มาเเบบพื้นๆ เลย ไม่มีกล่อง ไม่มีสาย USB

มีแค่ตัวเครื่อง กับ หม้อเเปลง

สาย USB ต้องไปถอดเอาสาย Printer มาใช้

.

.

.

ได้แค่นี้ ยังดีที่ตัว Sampling ยังจัดได้เต็ม 

ES9018Q2M VS ES9038Q2M

ต้องยอมรับว่า ES9038Q2M ให้รายละเอียดเสียง มิติเสียง เนียน และ กระจ่างกว่า ES9018Q2M เยอะพอควร

เสียง อันนี้ต้องบอกว่า Audio Chip แต่ละตัวเสียงไม่เหมือนกัน แล้วแต่ชอบ คงไม่มีอะไรดีกว่ากัน จุดพลิกผันของเสียงอยู่ตรง Audio Chip นี่แระ

Muses8920 ที่ติดมากับเครื่อง แท้ ปลอม ไม่รู้แระ แต่เสียงดีเเฮะ ยังไม่ผ่านการเผา เสียงเเรกๆ ดูเหมือนจะ คมๆ แข็งๆ อยู่เหมือนกัน

ก็ตามสไตล์ DAC ตั้งโต๊ะ เสียงดังโคตร ขับหูฟัง ดังลั่นเลย น่าจะเหมาะกับ เอาไปขับพวกเครื่องเสียงบ้านมากกว่า 

(ยังไม่ได้ลอง มีของหลายชิ้น สั่งไปตั้งแต่ 11.11 ยังมาไม่ถึงเลย สงสัยศุลกากรไทย กั๊กใว้)

พวกที่สั่ง หลังเทศกาล มาถึงหมดเเระ

ขอเวลา เบิร์น ก่อนเเระกัน 

ใครอ่านรู้เรื่องช่วยสรุปให้หน่อยว่าโดนหลอกยังไง?

ที่โดนหลอกคือ ในหน้่าเว๊ป มันบอกว่า suport pcm 32 bit 

เลยตัดสินใจซื้อ พอมาใช้จริง มันได้แค่ 24bit ถ้ารู้ว่าได้แค่ 24bit ก็ยังไม่ซื้อหรอก

เขียนไปถามที่ร้าน มันบอกว่า ลืมแก้บนหน้าเว๊ป แถมมาขอบคุณเราอีกที่บอก - เซ็งไปเลย

จะเอาdacที่support32bitแล้วจะไปหาไฟล์32bitจากไหนมาเล่นอยากให้เสียงดีไม่ยากถอดสายprinterทิ้งก่อนเลยต่อให้dacเทพขนาดไหนก็เสียงห่วยได้ถ้าเอาสายprinterมาใช้

เรื่องสาย usb เห็นด้วย แต่ dac ราคาเท่านี้ใช้ของแพงๆมันคงไม่คุ้มหรอกมั้้้้้้งครับ

เคยลองกะตัวเอง สาย printer กะสาย usb belkin ห่างกันเยอะ ไม่ต้องสายแพงๆ แค่ belkin ฝรั่ง รีวิวไว้เยอะ ถูกและดี 

สายprinterที่แถมมากับprinterคือสายที่ใช้วัสดุเกรดห่วยสุดเท่าที่จะหาได้เพื่อลดต้นทุนให้ต่ำที่สุดเพราะprinterมันไม่ได้ส่งข้อมูลอะไรมากมายเอาแค่printเอกสารแล้วtextมาครบก็จบแล้วถ้าเอามาใช้กับdacเสียงมันย่อมห่วยแตกเป็นธรรมดาหรืออาจถึงขั้นdacผลุบโผล่ๆหายไปจากcontrol panelดื้อๆต้องถอดๆเสียบๆอยู่เรื่อยๆก็ไม่ต้องแปลกใจ

ลองเปลี่ยนเอา MUSES02 มาลอง เเทนที่ 8920

อืมส์ รักพี่เสียดายน้อง

เวลาฟัง 8920 ก็คิดถึงเสียงนุ่มๆ ฟังสะบายๆ ของ MUSES 02

เวลาฟัง MUSES 02 ก็คิดถึง ความชัดเจน และ กระเเทกกระทั้นของ 8920

เฮ้อ ไม่มีความพอดีในชีวิต

8920 รายละเอียด การเเยกชิ้นดนตรีทำได้ดีกว่า MUSES02 เบสจะกระเเทกว่า แหลมจะใส กลางเนียน

MUSES02 จะนุ่มๆสไตล์ผู้ดีอังกฤษ เห็นมีฝรั่งบอกว่า ถ้าวงจรออกเเบบมาไม่เเมทซ์ เสียงจะติดขุ่นๆ เท่าที่ฟังๆ ก็มีนิดหน่อย ไม่สดใสเท่า 8920 มิติดูเหมือนจะเเคบกว่า 8920 นิดหน่อย 

