อย่าไปพยายามเข้าใจมันเลยจ้าครับ
เข้าใจทั้งหมดนี่้ แล้วชื่นชอบกับมัน ระวังชีวิตจะเจอแต่กับมาม่าจ้า

ขาดสารอาหารกันได้ง่ายๆเลยจ้า

ตัดแปะพจนานุกรมเสียง ฉบับมั่นคงพีเดีย
เอาแค่เสียงแหลมก็อยากจะบ้าตายแล้วครับ 55555



แหลมคม = แหลมที่มีความชัด คม มีความเกินพอดีบ้าง จนบางครั้งรู้สึกว่าจัด
แหลมใส = แหลมแบบมาละเอียด ครบ ฟังแล้วโปร่ง ชี้ตำแหน่งได้ชัด
แหลมบาด = คือแหลมคมนั่นแหละ แต่ดันเป็นคมแบบ x2 จนกลายเป็นบาดหู
แหลมเนียน = คือแหลมที่ไม่บาดหู ฟังสบาย กลมกล่อม ได้อานิสสงค์เสียงกลางอุ่นๆมาช่วย
แหลมกุด = คือแหลมที่ทอดตัวไกลไปถึงระดับหนึ่ง แล้วก็หายวับไปกับหูซะงั้น
แหลมสว่าง = คือแหลมใส แบบ X2 คือ พอมันใสมากจนเกินไป ก็ฉุดให้ทุกอย่างสว่าง
แหลมอุ่น = คือแหลมเนียนที่ได้เสียงกลางอุ่นๆมาช่วย ถ้าได้มากไปก็กลายเป็นไม่ใส
แหลมแสบดาก = แม่งคือแหลมที่ต้องเอาไปเขวี้ยงทิ้งเร็วๆๆ
แหลมประกาย = มีฮาร์โมนิคดี ทำให้รู้สึกว่ามีอะไรไปล้อมรอบเสียงแหลมตรงนั้น
แหลมกรุ้งกริ้ง = มันคือแหลมประกาย แต่ได้ยินฮาร์โมนิคมากกว่า ส่งผลให้แอมเบี๊ยนซ์ดี
แหลมทอดยาว = คือแหลมที่ทอดจนกรอบ เอ๊ย เป็นแหลมที่ไหลไปไกลจนสุดสายตา
แหลมน้ำ = แหลมไหลเป็นน้ำ แสดงว่าไดนามิกคอนทราสดีมาก ใช้วัดผลพวกเครื่องเล่น-amp
แหลมปรอท = น่าจะได้ยินเสียงแหลมหยดได้เป็นเม็ดๆ จริงๆน่าจะเทียบกับเหล็กไหลก็ดี
แหลมเม็ด = คือแหลมที่ฟังแล้วได้ยินการดีดตัวลอยเป็นเม็ดๆ มีน้ำหนักเหมือนจะเป็นเม็ด
แหลมฟรุ๊งฟริ๊ง = เป็นแหลมที่เป็นน้องสาวของแหลมกรุ๊งกริ๊ง
แหลมจัดจ้าน = คือการพัฒนาการไปอีกขั้นของแหลมคมชัด คือจากแยกพัฒนาการไปบางนา
แหลมละเอียด = คือได้ยินรายละเอียดและการบันทึกแบบครบถ้วนสุด
แหลมแตกฝอย = น่าจะเป็นแหลมนอกคอก ที่ผ่าเหล่าผ่ากอแตกออกมาเป็นฝอยๆ
แหลมขึ้นขอบ = ขึ้นขอบคือผลข้างเคียงของแหลมคมที่มากไปแต่ไม่ถึงแหลมจัดจ้าน

อ่านความเห็นสองจบ แล้วจงทำตามความเห็นหนึ่ง

โอ้วบ้าไปแล้วว อ่านคห.2 ถ้ามันจะยากซะขนาดนี้ ผมเอาหูฟังไปถ่วงน้ำดีกว่า 5555
ยังไงก็ขอบคุณมากนะฮะ อ.ahura 555555

