อย่างว่าเลยครับ สนใจอยู่แต่ รู้สึกว่าราคา มันต่างกันมากเลย เลยรู้สึกเสียดายเงินขึ้นมาครับ

ลึกๆผมก็มีความคิดอยากจะทำ custom กับเขาบ้าง แต่อ่านจากหลายๆท่านในเว็บบอร์ดที่เคยพูดถึงเรื่องนี้ก็มีลังเลเหมือนกันครับ ตามความคิดผมคาดว่าคงไม่มีตัวเดโมที่เป็น custom ให้เราลองฟังหรอกครับถึงจะมีก็คงไม่พอดีที่สุดกับหูของเรา จึงทำให้เราไม่รู้แน่ชัดว่า custom จะให้เสียงที่เราชอบมากหรือน้อยกว่าแบบ universal แค่ไหน (แต่หลายๆท่านก็ว่ามันให้บางอย่างที่เหนือกว่าแบบ universal ซึ่งผมก็เชื่อว่ามันจริงเพราะมันไม่ต้องใส่จุกและท่อนำเสียงที่ยาวกว่า แต่นั้นก็เป็นแค่คำบอกเล่าจากท่านที่เคยใช้มา ซึ่งเราก็ยังไม่เคยได้ฟังจริงๆนอกจากจะตัดใจสั่งทำครับ) ประกอบกับการที่ผมเป็นคนที่จัดอยู่ในประเภทหูสากลใส่จุกหูฟังอะไรก็ยัดเข้าปกติเลยคิดว่าคงไม่จำเป็นที่จะต้องสั่งทำ custom ก็ได้ แค่ลองหูฟังที่ให้เสียงตรงกับที่เราชอบนั่นก็โอเคแล้วครับ
แต่ถ้าคนที่ใส่จุกไซต์ต่างๆแล้วหลุดบ้างไม่เข้าบ้างไม่มีไซต์ไหนพอดีสักที (ยกตัวอย่างเช่นแฟนผมเองลองตั้งแต่ไซต์เล็กไปใหญ่ก็ไม่ได้สักที) ก็คงอาจจะหนีไม่พ้นเจ้า custom ครับ

ปล.ผมสงสัยว่าทำไมนักร้องต่างๆก็ทำใส่กัน คาดว่า custom เสียงในย่านต่างๆมันคงต้องมีโฟกัสที่แม่นยำชัดเจนและสมจริงมากกว่า universal แน่ๆเลย

เท่าที่ได้ลองใช้เอง Custom นั้นจะให้เสียงที่เคลียร์กว่า รายละเอียดดีกว่า และมิติที่ดีกว่าอย่างชัดเจนเลยครับ เมื่อเทียบกับตัวเดโม่ที่ร้าน

แต่สำหรับ K10u รุ่นใหม่ที่เป็น universal ถึงเเม้จะยังไม่เท่าตัวคัสต้อมจริงก็ตามแต่ก็ให้เสียงที่ดีขึ้นและใกล้เคียงกับคัสต้อมมากขึ้น ด้วยเทคโนโลยีผลิตที่ดีขึ้นทั้งตัวบอดี้เเละท่อนำเสียงแบบใหม่้ป็นตเนครับ

ความเห็นส่วนตัวนะครับ

ผมว่า Custom นี่เหมาะกับหูฟังที่เรามีปัญหาเรื่อง fitting เป็นหลักครับ เช่น ใหญ่ไป เล็กไป หาจุกอะไรมาใส่ก็ไม่พอดี เจ็บหู ฯลฯ แล้วเราดันชอบเสียงมันเอามากๆ คือยังไงก็จะฟังรุ่นนี้ ก็ไปทำ custom ซะเพื่อขจัดปัญหา fitting ต่างๆ

กลุ่มที่สองคือเหมือนเจอเนื้อคู่ คือชอบสุดๆ กะอยู่กินกันยาวว่างั้น 55+ ก็ไปทำ custom เพื่อให้ได้คุณภาพเสียงสูงที่สุดเท่าที่เป็นไปได้และไร้การปรุงแต่งจากจุกต่างๆ (ไม่ได้บอกว่าเสียงดี ถูกใจเราที่สุดนะครับ เพราะ บางทีเสียงที่ได้จากจุกประเภทต่างๆอาจจะตรงใจเรามากกว่า) อีกอย่างที่ได้คือ Wow-factor ครับ คนใช้ custom ในสายตาคนปกติมันดูอลังการกว่าเยอะครับ และเมื่อ plan จะใช้ยาว จึงไม่ต้องกังวลเรื่องราคาขายต่อ

