Grado เจนเนอเรชั่นหลังๆ ปรับความดิบลงมาบ้างแล้ว และเพิ่มเบสที่เคยน้อยหรือหายากขึ้นมา แต่ไม่ถึงกับให้อิมแพคที่แรงเหมือนพวกหูฟังระบบปิดนะครับ ถ้าฟัง Metal กระเดื่องแน่นๆ ลองเทียบระหว่าง 325 กับ PS500 ก็ได้ครับ หรือจริงๆจะลดมาฟังเทียบกับ 225 ก็ได้

225 กับ 325 ผมถือว่าเป็นตัวเลือกกลางๆที่เหมาะสมกับ Grado ครับ คือเดินมาถึงกลางทางเลย แต่ถ้าเป็นคนขี้เกียจเปลี่ยนบ่อยๆ ให้ลองฟัง RS1 อีกตัว ถ้าฟัง Metal ยังไงฟังตัวนี้อีกตัว เพราะไม่งั้นหากมาฟังทีหลังบางทีมีหงุดหงิด เพราะ RS1 มันดิบกว่าตัวอื่นๆในไลน์ของ Grado ทุกตัวแล้วครับ

ถ้าว่างลองไปให้น้องๆจัดให้ฟังครับ ค่อยๆไล่ฟังเปรียบเทียบทีละคู่ แพ้คัดออก บางทีอาจจะจบที่ตัวธรรมดาอย่าง 225 ก็ได้ครับ ไม่จำเป็นว่าแพงกว่าต้องดีกว่า สำคัญว่าถูกหูเราหรือเปล่านะครับ^^

ขอบคุณเฮียมากครับ อุตส่าห์มาตอบเองเลย แต่ผมอยู่ต่างจังหวัดครับ ให้ไปกรุงเทพคงไม่ไหว ไม่ว่างด้วย เลยอยากรู้แนวเสียงมันก่อนผมชอบกลางพุ่งๆแหลมจัดๆโซโล่กีตาร์มันส์ๆเลยมอง grado ก่อนครับ ส่วนงบก็สุดที่ 325e นี่แหละครับ เพราะเอามาฟังเฉพาะแนวนี้ล้วนๆเลยครับ งบเลยเทไปแนวอื่่นหมด 

ถ้าวางงบไว้ที่ 325 แล้ว ไม่ต้องกังวลว่าจะผิดพลาดเรื่องเสียง เพราะ Grado มีซาวด์ซิกเนเจอร์ใกล้เคียงและแตะๆกันแทบทั้งหมด มีความต่างกันในบางแง่มุม ตัว 325 ถ้าเป็นเจนก่อนๆ เสียงจะจ้านจ้านและแหลมบาดหูมาก แต่ตอนนี้อย่างที่ผมบอก Grado ปรับจูนให้เข้ากับไลฟ์สไตล์การฟังเพลงของคนในยุคปัจจุบันมากขึ้นแล้วครับ

ไม่ต้องห่วงว่ากลางไม่ชัด แหลมไม่ใสนะครับ ตัดไปได้เลย สิ่งที่ปรับแก้ก็คือเบสที่มีมวลมากขึ้น ฟังแล้วมีปริมาณมากขึ้น อิมแพคแรงขึ้นกว่าเดิมแต่ไม่ถึงกับตุบตับนะครับ 55

แนะนำอีกทางเลือกราคาพอๆกัน(มั้งนะครับ)คือ HD600 ครับ ผมใช้ฟังเมทัล+ร็อคได้ เบสดีกว่ากราโด้แน่นอนครับ เสียงกลางโดยเฉพาะกีตาร์จะเด่นขึ้นมาหน่อยโดยเฉพาะช่วง presence region เพราะมันไม่แสบหูเวลาตีนี่แหละครับ เสียงแหลมมีให้ฟัง ละเอียดเพราะไม่ดังเกิน และไม่รู้สึกขาดๆเหมือน HD650 และไม่เพี้ยน+ดังเกินแบบกราโด้ โดยรวมแล้วเป็นหูฟังเพลงร็อคที่ผมว่าไม่ค่อยมีคนไทยพูดถึงครับ

คลาสสิคไม่แพ้กราโด้เลยนะครับ รุ่น HD600 นี่เกิดพร้อมผมพอดี (1997) ผลิตมาเรื่อยๆไม่ต้องเปลี่ยนเป็น i เป็น e แล้วก็ทนมือทนเท้ามากแม่ผมปาอัดกำแพงยังสบายๆอยู่เลย (กราโด้ที่ใครว่าทน ผมมี 2 อัน ตัว MS Pro บอดี้ไม้หลุดจากก้าน ตัว MS1i แจ็คแตก แต่ไอ MS1i มันจะสิบปีละครับ ถ้าไม่เชื่อเดี๋ยวจะถ่ายให้ดูพร้อมกันสองอันเลยครับ 55555555)