2.)เสียงร้องหวาน เป็นยังไงอะครับ อันนี้ไม่เข้าใจจริงๆ TT

ถ้ามีโอกาสลองหา ATH W5000 ฟังดูครับแล้วจะเข้าใจ

ถ้าจะเอาไปถ่วงน้ำ หลุยส์ขอซื้อต่อครึ่งราคานะ อิอิ

หลุยส์ก็ไม่รู้นะว่าเราจะไปรู้มันทำไม กับไอ้ช่องไฟ แหลมฝอยเป็นประกาย เสตจกว้างสเตจแคบ เบสลงลึกถึงสะดือ ปล่อยให้คนที่เขาชอบรีวิวเขารู้ไปดีกว่า รู้ไปก็ไม่ได้จับโปเกม่อนเก่งขึ้นนะ อิอิ

หูฟังราคาเป็นพัน เป็นหมื่น มานั่งอ่านแล้วจินตนาการตาม ถ้ามันตรงที่เขาบอกก็ดี แต่ถ้าฟังเองแล้วไม่ใช่ละ

555555 เจอสามหลุยส์เลยครับ กระทู้นี้

คห.5 ไว้มีโอกาสจะไปลองครับบ 555
คห.6 เห็นด้วยเลยครับ มีหลายตัวมากที่อ่านแล้วมันต้องใช่แน่ๆ ไปฟังจริงลาก่อย
ไม่เสียตังแล้วตรู 55555

ตามที่เข้าใจ
อุ่น=สว่าง ประมาณว่าเสียงสดใส ไม่ชวนง่วง
เสียงเปิด ตรงข้ามกับ เสียงขุ่น
เสียงหวาน อันนี้ไม่เคยเข้าใจชัดเจนเลย
จะแจ้ง=เสียงคมชัด

upper bass น่าจะหัวโน๊ตของเบสหรือเสียงร้องโทนต่ำ
mid bass เสียงกลองเบส, เสียงเบสสาย 1-3, เสียงกระแทกหรืออิมแพคที่เกิดจากเสียงต่ำ
deep bass เสียงของสายเบสเส้นที่ 4-5, หางของเสียงเบส, เบสที่เป็นบรรยากาศ ฟังไม่ค่อยออกเป็นคีย์

คล้าย ๆ กับให้บรรยายความเค็มของเกลือมาเป็นประโยคบอกเล่า ผมว่ายากนะ

อยากรู้เสียงแนวไหนเป็นยังไงไปลองฟังที่ร้านดีกว่าครับ เข้าใจกว่าอ่านตัวหนังสือเยอะครับ 555

ตอบให้เลยนะครับ ถ้าผิดพลาดประการใดท่านที่ทราบช่วยแก้ไขให้ด้วยนะครับ 555


1.)เสียงโทนอุ่น/ดาร์ค/ขุ่น/อิ่มหนา ต่างกันยังไงอะครับ ความรู้สึกในผมมันกำกวมมาก มัน
คล้ายๆกันใช่ไหมครับ

****ใช่ครับ จะคล้ายๆกัน แล้วแต่คนฟังแต่ละคนจะจำกัดความ แต่ความหมายตรงกัน คือเสียงจะค่อนไปทางเสียงต่ำและมีปริมาณของเสียงในย่านกลางและต่ำมากกว่าเสียงในย่านแหลม ทำให้เรารู้สึกว่ามันไม่สว่าง ไม่สดใส นั่นเป็นเพราะปริมาณเสียงแหลมนั้นได้ยินน้อยกว่านั่นเอง ซึ่งไม่ใช่เรื่องดีหรือไม่ดี แต่เป็นเรื่องรสนิยมมากกว่าครับ


2.)เสียงร้องหวาน เป็นยังไงอะครับ อันนี้ไม่เข้าใจจริงๆ TT

****หมายถึงเสียงที่ได้ยินลื่นไหลอย่างต่อเรื่อง และมีประกายของเสียงแหลม รวมถึงมีไวเบรชั่นการสั่นของตัวโน๊ตมาประกอบ ซึ่งเวลาพูดถึงเสียงร้องหวาน เราจะเข้าใจกันได้ดีว่าหมายถึงเสียงกลางและเสียงแหลมครับ


