เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ เป็นเรื่องจริงที่ประสบมากับตัวเองนะครับ เลยอยากจะมาบอกเพื่อนๆให้ลองอ่านกันดูเป็นอุทาหรณ์แล้วกันนะครับ (ขออนุญาติไม่ล็อกอินนะครับ)
เรื่องนี้เกิดขึ้นนานแล้วครับ น่าจะประมาณปลายปีก่อน แต่ผมเพิ่งรู้ความจริงบางอย่างเมื่อวานนี้เอง จึงทำให้ผมเสียความรู้สึกมากๆ ผมเป็นอีกคนหนึ่งที่ชอบเล่นพวกเครื่องเล่น md พกพา ประจวบกับตอนนั้นมีเครื่องเล่น md พกพามากมาย ปกติผมก็จะอัดแผ่น md ทั่วๆ ไป คือ จากคอมพิวเตอร์ ----------> mdพกพาตามปกติ
แต่ที่บ้านผมนั้นมีแผ่น cd เยอะมากๆ ครับ ผมเลยมาคิดว่าถ้าเราหาเครื่องเล่น cd ที่ต่อไฟบ้านมาอัด md ที่ต่อไฟบ้านเหมือนกันเสียงที่อัดได้น่าจะดีและมีคุณภาพเหมือนต้นฉบับที่สุด แล้วนั่นเองเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องเล่าจากนี้ครับ....
หลังจากนั้นผมจึงหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตซึ่งพบว่าเครื่องเล่น cd/md บ้านมือสองตามเว็บไซต์ต่างๆ มีน้อยมาก และมีราคาค่อนข้างสูง หรือไม่งั้นก็ต้องไปประมูลตามเว็บที่เขานิยมประมูลกัน เช่น yahoo japan เป็นต้น
ผมคิดว่ามันค่อนข้างยุ่งยาก เลยหาข้อมูลไปเรื่อยๆ พบว่าเครื่องเล่นมือสองพวกนี้ จริงๆ แล้ว ยังมีแหล่งที่ซื้อ-ขาย กันอยู่ คือ ย่านคลองถมซึ่งมีราคาไม่แพงมากอีกด้วย หลังจากทราบข้อมูลต่างๆ แล้ว ตอนเย็นวันเสาร์ผมเลยลองไปเดินดูแถวคลองถมตามลายแทงที่ได้มา ก็ไปเจอกับร้านที่ขายเครื่องเล่น cd/md บ้านอยู่หลายร้านในคลองถม
ผมก็ลองเลือกๆ ดู แล้วสนใจกับชุดเครื่องเล่น cd/md ของยี่ห้อหนึ่งพอดี
ผม : เครื่องชุดนี้มีไรบ้างครับ?
คนขาย : เครื่องเล่น cd / เครื่องเล่น md / Tuner
ผม : ราคาเท่าไหร่ครับ?
คนขาย : ราคา 3,XXX บาท , จะทดลองฟังไหมน้อง?
ผม : ลองฟังก็ดีครับ / ตกลงซื้อครับ
คนขาย : ถ้ามีปัญหาอะไรก็ติดต่อพี่ได้นะ...
