แฮ่ะ แฮ่ะ สงสัยจะเป็นแค่แมวเหมียวครับพี่อ่าง 555

แต่รับรองว่าได้เห็น emun แน่ๆๆๆ คอนเซปท์เว็บและฟังก์ชั่นต่างๆไว้จะทะยอยเล่าให้ทราบครับ ตอนนี้มีความล่าช้าออกไปเพราะว่าโครงสร้างมันใหญ่มาก การเชื่อมโยงกับระบบของธนาคาร payment ต่างๆ การขนส่ง รวมถึงระบบบัญชี การบันทึกรายได้นำส่งสรรพากรนั้นยุ่งและยิบย่อย ทั้งหมดบอกตามตรงว่าเป็นเรื่องยากโคตรๆๆ และเกินตัวสำหรับพวกเบี้ยน้อยหอยไม่มีอย่างมั่นคงครับ 555

แต่!!!! ลูกผู้ชายเกิดหนเดียวตายหนเดียวครับ (ผมเคยใช้คำนี้ให้กำลังใจคนอื่นมาตลอด) 555

ของพรรค์นี้ถ้าไม่ได้ลงมือลุยและทำ บอกตามตรงมันนอนไม่หลับครับ มันจะข้องใจไปจนชั่วชีวิต จริงๆแล้วการที่เราเป็นลูกแมวก็ไม่ได้หมายความว่าเราใช้เล็บข่วนมังกรเค้าไม่ได้นะครับ 555

ก็เป็นกำลังใจให้กับทุกๆคนเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นพี่อ่าง เป็นพี่คนไหนก็ตาม ทีกำลังริเริ่มทำอะไรซักอย่างที่มันยากๆ บอกตามตรงว่านี่คือความท้าทายของชีวิตครับ การหายใจทิ้งไปวันๆมันไม่ได้เสีย แต่ถ้าลงมือคิดอ่านทำอะไรที่มันยากๆ อุปสรรคเยอะๆ เลือดลมมันสูบฉีดดี มีลุ้นมีเสียว มีได้มีเสีย ถึงเจ๊งไปก็ช่างมันดีกว่าไม่ได้ทำครับ 555

ขอบันทึกจากเฟซบุ๊คไว้ตรงนี้นิดนึงนะครับ 555

บอกตรงๆผมเห็นลุงตู่กอดคอ แจ็คหม่ำ แล้วห่วงเฮียจริงๆ ยิ่งเห็นเม็ดเงินลงทุนเปิดฮับอีกหมื่นล้านแล้ว แทบจะกลืนตลาดทั้งหมด  ผมว่าแค่นักมวยไทยคงไม่พอ  เฮียอาจต้องกลายร่างเป็น ผู้เฒ่าเต่าร่าง extreme ถึงจะเอาอยู่555

ขอบคุณพี่ tangkoo ที่เป็นห่วงครับ 555

จริงๆ การมาของแจ๊คหม่าก็แค่ต้องการแค่ภาพช็อตเดียวก็คือการกอดคอกับลุงตู่ ซึ่งหมายความว่าทุกอย่างไฟเขียวหมด แต่ผมยังเชื่อในเรื่องความไม่เที่ยงครับ 555

นี่อาจจะเป็นการปรับตัวครั้งใหญ่ของร้านมั่นคง(ถ้ารอดเรียกว่าการปรับตัว 55) เพราะลำพังถ้าไม่ปรับหรือขยับทิศทางและกระบวนทัพใหม่ รับรองว่าไม่กี่เพลามีหวังสูญพันธุ์แน่ๆๆครับ 555 ผมว่าทั้งห้างสรรพสินค้า ค้าส่ง ค้าปลีก ธนาคาร ขนส่ง หรือแม้แต่พนักงานเงินเดือนทุกคน จากนี้ไปทุกคนล้วนต้องกระทบอย่างหนักกับการผูกขาดโครงข่ายดิจิตัลยักษ์ใหญ่

ซึ่งอาจจะมีคนไทยบางกลุ่มเติบโตก้าวหน้าขึ้นกับการส่งออกบ้าง แต่ผมยังเชื่อว่าโดยรวมทั้งหมดน่าจะไปดีที่อาลีบาบาครับ 555 การที่ลุงตู่ถึงกับกอดคอพ่อค้าอย่างแจ๊คหม่า ผมดูว่าเสียฟอร์มไปหน่อย กุนซือของลุงตู่ไม่น่าทำจนใหญ่โตราวกับการต้อนรับประธานาธิบดีหรือนายกรัฐมนตรี ยิ่งคำว่า เขารวยแล้ว เขามาช่วย นี่ยิ่งงงหนักเลยครับ 555