3.)กลางแหลม มันอยู่ช่วงไหนอะครับ ไม่เข้าใจจ

****ความถี่เสียงแบ่งออกหยาบเป็น 3 ย่าน คือ ทุ้ม กลาง แหลม เสียงทุ้มก็คือเสียงต่ำ เช่นเสียงกระเดื่องกลอง เสียงกีตาร์เบส ส่วนเสียงกลางจะเป็นย่านเสียงที่มีเครื่องดนตรีมากที่สุด เสียงกลางจะมีพวกเครื่องเคาะ เครื่องเป่า รวมถึงเครื่องสี และเสียงนักร้องก็คือเสียงกลาง ส่วนเสียงสูง ก็คือเสียงของเครื่องดนตรีที่มีตัวโน๊ตสูงๆ รวมถึงเสียงฉาบ เสียง hi-hat เสียงกระดิ่งต่างๆ พวกนี้จะอยู่เสียงย่านเสียงแหลมหรือเสียงสูงครับ


4.)upper/mid/deep bass ขอความกระจ่างกับ3ตัวนี้ทีครับ โดยเฉพาะdeep bass(เบสลงลึก)เท่าที่ผมเข้าใจคือ
เวลาลูกเบสมาแล้วมันเข้าไปได้สุดถึงปลายช่วงของมัน ไม่ใช่มาให้แค่รู้สึกว่าเป็นเนิน แบบนี้เข้าใจถูกไหมครับ

****เบสจะถูกแบ่งออกเป็น 3 ย่าน คือ Upper bass, และ Mid bass, และ Deep bass หรือ low bass เสียงต่ำเกิดจากเครื่องดนตรีที่ให้เสียงต่ำเป็นหลัก เช่นกลอง หรือดับเบิ้ลเบส พวกเสียงต่ำหรือ deep bass จะเกิดจากเครื่องดนตรีที่ให้เสียงต่ำได้มากๆ เช่นออร์แกนท่อ Pipe Organ หรือเสียงกลองทิมปะนี ที่ใช้ตีในวงคลาสสิกใหญ่ๆ หรือโน้ตกีตาร์เบสที่ดีดโน้ตต่ำมากๆก็ใช่เช่นกนครับ ถ้าต้องการทราบว่าเสียงต่ำมากๆ หรือ deep bass ทางที่ดีที่สุดต้องหาอัลบั้มที่บันทึกเสียงต่ำได้ดีมากๆ เราถึงจะได้ยินครับ


5.)จะแจ้ง มันหมายฟามว่าไงง T____T

****หมายถึงความชัดเจนครับ การที่ฟังแล้วรู้สึกเหมือนชิ้นดนตรีมีการซ้อนทับกัน หรือไม่สามารถแยกออกถึงทิศทางของเสียงหรือขิ้นดนตรี นั่นหมายถึงมันขาดความชัดเจน ขาดตำแหน่งโฟกัสที่ดี ทำให้ขาดความจะแจ้งขาดความชัดเจน


6.)เสียงออกแนวเปิด เคยเห็นพี่หลุยส์พูดอยู่บ่อยๆ(มั้ง)มันคืออารายยยย
สุดท้ายนี้ถ้าผมเข้าใจไรผิดต้องขอโทดด้วยคร้าบ

****เสียงออกแนวเปิด ก็คือเสียงที่ออกไปทางโทนสว่าง ซึ่งตรงกันข้ามกับข้อแรกคือเสียง warm หรือ dark เสียงเปิดนั้นเราจะได้ยินเสียงกลางแหลมที่ชัดเจน ซึ่งความคลุมเคลือต่างๆจะน้อยหรือไม่มี เพราะเราได้ยินเสียงแหลมในปริมาณที่มากกว่าเสียงย่านต่ำ เสียงแหลมเป็นตัวกำหนดตำแหน่งเสียงและอิมเมจต่างๆ ซึ่งถ้าเสียงกลางแหลมมีปริมาณที่มากเกินไปก็จะให้รู้สึกว่าจัดจ้าน และล้าหูได้ง่าย


