปล่า

ที่เคยฟัง
Sr80e เบสจะมาไวไปไวกว่า 125e รวมถึง 225e ด้วย ทำให้โทนเสียงจะออกโปร่งๆ ปลายแหลมใส เสียงจะออกแนวแหลมนำ ตามด้วยนักร้อง และเบสจะอยู่แถวๆด้านหลังของเวทีเสียง ประมาณว่าให้นักร้องกับมือกีต้าห์เฉิดฉายเต็มที่ ส่วนเบสกับกลองจะคุมจังหวะด้านหลังให้เอง
Sr125e เบสจะมีมวลและความลึกมากขึ้นกว่า 80e แต่ไม่ได้เพิ่มเติมย่านแหลมมากนัก ทำให้โทนเสียงสุขุมกว่า 80e และ 225e ด้วย
Sr225e ตัวนี้เสียงสมดุล มีทั้งแหลมที่ใสและให้รายละเอียดดี เบสที่มีมวลมีรายละเอียด เสียงกลางก็ชัดเจนไม่ถอยไปข้างหลังมาก อิมแพคแรงปะทะก็ดีทำให้ฟังได้สนุก เป็นตัว Overall ที่ดีเลย

Grado แต่ละรุ่นมันจะมีเอกลักษณ์ในแบบของมันอยู่ด้วยนะครับ

ถ้าเอกลักษณ์เด่นของมันตรงใจเรา  รุ่นอื่นๆนี่แทบจะไม่ตรงใจเราไปเลยครับ  แม้รุ่นนั้นจะราคาสูงกว่า  หรือมีเบสที่ดีขึ้น  กลางดีขึ้น  แหลมดีขึ้นก็ตาม ครับ

ตามที่ผมสังเกตุและลองฟังมา คือ บาลานซ์ของเสียงแต่ละย่านมันจะไม่ค่อยเท่ากันในแต่ละรุ่นครับ  อย่าง 325e นี่ ตอนลองฟังมันก็ดีกว่า 225e ทุกย่านเลยนะครับ  แต่ที่ผมไม่ชอบ 325e เพราะขนาดเบสที่ใหญ่โตมโหฬารเกินไปของมัน  พอลอง PS500e เสียงสมดุลดีทุกย่าน  แต่ดันมาทำให้ผมเคืองตรงที่รายละเอียดย่านแหลมเยอะจนแหลมแตกปลาย  ฟังแล้วคันแก้วหูยิบๆเลย

ทุกวันนี้ก็เลยยังอยู่ที่ SR225e ไม่ไปไหน  เพราะยังหาตัวที่โดนใจกว่าไม่ได้ มีแค่ตัวที่ผมให้เสมอคือ Koss KSC 35 ครับ  ครบเลยทั้งตัวอยู่กับที่และตัวพกพา

SR225e ใช้ dac/amp อะไรครับ ถึงได้เสียงแบบนี้ครับ ขอบคุณมากครับ 

ต่อตรง iPhone กับ Macbook Pro Early 2015  ครับ