ชัดๆเลยก็ image ชิ้นดนตรี ซึ่ง fullsize จะใหญ่กว่ามาก
ตามขนาด driver เลยครับ กับ soundstage จะกว้างกว่า
เพราะมีระยะห่างหูฟังกับรูหูเยอะกว่า inear

Inear รายละเอียดเล็กๆน้อยๆจะได้ยินชัดเจนกว่า เบสจะแน่นๆ พกพาง่ายกว่า

ลองนึกง่ายๆ ก็เหมือนกับเวลาเราดูหนังอะครับ

อิมเมจของเสียงมันจะใหญ่ขึ้น และสังเกตุรูปร่างรายละเอียดได้ง่ายขึ้นตามขนาดไดรฟเวอร์ครับ(เน้นว่าง่ายขึ้น ไม่ใช่ดีขึ้นนะครับ)

in-ear ก็เหมือนดูผ่านจอมือถือ
Full-Size เหมือนดูผ่านจอทีวี
ลำโพง เหมือนดูผ่านจอโรงหนัง

ที่ต่างกันอีกเรื่องคือเรื่องรายละเอียดระดับไมโครดีเทลต่างๆ ส่วนมากแล้วอินเอียร์จะทำได้ดีกว่าฟูลไซส์ครับ 

ถ้าคุณอยากได้เนื้อๆไม่เอาน้ำแนะนำให้ไปฟังเทียบกันเองที่สาขาเรือธง แต่ถ้าไม่มีเวลาไปคุณก็ต้องกินแต่น้้ำต่อไปแบบนี้แหละ

พูดถึง Soundstage เดี๋ยวนี้ Inear ถ้าเล่นตัวบนๆ บางตัวก็ใหญ่มากๆเเล้วนะครับ เเต่ความโปร่งของมันอาจจะไม่เป็นธรรมชาติเท่าฟูลไซส์เปิด เเต่ถ้าพูดถึงความกว้างอย่างเดียว ฟูลไซส์ตัวไหนที่ไม่ได้เน้นมากอย่าง Focal Utopia นี่ ก็เล็กกว่าอินเอียร์หลายๆตัวครับ

เห็นด้วยกับความเห็นที่ 4 ครับ

รูปร่างลักษณะการใช้งานมันต่างกันแบบไม่ต้องเพ่ง

แต่ถ้าเรื่องเสียง คงอธิบายลำบาก อยากรู้ต้องไปลองฟังเอง

เหมือนฝรั่งไม่เคยกินพริกขี้หนู จะให้คนไทยไปอธิบายว่ากินแล้วต่างจากพริกหยวกยังไงคงไม่สัมฤทธิ์ผลเท่ากับลองกินเองอ่ะครับ

ต้องดูที่คุณภาพของหูฟังอีกทีครับ เพราะยุคนี้มีทั้งดีกว่าเเละเเย่กว่ากันทั้งสองประเภทเทียบกันลำบากครับ

เเต่คุณลักษณะเสียงของ Full size นั้นจะให้เสียงที่มี image ที่ใหญ่ เบสจะมีน้ำหนนัักเเละมวลที่ดีมากๆในหูฟังระดับสูง

ส่วน in ear จะได้เปรียบเรื่่องการเเยกชิ้นดนตรีจาก driver หลายๆตัว ยิ่งรุ่นท็อปก็จะให้รายละเอียดที่สูงมากๆครับ

เเต่ปัจจัยก็มีอย่างอื่นด้วยครับ ถ้า full size ได้แอมป์ดีๆก็ไปได้ไกลมาก  หรือ in ear ได้เครื่องเล่นดีๆก็ไปได้ไกลมากเช่นกันครับ

เเต่ถ้าช่วงราคาไม่เเพงมากพวก full size จะให้เสียงที่สัมผัสง่ายเนื่องด้วย driver มีขนาดใหญ่กว่ามาก  เเต่ถ้าขยับขึ้นหลักหมื่นก็เเล้วเเต่ชอบเลยครับ 

กำลังสนใจหัวข้อนี้พอดี

เวลาเจอการตอบ ให้ไปลองเอง รู้สึกเป็นความคิดเห็นที่ไร้ประโยชน์ที่สุด นอกจากไม่ได้ให้ประโยชน์แล้วยังมาล้มกระดานการแลกเปลี่ยนความคิด ร้านหูฟังมันไม่ใช่เซเว่นที่จะมีทุกที่ และสะดวก

อีกอย่าง จุดขายของร้านเฮียก็คือเว็บบอดและตัวหนังสือนี่แหละ เป็นที่ที่สำหรับคนได้ลองแล้ว กับคนไม่มีโอกาสได้ลอง ได้แลกเปลี่ยนกัน

ถ้าเข้ามาในเว็บบอร์ด โดยเฉพาะกระทู้ถามเรื่องประสบการณ์ของหูฟัง ถ้าคุณไม่มีไอเดียไม่มีประสบการณ์เกี่ยวกับหูฟัง อย่าตอบเลยครับ บั่นทอนคนที่เขาสนใจ

ผมเป็นคนนึงที่ชอบอ่านรีวิว ไล่กดดูกระทู้ที่คุณหลุยตอบ ชอบไล่ดูคลิปการรีวิวหูฟังของร้านเฮีย เพราะร้านนี้ใส่ใจเรื่องการถ่ายทอดประสบการณ์ที่สุดแล้ว

