ท่านใดไม่เคยดูหนังเรื่องนี้ หากไม่ติดขัดว่า ไม่ดูหนังฝรั่ง แนะนำให้ไปหาชมเอานะครับ และขอแนะนำให้ไปชมกระทั่งตัวพ่อครูเอง มีจุดน่าสนใจ แง่คิด และเรื่องน่าประทับใจมากมาย
สังเกตว่า ยอดนักเขียนซึ่งเป็นนักดูหนังด้วยอย่างคุณวินทร์ เลียววารินทร์ ให้คะแนนหนังเรื่องนี้ ถึง 10 เต็ม 10 ทีเดียว มีหนังจำนวนสักหยิบมือเดียวจากภาพยนตร์นับพันนับหมื่นเรื่องที่ได้รับคำวิจารณ์อย่างสูงเช่นนี้
1900 เป็นปี ค.ศ. และเป็นชื่อของคน
ในวันที่ 1 มกราคม 1900 เรือเดินสมุทรเวอร์จิเนียนเทียบท่า ผู้โดยสารขึ้นฝั่งไปหมดแล้ว ลูกเรือคนหนึ่งพบทารกน้อยผิวขาวนอนในลังไม้บรรจุมะนาววางบนเปียโน
ทารกน้อยเกิดในเรือ และถูกทอดทิ้งไว้ในเรือ
ลูกเรือตั้งชื่อทารกว่า Danny Boodman T.D. Lemon 1900 เนื่องจากคนที่พบเด็กชื่อ Danny Boodman เด็กนอนบนลังใส่มะนาวยี่ห้อ T.D. Lemon และปีนั้นคือ ค.ศ. 1900
เรียกสั้นๆ ว่า 1900
ทารกไม่รู้ว่าพ่อแม่ของตนเป็นใคร โลกทั้งใบของเขาคือเรือเวอร์จิเนียน เขาเดินทางข้ามมหาสมุทรเที่ยวแล้วเที่ยวเล่า ปีแล้วปีเล่า
1900 พักอาศัยในส่วนของลูกเรือ แต่บางครั้งเขาแอบเข้าไปในพื้นที่ของผู้โดยสารร่ำรวย เห็นผู้คนสวมเสื้อผ้าหรูหรา เต้นรำ ดื่มกิน เสียงดนตรีลอยในอากาศ
วันหนึ่งชีวิตของเขาก็เปลี่ยนไป เมื่อเขาพบเปียโนหลังหนึ่งในเรือ
นี่คือภาพยนตร์เรื่อง The Legend of 1900 (La leggenda del pianista sull'oceano แปลตรงตัวว่า ตำนานนักเปียโนบนห้วงสมุทร) โดยผู้กำกับชาวอิตาเลียน กีเซปเป ทอร์นาโทเร (Cinema Paradiso, Malena)
เป็นหนังที่แสดงความเป็นมนุษย์ประเภทต่างๆ ระหว่างการเดินทาง พวกเขามารวมกันช่วงสั้นๆ บนเรือลำหนึ่งกลางห้วงสมุทร
1900 มองดูมนุษย์เหล่านั้นด้วยสายตาฉงน อาจเช่นเดียวกับความฉงนว่า ทำไมเขาจึงถูกทอดทิ้งบนเรือ
จุดเด่นจุดหนึ่งของหนังเรื่องนี้คือเพลงประกอบชั้นเทพของ Ennio Morricone ดนตรีนั้นแยงทะลุวิญญาณ ลึกล้ำดั่งห้วงทะเล เชื่อมกับอีกจักรวาลหนึ่ง
นี่เป็นหนังที่งดงามทั้งภาพ เสียง ดนตรี การแสดง และความลุ่มลึกของปรัชญาชีวิต
และหลายคำถาม เช่น ทำไม 1900 ไม่ยอมก้าวออกจากเรือลำนั้นตลอดชีวิตของเขา
บางทีเขาเห็นชีวิตบนเรือมามากพอ บางทีเขากลัวโลกแปลกหน้าบนฝั่ง บางทีแผ่นดินนั้นใหญ่เกินไป
10/10
…………………