
พี่แพน ผจก.ของผมโทรมาบอกผมในบ่ายวันหนึ่ง ว่ามีอีเมลฉบับหนึ่งส่งมาจากชาวญี่ปุ่น ผู้ส่งแนะนำตัวเองว่าเค้าชื่อ Key Kobayashi สนใจอยากนัดผมไปเจอเพื่อทำโปรเจคท์ร่วมกัน
ในอีเมลระบุด้วยว่า เขาคือ Producer and Manager of Japanese Girls Band "BABYMETAL"
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าผมหูผึ่ง แต่ผึ่งหูได้ไม่นานก็ต้องรีบเก็บ เพราะอีกใจก็กลัวโดนมิจฉาชีพหลอกไปแทง ผมรีบให้เบลเซิร์ชชื่อ Key Kobayashi ในกูเกิ้ลดูถึงได้พบว่าเขาคือผู้ก่อตั้งวง BABYMETAL จริงๆ ภาพคุณ KEY ในกูเกิ้ลดูเป็นจิ๊กโก๋เฮฟวี่ ไว้หนวดผมยาว ท่าทางดุดัน
เราคุยกันผ่านพี่แพนได้ไม่นาน ผมก็ตกลงไปหาคุณ KEY ตามที่นัดหมาย วันนั้นนอกจากผมจะได้พบคุณ KEY ผมยังได้พบคุณ Takeshi ด้วย ทั้งสองคนเป็นผู้ใหญ่ใจดีผิดกับภาพจิ๊กโก๋เฮฟวี่ที่ผมวาดไว้
เราคุยกันผ่านล่ามที่เราทั้งสองฝ่ายต่างจ้างมา สรุปใจความคือคุณ KEY อยากให้ผมไปฟีทเจอริ่งเพลงใหม่ของ BABYMETAL ในตีมหน้าร้อน ก่อนจะหยิบ Demo มาให้ผมฟัง
เนื้อร้องทั้งเพลงนั้น สำรอกคำว่า Papaya หรือมะละกอในภาษาไทย ปนเมโลดี้ป๊อปเพราะๆที่ยังไม่มีเนื้อเพลง
นาทีนั้นผมถึงได้ประจักษ์ ก่อนจะแย้มถามว่า คุณอยากทำเพลงเกี่ยวกับส้มตำใช่มั้ย ซึ่งคำตอบคือใช่ ผมบอกว่าจะแจ๋วมากถ้าเราจะเพิ่มพาร์ทดนตรีหมอลำเข้าไปในดนตรีเพลงนี้
นั่นจึงกลายเป็นบิ๊กโปรเจคท์ ไทย - ญี่ปุ่น ดินแดงอย่างแท้จริง ผมได้แนะนำให้คุณ KEY กับคุณ Takeshi รู้จักกับ Producer ไทยในตำนานอย่างแม๊ก Thitiwat Rongthong ผู้คร่ำหวอดและเอกอุด้านการเล่นดนตรีสดหลากประเภท แม๊กจึงเป็นตัวแทนโปรดิวเซอร์ไทยเรียบเรียงพิณอีสานและขลุ่ยให้อยู่ในเพลง Rock เพลงนี้ ก่อนจะลงมืออัดมันด้วยตัวเองที่ Studio28 ซึ่งวันอัดคุณ KEY และคุณ Takeshi ก็เดินทางจากญี่ปุ่นมาควบคุมด้วยตัวเอง
ตอนนั้นผมตั้งคำถามว่าทำไมวงระดับโลกอย่าง BABYMETAL ถึงเลือกที่จะทำเพลงเกี่ยวกับส้มตำแถมเลือกใช้แรปเปอร์ไทยโนเนมเข้ามาอยู่ในเพลง ในสเกลใหญ่ระดับโลก เค้าจะเลือกแรปเปอร์มีชื่อเสียงแค่ไหนก็ย่อมได้