ก็ต้องขออภัยทุกๆๆท่านครับ 555 อันนี้เป็นทัศนะส่วนตัวจริงๆ ซึ่งผมเองก็ไม่แน่ใจว่าที่ผมวิเคราะห์นั้นจะถูกต้องขนาดไหน ทุกท่านคงต้องใช้วิจารณญาณเอาเองครับ ผมวิเคราะห์ในฐานะพ่อค้าเล็กๆคนหนึ่งของไทยที่มองอภิมหาพ่อค้าของโลกครับ

แต่โปรเจกต์ emun ก็คงดำเนินต่อไปไม่หยุด ไม่ถอย ผมยังหวังว่า emun น่าจะเป็นดิจิตัลมาร์เก็ตเพลสระดับ Local ที่ต้องหาเลี้ยงชีพตัวเองให้ได้

ช่วยเชียร์มวยไทยด้วยเด้อพี่น้อง 5555

ถ้ายังไงก็ฝากเฮียแก้ไขปัญหาประจำท้องถิ่นของ local digital marketplace ประเทศเรา คือ การไม่รับผิดชอบปัญหาเกี่ยวกับสินค้าหรือผู้ขาย เห็นบ่อย ๆ ทั้งใน pantip หรือแม้แต่บอร์ดเฮียเองที่เวลาลูกค้าเจอสินค้ามีปัญหา เช่น เสียหาย ย้อมแมว ของไร้คุณภาพ หรือแม้แต่ถูกหลอกเสียเงินฟรี ๆ ผู้ให้บริการในปัจจุบันมักเลือกที่จะผลักภาระให้ลูกค้าไปโซโล่กะผู้ขายเอาเอง จนถึงที่สุดต้องมีการประจานขึ้นโซเชี่ยล ผู้ให้บริการถึงจะออกแก้ปัญหาให้แบบเสียมิได้

กลับกัน จากที่ผมใช้บริการ Aliexpress ของเฮียเหลี่ยม ปัญหาเรื่องสินค้าพอมีบ้าง แต่เวลาร้องเรียนไปนี่คนละเรื่องกะผู้ให้บริการบ้านเราเลย อาจเป็นเพราะตลาดของ Ali นั้นใหญ่โตมาก การเจอเคลมสินค้าบ่อย ๆ หรือแม้แต่คอมเม้นท์ทางลบแค่คอมเม้นท์เดียว ผู้ขายนี่ดิ้นอย่างกะปลาโดนทุบหัว หรือต่อให้เจอผู้ขายที่ชั่วจริง ๆ ทาง Ali ก็มีระบบไกล่เกลี่ยที่ Ali จะลงมาจัดการเองหากผู้ซื้อและผู้ขายตกลงกันไม่ได้

จากข้างต้น ต้องยอมรับว่าปัจจุบันผมสนิทใจที่จะซื้อสินค้าผ่าน Ali มากกว่าผู้ให้บริการท้องถิ่นทั้ง L, S, I ฯลฯ ถึงแม้บางครั้งราคาจะไม่ต่างจากผู้ขายท้องถิ่น (บางอันก็แพงกว่าด้วย ถ้าผู้ขายในประเทศเป็น authorized seller) แถมยังรอนานเป็นสัปดาห์เป็นเดือน แต่ผมก็ยังเลือกที่จะสั่งจากอีตาแจ็ค หม่า อยู่ดี

ถ้าเฮียแก้ปัญหานี้ได้ ผมว่า e mun มีอนาคตแน่นอนครับ ซึ่งผมค่อนข้างมั่นใจว่าเฮียเป็น type ที่ไม่นิ่งดูดายหรือปัดความรับผิดชอบอยู่แล้ว ดูได้จากร้าน munkonggadget ถ้าเฮียบริหาร e mun เหมือนที่บริหาร munkonggadget ผมเชื่อว่าเฮียประสบความสำเร็จแน่นอน 555

ขอบคุณมากๆครับคุณ taung2611

สำหรับความเห็นเกี่ยวกับ ecommerce ไทยๆเราปัญหาของ e commerce ไทยนั้น ผมคงลงไปแก้ปัญหาเองคงไม่ได้ 55 แต่ผมพอมองเห็นปัญหาที่เราเจอๆกันอยู่ ปัจจัยหลักที่ทำให้คนเบื่อหน่าย Local E commerce และหันไปใช้บริการของ International e commerce แทน ก็คือ "ความซื่อสัตย์" ครับ

