
555 เอาข่าวใหม่มาเล่าให้ฟังขำๆๆ กันอีกแล้วจ้า....
หลายๆๆ คนคงพอทราบข่าวคร่าวๆๆ ว่าร้านมั่นคงจะไปเปิดแถวสยามแสควร์ เฮ้ย..หลายๆๆ คนบอกว่า จริงหรือวะ โห แบบนี้ดีเด่ะ ใกล้รถไฟฟ้า ไม่ต้องเดินให้เมื่อยตุ้มถ่วงความสมดุลย์(คิดเอาเอง)ของตัวเองแล้ว 555
จริงๆๆ ครับ พื้นที่ตรงสยามที่ว่าก็คือแถวๆๆ เซ็นเตอร์พอยท์เก่านั่นเอง ซึ่งเค้าประมูลและทุบเซ็นเตอร์พอยท์เก่า และเนรมิตมันซะใหม่ โดยทะลวงจนตัวเซ็นเตอร์พอยท์เดิมทะลุไปติดหน้าถนน และที่สำคัญไปติดและอิงกับกระแสรถไฟฟ้า โดยใช้ชื่อใหม่ว่า Digital Gateway หรือ DTW นั่นเอง เรียกว่าพอลงจากรถไฟฟ้า เลี้ยวขวาก็เดินเข้าสยามเซ็นเตอร์ และ เลี้ยวซ้ายก็คือ DTW เลยล่ะ....
เหตุที่ต้องไปหาพื้นที่เพิ่มเติม ก็คือเนื่องจากพันทิพย์งามวงศ์วานนั้นค่อนข้างไกลสำหรับบางคน และพันทิพย์ประตูน้ำของเราทุกวันนี้ ก็ค่อนข้างจะมายากสำหรับบางคนอีกล่ะ คือที่จอดรถนั้นไม่ต้องคุย หายากกว่าหาร้านเซเว่นในซอยลึกๆๆ ซะอีก และอุดมไปด้วยพวกโป๊ไม๊พี่ หรือบางคนก็พูดฝรั่งว่า เซ็กซี่มูวี๋...555
ผมกับเจ้าเบียสเลยต้องดิ้นรนหาพื้นที่ใหม่ๆๆ พอห้างเค้าเปิดโครงการ ผมจำได้ว่าเรามองกันว่าน่าจะได้พื้นที่ซัก 40-50 ตารางเมตร เพราะอย่างน้อยขี้หมูขี้หมาก็ไม่ควรเล็กกว่าพันทิพย์งามวงศ์วานล่ะ....หลังจากฟังสนนราคา ปรากฏว่าหัวเข่าของทั้งผม และของเจ้าเบียส เกิดอาการอ่อนทันที..555
ไอ้หยา..!!! ผมครวญครางออกมาคล้ายๆๆ เพลงอาตี๋สักมังกร ของอาจารย์เพลิน พรหมแดน (ใครรู้จักเพลงอาตี๋สักมังกร ยกมือขึ้น) ถ้าใครรู้จักพยายามคิดตามไปด้วยเลยเน้อ...
เอ้า ไม่เป็นไร งั้นขอดูขนาดย่อมๆๆ รองลงมาก็แล้วกัน เอาซัก 20-30 ตารางเมตรก็ได้....ครางนี้ผมเริ่มลดสเปคลงแล้ว หลังจากตอนแรกกะว่าจะสักมังกรตัวใหญ่ๆๆ มีเจ็ดหัว และคาบแก้วด้วย เอาวะ เอาแค่มังกรหัวเดียว และคาบแก้วลูกเล็กก็ได้....
ไอ้หยา...!!! ลดสเปคแล้ว มันก็ยังสู้ค่าเช่าไม่ไหวอยู่นั่นเอง ตายล่ะวา งานนี้ไม่มีแผ่นดินให้เราอยู่เลยเหรอเนี่ย เราขอทางห้างให้หาที่ทางให้มันกระทัดรัดขึ้นอีก และที่สำคัญขอแบบที่ราคาพอทนไหว จะอยู่ตรงซอกไหนก็ไม่เป็นไรแล้ว เล็กไปหน่อยก็ช่างหัวมัน...ผมเริ่มลดสเปคจากการสักมังกร เหลือมาแค่สักแค่ลูกมังกรตัวย่อมๆๆ และไม่มีเกล็ดก็ได้ (วะ)55
ทางห้างบอก...ว้า คุณมั่นคง เรื่องมากจัง เอางี้ไม๊ ปูเสื่ออยู่ตรงหน้าบันไดเลื่อนก็แล้วกัน ผมร้องว่า อย่าประชดกันแบบนี้ ถ้าผมเอาจริงๆๆ ขึ้นมา คุณจะต้องตกใจ 5555 ผมอำเล่นกับพนักงานขายพื้นที่ แล้วก็สัญญาว่าคราวนี้ขอพื้นที่เล็กๆๆ ประมาณว่า ผมพอขายของแล้วเหลือตังค์มาจ่ายค่าเช่า และที่สำคัญขอเป็นร้านมีประตูปิดมิดชิดก็พอ
จากการที่จะสักมังกรเจ็ดหัว ก็เหลือหัวเดียว และไม่ต้องคาบแก้วแล้ว และก็ค่อยๆๆ ลดลงมาเป็นลูกมังกร ที่ไม่มีเกล็ด จนท้ายสุดนี่ เราลดสเปคจนจากที่ตั้งใจไว้ จนมากลายเป็นไส้เดือนไปเรียบร้อยแล้วในบัดดล.......