แต่สำหรับคนที่ชอบเปลี่ยนหูฟังบ่อยๆ หรือยังหาหูฟังคู่ใจตัวเองไม่ได้ ผมว่าใช้ universal ก็ได้ครับ เพราะอย่างที่คุณหลุยส์บอก เดี๋ยวนี้เทคโนโลยีมันพัฒนาไปมากแล้ว ผมว่า universal ดีๆ เสียงไม่แพ้ custom หรอกครับ :)

ผมว่า custom ดีกว่าตรงที่ใส่ง่ายกว่าครับ กดเข้าไปในหูมันก็เข้าไปตามร่องเลย และไม่ต้องเหนื่อยจูนจุกเสียง เพราะเสียงมันมีแบบเดียว และมิติเสียงดีกว่าชัดเจนครับ

ถ้าแคร์เรื่องความสบายด้วย ผมว่าUniversalใส่สบายกว่าครับ โดยเฉพาะWestone

Custom กับ Universal วิวาทะแห่งโลกอินเอียร์รอบใหม่ปะทุขึ้นแล้ว ทั้งสองแบบ ต่างก็มีข้อดี ข้อด้อย ด้วยกัน แต่สำหรับคนเบี้ยน้อยหอยใหญ่ หูฟัง uiem คุณภาพดีราคาไม่แพง ยังพอหาซื้อได้ แต่กับ ciem นั้นมิอาจเอื้อม เป็นได้แค่ความฝันเท่านั้น

ผมก็เป็นคนหนึ่งที่เคยลังเลระหว่างว่าจะซื้อ Custom หรือ Universal ดี?

แน่นอนว่าการลองตัว Demo เสียงมันไม่มีทางสู้เมื่อออกมาเป็น Custom แล้วแน่นอน 100%

เพราะฉะนั้นการที่ Universal จะเหนือกว่า Custom ได้ ระดับเสียงมันต้องสูงกว่ารวมถึงราคาด้วย

ปัจจุบัน UIEM ที่มีระดับเสียงดีกว่า เหนือกว่า Custom ระดับต่ำ - กลาง มีมากมายครับ ลองไล่เรียงดูเอาแบบชนิดที่ขาดๆพอเป็นตัวอย่าง เช่น
SE846, ToGo334, IE800, K3003, The Truth, T8ie และอื่นๆอีกมากมาย

ผมตัดสินใจอยู่นานกับการทำ Noble Audio Kaiser 10 Custom และต้องทะเลาะกับตัวเองบ่อยมาก ข้อที่ผมมักหักห้ามตัวเอง เช่น
- ผมไม่ใช่นักดนตรีที่ต้อง on stage ที่ต้องการแยกเสียงร้องของตัวเองออกจากมอนิเตอร์บนเวที
- ไม่ได้อยู่ในสถานที่ที่มีเสียงอึกทึกครึกโครมอยู่ตลอดเวลา
- กลัวอันตรายจากการอยู่ในพื้นที่สาธารณะ เช่น ถนน สถานีขนส่งสาธารณะ
- ไม่อยากหงุดหงิดเวลาคุยกับคนอื่นแล้วต้องคอยดึงหูฟังควักเข้าควักออก
- ทำใจไม่ได้กับราคาขายต่อในอนาคตที่คาดเดาความเบื่อของตัวเองไม่ได้ ซึ่งเป็นการขาดทุนมหาศาลเมื่อเวลาจะไปต่อ โดยเหตุผลว่าทำ Custom ตัวที่มันสุดยอดแล้วมันยังไม่ดีพอ เพราะมันจะมีสุดยอดกว่าออกมาเรื่อยๆโดยไม่ต้องมโน

