ต้องออกตัวก่อนนะครับประสบการณ์เล่นสายไฟผมคงไม่เท่าคุณ Prob18c แน่นๆครับ 555 แต่อยากแชร์ปัญหาที่ผมเจอคล้ายๆกันนิดนึงคือถ้าเอาสายไฟเส้นโตไปใสในอุปกรณ์ที่ไม่ได้กินกระแสสูงมากก็จะเกิดอาการที่ว่าคือ เสียงหนาขึ้นจริงทุกย่าน แต่แหลมที่เคยทอดไปได้ไกลจะหาย เสียงกลาง-เบสจะขุ่นคลุมเครือแยกแยะไม่ค่อยได้ เบสจะหน่วงๆหน่อยครับ ผมเคยลองเอาสาย the hulk ที่มันเส้นใหญ่มากน่าจะเท่ากับ PK10 มาต่อเข้า DAC กับ HeadphoneAmp แทน Venom 14 ก็เจออาการอย่างที่ว่าแปะ ผมเลยคิดว่าทุกอย่างมันมีความเหมาะสมกันอยู่ เคยอ่านตามเวปบอร์ดเขาก็บอกว่าสายเส้นโตเหมาะกับแอมป์(บ้าน)แล้วก็ปลั๊กพ่วงเพราะมันกินกระแสสูง ส่วนต้นทางไม่ได้ใช้กระแสสูงก็ไม่จำเป็นต้องใช้เส้นใหญ่ ซึ่งดูแล้วจากที่ผมลองเล่นมาบ้างนิดหน่อยท่าจะจริงครับ 

ส่วนตัวผมก็คันอยากจะหาสายมาแทน Venom 14 อยู่เหมือนกันครับ คือฟังแล้วมันก็กลางไปทุกอย่างไม่ถึงกับมีข้อเสียคือเข้าได้กับเครื่องแทบจะทั้งหมด(เฉพาะเครื่องที่กินกระแสต่ำนะครับ) แต่มันไม่สุดครับ 55555 ผมก็ส่องไปเรื่อยว่าจะหาตัวแทนมันโดยมีข้อแม้ว่าขนาดต้องเท่าเดิมคือ 14 AWG เพื่อไม่ให้เสียดุลเสียงเดิม ก็ไปเจอตัวนึงน่าสนใจแต่ราคาเอาเรื่องอยู่คือ Furutech FP-TCS21 http://www.clef-audio.com/files/pdt_en_37.pdf น่าจะเป็นตัว Top ของสายขนาด 14 AWG ที่ใช้ตัวนำ  Alpha PC Triple C conductor แต่ต้องหาหัวท้ายมาเข้าเองครับ ยังไงถ้าคุณ Prob18c ลองเก็บไว้พิจารณาซักเส้นนะครับ ถ้าได้ลองแล้วอย่าลืมมาเล่าสู่กันฟังให้ผมเกิดกิเลสบ้างนะครับ 5555

โอ้ว คุณ Peerasak เล่นคล้ายๆ ผมหลายอย่างเลย จริง venom 14 มันก็ฟังเพลินนะครับ แต่ติดที่พอฟังเทียบกับ PK10 แล้วมันขาด ไปนิดๆ พอ ฟัง PK10 ก็เกินไปอีก จริง ๆ ผมลอง เอา furutech fp 314 ag ไปเสียบที่ PC รอบแรกมาแล้วครับแล้ว เอา pk10 เข้า clef lsd 5 ที่เคยได้รับคำแนะนำ จากคุณ peerasak เรื่อง fuse พอลองเสียบปรากฎว่า มัน ได้รายละเอียดแบบมามากๆ เสียง micro detail ออกมาเต็มไป หมด แต่ มัน จะขาดความลื่นไหล และเวที แคบลง ครับ ช่องไฟ ไม่ดี เสียง ฟังดู งง ตีกันครับ 

