ผมเก็บคนละแนวเอาไว้สลับกันฟังครับ 

ถ้าของผมไว้ฟังเพลงมี 4 อันครับของ Sony ก็เรียกได้ว่าแนวเดียวกัน ต่างที่ลักษณะการใช้งาน
กับหูฟังอีก 1 อันของ Logitech ที่เอาไว้เล่นเกม ดูหนังครับ

ต่างกันคับ ของผมมี ไว้ใส่ฟังไม่จริงจังและไว้ออกกำลังกาย 1อัน เป็น fully wireless

หูฟังโทนเสียง bright อันนึง กับ dark อุ่น สมูทอันนึง ไว้ เปลี่ยนอารมในการฟังครับ

โดยทั่วไปหูฟังก็ต้องจับคู่กับอุปกรณ์ DAC หรือ DAP ที่มีอยู่ครับ ถ้าหูฟังตัวไหนมันไม่เข้ากับอุปกรณ์ที่มีอยู่ก็คงไม่เก็บไว้เพราะฟังแล้วไม่มีความสุข แตุ่ถ้าพอเข้ากันได้กับอุปกรณ์ที่มีอยู่ก็เก็บไว้ใช้เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา นอกจากนี้ยังต้องพิจารณาถึงแนวเพลงที่ฟังด้วยครับ เพลง Rock/pop Anisong ก็จะเป็นหูฟังอีกสไตล์นึงที่เน้นเบสและเสียงกีตาร์ เพลง Classic ก็อาจต้องเป็นหูฟังที่มีความละเอียด/ขี้ฟ้องสูง  Sound Stage กว้างๆหน่อย เพลง Opera ก็อาจจะต้องมีเสียงนักร้องหรือเสียงแหลมที่ทอดได้ไกล มีความไหวพริ้ว  เพลง Jazz ก็ต้องเน้นเสียงดนตรี เช่น กลอง Saxophone หรือ Piano ที่ชัดเจน การจัดว่างตำแหน่งชิ้นดนตรีที่พอหลับตาแล้วรู้เลย ด้านซ้ายเป็นกลอง ด้านขวาเป็น Sax piano กับนักร้องตรงกลาง อะไรประมาณนี้ 

   แนวเสียงแต่ละตัวไม่เหมือนกันหรอกครับ แม้แต่หูฟังโครงสร้างเหมือนกันอย่างเช่น GRADO RS1กับ Alessandro MS PRO ก็ให้เสียงต่างกันคนละแบบอย่างชัดเจน  หรือแม้แต่หูฟังรุ่นเดียวกันแต่ออกมาต่าง
ปี ค.ศ.กัน เช่น GRADO RS1,RS1i,RS1e ก็ให้เสียงที่ต่างกันอย่างเห็นได้ชัด

ผมมี 2 อัน LCD3 กับ HD800 เรียกได้ว่าคนละทางกันจริงๆ LCD3 ให้เสียงกลางเนียน นุ่น หวาน ชอบเสียงร้องมาก เสียงต่ำลงลึกถึงใจ ฟัง hotel california เพราะมากเสียงกีต้าร์สมจริงเน้นๆเข้าถึงอารมณ์แบบไม่เคยเจอจากหูตัวไหนมาก่อน กำลังคิดว่าจะเอาน้อง Arya  มาอีกจะดีไหม ต้องไปลอง 

Thank สมัคร ufabet:DDD

ผมมี 4 อัน เสียงคนละแนวทุกตัว(และคนละค่ายด้วย) ขึ้นอยู่กับอารมณ์ว่าอยากฟังเสียงตัวไหนครับ ^^
ปล.หูฟังเกมส์มิ่งอีก 2 ตัวไม่นับจร้า

ถ้าหูฟังต่างประเภทกัน ส่วนมากเป็นแนวเดียวกันครับ (ฟูลไซส์ โคลส/โอเพ่น, คลิปออน, เอียร์บัด,อินเอียร์)
ต่ถ้าหูฟังประเภทเดียวกัน แล้วมีมากกว่าหนึ่งตัว คราวนี้จะต่างแนวกันครับ

ไม่มีกฎเกณฑ์หรอกครับ ชอบก็ซื้อความชอบอยู่เหนือเหตุผล