ส่วนข้อที่สนับสนุนตัวเอง เช่น
- บอดี้สวยงามแปลกตากว่าอินเอียร์ทั่วไปตามท้องตลาด
- มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่ซ้ำใครกับการทำ Wizard design ก็อีแค่เพิ่มเงินอีกหมื่นกว่าบาท (แค่นั้นเอ๊งง!)
- ลอง Demo แล้วพอใจกับเสียงแสดงว่า Custom เสียงมันจะดีกว่านั้นอีกตั้ง 30-40% (แต่ต้องยอมรับความเสี่ยงว่าแหลมมันจะมากหรือเบสมันจะมากเกินความต้องการจาก Demo ไม่เป็นไร เสียตังค์ไปแล้วนิ)
- "น่าจะ" เพิ่มเสน่ห์ดึงดูดให้ตัวเอง เป็น option ที่ทำให้คนสนใจใบหน้าเรามากกว่ารองเท้าบู๊ทของเราก็เป็นได้ 555
- ทำตัวนี้แล้วจบได้แล้วนะ สุดทางแล้วนะเป็นการล้างมือในอ่างทองคำของชุดพกพาอย่างแท้จริง
- นานแค่ไหนก็รอได้ มีหูฟังเก็บไว้เยอะแยะ ฟังไปก่อน กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จในวันเดียว!

สรุปว่าเป็นอย่างนี้อยู่นานครับทุกครั้งที่ขอ K10 Demo มานั่งฟังจน System เปลี่ยนไปแล้วไม่รู้กี่ชุดต่อกี่ชุด หู Custom ก็ไม่มาสักทีเพราะติดอยู่กับการหาเหตุผลชั่งตวงวัดในการใช้เงินเพื่อความบันเทิงเริงรมย์ของตัวเอง

จน Kaiser 10 Universal Aluminium Edition ออกมาให้ลองฟัง มันต่างกับ K10 Demo ชัดเจน ซึ่งมันเลยช่วยสลาย paradox ในหัวผมไปได้เยอะเลยครับ สุดท้ายก็เลยได้ร่วมหัวจมท้ายกับ Universal อยู่ดีทิ้ง Custom ให้นอนตกตะกอนอยู่ในความฝันครับ

ผมว่ามันดีขึ้น ประมาณอย่างมาก 15% สำหรับหูผมครับ เพราะถ้าใครลอง UIEM แล้ว มันพอดีพอดีหู มันก็ไม่น่าจะต่างกับ CIEM มากเท่าไหร่หรอก แต่หลายคนมีปัญหา ใส่ UIEM แล้วมันไม่ fitดี แบบนี้ ciem ดีกว่า ผมโชคดีที่โดยมากใส่ UIEM มัน fit ดี seal ดี เสียงมันเลยไม่ได้ถือว่าต่างกันจนน่าเกลียด

สรุป ใครลองใส่ UIEM แล้วมัน fit ดี ซื้อ UIEM ก็ได้ ถูกกว่า และขายต่อขายขาดทุนน้อยกว่า
แต่ถ้าใส่แล้วไม่ค่อย fit ก้ CIEM ไปเลย

แต่ผมน่าจะแปลกกว่าคนอื่นตรงที่ผมคิดจะทำ Custom มาสักตัวไม่ได้คิดเรื่องขายต่อนะครับ แต่อยู่ดีๆเราดันตายไปซะก่อนแทนที่เราจะให้พี่น้องหรือลูกหลานได้ใช้ต่อไปก็คงไม่ได้มันก็คงต้องทิ้งไปเฉยๆครับ

หลักๆเลยคนที่จะเล่นคัสตู้มมม
-มีปัญหาเรื่องความฟิต
-ใช้ในการทำงาน
-เงินเหลือ
-อารมณ์ล้วนๆ ชอบดีไซน์ความสวยและเป็นเอกเทศไม่เหมือนใคร ให้ในสิ่งที่ยูนิเวอร์แซ้ววให้ไม่ได้
ส่วนเรื่องเสียงต้องหาคำตอบด้วยตัวเอง ว่าสิ่งที่ได้มาคุ้มกับเงินที่จ่ายไปหรือเปล่า

ราวต้นปีลูกศิษย์คนหนึ่งของผมชื่อ น๊อต เข้ามาสวัสดีปีใหม่ผมถึงห้องทำงาน

เจ้าน๊อตเป็นนักดนตรีเล่นกลองและเป็นมือ percussion ระดับแถวหน้าของประเทศ ปัจจุบันร่วมงานกับ โก้ มิสเตอร์แซ็กแมน

ผมเคยเห็นรูปน๊อตทำ Custom ที่เรือธงเมื่อนานมาแล้ว น่าจะเป็น UE รุ่นอะไรจำไม่ได้แล้ว เนื้อหาการคุยเลยไปเข้มข้นไปทางเรื่องหูฟัง Custom โดยเฉพาะการใช้ Custom บนเวทีคอนเสิร์ต และใช้ฟังเพลงของมันว่าดีอย่างโน้น ดีอย่างนี้

นั่งฟังมันพล่ามอยู่นาน สักพักผมก็เลยถามน๊อต " เฮ้ย! เอ็งเคยฟังเสียงของ Dita The Truth รึยังวะ?"