สรุปแล้ว รักพี่เสียดายน้องจริงๆ 

ปัจฉิมลิขิต

ถึงแม้ว่าจะผิดหวังบ้างที่อ่านรายละเอียดสินค้าไม่ดีพอ แต่รวมๆ ก็ เกินความคาดหมาย

จุดเด่น

Chipset  ES9038Q2M  มีเทคโนโลยี new patented 32-bit HyperStream II architecture ที่มีอยู่ในรุ่นท๊อปเย่างตัว PRO และ เป็นชิพ ตัวเดียวกันที่อยู่ใน Dragonfly Cobalt

Audio Chip 8920 ไม่เลวเลยทีเดียว - เเต่ว่า แต่ละร้านที่ขายใช้ Audio chip ที่เเตกต่างกันไป แต่เท่าที่อ่านๆ ก็เป็นตัวท๊อปๆ เรื่องเสียงก็ไม่น่ากังวล เพียงแค่จะชอบมันหรือเปล่า

ราคา ถูกโคตร ไม่น่าเกิน 1800 บาท เหมาะสำหรับกระเป๋าเเบนเเฟนคลับ ไม่อาจทำใจจ่าย Cobalt ได้ ก็เป็นทางเลือก

จุดด้อย

ไม่ซัพพอร์ต 32Bit ทำให้ผิดหวัง แล้ว ด้อยไปนิด และ ไม่สนับสนุน DSD512

กำลังขยายแรงโคตร ใช้กับหูฟังความต้านทานต่ำๆ รู้สึกว่ามันดังไป และ กำลังขยายที่เเรง ปรับไม่ดี มันขยาย Noise Blackgroundในเเพลง ออกมาด้วย
------------------------------------

ดูจาก Road Map ดูเหมือนว่าทางค่อย ESS จะไม่มีโครงการออก DAC ตัวใหม่ที่คุณภาพสูงกว่านี้ (ค่าย AKM มีออกตัวใหม่ AK4990) แต่เท่าที่อ่านดูเหมือนว่าทั้ง 2 ค่ายจะหันไปพัฒนา DAC ชิพสำหรับ Moblie หรือ Audio Chip แทน คิดว่า ไม่น่าจะม่ตัวท๊อปมาแทนที่ ใน 3 - 4 ปีนี้ ไม่ต้องกลัวตกรุ่น

จริงๆ แล้ว อยากได้ AK4497 มากกว่า แต่ตอนนี้ราคายังเเพง มีแค่ AK4490 กับ AK4493 ที่ลดราคาลงมาไม่ถึง 2000 บาทเเล้ว แต่ก็เหมือนกัน ไม่สนับสนุน 32bit


 

สงสัยว่าอยากได้ 32 Bit ไปฟังกับไฟล์อะไรหรือครับ

เดาว่าคุณBanjobpaiน่าจะตั้งค่าให้มันupsamplingสูงสุดตลอดเวลา ฟังmp3 ก็upเป็น24bit/384khzเพราะเชื่อว่าเสียงมันจะดีขึ้น

ก็ใช้ฟังไฟล์เพลงทั่วๆไปนี่เเระครับ รวมถึง Internet Radio

เรื่องนี้อยากบอกว่า มันเป็นเรื่องเฉพาะบุคคล เหมือนให้แยกความแตกต่างระหว่าง เป๊บซี่ โคคาโคล่า และ เอส แน่นอนว่ามันมีคนที่สามารถ แยกความแตกต่างได้ และ เเยกไม่ได้ หรือ แยกได้แต่เเบบคลุมเคลือไม่ได้ชัดเจนนัก

การอัพ Bit Rate ให้สูงขึ้น มันฟังออกได้ลำบากกว่า การอัพ Sampline Rate

การอัพจากไฟล์ 16bit ไป 24bit หรือ 24bit ไป 32bit เอาจริงๆนะ ผมก็เเยกไม่ออก 

แต่ถ้าฝึกฝนการฟังในแบบ อัพ Bit Rate เป็น 32bit ไปช่วงระยะเวลาหนึง การลด bit rate ลงจาก 32bit มาที่ 24bit ไม่สามารถบอกได้ว่าเสียงเปลี่ยนไป แต่ถ้าพอเริ่มมีทักษะ จะ รู้สึก (รับรู้ได้ด้วยความรู้สึก) ว่าบางอย่างมันด้อยลงไป

ก็น่าจะเหมือนคนที่ชอบดื่มเป๊บซี่ ก็จะไปดื่มโค๊ก เพราะจะรู้สึกว่าบ้างอย่างมันไม่มี 
---------------------------

เรื่องนี้มันเป็นเรื่องของความสามารถเฉพาะตัว ถ้ามันคลุมเคลือ เหมือนการเเยกเป๊บซี่ แยกโคคาโคลา แยกออกก็รู้สึกได้ แยกไม่ออกก็ไม่มีผลอะไร 