คำตอบนั้นไม่ได้ชัดเจนจนไม่กี่วันก่อนปล่อยเพลง เกิดเหตุไม่คาดฝันคือมีการปล่อยเพลง Papaya ให้หลุดออกมาแบบผิดลิขสิทธิ์ ทั้งที่เพลงนี้มีแผนปล่อยในวันเล่นสดครั้งแรกที่ Yokohama Arena และทีมวางแผนจะเปิดตัวผมกันที่นั่น
BABYMETAL คือวงที่ไม่เคยมีแขกรับเชิญมาฟีทเจอริ่งในเพลงมาก่อน ทันทีที่แฟนเพลงเห็นชื่อผม ผู้คนต่างตั้งคำถามว่าผมคือใคร หลายเสียงเห็นว่าผมไม่คู่ควรและเริ่มมี Hate Speech ด่าผมในทวิตเตอร์มากขึ้นเรื่อยๆ
นาทีนั้นผมเริ่มตระหนักว่าหรือผมไม่คู่ควรกับวงระดับโลกจริงๆ แม้แต่ในประเทศไทยเองก็มีแรปเปอร์อีกมากที่เหมาะสมกับระดับอินเตอร์มากกว่าผม ทู่ซี้กันไปก็เกรงจะเอาฝีมือตัวเองไปขายหน้าให้เค้าดูถูกแรปเปอร์ไทย
.. สามวันก่อนแสดงจริงที่ Yokohama Arena ผมมีความคิดว่าผมอยากถอนตัวจากการแสดงครั้งนี้ และอยากขอให้ทางวงตัดท่อนแรปผมทิ้งไป
ผมไลน์ไปหาแสตมป์เพื่อนรัก และเล่าความรู้สึกที่เกิดขึ้น แสตมป์บอกประโยคที่ทำให้ผมคิดได้ว่า
"เราคิดว่าคนที่สำคัญที่สุดที่นายต้องแคร์คือคนที่เลือกนาย
คือทางวงเลือกนาย ทางโปรดิวซ์เลือกนาย
Babymetal ดังที่สุดในโลกแล้ว เขาเลือกแรปเปอร์คนไหนก็ได้บนโลก เลือก Kendrick ยังได้เลย
.. แต่เขาเลือกนาย"
และนี่คือสาเหตุที่ผมกลับมายืนตระหง่านบน Yokohama Arena อีกครั้ง แสตมป์ทำให้ผมกลับมาคิดถึงอีเมลฉบับแรกที่คุณ KEY ส่งถึงผม การให้เกียรติกับผมตั้งแต่วันแรก ยอมรับไอเดียผมเรื่องเครื่องดนตรีอีสาน ยอมรับท่อนแรปภาษาไทยที่ไม่มีความเป็นสากลซักนิดให้อยู่ในผลงานชิ้นสำคัญ คนที่ผมควรจะให้ความเคารพคือคุณ KEY วงและทีมที่ให้เกียรติผม
ก่อนขึ้นแสดงวันแรก ผมตื่นกลัว คุณ KEY เดินมาตบไหล่บอกผมเป็นภาษาอังกฤษสั้นๆว่า
"You are my pride"
.. และนี่อาจเป็นคำเฉลยว่าเหตุใดถึงเป็นผม หรือส้มตำ
คำนั้นดังก้องในใจผมจนแสดงทั้งสองรอบเสร็จ หลังจบการแสดง ทวิตเตอร์ของผมก็เหมือนเนรมิตเสก Hate Speech หายไปเกือบหมด มีแต่ข้อความขอบคุณ ชื่นชม และการให้เกียรติของแฟนเพลง BABYMETAL ถูกส่งเข้ามา บ้างเป็นภาษาอังกฤษ ภาษาญี่ปุ่น ไปจนถึงภาษาอาหรับ
ทั้งหมดกล่าวถึงแรปภาษาไทย จากแรปเปอร์ตัวเล็กๆอย่างผม
พรุ่งนี้ผมจะกลับไทยแล้ว
ขอบคุณประสบการณ์ชิ้นสำคัญที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิต
ผมจะจดจำไว้ไม่ลืม