"ยังเลยครับจารย์ เป็นยังไงคับ?" พอบอกว่ายัง ผมเลยล้วงมือในลิ้นชักหยิบ Dita เสียบเข้า 380 เปิดเพลง Nadis ของ Patricia Barber ยื่นให้น๊อต มันหยิบหูฟังเกี่ยวหลังหูยัดเข้าทันทีอย่างคล่องแคล่วโดยไม่ต้องแนะนำอะไร

"ขยับๆนิดหน่อยนะต้องหาโฟกัสให้ดี"
"คับคับจารย์"
"เพลงนี้ร่วมสิบนาที เอาล่ะนะ"

ผมปล่อยน๊อตนั่งฟังร่วมสิบนาที ตลอดเวลาได้ยินเสียงเล็ดออกจากลำคออวบของมันตลอดเวลา
" หืมมม....อื้อฮือออ...................โหยยยยยยยย......ไอ้ย่ะ......................ป้าดดด...........อูยยยย"

จบเพลง น๊อตถอดหูฟังคืนแบบก้มหน้า มือท่วมหัว " โหยยย...จารย์ ไมเสียงแม่งโคดดีงี้ล่ะจารย์ "
" คัดต้อมผมเสียงไม่ได้งี้เลย " ผมอมยิ้มไม่พูดอะไรตอบ
" ไอ้พวกนักดนตรีมันต้องฟังอย่างงี้จารย์ มันถึงจะเข้าถึงดนตรี บางคนแม่งยังฟังหูกากๆกันอยู่เลย "
" ตัวนี้มันเท่าไหร่อ่ะคับ"
" สามหมื่นแปด " ผมหลับหูหลับตาตอบ
" หูยย มิน่า...แม่งแพงกว่าคัดต้อมผมอีก " น๊อตตอบตาโต

สรุปวันนั้นน๊อตได้กลับมาเรียนอีกครั้งโดยเข้าคลาสเหนือฟ้ายังมีฟ้า ผมยั้งใจไม่หยิบ RS1e ให้มันฟัง กลัวมันนำ้ลายฟูมปากครับ 5555

555 ปัจจุบันเจ้าน็อตเปนไงต่อบ้างครับนี่อาจารย์

555 ปัจจุบันเจ้าน็อตเปนไงต่อบ้างครับนี่อาจารย์

โหยย ขุดมาอ่านเล่นเหรอครับ 555

ปัจจุบันเจ้าน๊อตเป็นมือกลองเล่นกลางคืนประจำที่ร้านแซกโซโฟน (เมาส์ว่าเจอเฮียที่นั่นบ่อยมากๆๆๆ555)
แล้วก็ตีกลองให้วง The Voice Thailand มาสองสามซีซั่นแล้วครับ

ส่วน Custom ก็ยังคงใช้ UE 3 ไดร์ฟเวอร์อยู่เหมือนเดิมคงกะให้พังคาหูไปเลย 555
คือมันเอาไว้ใช้งานจริงบนเวทีเท่านั้น ไปไหนมาไหนผมก็ยังไม่เคยเห็นมันใช้หูฟังสักที 5555

ล่าสุดมันมานั่งปั้นในหลวงก็พกลำโพง JBL GO ตัวจิ๋วเสียบโทรศัพท์ฟังหนวกหูชาวบ้านสะงั้น !
ผมเจอคุณวินิต เลิศรัตนชัยที่เรือธงบ่อยๆผมก็อยากถามอยู่เหมือนกันว่าทำไมนักดนตรีไม่ค่อยสนใจหรือเอาจริงเอาจังกับการฟังเพลงแบบพวกเราหว่า?  5555