ได้อ่านข้อความของเจ้าของกระทู้ระเอียดรึยังครับ เขาบอกว่าอ่านแต่ในเน็ตแล้วได้แต่น้ำกับเปลือก คือถ้าเขาอ่านมาขนาดนีี้แล้วยังไม่ได้ความอีกเห็็นทีทางออกสุดท้ายก็ต้องไปลองฟังสิครับ 

ที่เขาอ่านแล้วได้แต่น้ำก็เพราะการให้ความเห็นจำพวกคนแบบคุณไงครับ อีกอย่างการตั้งคำถาม การเปิดบทสนทนา มันเพิ่มฐานข้อมูลให้กับ google เวลาเซิช สำหรับคนที่สนใจ topic ประเภทเดียวกัน ถ้าคุณไม่มีอะไรเพิ่มเติม อยู่เฉยๆจะเป็นประโยชน์ที่สุดครับ

เปิดโอกาสให้คนที่มีประสบการณ์ได้เม้น แสดงความรู้สึก ไม่มากก็น้อย ก็เป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านที่สนใจในเรื่องนี้

การที่บอกว่าให้ไปลองฟังเองนั้นมันถูกต้องแล้วคร้ับ เพราะพวกรีวิว และความคิดเห็นของคนอื่นมีไว้เพื่อประกอบการตัดสินใจ อีกอย่างหูฟังจะเสียงดีไม่ดีมันอยู่ที่คนฟังว่าฟังแล้วชอบ ถูกใจหรือไม่ ยิ่งหูฟังตัวท็อปๆ ราคาไม่ใช่ถูกๆ การที่จะซื้อก็คงต้องไปลองฟังก่อนว่าชอบหรือไม่ ถึงจะบอกว่าอยู่ต่างจังหวัด ไม่มีโอกาสไปลองผมว่ามันฟังไม่ขึ้น คุณจะลงทุนซื้อหูฟังตัวละหลายพัน หลายหมื่น หรือหลายแสน ยังไงก็ต้องไปลองฟังครับ  

การที่จะให้ลองฟัง คุณต้องเข้าใจบริบทก่อนครับ อย่างเช่นเฮียมั่นจะบอกแนวทางของเสียงของ product สักตัวนึง แล้วจบด้วยการให้ไปลอง แต่กระทู้นี้มันเป็นการถามความแตกต่าง เขาไม่ได้ถามถึง product ตัวไหนเจาะจง มันแน่นอนอยู่แล้วครับ การที่พูดว่า "ลองเองดีกว่ามานั่งฟังความคิดเห็นคนอื่น" มันเป็นสิ่งที่เถียงไม่ได้อยู่แล้วครับ

แต่เวลาคนตั้งกระทู้ ตั้งคำถาม นั่นก็แปลว่าเขาอยากได้ความคิดเห็น แนวทางของเสียง และเขารู้ข้อจำกัดของการนั่งอ่านอยู่แล้ว ว่ามันไม่เท่าการไปลองเอง ผมเลยบอกว่าเป็นคำพูดที่ไร้ประโยชน์ เพราะเป็นเรื่องทุกคนรู้อยู่แล้ว หวังว่าคุณเข้าใจที่ผมจะสื่อนะ

คนตาบอด แม้มองไม่เห็น แต่ก็อยากได้ยิน คำบรรยาย ถึงลักษณะต่างๆจากคนตาดี
คนมือขาแขนด้วน แม้สัมผัสความเนียน นุ่ม อ่อน ละเอียดไม่ได้ ก็ยังอยากได้ฟัง คำอธิบายจากผู้มีประสบการณ์

การที่จะบอกว่า ให้คนเหล่านี้ ไปสัมผัสเอง ไปมองเห็นเอง ผมว่าความคิดเห็นที่ค่อนข้าง ไม่เป็นประโยชน์เท่าไหร่ครับ
ด้วยความเคารพ

ตกลงได้เนื้อๆรึยังครับ 

full size ดนตรีมีเนื้อขนาดใหญ่สมจริงครับ (Grado Ps500e มีอยู่ตัวเดียวจะขายไปเล่น In ear ก็ขายไม่ลงเพราะ ไม่มี In ear ที่ให้เสียงแบบ Ps500e ได้เลย ในราคาเท่าๆกัน)

เรื่องความต่างที่พูดๆกัน มันเป็นแค่ "โดยหลักการ" นะครับ  ส่วนมากจะประมาณนี้แต่ไม่ใช่ทั้งหมด
เพราะว่ามันไม่มีหูฟัง In Ear และ Full Size ที่เป็นรุ่นเดียวกัน วางมาระดับเดียวกันเป๊ะๆ
จึงจะสามารถเอามาเปรียบเทียบกันในแง่ของเสียงล้วนๆได้น่ะครับ

ทีนี้ ผมกลับมองว่า การเลือกหูฟังระหว่าง In Ear กับ Full Size น่าจะดูที่ความเหมาะสมกับการใช้งานก่อนมากกว่า
ได้รูปแบบที่เหมาะสมแล้วค่อยไปเลือกหูฟังที่เสียงถูกใจ
แบบนี้จะได้หูฟังที่ดีกับตัวเองที่สุดครับ

แต่หากต้องการทราบแค่ความต่างของเสียง
ยากที่จะบอกได้ถูกต้องจริงๆครับ