จริงๆต้องบอกว่า ขนาดห้องเลือกลำโพง > ลำโพงเลือกแอมป์ครับ ห้องขนาด 3x3 สำหรับ magnet a52 ได้ครับ

แต่..ห้องสี่เหลี่ยมจตุรัสไม่เหมาะกับการฟังเพลงเพราะจะเกิดคลื่นสะท้อนมากกว่าห้องสี่เหลี่ยมผืนผ้า อันนี้ผมมีประสบการณ์ตรงที่เลิกเล่นเครื่องเสียงบ้านเพราะต้องมาฟังเพลงที่ห้อง 3x3 นี่ล่ะครับ ถ้าผมจำไม่ผิดเขาเรียกว่าเกิด standing wave ครับ ถ้าจะฟังแบบจริงจังควรต้องหาวัสดุมาจัดการอคูสติกของห้องด้วย ไม่อย่างนั้นแล้วอาจจะต้องเปิดฟังเบาๆเป็น background music ได้อย่างเดียวครับ

ส่วนแอมป์นั้น ค่ากำลังวัตต์อย่างเดียวบอกอะไรไม่ได้ มันขึ้นอยู่กับยี่ห้อและรุ่นด้วยครับ แต่ 40W-75W นี่สะบายครับ

หลักๆแอมป์อยู่แถวๆ 50วัตต์ขึ้นไปก็กำลังขับเพียงพอแล้วครับ ที่เหลือคงต้องมองเรื่องบุคลิคเสียงของแอมป์เป็นหลัก ว่าเข้ากับลำโพงของเราได้แค่ไหนครับ ในห้องเล็กๆผมว่าสำคัญกว่าเรื่องกำลังขับอีกจ้าา

ขอบคุณมากครับคุณ peerasak

เครื่องเสียงเซ็ตนี้ผมกะเอาแค่ฟังก่อนนอนพอล่ะครับ ไม่เน้นรายละเอียดมากเท่าเซ็ตหูฟัง เสียดายลำโพงวางตั้งไว้เฉยๆ

ขอบคุณมากครับคุณหมูหวาน ถ้าแบบนี้เสียงที่ได้จะขึ้นอยู่กับต้นทางหรือว่าตัวลำโพงครับ เมื่อเทียบกับแบบหูฟังที่เปลี่ยนหู คาแรคเตอร์เสียงก็เปลี่ยน

จริงๆแล้ว แอมป์กำลังต่ำ กับ เเอมป์กำลังสูง ขนาดของความดังที่เราได้ยินไม่ได้ต่างกันมากนัก

แต่เเอมป์กำลังสูงๆ จะได้เปรียบเรื่อง ความหนักเเน่น สมจริงมากกว่า

ได้ลำโพงดี ใช้กำลังสูงๆ จะไม่ค่อยรู้สึกว่าเสียงดังมาก เสียงจะเก็บตัวอยู่ในห้อง ถึงห้องเปิดโล่ง เสียงก็ไม่ค่อยออกไปเท่าไหร่


แต่ก็อยู่ที่ งบ กำลังสูงก็จ่ายแพง 

เล่นลำโพงบ้านเล่นยากกว่าหูฟังเยอะ ลำโพงตัวเดียวกันห้องเล็กห้องใหญ่เสียงไม่เหมือนกัน วางห่างกัน วางห่างผนัง (รุ่นเบสสะท้อน) มุมเอียง เสียงก็เปลี่ยน

แต่มีข้อดีที่ฟังยากกว่าหูฟัง อาจจะรับรู้ยากหน่อยในการเซ็ตระบบ แต่ห้องขนาดนี้ วัตต์ไม่สูงก็น่าจะพอเพียงละ ส่วนที่ว่าเท่าไหร่ต้องดูที่ความไวของลำโพงด้วย

ลำโพงที่ dB ต่ำๆ (ต่ำกว่า 90 ลงมา) ต้องเผื่อแอมป์วัตต์สูงขึ้น ยิ่งต่ำมากยิ่งต้องใช้แอมป์วัตต์มาก

ปล. เดาๆ จากรูปในเวป เป็นตู้เปิด ไม่น่ากินวัตต์แบบตู้ปิด 50 วัตต์ถือว่าน่าจะเพียงพอ