ความเป็น Local ทำให้ทุกคนตกลงซื้อขายกันเองโดยขาดคนกลางที่รับผิดชอบและดูแลพอซื้อขายกันเองก็ไม่แคล้วพบปัญหาคดโคง การคดโกงเพราะไม่มีกติกาควบคุมมีกันทุกเชื้อชาติครับ ผมเชื่อว่าถ้าเราซื้อขายกันเองผ่านเฟซบุ๊ค หรือ IG ส่วนมากทุกๆคนใช้วิธีวัดดวงกันทั้งสิ้น การโกงกันไม่ใช่เพียงคนขายโกงคนซื้อ แต่คนซื้อก็โกงคนขายด้วยเช่นกันครับ พอทุกคนเบื่อหน่ายกันเอง ก็ทำให้ Marketplace ขนาดใหญ่เข้ามาจัดการตรงนี้ได้เหมาะเหม็ง

โครงสร้างของ Marketplace ที่จะดูแลผู้ซื้อและผู้ขายทั้ง 2 ฝั่ง ต้องยอมรับว่าใช้เงินทุนมหาศาลมากๆครับ ไม่มีทางที่คนทุนน้อยๆจะกระโดดลงมาทำได้ เพราะตั้งแต่ต้นทุนในการบริหาร ค่าโปรแกรมเมอร์ ค่าพนักงาน ค่าขนส่ง ค่าธรรมเนียม การต่อรอง ทุกอย่างทำได้ในต้นทุนที่ต่ำกว่า ยังไม่นับถึงเงินทุนที่สามารถทนขาดทุนได้ในระยะยาวอีก

เท่าที่ผมติดตามและคิดทำ emun มา 2 ปี ปัจจุบันผมไม่เห็นคนไทยลงทุนทำเกี่ยวกับเรื่อง marketplace ยุคใหม่นี่เลยซักรายเดียว ส่วนมากเป็นทุนจากจีน เกาหลี สิงคโปร์ อินเดีย และชาติอื่นๆ แต่คนไทยแท้ๆไม่มีเลยซักราย (ค่อนข้างมั่นใจครับ 555) ซึ่งผมเชื่อว่าคนไทยรายอื่นๆเคยคิดกันแล้ว แต่คงถอยเพราะคิดว่าโอกาสเสียคงมากกว่าโอกาสได้เยอะมาก

แม้แต่ตัวผมเองก็คิดว่าคงไปไม่รอดครับ แต่การที่ผมบอกว่าไปไม่รอดไม่ได้หมายถึงผมจะล้มเลิกก่อนนะครับ 555 เพราะผมอยากทำในสิ่งที่ผมอยากทำ และต้องทำให้เห็นกับตาก่อนถึงจะยอมครับ บางที emun อาจจะเป็นทางเลือกเล็กๆ ที่ไม่ซ้ำซากจำเจกับ marketplace ขนาดยักษ์รายอื่นๆ และอาจจะเป็นตัวเลือกใหม่สำหรับคนที่ใช้ internet ที่มีความเข้าอกเข้าใจ Digital จริงๆครับ

นี่ผมไม่ได้ฝันไปใช่เปล่าเนี่ย 555

ผมมีความเชื่อว่า Branding ของเฮีย คือความน่าเชื่อถือและรับผิดชอบครับ ถ้าเฮียทำ emun ก็อาจจะมี Goodwill ที่สั่งสมมาจนเป็นแต้มต่อก็ได้นะครับ ขอเป็นกำลังใจและซื้อกันต่อไปครับ ไม่ว่าจะเป็นไปเลือกซื้อแบบหน้าร้าน Slow Life หรือเร็วทันใจ แบบ e Commerce ครับ

ขอบคุณครับพี่สมศักดิ์(หมีหวาน) 555

พี่หมีหวานนี่ก็เป็นคนเก่าแก่ระดับ 12 ปีของมั่นคงอีกรายนึง 12 ปีมานี่มีความเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆของเว็บมั่นคง อาจจะเป็นการเปลี่ยนแบบที่ทุกคนไม่ค่อยรู้สึก เพราะผมให้บริการและจำหน่ายหูฟังเพียงอย่างเดียว แต่พยายามเติมสิ่งใหม่ๆเข้าไปให้ทุกท่านโดยที่ไม่ต้องการให้รู้ว่ามันมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงมาโดยตลอด(นะ) 555