เดี๊ยวลองหาข้อมูล ดูก่อน ครับ สำหรับสายที่แนะนำ ขอบคุณมากนะครับ 

ผมลองหาข้อมูลดู furutech fp 314 ag เป็นสายทองแดง u-OFC ชุบเงิน ขนาด 14 AWG http://www.furutech.com/2013/01/27/1209/ ผมเดาว่าเพราะชุบเงินน่าจะทำให้มันขุด Detail ออกมามากกว่าสายทองแดงล้วนอย่าง Venom 14 (14 AWG) กับ PK10 (10 AWG)  และรวมไปถึงปลั๊กหัวท้ายที่ใช้ด้วยครับ

ถ้าจะให้เสียงนักร้องตัวใหญ่ลื่นไหลกว่า Venom ผมคิดว่าน่าจะต้องหาสายที่ใหญ่กว่า 14 AWG (ตัวเลขน้อยสายยิ่งใหญ่)  แต่ไม่น่าจะถึง 10 AWG เพราะกลัวเบสจะช้าเหมือน PK10 และลองดูเป็นตัวนำทองแดงล้วนเกรดสูงๆเพื่อให้เสียงออกมาโทนอุ่นแต่รายละเอียดยังอยู่ครบครับ ทั้งหมดคือการคาดเดาล้วน 555 ลองดูนะครับ

ขอบคุณนะครับ เมื่อวานแวะไป ปิยะนัสมา น้องบอก รอๆๆๆ สัก 200 ชม ค่อยดู กันอีกที เพราะ เสียงยังไม่นิ่งมาก แต่แนะนำ kaptivator lite  T T น้องบอก มาขนาดนี้ เอาให้สุด 555 เป็นลมแพร๊บ 

เมื่อวานผมซื้อชั้น มาใหม่ เนื่องจาก สาย tornado มันใหญ่ มากครับ แต่เดิม pk10 วางบน built in พอได้ แต่พอเจอ tornado ไป อย่างกับงูเหลือมวางไม่ไหว ชั้นเป็น acrylic เหมือนเสียง จะใสขึ้น แต่มีความแข็ง และ แห้ง ไปนิดครับ อาจจะต้องลองหา เขียง ikea ในตำนาน มาขั้น 

ไม่น่าเชื่อว่าเพราะ สายไฟเส้นเดียว บานปลายไปขนาดนี้ T T

ต่อกับคอม ได้ลองต่อพวกสาย ac digital ดูบ้างหรือยังครับ ผมเห็นว่าน่าสนใจดี มีฟิวเตอร์ลดน๊อยซ์ต่างๆด้วย ราคาก็ไม่เวอร์วังเหมือนพวกรุ่นสูงๆอย่าง kaptovator หรือ zigma แต่เสียงจะถูกใจหรือปล่าวอันนี้ไม่ทราบนะครับ ลองแล้วบอกเล่ากันฟังด้วยนะครับ ^^

ชั้นวางมีผลต่อเสียงจริงครับ เท่าที่เคยลองพวกพื้นกระจกแล้วก็อะคริลิคเสียงมันจะคม แต่กระจกผมว่ามันไม่แห้งเหมือนเหมือนอคริลิคนะครับ แต่ของผมใช้แบบพื้นเป็นไม้เสียงจะนุ่มหูกว่าแหลมมันจะกังวานมีฮาโมนิคเป็นธรรมชาติดีครับ เคยอ่านเจอใช้แท่นวางหินอ่อนเทียมบอกว่าเสียงเหมือนดีกันแต่ผมไม่เคยลองเห็นราคาแล้วแพงเอาเรื่องอยู่ครับ 555 

เหมือนกันเลยครับ ชุดถ้ามันลงตัวแล้วลองขยับอะไรนิดหน่อย มันจะทำให้บางอย่างขาดเกินๆขึ้นมาทันที เหมือนมันต้องยกทีมเปลี่ยน ครม ทั้งคณะถึงจะทำงานร่วมกันได้ยังไงยังงั้นเลย ตอนนี้ผมเลยไม่กล้าแตะอะไรแล้วครับกลัวเสียตังค์ 5555