เคยใช้เครื่องเสียงในห้องประมาณนี้ครับ ใช้แค่ 35 วัตต์ กับ ลำโพง book shelf ดอก 6.5 นิ้ว เปิดเสียงที่ 10 นาฬิกา ก็ดังลั่นห้องแล้วครับ

ขอบคุณทุกท่านครับ

ขออนุญาตเล่าประสพการณ์ตัวเองหน่อยละกันครับ เพราะเงื่อนไขมันตรงกับเรื่องของผมเกือบเป๊ะเลย
ผมมีลำโพงMagnet A42
มีอินทิเกรตแอมป์อยู่สองตัว Magnet SA3 สามสิบวัตต์RMS (ราคาสมัยโน้นประมาณสี่พัน) และ Audiolab 8000A สีดำ หกสิบวัตต์ ราคาสองหมื่นกว่า
ห้องที่ใช้ เดิมเป็นห้องรับแขก แล้วผมเข้ายึดครอง ขนาดเกือบจัตตุรัส ด้านหนึ่งเป็นกระจกจากเพดาน(ห้องไม่สูง เป็นชั้นลอยของตึกแถว)ลงมาประมาณสองในสาม อีกสามด้านเป็นการกั้นฝาไม้อัด

ทีแรกก็พยายามวางลำโพงตามแนวยาว เหมือนการวางทั่วไป แต่วางแบบนี้ ผนังสองข้างจะไม่เหมือนกัน และไม่มีงบจัดวัสดุซับเสียงเพื่อปรับให้สองข้างเท่ากัน ฟังยังไงก็ไม่ดี (ดูภาพเส้นประสีชมพูครับ ทีแรกวางลำโพงตำแหน่งนั้น) โดยที่ตอนวางแบบนี้ ระดับความสูงของขาตั้ง(เก้าอี้ทรงสูง)ที่เหมาะสมคือ 30" แม้จะพอมีเค้าโครงของมิติเวทีเสียง แต่ผนังที่ไม่เหมือนกันมันไม่ไหวจริงๆ  ปกติผมวางลำโพงโทอินค่อนข้างหลายองศาอยู่ แกนของแนวเสียงยิงมาค่อนข้างใกล้หูแต่ละข้าง ซึ่งจำเป็น โดยเฉพาะห้องที่ไม่มีการปรับอคูสติคแบบนี้ (เบื้องต้นยังไม่มี ค่อยๆเพิ่มค่อยปรับค่อยจูนไปครับ)

ใช้งานลักษณะนี้สักพัก ก็รู้สึก..ไม่ไหวแล้วโว้ย..แล้วก็ลองฝืนความเคยชินที่จะลำโพงด้านยาวของห้อง เปลี่ยนด้าน มาวางลำโพงด้านกว้างแทน คราวนี้ดีขึ้นพอดู เพราะผนังสองข้างสมมาตร เท่ากัน (ดูรูปที่เป็นเส้นทึบวาดด้วยปากกาลูกลื่นสีน้ำเงิน) ข้อดีอีกอย่างคือ คราวนี้วางลำโพงได้ห่างกันมากขึ้น เวทีเสียงเปิดกว้างเป็นอิสระขึ้น ตำแหน่งชิ้นดนตรีชัดเจนขึ้น แต่ต้องวางห่างผนังหลังค่อนข้างมาก ขนาดเมตรกว่าๆ เพื่อหนีการก้องสะท้อนที่มุมห้อง ซึ่งเกือบเป็นทรงจัตตุรัสอย่างที่บอกไว้แต่ยังแปลกๆ 

ไล่ไปไล่มา จับความได้ว่า พอหันด้านนี้ ต้องวางลำโพงสูงขึ้น เลยเปลี่ยนขาตั้ง(เก้าอี้) ให้สูงขึ้นอีกหกนิ้ว กลายเป็น 36" อาจดูว่าสูงสักหน่อย แต่มันลงตัวกับเงื่อนไขห้องตอนนี้ครับ อันนี้ต้องลองฟังดูเองครับ แต่ละห้องไม่เหมือนกัน ผมแค่เล่าประสพการณ์หลุดกรอบความคิดพื้นฐานเบื้องต้น ไม่ว่าลักษณะการวาง ความสูงของขาตั้ง การโทอินให้รู้