ใส่สบายกว่าแบบแน่นอน มันครอบทั้งหู แผดกำมะหยี่ แล้วก็หลุดยากกว่าเวลาโยกหัวแน่นอนครับ

ลองหารีวิวฝรั่งอ่านดูครับ เพราะคนไทยไม่ค่อยจะมีเขียน

metal571 ชอบมากเป็นพิเศษครับรุ่นนี้ https://www.youtube.com/watch?v=3AZTKCMRzHM

ผมสายสว่างน่ะครับ เคยผ่านsennheiserมาบ้างค่อนข้างดาร์ก เลยไม่ค่อยชอบน่ะครับ

ขอบคุณมากครับ เดี๋ยวลองจัดรุ่นเล็กๆถูกๆมือสองมาลองก่อน ถ้าถูกใจอาจจัดรุ่นใหญ่ไปเลย

เสียงผมว่าตามรุ่นมากกว่าตามยี่ห้อนะครับ ยกเว้นกราโด้

เคยลอง 599 กับ 650 น่ะครับ ดาร์กมาก เลยไม่ค่อยชอบเท่าไร

Sr325e เบสไม่น้อยนะครับ รู้สึกว่า mid bass มากกว่า sr225e อีกแต่เก็บตัวไว  อิมแพ็คน่าจะมากที่สุดใน sr series แต่โทนเสียงสว่างมาก ถ้าฟังพวก metalcore  หรือ prog metal น่าะตอบโจทย์ แต่ถ้าฟัง death metal หรือ black metal ผมว่ามันสว่างไป

ผมเอามาฟัง progressive metal นี่แหละครับ น่าจะเหมาะเลย

ถ้าลังเลระหว่าง 325 กับ 225 และไม่มีโอกาสลองฟัง

ผมเชียร์225e มากกว่าครับ เสียงมาตรฐานสากลนิยมมากกว่า325e ครับ

ผมว่า325eเบสมันเยอะเกินไป(มาก)ครับ

ที่จริงผมมีใช้ mdr1a อยู่ แต่มันฟัง metal ไม่มันส์เลย แล้วผมชอบแนวสว่าง กลางแหลมเด่น เลยมองกราโด้อยู่น่ะครับ เทียบกับ mdr1a แล้วอยากให้เบสมันกระชับๆ เก็บตัวเร็ว สปีดไวๆ อิมแพคแรงๆ ส่วนเสียงกลางเสียงแหลมก็เอาแบบพุ่่งๆ มันส์ๆ คิดว่ากราโด้น่าจะเสียงสไตล์นี้ แต่ก็ยังตัดสินใจไม่ถูกอยู่ดีครับ

อ่านจากที่เจ้าของกระทู้ว่ามา 325 นี่น่าจะถูกทางแล้วครับ
ผมไม่เคยฟัง 325e  เคยแต่ฟัง 325 is
ถ้าเทียบกับตัวใกล้เคียงกัน คือ MS2is ผมชอบ MS2 มากกว่าในแง่ที่ลื่นไหลกว่า เป็นดนตรีกว่า ค่อนไปทางaudiophileมากกว่า
ในขณะที่ 325 จะแสบ(กลาง,กลางสูงพุ่งกว่า) สะใจ(upper bass punching มากกว่า) ออกไปทางดิบๆเถื่อนๆหน่อย ^ ^ ซึ่งก็น่าจะเหมาะกับ metal progressive

เพิ่มเติมนิดนึง ซึ่งอาจจะนอกประเด็นที่เจ้าของกระทู้ถาม
ไม่ทราบว่าเจ้าของกระทู้ ฟัง"อัด"แค่ไหน
คือ ด้วยความที่มันเป็นฟูลไซส์ แม้จะขับไม่ยากเมี่เทียบกับหลายๆยี่ห้อ แต่ถ้าได้แอมป์ที่เหมาะ..
ผมมีโอกาสฟัง 325is กับ แอมป์ ALO National(รุ่นเก่า) ซึ่ง กำลังขับดี แต่ปลายเสียงไม่เปิดเท่าไหร่ถ้าเที่ยบกับรุ่นสูงขึ้นของเขาเอง
ปรากฎว่า มันโคตรลงตัวเลยครับ มันชดเชยหนุนเสริมกันได้ดีมากๆ ฟังแล้ว เต็มอิ่ม มันส์มากๆ ไม่ใช่่แค่ดังขึ้นครับ แต่มันลงตัวในหลายๆแง่ ยิ่งฟังยิ่งอยากเร่ง  คือถ้ามันไม่แม็ทช์ ยิ่งเร่งยิงจะบาดหู แต่นี่ฟังแล้วต้องยับยั้งตัวเอง