@ K. Bonus79 ขอบคุณ นะครับ คิดอยู่เหมือนกัน ว่าจะไปลองสาย digital โดยเฉพาะ ครับ แต่ผมแอบมีโครงการในใจ คือกะจะประกอบ Music Server เอง โดยใช้ LPSU แต่เที่ยวนี้ อาจจะลองของนอก เลยยังชั่งใจอยู่ครับ 

@ K. Peerasak สงสัยต้องเอาไม้มาใส่เพิ่มครับ มันแห้ง จริงๆ เสียงกีตาร์ มันแข็ง และห้วน ขาด ฮาร์โมนิค ไปเลยครับ นี่ถ้าเปลี่ยน source เป็น fanless + LPSU ไม่รู้จะเป็นไง อันนี้ก็แอบกลัวอยู่ เพราะ เคยอ่านเจอเหมือนกันว่าบางคนไม่ชอบ เพราะ เรียบไป มันไม่มีให้ลองซะด้วยสิครับ 

ตอนนี้เบิร์น tornado มา  120 ชม ละ มานั่งฟังจริงจัง สุดท้าย pk ไม่มีที่ยืน ฟังแล้วอึดอัด ขุ่นๆ venom ฟังเทียบจะรูสึกเล็กกว่านิด แต่สะอาด และมีมิติกว่าเยอะครับ ไม่น่าเชื่อว่า match นี่สำคัญ จริงๆ คงจะอยู่กะ venom ไปอีกสักพักครับ แล้วรอ  server ใหม่ ค่อยขยับขยาย

ชอบโพสหาเรื่องให้เสียเงินซะจริง......สายไฟที่บ้านสั่นเลย

พี่ hsung ต้องลองครับ นี่ขนาดลูกรองนะครับ ถ้าลูกใหญ่ hurricane นี่น่าจะสุด หลังจาก ได้ เบิร์น อีกนิด ตอนนี้ tornado ค่อนข้างนิ่งแล้วครับ ผมเลยเริ่ม เสียบ เข้า เสียบ ออก จนตอนนี้ ได้ จุดที่ลงตัว สำหรับสายอวบ ๆ ทุกเส้น คือ ผมเอา pk10 หัวท้าย wattgate evo rh เข้า clef pb6s เพื่อ ความฉ่ำ และนุ่มนวล ตอนแรก ถอดออก แล้ว เสียงยังติดแห้ง และแข็ง แล้ว ตอนนี้ เอา jps แดง หัว wattgate eco ต่อจาก clef pb เข้า pc ได้ความหวานของเสียงร้อง รายละเอียด และเวที พร้อมพลัง อีกเส้นที่ต่อ จาก clef pb คือ furutech fp 314ag เข้าหัว fi 15 au ไปเข้า clef lsd5 เพื่อเข้า usb card ของ jcat ได้ แหลม ใส ประกาย บวก เบส กระแทกขึ้นอีกนิด อีก 2 เส้นต่อตรงเข้า wattgate 381 au evo คือ a art เข้าหัว nrg1000 สำหรับเสียบน้อง ayre codex และ สาย tornado เข้า 281 สิ่งที่รู้สึกว่า tornado ให้ คือ มิติครับ คือ ฟัง concert เช่น album in boston ของ chris botti หรือ live in paris ของ diana krall มันได้บรรยากาศ แบบอยู่ ในนั้นเลย หรือ album night club ของ  patrcia barber ก็เหมือน นั่งฟัง อยู่ ใน club เสียงเล็กเสียงน้อย ออกมาหมด หรือเพลงที่ อัดมาในห้องอัดปกติ ก็ ได้ feeling ขนาดของห้องอัด แบบรู้สึกได้ เสียงมันหลุด หัวออก ไปหมดครับ ล้อมรอบ สูงต่ำ ลึก ที่ชอบมากๆ คือความเนียนของเสียงร้อง ที่ถ่ายทอด ออกมาได้แบบ ได้อารมณ์ อย่าง album i fall in love too easily ของ katherine mcphee นี่ เสียงของ kate เนียนใส อีกอย่างคือสายไฟ aq เส้นนี่ไม่ได้ เน้น เบสแบบ จัดหนักนะครับ เบสมาพอดีๆ นุ่มๆ แหลม จะถอยนิดนึงแต่ไม่ได้ด้อยนะครับ แค่ตำแหน่งจะถอยหลังไปใกล้ๆ กับ ไลน์ กลอง ข้อเสีย คือสาย หนัก และแข็งมากครับ 