อย่างหนึ่งที่คนหัดตั้งลำโพงอาจนึกไม่ถึงคือ การวางห่างกัน และห่างผนังหลัง ต้องกล้าวางให้ห่างมากหน่อยนะครับ ถ้าไอ้ห่างผนังแค่ฟุตสองฟุตน่ะ ฟังไม่จืดครับ ถ้าไม่หลุดกรอบความเคยชิน จะไม่ทะลุมาสู่ดินแดนที่จะสัมผัสอิมเมจซาวน์สเตจได้

อันนี้คือ แค่ก้าวแรก เพราะการปรับอคูสติก ยังทำกันอีกหลายอย่างมากๆ จนปัจจุบัน ด้วยวัสดุซับเสียงที่เลือกลองมาใช้ตามแต่ของที่มีอยู่จะจัดหาได้ ก็ทำให้ห้องรกbudsobไปเลย กลายเป็นทัศนะอุจาด แม้จะให้เสียงได้ดีพอสมควร จะยังไม่เล่าตรงนี้เพราะยาวมาก มากแบบที่คนไม่ได้เล่นจะนึกไม่ถึง ที่จะตอบคำถามเจ้าของกระทู้คือ ประเด็นการเลือกใช้แอมป์มากกว่า

เอาสั้นๆว่า แม้อินทิเกรตแอมป์ SA3 จะพอขับ A42 ได้  แต่เทียบไม่ได้เลยกับการใช้ Audiolab  ตัวเลขวัตต์ที่ต่างกันเท่านึง ไม่ได้บอกความแตกต่างได้มากเท่าที่ได้ยิน เพราะราคามันห่างกันห้าเท่า ทั้งน้ำเสียง ความอิ่ม ความละเอียด อิมเมจที่ได้ คือฟังราวลำโพงคนละคู่ ในขณะที่ลำโพงอีกคู่ คือ B&W DM320 การเปลี่ยนแอมป์สองตัวนี้ฟัง ไม่ได้แตกต่างกันมากมายขนาดนั้น เนื่องจากมันเป็นลำโพงซีรีส์commercial ซึ่งขับง่าย ความไวสูงกว่า A42มาก (เปรียบเทียบความขับง่าย คงประมาณ SR225 ขับง่ายกว่ารุ่นเล็กของมันเอง)

ในความเห็นของผมเอง ถ้าลำโพง A52ซึ่งใหญ่กว่า A42 พอดู และเน้นไปทางเบสมากกว่าA42 ห้องขนาดนี้ผมว่าสบายครับ แต่ แอปม์ที่เหมาะสม เอาง่ายๆว่า เอาให้รุ่นใหญ่เท่าที่สะดวกจะเล่นครับ เพราะลำโพงไม่ใหญ่ ถ้าภาคขับเคลื่อนมันใหญ่ มันก็จะช่วยลำโพงได้มาก

และคำว่า รุ่นใหญ่ คงหนักไปทางราคา หรือ งบประมาณมากกว่าตัวเลขกำลังขับซึ่งมันบอกอะไรได้คร่าวๆเท่านั้นครับ คือเป็นที่รู้กันว่า แอมป์หลายเจ้าชอบบอกกำลังให้น้อยเข้าไว้ แต่กำลังสำรองสูง เช่น NAD เพราะถ้าไปวัดกำลังขับแบบเดียวกับยี่ห้ออื่นจริงๆ ตัวเลขก็จะออกมาสูงกว่าที่แจ้งไว้ในสเป็ค  ดังนั้น ผมเลยไม่ค่อยสนใจกำลังขับที่บอกเท่าไหร่ แค่เห็นเป็นข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น  อย่าลืมว่า แอมป์ที่แพงกว่าของผมหลายตัว ก็บอกกำลังขับเท่ากว่า หรือน้อยกว่า Audiolab 8000A ด้วยซ้ำ