แต่ในโปรเจกท์ที่กำลังจะเสร็จคือ marketplace ในชื่อว่า emun ซึ่งจะเป็นอะไรที่ต่างไปจากเดิม คือเป็นห้างสรรพสินค้าดิจิตัลแบบไทยๆ แต่อาจจะต้องวางคอนเซปท์และโปรดักท์ให้หลบจากยักษ์ใหญ่บ้าง อาจจะเป็นการเจาะกลุ่ม niche ของแต่ละแคตให้มีความน่าสนใจยิ่งขึ้น

เล่าแค่นี้ก่อนครับ เพราะพูดมากเดี๋ยวทำไม่ได้จะได้ไม่เสียคนมากนัก 555

ล่าสุดมีข่าวเจ้าสัวเจริญโดดมาร่วมวงขายของออนไลน์ด้วย ผมนี่ลุ้นแทนเฮียจนเหงื่อตกกีบเลย 555

ใช่ ณเดชกับญาญ่าในชุดสีส้ม รึเปล่า

TARAD.com ครับ เจ้าสัวไทยเบฟขอร่วมวงด้วย ท่าทางจะเดือด

Shopee นี่ผมว่ามันแปลก ๆ 
เวลาโฆษณา จะชอบบอกว่า ส่งฟรี 
เอาเข้าจริง เงื่อนไขส่งฟรี มียุบยัย ตามแต่คนขายแต่ละรายไป
น่าจะเป็นการโฆษณาเกินจริง

555 ก็คงทำไปตามแบบฉบับของเราน่ะครับ 555 คงไม่ได้คิดจะไปถึงกับแข่งขันกับค่ายใหญ่ๆได้หรอกครับ เฉพาะเงินทุนเป่าพรวดเดียวก็หมดตูดแล้วครับ 555

ผมกำหนดคอนเซปท์พอเพียงแบบ Local อย่างไทยๆไว้แล้ว ถ้าทำได้จริงก็อาจจะพออยู่ได้ครับ แต่ถ้าทำไม่ได้ก็กลับบ้านเก่าเหมือนกัน 555

กลุ่มเซ็นทรัลก็กำลังลงตลาดออนไลน์ เต็มรูปแบบเหมือนกันครับ  เอาแค่ที่เอ่ยๆชื่อมานี่ ถ้าใช้วิธีทุ่มตลาดก็กินรวบหมดแล้วครับ  ผมว่าอีกหน่อยก็คล้ายๆเซเว่นกับโชว์ห่วยนะครับ  ถ้าเปิดสู้กันตรงๆตายอย่างเดียว  แต่ทำไมโชว์ห่วยบางร้านถึงยังอยู่ได้ กลุ่มลูกค้าเขาคือใคร ใช้กลยุทธ์อะไร

มีเจ้าสัวแสนล้านคนหนึ่งนั่งรถผ่านที่ดินแห่งหนึ่ง เห็นว่าสวยดี เลยบอกให้เลขามาซื้อ เลขาไปตรวจดูกลับมาบอกเจ้าสัว  ซื้อไม่ได้คะเพราะเป็นชื่อของท่าน  ส่วนเจ้าสัวบางคน  นั่งทำงานเก็บทุกรายละเอียด เขามานั่งอ่านคอมเม้นท์ พูดคุยกับลูกค้าทุกวัน รับฟังทั้งคำติและคำชม ทำตัวให้ลูกค้าเข้าถึงได้  ก็ดูกันต่อไปครับว่าจะเป็นยังไง555

555 ฟังแล้วชื่นใจยังไงชอบกลครับพี่ tangkoo 555

พรุ่งนี้ค่ายมั่นคงซองจะออกซิงเกิ้ลเพลง "มั่นกับหม่า" อย่าลืมติดตามรับชมรับฟังด้วยนะครับพี่ 555 ผมแต่งเองเล่นเองกับเจ้าเบียสเหมือนเดิม 555

จริงๆแล้ว ผมว่ามันเป็นธรรมดาของโลกครับ ทุกอย่างล้วนตั้งอยู่และก็ดับไป อะไรจะมาเราก็ปรับตัวและรับมือให้ได้ หรือรับมือไม่ได้อย่างน้อยก็ต้องทำใจให้ได้ก็ยังดีครับ 555

จริงๆเว็บอีมั่นนั้นผมพยายามติดตามและเร่งรัดอยู่ แต่มีเหตุต้องเลื่อนก็เพราะมันไม่ใช่ของง่ายๆของกองทัพเล็กๆจะจัดการได้รวดเร็วน่ะครับ การทำเว็บ emun คือการหมุนตัวเองออกจากมุม แต่ชั่วโมงนี้มองแล้วเหมือนช่วยให้มั่นคงกลับบ้านเก่าเร็วขึ้นก็ไม่แน่ 555