(อย่าว่าผมโง่เลยยย5555 ผมเล่นหูฟังมาพอสมควรแต่ไอที่มาถามทั้งหลายนี่ยอมแพ้จริงๆ ไม่เข้าใจมาก 5555)
****ไม่มีใครโง่ใครฉลาดครับ 5555 ทุกวันนี้ผมเองก็ไม่ใช่จะรู้อะไรมากมายไปกว่าใคร เพียงแต่ขยันขวนขวายหาความรู้อ่านเพิ่มเติมไปเรื่อย ขาดเหลืออะไรถามมาได้นะครับ ผมยินดีตอบให้ตลอดเวลา ไม่ต้องห่วงจ้าๆๆๆๆ 555

เฮียมั่นมาตอบเองเลยย ขอบคุณมากๆครับบ เข้าใจขึ้นเยอะเลยครับผม 5555

เรื่องเสียงหวานนี่พาลผมนึกไปถึงเรื่องที่มีการสอบถามเลนส์กล้องถ่ายรูปว่าตัวนี้ตัวนั้นสีหวานไหม
ซึ่งอธิบายยากจริงๆครับ น้า NVP แกเคยรีวิวเลนส์ 58/1.4นาโน แกก็เขียนถึงเรื่องนี้
พร้อมกับแซวไปขำๆว่า อยากรู้ว่าหวานไม่หวาน เอ็งไม่ลองเอาลิ้นเลียดูเลยล่ะ 555

ถ้าให้ผมอธิบายเรื่องเสียงหวาน สำหรับผมประมาณเสียงที่ฟังเสียงร้องสาวๆแล้วรู้สึกเคลิ้ม ฟิน อะไรประมาณนี้อ่ะครับ 555

เยี่ยมไปเลยเฮีย เฮียเป็นที่พึ่งพา ยามยากให้น้องๆ ได้ตลอดเลย

มีอะไรก็พิมพ์ถามเข้ามาได้ครับ อันไหนพอรู้ผมจะตอบให้เลยนะครับ แต่อันไหนไม่ทราบก็จะพยายามไปค้นหาคำตอบแล้วมาถ่ายทอดให้เข้าใจง่ายขึ้นอีกทีนะครับ 555

ช่วยตอบครับ เสียงหวาน
ลองไปฟัง ath im70 ครับ หรือไม่ก็ ms1

คือ เสียงร้องมันจะไม่แห้ง ไม่แสบคอ และไม่หนาอุ่น
มันเหมือนนักร้อง อมยาอมชุ่มคอ ก่อนมาร้องเพลง ครับ

ไม่ใช่นักร้องที่พึ่งตื่นมาร้องเพลง(เสียงยังไม่เปิด)

และไม่ใช่เสียงนักร้องที่หนาอิ่มเกินจริง จนเหมือนถูกปรุงมาจาก mixer

ath im70 , ms1 เสียงหวานจริงๆครับ 555+

ขอบคุณพี่ๆทุกๆความเห็นมากครับ ไว้เดี๋ยวจะลองไปฟังครับผม

ส่วนใหญ่คิดว่าตัวเองก็เข้าใจตามที่เฮียเขียนครับ แต่บางตัวผมก็งงๆ เหมือนกัน

เสียงเปิด>> ส่วนตัวมันมักจะรู้สึกเป็นอารมณ์ที่เบิร์นหูฟังหรือ Dap ไปซักพักหนึ่ง ช่วงที่ได้มาใหม่ๆ มันจะอับๆ ไปหมดเสียงแหลมกุดๆ เบสไม่ค่อยสุดจะให้อารมณ์เสตจแคบๆ อับๆ แต่ส่วนมากพอเลยไปซัก 50 ชม.ก็มักจะดีขึ้น บางทีผมก็สงสัยว่ามันเป็นอุปทานของตัวเองหรือเปล่าน้า...แต่ก็รู้สึกดีขึ้นจริงๆ

