โดยในกล่องนั้นจะมาพร้อมกับอุปกรณ์หลักๆดังนี้ครับ
- ตัวเครื่อง Astell&Kern XB10
- คู่มือการใช้งาน
- สาย usb to micro usb
- คลิป (สามารถใส่และถอดออกจากตัวเครื่องได้)
XB10 โดดเด่นด้วยเทคโนโลยี aptX™ HD ที่สามารถรับไฟล์เพลงได้สูงถึง 24/48kHz. มาพร้อมกับภาคถอดรหัสและภาคแอมป์แยก Hi-Fi DAC X Analog AMP ที่ให้ประสิทธิภาพสูง พร้อมทั้งมีช่องหูฟังที่รองรับระบบ balance 2.5mm. และ stereo 3.5mm. เเจ็ค 2 ช่องให้เลือกใช้ ซึ่งแฟนๆ Astell&Kern ที่ใช้หูฟังระบบบาลานซ์อยู่ก็ยังคงสามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพเลยครับ
และมาพร้อมกับฟังก์ชั่นต่างๆให้เลือกใช้ได้อย่างครบครันทั้ง เล่นเพลง หยุดเพลง เปลี่ยนเพลง ปรับเพิ่มลดเสียง และยังสามารถใช้งานเป็น Handsfree รับสายและสนทนาโทรศัพท์ได้โดยตรงเลยครับ เพราะตัวเครื่องนั้นมี Mic. build in มาให้ในตัวเลยครับ ซึ่งจะมีระบบ noise/echo cancelling เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นครับ
XB10 สามารถ standby ได้นานถึง 300 ชั่วโมง และใช้งานได้ต่อเนื่อง 5 ชั่วโมง ต่อการชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 1 ครั้ง(2 ชั่วโมง)
ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างเพียงพอใน 1 วันได้แบบสบายๆครับ
ในส่วนของเรื่องคุณภาพเสียงนั้นหากเทียบกับ Bluetooth receiver ที่เคยใช้มาทั้งหมด เจ้า XB10 นั้นต้องได้รับการชูมือชนะอย่างเป็นเอกฉันท์เลยครับ ด้วย Hi-Fi DAC X Analog AMP ที่ให้แรงขับแบบไม่ตกหล่น และเนื้อเสียงให้มาแบบเต็มๆ ไม่ผอมบางและรายละเอียดหายแบบตัวรับสัญญาณที่เคยขายกันเมื่อก่อนครับ และยิ่งใช้งานผ่านช่อง Balance 2.5mm. ก็จะยิ่งให้พละกำลังที่ดีขึ้นไปอีก
โดยรวมแล้วเป้นอีกหนึ่ง accessory ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งานได้อย่างดีเยี่ยม เพราะบางครั้งอาจจะไม่สะดวกที่ต้องหยิบมือถือ หรือเครื่องเล่นออกจากกระเป๋าบ่อยๆ อีกทั้งยังสามารถสั่งการควบคุมผ่านตัว XB10 ได้แบบครบๆ ทำให้สามารถทำ activity ต่างๆได้สะดวกตามภาพประกอบเลยครับ
Astell&Kern XB10 นั้นสนนราคาอยู่ที่ 7,190 บาท สามารถซื้อและทดลองฟังด้ที่สาขาใกล้บ้านได้แล้ววันนี้ครับ..
ถ้าอยากจะใช้ต้องรองรับ aptX ทั้งตัวรับและตัวส่ง ถ้าทั้งรับและส่ง ก็แนะนำให้ซื้อ 2 ตัวเลย
ถ้าตัวรับเป็น aptX Lossless แต่ตัวส่งเป็น aptX ก็จะรับได้ที่ bitrate 384 kbit , latency 150-250 ms
ถ้าตัวรับเป็น aptX แต่ตัวส่งเป็น aptX Lossless ก็จะรับได้ที่ bitrate 384 kbit , latency 150-250 ms เช่นกัน
ยึดหลักตัวต่ำสุดเป็นตัวกำหนด ถ้าอยากให้ได้คุณภาพเสียง aptX Lossless (aptX HD) ก็ต้องเป็น aptX Lossless (aptX HD) ทั้งตัวรับและตัวส่ง
นอกเหนือจากนั้น
ผมมีหูฟัง Plantronics BackBeat Pro ที่รองรับ aptX
https://www.aptx.com/products/plantronics-backbeat-pro-wireless-headphones
ผมได้ไปลองต่อผ่านบลูทูธผ่าน Sony A25 ที่รองรับ aptX
https://www.aptx.com/products/sony-nwz-series-high-resolution-walkman
http://www.kafaak.com/2015/11/29/review-sony-nw-a25-hi-res-music-player-and-h-ear-on-mdr-100a-music-lover-buddy/
http://www.head-fi.org/t/768512/sony-nw-a20-series
พบว่าหูฟังของผมขึ้นว่าต่อผ่าน SBC ไม่ใช่ aptX ที่จอของ Sony A25
ดังนั้นถึงอุปกรณ์จะรองรับ aptX ทั้งคู่ก็ใช่ว่าจะใช้งาน aptX ได้ทันที
และถ้าระบบไม่บอกเราว่ากำลังเชื่อมต่อผ่าน aptX เราก็ไม่มีทางรู้ได้เลยว่าเรากำลังใช้งานผ่าน aptX จริงไหม
หูฟังของผมไปอ่านเจอมาคือมันต้องใช้วิธีพิเศษเฉพาะรุ่นด้วยถึงจะใช้งาน aptX ได้
ซึ่งผมก็อ่านแล้วมึนๆ เลยกลับไปฟังผ่าน AAC (256kbps) ด้วย iphone ดีกว่า เสียงก็รับได้เหมือนกัน
*************************************
น้าชาจะย้ายไปค่ายไหนคร้าบ ?
*************************************
น้าชาจะย้ายไปค่ายไหนคร้าบ ?
***********************************
Note 7 อันตรายมากครับ มันเป็นอาวุธพกพาชัดๆ อย่าไปยุ่งดีที่สุด เดี๋ยวนี้เวลาขึ้นเครื่องบิน กว่าจะบินได้ กัปตันประกาศเป็นสิบรอบว่าไม่อนุญาตให้เอาขึ้นเครื่องครับ -_-"
ส่วน Z5P ของผมก็อาการเดียวกันเลยครับ ช่อง 3.5 ใช้ไม่ได้แล้ว ตอนนี้เวลาฟังเพลงจากมือถือเลยใช้ Aqua เป็นหลัก แต่ตอนที่ไปลอง XB10 ยังไม่ได้ลองกับ PK1 คงต้องหาโอกาสไปลองอีกรอบครับ