มาถึงยุคสมัยนี้การเพิ่มแอมป์เริ่มเป็นสิ่งที่ใกล้จะตกยุค แต่ในบางแง่มุม ก็ยังเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ(ย้ำว่า ถ้าฟังแบบอัดๆหน่อย) อย่างน้อยก็หาโอกาสไปลองฟังดูครับ  เผื่อถ้าสรุปเป็น 325 และเผื่อเจอ National ราคาดีๆ ^ ^

(บางท่านอาจเห็นว่า ถ้า 325 เพิ่มแอมป์ มันก็จะเป็นงบรวมที่เข้าไปใกล้ RS1  แต่มันคนละระดับกันครับ เพราะถ้า RS1จะให้ออกมาคุ้มค่า ชุดทีใช้ต้องระดับสูงขึ้นไปอีก หรือถ้าว่าจะใช้แอมป์  แอมป์ที่คู่ควรกับ RS1จะต้องไปไกลหน่อยแล้วครับ และต้นทางก็ต้องดีพอ ภาพรวมของทั้งชุดคงพ้นขอบเขตที่เจ้าของกระทู้ถามแล้ว)

ผมพึ่งนึกออก
ว่าผมเคยฟัง1Aอยู่

ถ้าเคยใช้1A อยู่ แล้วรู้สึกชอบเบสเยอะประมาณนี้แหละ พอดีแล้ว แต่อยากให้กระชับขึ้น เอา325e น่าจะตรงแนวครับ

แต่ถ้าว่าเบส1Aมันทุ้มไป ลูกโตเกินไป ไป225e ครับ

ส่วนเรื่อง กลาง แหลม ผมว่า จขกท.มาตรงแนวGradoแล้วละครับ

เรื่องสปีด ผมยังไม่เคยเจอเพลงไหนที่เร็วจนGradoสปีดตามไม่ทันเลยครับ รับประกันความมันส์ครับ

ถามว่าอัดขนาดไหน ก็เท่าที่เครื่องจะอัดได้น่ะครับ555 แต่ผมไม่มีแอมป์นี่สิ จะมีก็แต่ fiio e10k กับ ipod 5.5 เดี๋ยวลองจัดหูฟังก่อนครับ ค่อยว่ากันอีกที ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ

แค่ได้อิมแพคแรงกว่่า1aก็พอครับ ลูกโตไม่โตไม่ค่อยสนใจครับ เผื่อฟังแนวอื่่นด้วย อยากทราบว่ามิติ225หรือ325อันไหนดูกว้าง-ลึกดีกว่ากันครับ ลืมถามเลยครับ แหะๆ

ที่ถามว่า ฟังอัดมากไหม คือถามลักษณะการฟัง ก็คือการตัดสินใจเกี่ยวกับทางเลือกเลยละครับ ^ ^

เช่น ตั้งคำถามใหม่ว่า ระหว่าง RS1 กับ 325+National+สายm2m ซึ่งงบจะไม่หนีกับเท่าไหร่ จะเอาอะไร...
แน่นอนว่า ในเบื้องปลาย  RS1 ย่อมห่างชั้นกับ 325 ในเกือบทุกด้าน ทั้งความสมจริงของอิมเมจ ความละเมียดของเกรนเสียง การแยกแยกตำแหน่งชิ้นดนตรี  แต่จะให้ RS1 แสดงความสามารถได้เต็มศักยภาพ ชุดที่ใช้ รวมกระทั่งต้นทางคือไฟล์เพลง ต้องดีพอ ไม่งั้นจะแค่รู้สึกว่าดีกว่า แต่ไม่เห็นว่าจะเลิศลอยอย่างที่อ่านรีวิวชื่นชมกัน ในขณะที่ 325 ได้แอมป์ขนาด National นี่ก็ออกมาได้เต็มอิ่มพอประมาณแล้ว

หากฟังไม่ได้อัดมาก แค่ฟังแนว Progressive อย่างนั้นถ้าเป็นผม(แต่ตัวผมเองฟังอัดพอดูเหมือนกัน) อาจลองฟังRS เทียบเพื่อเป็นข้อมูลสำหรับการเปลี่ยนแปลงในระยะยาวครับ..หรือระยะสั้นหว่า ถถถถ