นี่เป็นแค่การพูดคุยเบื้องต้นครับ การเล่นลำโพง มีประเด็นให้คุณเสียเวลา เสียงบประมาณได้อีกมาก ยิ่งมีห้องนี่ มันเป็นโอกาสอันดีจริงๆครับ หลายคนที่มีชุดแพงๆ แต่ไม่มีห้อง ผมมองแล้วเหมือนทะเลทรายครับ ได้ที่เขาได้ยิน อาจจะไม่ได้แม้สักยี่สิบเปอร์เซนที่ชุดเขาทำได้ ยังมีอะไรอีกมากมายที่คุณจะเล่นสนุกได้กับการset up และการปรับจูนอคูสติก และการวางลำโพง การวางเครื่อง 

ค่อยๆเล่นกันไปครับ เล่นให้สนุก เครียดก็หยุด แล้วมาฟังเพลง หายเหนื่อยก็เล่นกันต่อ  ผมเองได้ลองปรับโน่นลองนี่เป็นหลายสิบประเด็น ใช้เวลาในการเซ็ทอัพชุดกับห้องกับลำโพงเป็นเวลานับร้อยๆชั่วโมง  อย่าเพิ่งท้อนะครับ ให้มันเป็นความสุข เป็นความสนุก อย่าเครียด

แล้วถ้ามีอะไรคืบหน้า มาเล่ามาคุยกับพี่น้องในบอร์ดดูนะครับ คงมีหลายท่านยินดีให้ข้อมูลแลกเปลี่ยนประสพการณ์กันครับ ^ ^

โอ้ ขอบคุณมากๆครับ คุณเหน่งบา

ไม่นึกว่ามันจะละเอียดขนาดนี้ จริงๆลำโพงตัวนี้เป็นของพ่อผมครับ แล้วท่านก็ไปดีนานละ แกเอาตัวนี้มาใส่แทนลำโพงเดิมของมินิสเตริโอ panasonic รุ่น sb-ch410 ผมก็เลยเอาลำโพงคู่เดิมกลับไปใส่แทน แล้วก็หรอยลำโพงตัวนี้มาใช้ 

สมัยพ่อยังอยู่ก็ยังนึกว่าซื้อแท่นวางมาตั้งลำโพงทำไม แลดูวุ่นวาย พอมาตอนนี้ก็เข้าใจละว่าเพราะอะไร

แต่เดี๋ยวมีความคืบหน้าอย่างไร ผมค่อยนำมาเล่าสู่กันฟังอีกทีครับ ตอนนี้ขอตามเก็บเซ็ตหูฟังให้ครบก่อนละกันครับ 55 

เพิ่มเติมเรื่องนึงซึ่งหลายท่านมองข้าม

เก้าอี้ที่ใช้นั่งฟัง

แต่มันก็เกี่ยวกันกับขาตั้งลำโพงด้วย  =__=

อันนี้สมมุติเอาว่า คุณยังไม่ได้ลองเล่นการเซ็ทอัพนะครับ ถ้ารู้ดีอยู่แล้วก็ถือว่าผมพล่ามไปเองละกัน

ปกติ เราจะตั้งลำโพงให้ทวีตเตอร์อยู่ระดับหู...คือ ตั้งลำโพงตามความสูงเก้าอี้
แต่สิ่งที่ควรจะเป็น มันต้อง***ตั้งลำโพงให้ได้ความสูงที่พอเหมาะ*** เป็นเรื่องแรกก่อน
แล้วจัดหาเก้าอี้ที่สูงได้ระดับกับการฟังลำโพงมาใช้ครับ  
ถ้าคุณเซ็ทอัพห้องกับการตั้งลำโพงไประยะนึงจะเข้าใจว่าผมไม่ได้ประสาทเกินที่บอกอย่างนี้

ที่จะบอก ผมรู้มาจากคุณยุทธพงศ์ ลิ้ม ศิษย์รักของอาจารย์ใหญ่ธนกฤต เสรีรักษ์ผู้ล่วงลับ
มาลองเองแล้วก็เห็นจริงด้วย นั่นคือ เก้าอี้ที่จะใช้นั่ง ควรจะมี'ความโปร่งเสียง' มากกว่าที่จะเป็นตัวซับเสียงนะครับ
แปลว่า มันไม่ควรเป็นโซฟา หรือเก้าอี้พักผ่อน recliner ใดๆที่เราเคยเห็นภาพบ้านสวยๆห้องโฮมเธียร์เตอร์งามๆในนิตยสาร
เพราะมันซับเสียงจนวูบหายไปอย่างมากเลย โดยเฉพาะกับห้องเล็กๆ ลำโพงวางหิ้งขนาดกลางๆ และแอมป์ที่อาจจะกำลังขับไม่ได้มโหฬาร