มีแต่คนว่าผมบ้ากันทั้งนั้นครับ บางคนบอกคิดยังไม่กล้าคิดเลย ซึ่งผมเองก็รู้สึกอย่างนั้นเหมือนกันครับ 555 แต่ทำไงได้ใจมันรักจะทำยังไงมันก็ต้องทำครับ

"Life is like a box of chocolate"
วลีอมตะจากหนัง Forest Gump ครับ 555

Shopee ไปเช็คข้อมูลมาของบริษัท Garena ครับ 
ตามด้านล่างนี้

Shopee มีสัญชาติกำเนิดที่ประเทศสิงคโปร์ โดยบริษัท Garena ซึ่งมีผู้ก่อตั้งคือ Forrest Li โดยใช้บริษัท SEA Ltd. ในการถือหุ้น 99% ใน บริษัท Garena ก่อนที่ประกาศขายหุ้นให้กับกลุ่ม Tencent Holdings Ltd. ยักษ์ใหญ่ของจีน 40%
 

Garena ก่อตั้งเมื่อปี 2009 ที่ประเทศสิงคโปร์โดย Forrest Li และกลุ่มเพื่อนของเขา โดยจุดประสงค์ของบริษัทในการก่อตั้ง คือ ให้บริการเกมออนไลน์ระดับโลก อีกทั้งยังเป็นผู้พัฒนาโมบายแอปพลิเคชั่นที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ Forrest Li ได้ตั้งชื่อบริษัทนี้ว่า "Garena" ซึ่งเป็นการผสมคำของคำว่า "Global Arena" 

ตั้งแต่ก่อตั้งมา Garena ได้เติบโตมาอย่างยิ่งใหญ่และเป็นผู้นำในการให้บริการแพลทฟอร์ม ออนไลน์, มือถือ, และการสื่อสารในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้, ไต้หวัน, และฮ่องกง

นอกจาก Garena จะเป็นผู้ให้บริการเกมออนไลน์ที่เป็นเจ้าดังในประเทศไทยแล้ว เขายังเป็นเจ้าของแอฟพลิเคชั่น TalkTalk ระบบสื่อสารด้วยภาพและเสียงแบบเรียลไทม์และต่อมาในปี 2013 ได้เปิดตัว BeeTalk อีกด้วย รวมถึงแอปพลิเคชั่นยักษ์ใหญ่ shopping platform ที่แข่งขันกับ Lazada ของจีน และ 11 streets ของเกาหลี อย่าง Shopee โดยมีดาราไทยอย่างณเดช กับญาญ่ามาเป็นพรีเซนนเตอร์ ไม่เพียงแค่นั้น เขายังพัฒนาแอปพลิเคชั่น Wallet ประเป๋าเงินบนโลกอินเตอร์เน็ตอย่าง Airpay ที่เริ่มเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอย่างจริงๆจังๆ
 

เมื่อไม่นานมานี้ทาง SEA Ltd. ได้ประกาศจะขายหุ้น IPO ในตลาดหุ้น New York Stock Exchange โดยมี 3 ยักษ์ใหญ่อย่าง Goldman Sachs Group Inc , Morgan Stanley และ Credit Suisse Group AG เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน จดทะเบียนบริษัทเข้าตลาดหุ้น โดยคาดว่าจะระดมเงินได้มากถึง 696 ล้านเหรียญสหรัฐ
 

มีซิงเกิ้ลล่าสุดมาให้ฟังครับ 555

ขอแปะรูปเก็บไว้กระทู้นี้นะครับ จะได้เอาไว้ดูตอนที่ไม่มี emun แล้ว 555

เมื่อรัฐบาลหวังแต่ตัวเลขเศรษฐกิจในระยะสั้น เพื่อสร้างความนิยมและฐานเสียง

เงินทุนที่ไหลเข้ามาก็ช่วยสร้างภาพได้ ให้ความหวังได้

แต่ธุรกิจคนไทยก็คงต้องล้มหายไป

สู้เค้าครับ emun

ผมว่าเราก็สู้แบบไทยๆนี่แหละครับ  ใครจะรู้ใจคนไทยเท่าคนไทยด้วยกัน  แต่ถ้าสู้ไม่ได้ค่อยเอาทุเรียนตบหน้า555(ผมล้อเล่น)

555 ยังไม่อัพเดทความคืบหน้าละกันครับพี่ tangkoo เพียงแต่บอกว่าทุกอย่างมีการเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนดครับ ตอนนี้คงต้องอาศัยรอคนซื้อทุเรียนมาฝากแล้วครับ 555