อยากถามเพิ่มอีกคำถามครับถ้าเพลงแนวแบบนี้เด็ดกว่านี้มีอัลบั้มไหนอีกไหมครับ

Comfortably numb
สุดเเล้วมั่ง โซโลกีต้า

เนื้อหาของแต่ละเพลงเป็นเรื่องเดียวกันไหมนี่ผมไม่แน่ใจ (หลายคนก็พยายามอธิบายให้มันเชื่อมโยงกัน) อย่างเพลง The Great Gig In The Sky ที่มีแต่เสียงดนตรีกับคนร้องโหยหวน มันก็แล้วแต่คนจะตีความ 

สิ่งที่เป็นเรื่องเดียวกันในอัลบั้มนี้คือทำนองและเทคนิคที่ใช้ต่าง ๆ มากกว่า ที่ทำให้เพลงทั้งหมดมันต่อเนื่องและรวมเป็นหนึ่งเดียวกันจนเป็นตำนาน

สำหรับผมที่สุดของ Pink Floyd คือ อัลบั้ม Wish You Were Here เป็นหนึ่งเดียวกันทั้งเนื้อหาและทำนอง 

นอกนั้นจะมีอัลบั้ม Meddle, Animals แล้วก็ The Wall ที่คนมักจะพูดถึงกันอยู่เสมอ 

อีกหนึ่งอัลบั้มที่น่าสนใจ คือ อัลบั้มแรก The Piper at The Gates of Dawn ที่มีทำนองต่างจากอัลบั้มอื่น ๆ ทั้งหมด เพราะมือกีต้าและคนร้องนำ คือ Syd Barrett (ก่อนที่ต่อมาจะเปลี่ยนเป็น David Gilmour)

ผมชอบเพลง Time นะครับเจ๋งดี
https://youtu.be/JwYX52BP2Sk

เหมือนจำได้คร่าวๆ ว่า concept ของเพลง ถูกกำหนดทิศทางโดย Roger waters และมาเบ็ดเสร็จในอัลบั้ม final cut ที่สมาชิกที่เหลือ ทนอัตตาของพี่โล่แกไม่ไหว เลยขอแยกทางกัน
แต่อัลบั้มที่ concept ของเพลง และภาคดนตรี ถูกใจตลาดมากที่สุด ก็ชุด The Wall

แต่อัลบั้มที่ติดอันดับ top 100 นานที่สุดในโลก ก็ต้องเป็นอัลบั้มที่ จขกท. ว่ามานั่นล่ะครับ

ผมชอบ Pink Floyd แต่ไม่เชี่ยวชาญครับ 55

คือสมัยก่อนอาศัยอ่านจากหนังสือที่มีนักเขียน(ไทย)เขียนให้อ่านกัน ดนตรีของ Pink Floyd มีความเป็นเอกลักษณ์สำหรับแนว Progressive Rock ซึ่งสมัยก่อนจำได้ว่ามีวง Yes อีกวงที่เป็นแนวแบบคล้ายๆกัน Pink Floyd จริงๆ Pink Floyd มีหลายอัลบั้มที่น่าสนใจมากครับ เพียงแต่อัลบั้ม Dark Side นั้นได้จังหวะสำหรับคนส่วนใหญ่พอดี จึงกลายเป็นอัลบั้มที่ทุกคนต้องฟัง

คอนเซปท์ของอัลบั้มส่วนใหญ่ได้อิทธิพลทางความคิดจาก Roger Waters แต่ถ้า Pink Floyd ไม่มีกีตาร์โซโล่ของป๋า Dave Gilmour ก็ไม่ใช่ Pink Floyd เช่นกัน ส่วนแรงบันดาลใจว่าทำไมต้องเป็นอัลบั้ม dark side เหมือนผมจะเคยเห็นเขียนอยู่เหมือนกัน เดี๋ยวจะลองช่วยค้นมาให้ครับ^^

ปูเสื่อรอครับ

Dark side of the moon ถูกโปรดิวส์โดย Alan parsons ครับ ถ้าชอบโทนนี้  ลองฟัง Alan parsons project
เทคนิคการบันทึกเสียง ความพิสดารของเสียงทุกเสียงจะมาจากความสามารถของ Alan parsons ครับ เพราะเขาเป็น sound engineer ที่เล่นดนตรีเป็นด้วย


ความเห็นส่วนตัวนะครับ
คุณภาพเสียง คุณภาพการบันทึก ในยุคแรกๆจะงั้้นๆ ออกไปทางธรรมดาไม่มีอะไรให้ติดหูหรือมีแนวโน้มจะดังเลย  คงเพราะยังไม่เจอกับ sound engineer คนนี้ครับ  พอผ่านมือ alan ไป ทุกอย่างเหมือนยกระดับขึ้นจนกลายเป็นอัลบั้มไม่ธรรมดา อาจจะเป็นยุคสมัยที่เครื่องมือดีขึ้นเรื่อยๆด้วย  เพราะ Pink floyd อยู่ในวงการนานและผ่านยุคสมัยด้วยความคิดสร้างสรรค์(ไม่รู้เพราะยาเสพติดรึเปล่า) กับพัฒนาเทคนิคการแสดงสด เทคนิคการบันทึกเสียงระดับปฏิวัติวงการ  ทุกวันนี้เรามีเวทีคอนเสริตที่อลังการเพราะการริเริ่มของวง pinkfloyd ครับ