ตอนนี้ ดันรู้สึกว่า ถ้าได้ wattgate evo au มาเติมตรง สายแดง เสียงร้อง ไม่รู้จะหวานไปได้อีกไหมครับ

หมายถึงเอาสายที่เสียงอวบเสียบผ่านเครื่องกรองไฟใช่ไหมครับ เสียบแล้วมีอาการอั้นเหมือนเวลาดนตรีมันโหมแล้วไปไม่สุด กับรายระเอียดเยอะขึ้นแต่เสียงแห้งฮาโมนิคหายตามมาไหมครับ ผมเคยใช้เครื่องกรองไฟอีกเจ้านึงเจออาการที่ว่าจนเดี๋ยวนี้เข็ดเลิกใช้เครื่องกรองไฟไปเลยครับ

ตอนนี้เอา pk10 เข้า clef ครับคุณ peerasak ก่อนหน้านี้ เป็น jps เข้า clef แห้งกับแข็งอยู่นิดหน่อย แต่พอสลับ เอา pk10 เข้าเลย ได้ความนุ่มกับฉ่ำ กลับมา ผม ต่อ กรองแค่ pc เพราะ อยาก ดัก noise ที่ ออกมาจาก pc อ่ะครับ dac กับ amp ผมเสียบตรงครับ เลยไม่รู้สึกว่าอั้น มีแค่บางเพลง ที่รู้สึกว่าไม่สุด พวก classic วงใหญ่ จังหวะ พีค มีรู้สึกนิดๆ หรือ smash ของ patricia barber นี่ก็ รู้สึกครับ คือต้องเติม volume เพิ่ม 

ตอนผมได้ jcat usb card มา ผมเคยลองเอา filter ออก ปรากฎว่าเสียงมาเต็มกว่าครับ แต่มันก็มากับความฟุ้ง พอสมควร ก็เลยต้องยอม ใส่ filter กลับ ปลั๊กกรองก็น่าจะคล้ายกัน แต่ ยังไม่เคยลองเสียบตรงสักที เด้วอาจจะลองดูครับ

เยี่ยมเลยครับ ผมติดตามกระทู้ของคุณ Prob18c ได้ประสบการณ์ดีๆเยอะเลยแถมยังลุ้นกับการเปลี่ยนแปลงตามไปด้วยครับ 555  

เล่นมาขนาดนี้ น่าจะเคยอ่านกระทู้นี้แล้วใช่มั้ยครับ
https://piyanaselectric.com/forum/index.php?topic=13593.0

@Peerasak ขอบคุณนะครับ อยากให้ลอง สายแดงเข้า pc นะครับ มันไม่ขุ่นเหมือน pk10 แถมได้เวทีกว้างนักร้องเสียงหวานอีกนิดตัวไม่ใหญ่เกิน 

@Bonus79 อ่านบ่อยครับ รวมถึงกลับไปอ่านกระทู้ คุณ Bonus79 เรื่องสาย shunyata เหมือนกัน แต่เหมือนสายที่อยู่ในกระทู้ 20 เส้นเป็นสายตำนาน คงค่อยลองไปเรื่อยๆ ครับ 

อย่าพิจารณาแต่เรื่องสายไฟอย่างเดียวนะครับ ยังไงต้องมองปลั๊กผนังที่ให้เสียงแมทชชิ่งกับสายไฟที่เราใช้อยู่ด้วยครับ ตอนนี้ไม่ทราบว่าปลั๊กผนังลงตัวไปบ้างแล้วหรือยังเอ่ยยยย 55

ปลั๊กผมลอกการบ้านเฮีย มาหนึ่งเต้าครับ คือ Shunyata SR4 เสียบ PowerBridge 6s ต่อ Source อีกทีครับ อีกเต้าคือ Wattgate 381 Evo AU ครับเฮียอันนี้เสียบ 2 ทั้ง DAC และ AMP เลยครับ