หลังจากฟังแล้วผมก็ตกลงใจที่จะซื้อครับ ซึ่งตอนจะจ่ายเงิน คนขายเขาบริการดีมากๆ ครับ แพ็คของใส่กล่องอย่างดี ให้นามบัตรมาด้วย บอกด้วยครับว่ามีประกันใจให้ด้วย 7 วัน
หลังจากนั้นผมก็นั่งรถแท็กซี่กลับบ้าน พอถึงบ้านแล้วผมก็นำเครื่องเล่นไปต่อแล้วลองฟังดู พบว่าทุกอย่างก็ปกติหมดครับ ยกเว้น เครื่องเล่น cd เพียงอย่างเดียวครับที่มีปัญหา คือ พอใส่แผ่นเข้าไปเล่นสักพักจะเกิดอาการสะดุดตลอดเลยครับ พอผมพบว่าเครื่องเล่น cd มีปัญหา จึงโทรไปถามกับคนขายครับว่าพอจะช่วยอะไรผมได้บ้าง
ผม : เออ...พี่ครับ เครื่องเล่น cd ที่เพิ่งซื้อมันมีปัญหาครับ....เล่นๆ ไปแล้วมันสะดุดตลอดเลยครับ
คนขาย : อืม...วันเสาร์หน้าน้องเอากลับมาให้พี่ดูที่ร้านได้เลยครับ ถ้ามีปัญหาจริงๆ พี่จะเปลี่ยนหัวอ่านให้ฟรีครับ
ผมก็โล่งใจครับ หลังจากได้ยินแบบนั้น วันเสาร์ต่อมาผมก็เอาเครื่องเล่น cd ที่มีปัญหาไปให้คนขายที่ร้าน เขาก็ลองแล้วพบว่ามีปัญหาจริงๆ เลยบอกผมว่าจะนำกลับไปให้ช่างเปลี่ยนหัวอ่านให้ ถ้าเสร็จแล้วจะโทรบอก
หลังจากนั้นประมาณ 3 วัน คนขายก็โทรมาบอกผมครับว่าซ่อมเสร็จแล้วมารับเครื่องกลับได้เลย แต่ให้ไปรับที่บ้านเขาแถวๆ วงเวียนใหญ่ เพราะ เขาจะมาขายที่คลองถมเฉพาะเย็นวันเสาร์เท่านั้น
ผมเลยลางานช่วงครึ่งวันบ่าย เพื่อไปรับเครื่อง แต่พอผมไปใกล้จะถึงวงเวียนใหญ่ คนขายก็โทรมาบอกผมว่า
คนขาย : น้องครับ...พี่ลองแล้วเครื่องเล่น cd มันยังเล่นสะดุดอยู่ครับ
ผม : อ่อ...ครับพี่. (แล้วพี่โทรบอกผมทำไมครับ)
คนขาย : ไว้พี่ส่งช่างอีกที ถ้าซ่อมเสร็จแล้วจะโทรบอกครับ....
ผมก็เลยเสียเวลาลางานไปทำไมไม่รู้ ตอนนั้นก็เริ่มงงๆ แล้วว่าเครื่องซ่อมยังไม่เสร็จแล้ว จะโทรบอกเราทำไม
หลังจากนั้นอีก 2 - 3 วัน คนขายก็โทรมาบอกผมครับว่าซ่อมเสร็จแล้วมารับเครื่องได้เลย แต่คราวนี้ผมไม่ว่างไปรับเองครับ ผมเลยบบอกพ่อให้ไปรับเครื่องคืนให้ผมหน่อย
หลังจากผมกลับถึงบ้านตอนเลิกงาน ผมก็ลองเล่นเครื่องเล่น cd ตัวนี้ พบว่ามันก็ยังสะดุดแบบเดิมเลยครับ เลยโทรกลับไปหาคนขายอีกครั้ง
ผม : พี่ครับ เครื่องเล่น cd ที่ให้พี่ไปซ่อมมา มันยังเล่นสะดุดอยู่เลยครับ
คนขาย : พี่ลองแล้วปกตินะ น้องเอาไปเล่นแผ่นไรท์รึเปล่า
ผม : ผมไม่เคยเอาแผ่นไรท์เล่นเลยนะครับพี่ ที่บ้านมีแต่แผ่นแท้ เออ....พี่ได้เปลี่ยนหัวอ่านให้ผมหรือยังครับ
คนขาย : ไม่รู้ดิ...ส่งช่างไปไม่รู้ทำอะไรบ้าง (อ้าว...ตอนแรกบอกเราว่าจะเปลี่ยนหัวอ่านให้)
ผม : แล้วพี่จะให้ผมทำยังไงต่อได้บ้างครับเนี้ย ซื้อมายังไม่ได้ใช้เลยก็มีปัญหาซะแล้ว
คนขาย : น้องเอามาให้พี่ดูอีกทีแล้วกัน...