แต่ผมอยากรู้นิยาม Music Lover, Audiophile, Monitor, Flat, Color เหมือนกันครับ บางทีก็สงสัยว่าตัวเองเข้าใจถูกหรือเปล่า

เอาแบบส่วนตัวผมเข้าใจว่าแบบนี้
Music Lover(นิยามคนฟัง)>> คนฟังกลุ่มนี้นี้คืออาจจะไม่เน้นรายละเอียดทุกเสียงโดย แต่สนใจอารมณ์ที่ค่อนข้างสมูทลื่นไหล ย่านสูง/กลาง/ต่ำ ครบและไม่ปรุงแต่งเกินพอดี ทำให้ฟังได้หลากหลายไม่ล้าหูมาก อาจจะออกได้ทั้งสว่างทั้งมืด มักให้เสียงร้องล้ำมาข้างหน้านิดนึง ส่วนตัวจะรู้สึกว่า Dita/Westone W60/fitear (แทบทุกตัว)/์Noble หลายๆ ตัว จะให้อารมณ์แบบนั้น

Audiophile(นิยามคนฟัง)>> กลุ่มนี้เน้นฟังรายละเอียด เก็บเล็กเก็บน้อย เบสลงลึกเทกซ์เจอร์ดี เสียงสูงขึ้นสุดปลายฝอย เสียงร้องมักอยู่ระยะเดียวกับเครื่องดนตรี เสตจมักเป็นแนวกว้างหรือลึกไปเลยไม่ค่อยโอบล้อมมากนัก อาจจะจูนเสียงให้ชัดพิเศษย่านใดย่านหนึ่งให้ฟังง่ายขึ้น แต่จุดเด่นคือมักแยกชิ้นดนตรีชัดเป๊ะและโฟกัสแม่นยำมากๆ ผมฟังมายกนิ้วให้ JH Roxxanne ครับ แต่ K10+Sp8 ก็ให้อารมณ์นั้น(K10 สำหรับผมพิเศษมากขึ้นอยู่กับใช้สายอะไร)

Monitor/Flat(นิยามเสียงที่เกิดจากหูฟัง)>> ก็ให้รายละเอียดครบ แต่เน้นไปทาง Flat เพื่อใช้ทำงานเสตจจะกลางๆ(เกือบแคบ) ทุกย่านจะครบแต่ไม่ค่อยเน้นเทกซ์เจอร์หรือแอมเบียนมากนัก แยกชิ้นดนตรีดี ฟังแล้วหลับๆ จืดๆ หน่อย แต่ข้อดีก็ฟังได้นานเพราะไม่ค่อยถูกประดิษฐ์ประดอยเสียงย่านไหนเป็นพิเศษ ประมาณ se846/535

Color(นิยามเสียงที่เกิดจากหูฟัง)>> เป็นเสียงที่จูนมาให้โดดเด่นเป็นแนวทางชัดเจนเช่นเน้นเบส เน้น Vocal เน้นสว่างสดใสปลายแหลม หรือเน้นดาร์กอุ่นโคตรไปเลย หูฟังแบบนี้ฟังสนุกเข้าทางใครทางมันแต่มักไม่ค่อย Overall มักฟังดนตรีได้ไม่กี่ประเภท ประมาณ Fitear

ส่วนมากหูที่ Color ก็มักจะเป็น Music Lover ไปโดยปริยายและหูที่ Flat/monitor มากๆ ก็มักถูกใจ Audiophile แต่หูที่ Color หลายตัวก็ยังถูกใจ Audiophile นะครับ

ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเข้าใจถูกมั้ย แต่ก็เก็บๆ ครูพักลักจำเอาจากคนในบอร์ดและอ่านๆ ตามบาทความวิจารณ์ต่างๆ ของกูรูทั้งหลายเทียบเอากับที่ตัวเองไปฟังๆ มา ก็อยากมาแลกเปลี่ยนความเข้าใจเหมือนกันว่ามันตรงกันมั้ยนะ