ถ้างบถึง การ"ตัดเสื้อเผื่อโต" มันเจ็บน้อยกว่าครับ อนาคตแค่เพิ่มแอมป์ขยับชุดก็จะเห็นอะไรต่ออะไรได้อีกพอตัวแล้ว(เมื่อเทียบกับต่อตรง)
แต่ถ้่าไม่ได้กะไปไกลมาก จุดที่จบ..คืออยู่ตัว..ของ 325 มันก็คนละจุดกับ RS1 ครับ

งบมันตันแค่นี้ครับ555 ้้ ให้ผมซื้้อ rs1 คงไม่ไหว คงต้องลองใช้ 325 ไปพลางๆก่อน ถ้าพอใจแล้วอาจจะหยุด เพราะผมมีหูฟังหลายตัวฟังหลายแนว แต่ถ้าเกิดถูกใจ325ขึ้นมา ก็คงต้องเก็บตังจัดชุดเพิ่ม เพื่อให้มันสุดกว่าเดิม สุดแล้้วยังไม่พอใจ ก็คงต้องจัด rs1    เป็นงี้ไปเรืื่อยๆครัับ 

ปล.ผมมีปัญหากับการพิมพ์ในโทรศัพท์พอสมควรเลย พิมพ์แล้วตัวอักษรมันออกมาแปลกๆ ดูอย่าง ตรง555จะมีไม้โทอยู่ ซึ่งผมซึ่งผมลบไม่ได้ครับ ไม่รู้ใครเป็นมั่ง

เบสของGrado มันทั้งแน่น และมาเร็วไปเร็วมาก จนคนฟังจะแทบจับอิมแพคของมันไม่ทันเลยครับ ยิ่งถ้าไม่ได้อยู่ในห้องเงียบๆ ยิ่งจับอิมแพคยากขึ้นไปอีกครับ

ส่วนเรื่องมิติ ผมว่า Grado ในรุ่นที่ฟองน้ำแบบเดียวกัน ผมว่ามิติมันพอๆกันทุกตัวครับ
มันจะต่างกันในด้านความสมจริงของเสียงกลางแหลมที่ในรุ่นที่สูงขึ้น มันเรียลขึ้นเรื่อยๆอ่ะครับ สังเกตได้ง่ายสุดคือเสียงนักร้อง
ส่วนเรื่อง เสียงเครื่องดนตรีต่างๆ คงต้องลองฟังสถานเดียวอ่ะครับ เพราะแต่ละรุ่นมันต่างกันพอสมควรเลย หูไม่ทองก็แยกออกครับ

ส่วนเรื่องอนาคต ผมว่า จขกท.ต้องตัดสินใจให้แน่วแน่ครับว่า จะเล่มแอมป์เพิ่มในอนาคตหรือไม่
ถ้าไม่เล่น ผมว่าเล่น  Grado รุ่นไม่เกิน SR Series หรือรุ่นที่ขับง่ายๆ ก็พอครับ
แต่ถ้าคิดว่าจะเล่นแอมป์แน่ๆ ผมแนะนำว่า เข้าไปลองจัดชุดที่ร้านเฮียมั่นเลยครับ
แล้ว จขกท. จะเข้าใจสิ่งที่คุณเหน่งบา จะสื่อครับ
ถ้าเคยฟังเสียงของGradoจะเข้าใจครับว่าเค้าจะเล่นแนวเสียงแบบไหน
ผมเคยลองฟังRS1แบบต่อตรง แน่นอนว่ามันขับไม่สุดแน่นอน แต่มันก็ยังสัมผัสได้ถึงความสุดยอดในศักดิ์ศรีของความเป็นเรือธงของมันครับ

Grado จะเด่นเรื่องกลางแหลม ส่วนเบสนั้น ถ้ายุคใหม่ยังถือว่าดีกว่ายุคก่อน ยุคก่อนๆนี่เบสนุ่มบางรุ่นบาง และไม่ค่อยมีหัวโน้ตครับ 55 แต่ปัจจุบันผมว่ามันฟังง่ายกว่าก่อนๆพอควรแล้วครับ

ขอบคุณทุกท่านมากๆครับ ผมว่าคงจัด 325e นี่แหละครับ ไม่ค่อยชอบเล่นแอมป์ ถ้าซื้อคงเป็น dac/amp ต่อคอมเล่นทีเดียวเลยครับ แต่คงอีกนานครับ รอให้ลงตัวกับหูฟังก่อน แล้วค่อยจัดต้นทาง