วันเสาร์ผมก็เลยเอาเครื่องไปให้คนขายที่ร้าน พอเขาลองเสร็จก็บอกว่าจะเอาไปส่งช่างให้
ผ่านไป 1 อาทิตย์ เขาก็ให้ผมไปรับเครื่องคืน แต่คราวนี้ผมไม่สะดวกไปคลองถม เลยนัดว่าจะรับที่บ้านเขาที่วงเวียนใหญ่แทนในตอนเที่ยงๆ ผมก็ขับรถไปครับ จะถึงวงเวียนใหญ่อยู่แล้ว เหลือแค่แยกเดียวจริงๆ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
คนขาย : เออ...น้อง ไม่ต้องมารับเครื่องแล้วนะ พี่ลองแล้วมันยังไม่หาย
ผม : อ่อ...ครับ (แล้วพี่ไม่ลองก่อนอ่ะครับ แบบนี้ตลอดเลย)
คนขาย : เดี๋ยวซ่อมเสร็จแล้วโทรบอก
เรื่องราวมันก็เป็นแบบนี้อีก 2 - 3 รอบ คือ โทรบอกผมให้ไปรับเครื่อง แต่ตอนผมจะถึงก็บอกว่าซ่อมไม่เสร็จตลอด ผมก็ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นเหมือนกัน และแล้ววันนึง คนขายก็โทรมาบอกว่าเครื่องเล่น cd หัวอ่านมันเสีย
คนขาย : น้อง...เครื่องเล่น cd หัวอ่านมันเสีย เรื่องค่าใช้จ่ายเดี๋ยวออกกันคนล่ะครึ่งนะ
ผม : อ้าว...พี่ ตอนแรกพี่บอกเปลี่ยนหัวอ่านฟรีไม่ใช่เหรอ
คนขาย : น้อง...เครื่องนี้พี่ขายไปนานแล้วนะ เข้าใจพี่ด้วย (จะไม่นานได้ไง ก็เล่นซ่อมไม่หายซักที)
ผม : อืม...คนละครึ่งก็ได้ครับ
ประมาณ 1 อาทิตย์หลังจากนั้น เขาก็ไทรมาให้ผมไปรับเครื่อง แต่ผมไม่ว่างเลยให้พ่อไปรับแทน แต่โทรบอกคนขายทางโทรศัพท์ เพื่อสอบถามราคาค่าซ่อมทางโทรศัพท์
ผม : พี่ครับ...วันนี้ผมไม่ว่างเดี๋ยวให้พ่อไปรับเครื่องแทนนะครับ ค่าซ่อมเท่าไหร่ครับ?
คนขาย : 500 บาท
ผม : คือผมออกแค่ 250 บาท ใช่ไหมครับ?
คนขาย : ไม่ใช่ๆ น้องต้องออก 500 บาท
ผม : อ้าว...ตอนแรกพี่บอกออกกันคนล่ะครึ่งไม่ใช่เหรอครับ
คนขาย : น้องต้องเข้าใจพี่ด้วยนะครับ ว่าการส่งซ่อมเครื่อง cd มันต้องมีค่าเดินทางนะครับ ช่างเขาไม่ได้อยู่ใกล้ๆ นะน้อง
ผม : อืม...ครับ 500 ก็ 500 ครับ (เซ็งมากครับ พูดกลับไป กลับมา)
หลังเลิกงานผมก็ลองมาฟังเครื่องเล่น cd ดูครับ ก็พบว่าดีขึ้นเยอะมากครับ แต่ก็ยังเล่นแผ่นสะดุดอยู่ดี แต่น้อยลงไปมากครับ คือ จากเดิมเล่น 1 แผ่น / 10 เพลง สะดุดประมาณ 5-10 ครั้ง