ไว้จะหางานของ Alan parsons มาฟังครับ
ชอบรูปแบบนี้ฟังแล้วมันเรื่อยๆดี บางครั้ง
ไม่มีคำร้อง ทำให้ไม่ต้องตีความหมายเหมือน
ฟังเพลงบรรเลงแต่่ มันดูมีสีสันกว่า

งานของ Alan Parsons ที่ฮิตในวงกว้างก็คืออัลบั้ม Eye in the sky ลองฟังตั้งหลักจากอัลบั้มนี้ก่อนได้เลยครับ^^

ในฐานะคอเพลง Progressive Rock ขอมาแวะแบ่งปันข้อมูลครับ \m/.
อัลบั้ม Dark Side Of The Moon ถือเป็นจุดที่เริ่มเข้าที่สำหรับ Pink Floyd ครับทั้งในแง่ดนตรีและ sound production เพราะได้ sound engineer เทพ Alan Parsons มาช่วย จำได้ว่าสมัยเด็กๆ ยุค 80s - 90s ก็เห็น album นี้ค้างติดอันดับยอดขายใน Billboard 200 เป็นสิบๆ ปี (ต้องเก็บความสงสัยมาจนโตพอที่จะไปซื้อเทป Peacock ที่สะพานเหล็กถึงได้ฟัง 555) เนื้อหารวมๆ พูดถึงความกดดันในชีวิต เพลงร้องที่เด่นๆ ก็ Time พูดถึงเวลาที่เดินไปไม่รอใคร Money ที่พูดเรื่องความโลภ และ Us and Them ที่พูดเรื่องการเมืองสงคราม และมีเพลงบรรเลงโชว์เสียงโหยหวน และเสียง effect แปลกๆ ตามแนว Progressive

ถ้าชอบ Dark Side แนะนำให้ฟัง Wish You Were Here ต่อครับ แล้วให้ไปจบที่ The Wall (สามารถข้าม Animals ได้) เป็นเหมือนหนัง Trilogy เลย 555

สำหรับมือใหม่อยากลองฟัง Pink Floyd ผมแนะนำให้เริ่มที่อัลบั้มรวมฮิต Echoes The Best of Pink Floyd ครับ อัลบั้มนี้มีความพิเศษที่เหนือกว่ารวมฮิตอื่นๆ ตรงที่เค้าเรียงเพลงด้วยอารมณ์สอดประสานต่อเนื่องทั้งอัลบั้มสองแผ่นและเสียงดีมากครับ มีบางเพลงจากอัลบั้มแรกๆ ที่ sound โบราณและออกแนว phychedelic ก็อยากให้เปิดใจ หรือจะกดข้ามก็ไม่ว่ากัน

ทุกอัลบั้มหาฟังได้ใน Tidal และ Spotify ขอให้มีความสุขกับ "การดำดิ่ง" ครับ :)

จุดขายจุดหนึ่งของดนตรี Pink Floyd ที่ผมรับรู้คือ
อรรถรสทางดนตรี ที่ไม่ได้เน้นเรื่องเทคนิคการบรรเลงที่แพรวพราวแบบวงสมัยใหม่
(ที่มักอ้างว่า ตัวเป็น Progressive Rock) 
หรือ ภาคดนตรีที่ซับซ้อนมาก เช่น เปลี่ยน Timing ของเพลง หรือ Pattern
แตเป็นการเลือกเสียง และ จังหวะ รวมไปถึงเสียงประกอบที่ลงตัว
ผ่านการคิดมาอย่างลงตัว มุ่งให้ดนตรีเป็นส่วนหนึ่งของจินตนาการของคนฟัง
เป็นองค์ประกอบที่ลงตัวอย่างที่สุดครับ

ในความเห็นผม การที่ได้ David Gilmour มาเป็นมือกีตาร์
เป็นความลงตัวมาก ๆ ที่สุดครับ
สำหรับเจ้าพ่อมือกีตาร์ สายควบคุม ซึ่งหายากมาก ๆ ในสารบบนักกีตาร์
จะมีใกล้ ๆ กัน แต่คนละแนว ก็คือ Jeff Beck อีกคน

Alan Parsons  เป็น Producer / นักดนตรีที่เก่งมากจริงครับ

แต่แกไม่ได้โปรดิวซ์ Dark side นะครับ พวกน้าๆวงแกโปรดิวซ์กันเองครับ

ในชุดนี้ Alan เป็น Recording Engineer ให้ครับ
(งานประจำ ณ ตอนนั้นที่ Abbey Road Studio ก่อนผันตัวเป็นศิลปินซะเอง)

แต่ก็นั่นแหละ แกก็เป็น Sound Engineer ที่เก่งมากครับ

นี่เป็นเพลงที่ Michael Jordan Chicago Bull ทีมบาสในดวงใจผมใช้เป็น Intro ก่อนแข่ง
เพิ่งรู้วันนี้เลยครับเฮีย

เพลง Time ของ Alan Parsons Project นี้พอได้ฟังกันแล้วรับรองแฟนๆของ Pink Floyd ต้องรู้สึกชินหูกับทำนองแบบนี้แน่นอนครับ 555