ทีแรกผมใช้โซฟาหนึ่งที่นั่งขนาดปกติ  พอทราบข้อมูลนี้ ก็เปลียนเป็นโซฟาขนาดเล็กๆที่ไม่มีเท้าแขน เล็กลงเหลือหนึ่งในสามของของเดิม สรุปง่ายๆว่า ก็เสียงดีขึ้นแหละครับ
แล้วเก้าอี้แบบไหนที่ควรใช้??  เอาง่ายๆว่า คล้ายโซฟาโครงไม้ที่ไม่ได้หุ้มหนังกรุฟองน้ำหนานุ่มครับ  เป็นเก้าอี้พักผ่อนโครงไม้ที่เอนไม่มากและเบาะบางๆจะเหมาะกว่า  เบื้องต้น ลอง เอาโซฟาเบาะถอด(ร้านเฟอร์นิเจอร์จะเรียกกันอย่างนี้)เก่าๆที่มีในบ้าน มาลองฟังเทียบกับโซฟาตัวหนาๆนุ่มๆก็ได้ครับ แล้วจะเห็นภาพเองว่า ทำไมต้องบอกข้อมูลตรงนี้
ส่วนจะควานหาเก้าอี้แบบดีๆนั่งสบายๆให้สวยงามอย่างไรนั่นค่อยๆใจเย็นเลือกซื้อหาให้มีความสุขครับ  
บอกเหมือนเดิมคือ เล่นเครื่องเสียงให้มีความสุข เครียดก็ฟังเพลงครับ   ^ ^

เรื่องเก้าอี้นี่สำคัญอย่างที่คุณเหน่งบาบอกเลยครับ ครั้งนึงผมถึงขั้นซื้อเก้าอี้ผู้กำกับมานั่งฟังเพลง นึกแล้วขำตัวเองจริงๆ และเสียงมันดันดีกว่าโซฟาซะด้วย 5555

เก้าอี้แบบท่านเหน่งบาแนะนำ + ออฟชั่นเสริมที่วางเท้าด้วย ฟังเพลงพร้อมหลับได้เลย 5 5 5

55 ขอบคุณมากๆครับ ผมก็มือใหม่ซิงๆเลย ไม่ทราบซักอย่างเลยครับ ไหนๆก็มาแนะเรื่องเก้าอี้ เลยสงสัยว่าในเมื่อตั้งให้ทวีตเตอร์อยู่ในตำแหน่งหูแล้ว เสียงก็น่าจะมาถึงตัวเราก่อน(อันนี้คิดเองเออเองนะฮะ) แต่ต้องระมัดระวังในการเลือกเก้าอี้ที่ประกอบด้วยวัสดุที่สามารถซับเสียงด้วยครับ

หรือเพราะว่าตัวเก้าอี้มันจะซับเสียงที่สะท้อนกับผนังมาเข้าหูเราอีกที เลยทำให้ลดทอนคุณภาพเสียงก่อนจะถึงหูเราลงไปครับ

อย่างคุณเหน่งบาบอกใน คห.11 คือมันจะซับเสียงครับ แต่ผมว่าถ้าไม่ซีเรียสอะไรมากโซฟาทั่วไปก็ได้แล้วแต่ขอให้นั่งแล้วความสูงทวิตเตอร์เท่ากับหูพอดีก็พอแล้วครับ

จริงๆผมอยากให้ลองฟังกับแอมป์จีนไปก่อนว่าเจอปัญหาอะไรบ้าง เช่น...เปิดเบาก็ได้ยินรายละเอียดไม่ครบพอเร่งเสียงดังขึ้นเสียงก็ก้องไปหมดจนฟังไม่รู้เรื่อง อันนี้แหละน่ากลัวเพราะเป็นปัญหาของห้องสี่เหลี่ยมจตุรัสเลยครับ