ตอนนี้สะดุดเพียง 1-2 ครั้ง ผมก็มีความสุขแล้วนะครับ แม้ว่าจะไม่ 100% ก็เถอะ เพราะ คิดว่าเปลี่ยนหัวอ่านไปแล้วเนอะ ยังไงก็น่าจะดีกว่าเดิม อีกอย่างเบื่อที่จะส่งซ่อมแล้วครับ ปัญหามันเยอะ
แต่เวลาอัด md ก็ลำบากหน่อย เวลามันสะดุดก็ต้องมาอัดใหม่ แต่ไม่เป็นไรครับ ผมรับได้
หลังจากนั้นต่อมา เจ้าเครื่องเล่น cd มันก็เริ่มสะดุดบ่อยขึ้นๆ จนฟังไม่ได้เลยในที่สุด คือ สะดุดทุก 10 วินาทีก็ว่าได้ ผมเลยตัดสินใจส่งซ่อมกับอมรครับ
เป็นเวลานานมากครับที่ผมส่งซ่อมเจ้าเครื่อง cd นี้ไป จนถึงเมื่อวานนี้แหละครับ พอดีผมไปรื้อโต๊ะแล้วเจอใบส่งซ่อม เลยนึกขึ้นมาได้ว่าส่งซ่อมเครื่องเล่น cd ไป (ส่งซ่อมไปนานจนลืม)
ผมจึงโทรไปสอบถามกับทางอมรครับว่าซ่อมถึงไหนแล้ว เพราะ มันนานไปรึเปล่า ซึ่งได้รับคำตอบที่เป็นบทสรุปของเรื่องราวนี้ได้ในที่สุด
ผม : Job DXXXX ซ่อมถึงไหนแล้วครับ มันนานมากแล้วนะครับ
ช่างซ่อมอมร : เครื่องเล่น cd สีทอง อาการเสีย เล่นแผ่นสะดุดใช่ไหม?
ผม : ใช่ครับ.
ช่างซ่อมอมร : คือทางเรากำลังรออะไหล่อยู่นะครับ สั่งไปนานมากแล้วครับ อะไหล่ยังไม่เข้ามาเลยครับ คือ รุ่นนี้หัวอ่านของเทียมมันใส่แทนไม่ได้ครับ ใส่เข้าไปแล้วมันไม่ยอมเล่น.
ผม : อ่อ...ครับ ผมแค่โทรมาสอบถามเฉยๆ ครับ พอดีเห็นส่งซ่อมนานแล้วครับ.
ช่างซ่อมอมร : ยินดีครับ...เดี๋ยวทางเราจะรีบตามอะไหล่ให้นะครับ แล้วจะโทรกลับไปบอกภายใน 1 อาทิตย์ ถึงความคืบหน้าในการซ่อมนะครับ
ผม : ครับ...ผมรบกวนสอบถามอะไรหน่อยนะครับ เครื่องเล่น cd ของผมเครื่องนี้ เคยเปลี่ยนหัวอ่านมาก่อนหน้านี้ไหมครับ?
ช่างซ่อมอมร : ไม่เคยนะครับ...หัวอ่านตัวนี้ คือ หัวอ่านมากับเครื่องเดิมๆ เลยครับ ไม่มีร่องรอยการเปลี่ยนด้วยครับ
ผม : ขอบคุณมากครับ.
ผมเลยได้รู้ความจริงครับว่า เครื่องเล่น cd เครื่องนี้ไม่เคยเปลี่ยนหัวอ่านเลย ที่ผมมานั่งเขียนก็ไม่ได้จะให้ร้านที่ขายให้ผมรับผิดชอบอะไรนะครับ แค่อยากมาเตือนเพื่อนๆ ที่ชอบเล่นเครื่องเสียงเก่าๆ ก็เท่านั้นครับ
เวลาซื้ออะไรก็ดูให้รอบคอบ หาร้านที่ไว้ใจได้หน่อยก็จะดีครับ จะได้ไม่พลาดแบบผม....
ขอบคุณสำหรับการอ่านเรื่องราวของผมด้วยนะครับ อาจจะยาวไปหน่อยนึงแต่คิดว่ามีประโยชน์ต่อเพื่อนๆ แน่นอนครับ