เหมือนกับการฟัง DSD64 DSD256 DSD512 มีกี่คนที่แยกออก น้อยมาก

คนที่แยกไม่ออก ก็ต้องบอกว่าอะไรก็ได้ ส่วนคนที่แยกออก ก็จะบอกว่า DSD512 มีอะไรบางอย่างที่ DSD64 แสดงประสิทธิภาพได้ไม่เต็มที่

มันเป็นเรี่องเฉพาะบุคคล ไม่สามารถหยิบยืมกันได้ ถ้าสงสัยก็ลองฝึกผนดู

ลองลากไปต่อเข้าเครื่องเสียงบ้านแระ กำลังขับเหลือเฟือ ขับได้สะบาย

https://www.youtube.com/watch?v=7iN5wLFW30c

เเนวเสียงลองดูจากตัวอย่างยูทูปนี้ก็แล้วกัน

1. ในเเง่สนามเสียงที่โอบล้อมกว้างขวาง ลองแล้วมีความใกล้เคียงมาก
2. เสียงที่ลอยออกมาจากลำโพง ก็มีความใกล้เคียง
3. เสียงออกเเนวอวบๆ เย็นๆ ก็ใกล้เคียง
4. ลองฟังจาก Internet Radio @ 320kHZ เสียงก็ OK ทำได้ใกล้เคียงเช่นกัน

แต่จากตัวอย่าง อาจจะดูก้องๆ เเบนๆ เท่าที่ลองจากเครื่องเสียงที่บ้าน ไม่เป็นนะ

แต่ลองฟังจาก หูฟัง และ Creative 2.1 ราคาถูกๆ 800 บาท เสียงก็ไม่ได้เยือกเย็น เหมือนฟังจากเครื่องเสียงบ้าน 

นอกจากนี้ ฟังจริงๆ ถ้ารู้สึกว่าเสียงในยูทูป ไม่ดี ของเจริงก็ไม่ได้แย่แบบนั้น แต่ก็ไม่ดีเพิ่มขึ้นเช่นกัน มันพอเป็นแนวทาง แต่ไม่เหมือนกันทีเดียวนัก ต้องเข้าใจเรื่อง ห้องฟัง ไมค์ และ แผ่นที่ใช้ลอง

ES9038 ส่วนตัวมองว่า ทำออกมาได้ดีกว่า es9018 เยอะ และ เดาว่า cobalt น่าจะประทับใจมากกว่า Black and Red เช่นกัน

ผมก็มีบอร์ดหน้าตาแบบนี้  ได้มาถูกๆจากเว็นไหนก็ลืมไปแล้ว เสียงดีครับ  ดีกว่าเสียง onboard ที่ติดเครื่องมาเยอะ 

แต่สาย usbที่แถมมาคุณภาพไม่ดี สัญญาณหลุดบ่อย การ์ดหายไปจากโปรแกรม หรือไม่ก็ เสียงไม่ออก  เลยต้องไปเอาสายเก่าๆที่แถมมากับสแกนเนอร์มาใช้  เปลี่ยนสายแล้วใช้งานได้ดีต่อเนื่อง ใช้ต่อกับลำโพงหรือ headphoneamp ได้เสียงดีๆเลย  ได้น่าพอใจมากครับ 

Merry X'Mas

HAPPY NEW YEAR 2020

หัวแปลงสีชมพูมันคืออะไรทำไมต้องเสียบผ่านหัวแปลง

ตัวเเปลง USB Type C to USB

ช่องต่อ USB ไม่พอใช้ เลยต้องย้าย DAC ไปใช้ช่อง USB type C แทน

บัตรเครดิตเรียกเก็บตังค์เเระ สรุปจ่ายเเค่ 1399.47 บาท ถูกกว่าคาด 

ที่บ้านอยากได้ dac ที่รับ optic จากช่องทีวีไปแอมป์ พอจะแนะนำตัวที่ไม่แพง เสียงดีคุ้มราคา ได้หรือเปล่าครับ

ลองค้นหา ในพวก Lazada หรือ shopee ค้นหา optical dac

ราคาหลัก 100 ถึง เกือบๆ 1000 มีหลายรุ่น เสียงก็น่าจะพอได้แระ พวกนี้น่าจะเน้นมันส์เป็นหลัก

เสียงดี คุ้มค่าหรือเปล่า ไม่รู้อะ ไม่เคยซื้อมาลอง ลองทะยอยอ่านรีวิวของคนที่ซื่อมาใช้เเล้ว ถ้าไม่มีใครบ่น ก็น่าจะผ่าน

ขอนอกเรื่องนิดนึง  นะ

อยากถามหน่อย มีหลายคนมั้ย

ใคร สามารถ  บอกว่า


โค๊กในแก้ว  ที่ไม่มีโลโก้

คือ  โค๊ก  หรือ แปปซี่

ผมรู้ว่ามีคนแยกได้ แต่อยากรู้ว่ามีหลายคนมั้ยครับ

น่าจะเยอะแหละ ถ้าอยู่ในกลุ่มชอบดื่มน้ำอัดลม
ง่ายเกิน เอาลิ้นเลียนิดเดียวรู้เลย