ผมเห็นด้วยครับ ส่วนใหญ่คนที่เน้นเสียงเอาเป็นเอาตายนี่ ไม่ใช่คนทำมาหากินกับเสียงเลยโดยส่วนใหญ่ 555

เรียกว่าเป็นโลกอีกโลกที่เพิ่งค้นพบมั้งครับ

โลกของคนชอบเพลง ผมมองว่า มันมี หลายโลก


รสนิยมเพลงเบื้องหน้า

นักร้อง ลงลึกไปที่ VOCAL + ENTERTAINER

นักดนตรี ลงลึก ไปที่ เครื่องดนตรีประจำกลุ่ม ประจำวง พวก กีตาร์ เบส กลอง เปียโน แซ็ก รวมไปถึง ดนตรีไทย + ดนตรีจีน + CLASSIC + ORCHESTRA

คอมเม้นเตเตอร์เพลง นักวิจารย์เพลงของนักร้อง โดยเน้น ไปที่ เสียงร้อง + ENTERTAINER ของ นักร้องเป้นหลัก เช่น รายการ THE VOICE

แดนเซอร์ ลงลึก ไปที่ ท่าเต้น และ จังหว่ะ BEAT เพลง ความเป็น ENTERTAINER เข้าด้วยกัน เช่น COVER DANCE + HIPHOP + B-BOY + ANISONG


รสนิยมเพลงเบื้องหลัง

นักฟังเพลง แบ่งเป้น 2 กลุ่ม คือ นักฟังเพลงทั่วไป + นักฟังจริงจังเรื่องเสียง ระดับ AUDIOPHILE ที่ ให้ อารมณ์ฟังเพลง เหมือนอยู่ในห้องอัด STUDIO แบบ จริงจัง

นักแต่งเพลง ลงลึกไปที่ เนื้อเพลง + MELODY เพลงเป้นหลัก โลกของเขา คือ ห้องอัด STUDIO

วิศวกรเสียง SOUND ENGINEER ลงลึกเรื่องเสียง ออกแบบเสียง อัดเสียง จัดตำแหน่งเสียง ทุกรูปแบบ ทุกสถานที่ ได้หมด โดยออกแบบเสียง ออกมาให้ดีที่สุด รู้ว่า เสียงไหนดี ไม่ได้ เสียงไหนเกินจริง ไม่เกินจริง เชี่ยวชาญเรื่องเสียงในหลักฟิสิกส์เรื่องเสียง เป้นพิเศษ

บริษัท จูนเสียง หูฟัง ลำโพง เครื่องเสียง ขาย เช่น KINERA + VISANG + OSTRY + BOSE วันๆ หมกตัว อยู่แต่โรงงาน หาแต่เงิน บ้าแต่งาน คงไม่มีเวลาฟังเพลง อย่างพวกเราหรอก 


มันอยู่ที่ว่า ชอบฟังเพลง อยู่ในโลกไหน มากกว่ากัน สีสัน แต่ละโลก ย่อมแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับ ความชอบส่วนตัว ถึง จะ อยู่ต่างโลก ก้ หัวใจคนชอบฟังเพลง เหมือนกัน

55 เหมือนพวกช่างคอม it ละคอมโคดรก เข้าขั้นเน่าแหละคับจารย์ อยุ่กินกะมันจนมันกลายเป็นงาน ไม่ใช่งานอดิเรกที่จะมาให้ความสวยงามกันแบบพวกเรา

ในนี่มีใคร diy เองรึเปล่าครับ ตอนนี้ผมก็กำลังทำอยู่เพิ่งแต่งบอดี้เสร็จแล้วลองสวมดูปรากฎว่ามันใส่สบายมากๆครับปกติผมใสอินเอียร์แล้วชอบระคายหูต้องถอดออกบ่อยๆ ส่วนเรื่องเสียงนั้นคงต้องรอให้เสร็จก่อนแล้วจะมาบอกครับ รวมงบที่ผมคำนวนไว้ก็ราวๆ 300กว่าบาท(ยังไม่รวมหูฟังที่ใส่เข้าไป) แล้วยังเหลือทำได้อีกหลายอัน


" />

เคยลอง DIY แล้ว ล้มเหลว ถ้าท่านทำสำเร็จ ได้ผลประการใด เผยแผ่ เป็นวิทยาทาน ได้บุญกุศลด้วยเด้อ 555