มีความเป็นดนตรีสูง

มีความเป็นธรรมชาติสูง


คือประมาณไหนครับ

ผมว่าแนะนำเป็นคลิ๊ปจากพวกชุดเทพๆใน youtube น่าจะเข้าใจได้ง่ายนะครับว่าอันไหนหวานอันไหนอุ่นอันไหนสดเปิดอันไหนมีความเป็นดนตรีสูง

เช่นแบบนี้เค้าเรียกว่าแนวไหน แต่ฟังแล้วเพราะจังเลย มันมีนิยามมั้ยว่าแบบนี้อะเค้าเรียกแนวเสียงแบบไหนผมก็

อยากรู้เหมือนกันไม่ใช่อะไรหรอกครับ

youtube.com/watch?v=KCh7u7N5oIA

ที่คุณ Man in Black เข้าใจนั่นถูกต้องแล้วครับ

คือพวก Music Lover นั้นจะอยู่ตรงกันข้ามกับ Audiophile ในความหมายคนไทยเราจะเข้าใจว่าถ้าเป็น music lover คือฟังอะไรเพราะหมด คนกลุ่มนี้จะแฮปปิ้กับเพลง กับศิลปิน มีความสุขกับแนวเพลงที่ตัวเองฟัง จะฟังอะไรด้วยอะไร ส่วนมากไม่ค่อยมีผล ก็เลยกลายเป็นว่า อะไรก็ได้มาเหอะ ขอให้เปิดแล้วเพราะได้หมด แต่ไม่ได้หมายความว่าเสียงที่แย่ๆก็ได้นะครับ หมายถึงถ้าเสียงกลมกล่อม ฟังได้สบายๆ ครอบคลุมทุกแนว พวก musiclover จะโอเคแล้ว

ส่วน AudioPhile คือเอาจริงเอาจังกับทุกรายละเอียด ให้ความสำคัญกับระบบก่อน ไอ้นี่ไม่ได้ ไอ้โน่นไม่ได้ ไม่ได้ยินโน้ตตัวนี้ก็ไม่ยอม เบสโน้ตนี้ไม่ได้แรงปะทะก็ไม่เอา เวทีกว้างไปแคบไปเลือกหมด เรียกว่าจู้จี้หยุมหยิมในทุกรายละเอียด หลายคนบอกว่าแล้วมันจะมีความสุขตรงไหน จริงๆแล้วความสุขก็คือการเลือกฟังนี่ล่ะ พอ Audiophile เลือกทุกอย่างปรับทุกอย่างได้ลงตัว ก็จะกลับมาฟังเพลงอยู่ดีครับ ซึ่งลองสังเกตุดูครับ จะเป็นแบบที่ผมบอกเสียเป็นส่วนใหญ่

คือไม่ว่าจะเป็นกลุ่มไหน สุดท้ายก็ต้องฟังเพลงอยู่ดีครับ 555

เรื่องความเป็นดนตรีสูง ( Musical) ผมว่าหาคำนิยามยากเหมือนกันครับ แต่ละคนอาจจะตอบไม่เหมือนกัน


ส่วนตัวคิดว่ามิวสิคอลมันสื่ออารมณ์ได้ดีกว่าแบบ Analytical ที่ออกไปในเชิงวิเคราะห์ ที่ทุกอย่างมันเป๊ะ แม่นยำ คล้ายสไตล์มอนิเตอร์บางตัวที่มันชัดเจนแต่อาจจะแข็ง,ขาดความพริ้วไหว หรือแจกแจงตำแหน่งขาดความเชื่อมโยงแบบรู้สึกไม่ได้เล่นอยู่ในวงเดียวกัน
ถ้าผิดอย่าว่ากันนะครับ 55+

สายดาร์ค แปลว่าอะไร สุ้มเสียงเป็นประมาณไฟนครับ

สายดาร์ค ก็พวกดาร์คเวเดอร์ เอ้ย ไม่ใช่555  เสียงประมาณที่เน้นทุ้มๆ เน้นย่านต่ำ มากกว่าย่านแหลม ปลายเสียงแหลมไม่พริ้ว ฟังแล้วรู้สึกไม่โปร่ง  หูฟังที่ออกแนวนี้ก็พวกโบส  เวสโทน ที่คุณภาพดีอมตะนิรันด์กาล ออกมานานแต่คนสายนี้ยังชื่นชอบอยู่ ก็เซ็นไฮเซอร์ hd650 ครับ  ถ้าอยากรู้ว่าสายดาร์คกับสายสว่าง ต่างกันยังไง  ไปฟัง sennheiser hd650 กับ akg701 เทียบกันดูครับ