แต่ถ้าฟังแล้วไม่รู้สึกหงุดหงิดอะไร แสดงว่าของในห้องอาจจะช่วยซับเสียงก้องไว้บางส่วนหรือคุณอาจจะฟังไม่ออกเลยไม่ได้จับผิดในเรื่องนี้ ซึ่งถือเป็นข้อดีที่หูไม่หาเรื่องครับ..555 ถ้าฟังไม่ออกแบบนี้ดีจบง่ายแค่หาแอมป์ดีๆอีกตัวก็จบแล้วครับ

ถ้าลำพังต้องการฟังแค่พักผ่อนอย่าไปหาเรื่องจับผิดมาก เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือนครับ.....5555

555 ขอบคุณครับ ต้องบอกก่อนว่าเจ้าชุดนี้ผมตั้งในห้องนอนครับ แต่ในอนาคตก็อาจขยับขยายไปห้องอื่น ซึ่งความเห็นของหลายๆท่านก็มีประโยชน์มากครับ

ณ ตอนนี้ผมว่าดีละครับที่หูผมฟังจากแอมป์จีนก็ว่าไพเราะในระดับที่พึงพอใจเมื่อเทียบกับฟังจาก sennheiser​ hd599 (555)

แต่ปัญหาที่เจอก็คือถ้าเปิดvolumeในระดับเบา ประมาณ7-8นาฬิกา(ตัวvolumeเริ่มต้นที่ 7นาฬิกา-5นาฬิกา) ลำโพงจะดังข้างเดียว แต่ความดังกำลังดีไม่มากจนเกินไป แต่ถ้าเร่งมากกว่านั้น ลำโพงก็ดังทั้งสองข้างเท่าๆกันแต่ก็ดังเกินพอดีละครับ(ฮา)

แต่ขอบคุณความรู้จากหลายๆท่านมากๆฮะ เดี๋ยวกลับไปลองปรับความสูงของลำโพงก่อน ตอนนี้ตำแหน่งทวีตเตอร์อยู่สูงเหนือหูผมซะงั้น

ลองหาสเปรย์ทำความสะอาด volume ดูก่อนครับ การที่เสียงดังไม่เท่ากันส่วนให๋ญ่เกิดจาก volume สกปรก ลองดูก่อนจะได้ไม่ต้องเสียเงิินซืื้อแอมป์ใหม่ครับ https://forum.munkonggadget.com/detail.php?id=272337

ชัดเจนนะครับมาที่นี่ 555

ถถถ เว็บนู้นไว้เซฟรูปอย่างเดียวพอละครับ มาจริงจังเรื่องหูฟังเครื่องเสียงเว็บนี้ดีฝ่า

โอ้ ขอบคุณครับ เดี๋ยวผมต้องลองหามาใช้บ้างล่ะ

ไหนถกกันแล้วก็เอาเรื่องสำคัญไปเลยนะครับ 

ความสูงของขาตั้ง(โดยประมาณ)

เมื่อตั้งรวมขาตั้งแล้ว ถ้าเป็นลำโพงสองทาง ให้กึ่งกลางระหว่างทวีตเตอร์กับวูฟเฟอร์ อยู่สูงจากพื้น 34" +- 2-3" 
ถ้าลำโพงสามทาง ให้กึ่งกลางของมิดเรนจ์อยู่สูงจากพื้น 34" +- 2-3"
ถ้าลำโพงสองทางสามตัวขับ ก็ให้กึ่งกลางวูฟเฟอร์ตัวบน อยู่สูงจากพื้น 34" +- 2-3"

จากจุดนั้นวัดลงมาถึงพื้นลำโพง หักออกจาก 34" จะได้ระยะความสูงของขาตั้งที่เหมาะสมครับ
ต่อให้ลำโพงทรงทาวเวอร์ ถ้าไม่ได้ออกแบบเจาะจงจริงๆจะให้วางโดยตรงกับพื้น เท่าที่ลองมา หาขาตั้งมาวางให้ได้ความสูงตามที่ว่า ก็ดีกว่าไม่เสริมนะครับ (ผมเคยลองกับ JBL L5  ขนาดว่าดูแล้วเป็นตั้งพื้นแหงๆ ทำขาตั้งสูงประมาณห้านิ้วมาให้เพื่อน มันใช้ไปสักพัก ก็ยอมรับว่า วางบนขาตั้งเตี้ยๆนั่น ดีกว่าไม่วาง)