คุณพีครับ ผมเลิกใช้เครื่องกรองไฟนานละ clef powerbridge ที่มีก็ยกให้น้องเขยไปใช้ เพราะชอบต่อตรงมากกว่าครับ

เดี๋ยวจะลองอัพเกรดสายคอมดูว่าหูฟังออกมั้ย แล้วก็ว่าจะลองหา wattgate มาลองใช้ดูว่าต่างกับ Shunyata sr-z1 ของเฮียยังงัย

เบสตอนนี้ล้นเหลือ ถ้าอยากได้ประกายระยิบระยับนี้ ต้อง Rodium หรือเปล่าครับ เพราะถ้า gold กลัวมันจะเสริมจนล้นไปอีก 

หัว pk10 ผมใช้ rh พอตอนแรก ที่ถอด ออกรู้สึกมัน แห้งไปครับ พอใส่กลับมา ได้ฉ่ำ โปร่ง แต่แหลม ฟรุ้ง ฟริ้ง นี่ไม่ค่อยเท่าไหร่นะครับ ปลายเสียงมันฉ่ำแต่ไม่ได้ยกให้ฟรุ้งฟริ้งขึ้นอ่ะครับ อาจจะเป็นเพราะ ต่อผ่านกรอง ก่อนเข้าระบบหลัก แต่ตอนได้มาแรกๆ ที่ต่อเข้า dac/amp ก็ให้แหลมที่ ฟรุ้งฟริ้ง กว่า venom 14 นะครับ

ขอ อนุญาติ update พร้อม คำถามเพิ่มอีกหน่อยครับ ตอนนี้ เอา jps in wall ไปเปลี่ยนหัว เป็น wattgate 330i 350i evo ทอง มา สิ่งที่ได้ คือ ความอิ่ม หวาน หนา นักร้องอ้วน ละมุน แต่สิ่งที่ เสียไป คือ ความโปร่ง และประกาย ของเสียงแหลม ที่ลดลง ตอนนี้ เลย ลองสลับ เอา pk 10 ที่มี หัว rh เข้า pc และ jps เข้า กรอง pb6s ความโปร่ง และ ประกาย กลับมา แต่ก็แลก ด้วย ความหวาน และ ความพริ้ว ของเสียงร้อง ที่หายไป ครับ 

เลยอยาก ปรึกษาว่า ถ้าเอา clef pb6s ไปโม ตั้งแต่ iec wiring หางปลา และ ปลั๊ก โดย ทุกอย่าง เป็น rh หมด และปลั๊ก เล็งไว้ 2 ตัว คือ r1 กับ gtx d rh มันจะช่วย เพิ่ม ประกาย กลับมาได้ไหมครับ

เคยลองปลั๊กหัวท้ายของ oyaide ไหมครับ พวก rhodium plating หรือ palladium plating รายละเอียดดีแต่ไม่จัดจ้านเท่าของ furutech 

Oya ยังไม่เคยเลยครับ เลยกะจะลอง ปลั๊กเค้าซะหน่อย

หัวท้ายปลั๊กของ Oya ผมว่าเสียงกลมกล่อมดีครับ ไม่ค่อยมีเสี้ยนเสียงของปลายแหลมมากเท่าหัวโรเดียมอื่นๆครับ ส่วนปลั๊กผนังของ Oyaide เสียงออกหวาน กลางแหลมใส ปลายแหลมละเอียดยิบ แต่เบสน้อยกว่าปลั๊กแบรนด์อื่นเล็กน้อย เอาไว้ใช้คัดท้ายซิสเต็มของตัวเองได้ครับ

ขอบคุณครับเฮีย สงสัยต้องไปเอา Oya มาลดความอวบของนักร้องแล้วเพิ่มปลายแหลมอีกสักนิดครับ

ถ้ามีตลาดให้ยืมลองแบบแร็คเก็ตของโยเน็กได้คงดี ไม่อย่างนั้นโอกาสแมทชิ่งยากมาก ได้ซื้อได้ขาย วนกันไป