ขอบคุณครับพี่ tangkoo 

ไม่เข้าใจคำว่า "เสียงไหลลื่น" น่ะครับ
คือฟังมาทุกตัวเสียงมันก็ปกติน่ะครับ พอจะแนะนำหูที่ เสียงไหลลื่น และตัวที่ เสียงไม่ไหลลื่น เพื่อฟังเปรียบเทียบกันได้ไหมครับ

เสียงไหลลื่น หมายถึงฟังแล้วมีความต่อเนื่อง ลื่น ไม่มีอาการสะดุด ซึ่งพอบอกคำนี้ หมายถึง Dynamic Contrast ครับ คือจะต้องมีการไล่โทนเสียงจากต่ำไปหาสูงได้ดี

เปรียบเหมือนเฉดสีครับ ถ้าไล่โทนสีโดยละเอียดก็จะเกิดแสงเงาและทรวดทรงที่ดี แต่ถ้ามีเพียงไม่กี่สี ไม่กี่เฉด ก็จะทำให้ภาพดูแข็งกระด้าง ขาดความสมจริงและ 3 มิติ

เสียงก็เช่นกันครับ หากอุปกรณ์สามารถตอบสนองความถี่ได้ดีทุกย่าน และครบถ้วน เสียงที่ได้ยินก็จะมีความสมบูรณ์ ลื่นไหล ฟังแล้วเพลิดเพลินครับ

คำพวกนี้ถ้าไม่เคยได้ยินได้ฟัง อธิบายให้ตายยังงัยก็ไม่เข้าใจ หูคนเราแต่ละช่วงเวลา/อารมย์ เพลงเดียวกันระบบเดียวกันยังฟังแล้วรู้สึกไม่เหมือนกันเลยครับ

แนะนำว่าไม่ต้องรีบเข้าใจความหมายมันหรอก ค่อยๆ ศึกษาทีละคำ ง่ายสุดคือฟังเพลงร่วมกับผู้รู้ แล้วให้เค้าอธิบายเสียงที่ได้ยิน จะเข้าใจง่ายขึ้น

คิดว่าร้านเฮีย น่าจะมีกูรู เดินกันให้ว่อน พอจะอธิบายได้นะครับ

ขอบคุณเฮียมั่นมากครับ พอจะเข้าใจแล้วล่ะครับ หากจะแยกให้ออก พวกนี้มันอยู่ที่เพลงด้วยไหมครับ เช่นเพลงบรรเลงหรือเพลงร้องที่ดนตรีน้อยชิ้นจะแยกความต่างได้ดีกว่า แต่เพลงตลาดทั่วๆไปจะแยกไม่ค่อยออก ถึงแม้จะใช้ของดีมาฟังก็ตาม

ถูกต้องเลยครับ การจะฟังแล้วเข้าใจว่าแบบนี้เรียกว่าอะไร แบบนั้นเค้าเรียกว่าอะไร สำคัญที่สุดต้องมีเพลงต้นแบบหรือเพลงสาธิตให้ฟังกันครับ การไปหยิบเอาเพลงที่บันทึกไม่ดี หรือซาวด์เอ็นจิเนียไม่ได้ใส่ใจในเรื่องคุณภาพเสียง ฟังยังไงก็ฟังไม่ออกครับ

ควรจะลองหาไฟล์เพลงคุณภาพดีระดับออดิโอไฟล์ ในเว็บเรามีคนแนะนำเยอะมากๆๆครับ 555

หูฟัง ที่ เสียงลื่นไหล และ เคยฟัง นึกออก แต่

HIFIMAN RE400
ZERO CARBO-I