หาขาตั้งได้แล้ว ค่อยเลือกซื้อหาเก้าอี้ซึ่งนั่งแล้ว ความสูงของทวีตเตอร์อยู่ระดับหูครับ ตามนั้น

แต่นี่แค่ข้อมูลเบสิคสุดๆนะครับ แค่ความสูงโดยประมาณ บางครั้งอาจจะต่ำหรือสูงกว่าที่ว่า ขึ้นอยู่กับห้องด้วย ยกตัวอย่างที่ผมเล่าไปเรื่องห้องผมเอง แค่เปลี่ยนด้านเป็นไว้ตามแนวขวางด้านกว้าง กลายเป็นต้องปรับความสูงขึ้นหลายนิ้ว

หรือลำโพงรุ่นใหม่ๆ ที่เทคโนโลยีดีขึ้น มุมกระจายเสียงกว้างขึ้น อาจวางห่างจากพื้นได้น้อยลง โดยไม่ถึง 34"  เช่น ลำโพง Epos ซึ่งเขาออกแบบขาตั้งจำเพาะมาสูงแค่ 24"   หรือลำโพงบางรุ่น ออกแบบให้แผงหน้าเอนหลัง แบบนี้ก็อาจวางได้ห่างพื้นน้อยลงโดยเวทีเสียงไม่เตี้ย                                         

ลำโพงทรงทาวเวอร์ JBL L5 รุ่นที่ว่า..ขนาดมีฐานพลาสติกไว้วางพื้นนะครับ
ผมคำนวณแล้วว่าควรมีฐานเพิ่ม ด้วยระยะมิเรนจ์ยังอยู่ห่างจากพื้นน้อยไป 
และเพราะคิดง่ายๆได้อีกอย่าง มิดเรนจ์ของ JBL L7 รุ่นพี่มันก็อยู่สูงจากพื้นมากกว่า L5อีกร่วมคืบ
ดังนั้น ความสูงที่เหมาะสมของ L5 จึงต้องเพิ่มฐาน ซึ่งขนาดเจ้าของลำโพงซึ่งตั้งธงไว้ว่า"ไม่น่าจะดีกว่าวางพื้น" ยังต้องยอมรับความจริง

คุณเหน่งบาเคยมี JBL L5 นี่บ่งบอกได้ถึงอะไรหลายอย่างเลยนะครับ ทั้งอายุและฐานะต้องดีด้วย อิอิ

ไม่ใช่ลำโพงผมครับ ของเพื่อน  แต่แก่ทัน L5 น่ะใช่ 5555

ถ้าหากเลือกได้และไม่สนใจเรื่องงบประมาณในการซื้อ การเลือกแอมป์ที่กำลังขับสูงๆได้เปรียบกว่าแอมป์กำลังต่ำทุกกรณีครับ ส่วนมากเราจะเลือกในสิ่งที่ไม่เกินจำเป็น ถ้าไม่มีแผนในการขยับขยายลำโพง หรือย้ายห้องฟัง ก็เลือกใช้แอมป์กำลังขับทั่วไปสำหรับห้องขนาด 3x3 หรือได้ถึง 3x4 ก็พอครับ

ขอบคุณอาจารย์เหน่งบามากๆครับที่ให้ความรู้เป็นวิทยาทาน​

ขอบคุณเฮียมั่นมากๆครับที่แนะนำ

เดี๋ยวซักหลายๆเดือนผมค่อยมาตั้งกระทู้แสดงความคืบหน้าอีกทีนะครับ 55 ทำงานเก็บเงินไปก่อน

 อ่า..เอาแค่พี่ก็พอครับ  อาจาย์นี่มันเกินวุฒิภาวะของผมไปมาก
ผมแค่เล่นมาก่อนหน่อยเดียวครับ ท่านที่เล่นตามจะได้ไม่ต้องเสียเวลางมเอง อย่างที่ผมเคยเสียเวลามาแล้ว

555 งั้นตามนั้นครับพี่