6 ตารางเมตรค่ะ คุณมั่นคง....ผมขยี้หู ความจริงมันต้องขยี้ตาซินะ พร้อมกับร้องว่า 6 ตารางเมตร !!!!! พนักงานขายพื้นที่บอกว่า นี่คือโอกาสสุดท้ายในชีวิตของคุณ ที่จะต้องบอกว่า เอาหรือไม่เอา เท่านั้น ไม่มีการโอดครวญแต่อย่างใด...555
ผมบอกว่า เอา !!!
ซึ่งผมและเจ้าเบียสไม่มีทางเลือก ก็เพราะเราไม่มีปัญญาจะลือกนั่นเอง 555 ก็เลยกลายเป็นว่า ร้านหูฟังของมั่นคงที่ดิจิตอลเกทต์เวย์และเป็นร้านหูฟังที่เล็กที่สุดในโลกจริงๆๆ เข้าไปแล้ว (ไม่นับพวกเช่าเป็นตู้ๆๆ เน้อ) 555 เอาไม่เป็นไร งานนี้ถึงมันจะเล็กกว่าส้วมของใครๆๆ ในโลก เราก็ภูมิใจว่าเราได้ดิ้นรนแล้วล่ะ 555
จริงๆๆ ครับ 6 ตารางเมตรนั้น ผมว่ามันเล็กกว่าห้องสุขาหรือห้องน้ำของเพื่อนๆๆ กันแทบจะทุกคน เราระดมทีมน้องๆๆ สถาปนิกที่ออกแบบมาช่วยดูให้ ว่าทำไงได้มั่งวะกับพื้นที่ 6 ตารางเมตร ไอ้น้องบอกว่า ขี่คอกันซิครับพี่ ขี่คอกันขายก็ได้ ดูอบอุ่นดี....555 ผมขยับเท้าเข้าไปใกล้ๆๆไอ้น้องคนออกแบบ พร้อมกับที่ไอ้น้องคนออกแบบ ขยับตัวออกห่างจากเท้าผม...555
เออๆๆๆๆ ช่างมัน ป่วยการจะมาคิดเรื่องขนาดพื้นที่ เรามาหาวิธีออกแบบและเสนอแบบให้ทางห้างกันดีกว่า เพราะห้างนั้นเค้ามักจะขอดูแปลนและกำหนดวัสดุในการประกอบร้านไปด้วยในตัว การออกแบบใครไม่ผ่าน ใครใช้วัสดุไม่ได้ตามที่ทางห้างกำหนด ...แลมันผู้นั้นจะถูกตัดสิทธิ์ในที่สุดนั่นเฮย.........
ไอ้น้องคนออกแบบบอกว่า ทางห้างกำหนดไว้ว่า ทางห้างต้องการกระจกนิรภัย ซึ่งมันแพงกว่ากระจกธรรมดาหลายเท่า !! ผมร้องไอ้หยาอีกครา กระจกนิรภัย กระจกกันกระสุนเหรอ...
แว๊กๆๆๆ บ้าไปแล้ว ผมไม่ใช่ Air Force one ผมไม่ใช่โต๊ะบอล ผมไม่ใช่นักกู้เงินนอกระบบ ทำไมผมต้องใช้กระจกนิรภัยด้วย...5555 ไอ้น้องคนออกแบบบอกว่า เฮียๆๆๆ เฮียไปอยู่ป่าไหนมา ที่ไหนเค้าก็ใช้แบบนี้ทั้งนั้นล่ะ...
ผมยอมจำนนต่อหลักฐาน พร้อมกับให้ไอ้น้องมันออกแบบ...จนท้ายสุดก็ได้ร้านหน้าตาที่ดูขี้ริ้วอย่างที่เห็นล่ะครับ และคาดว่าร้านนี้น่าจะพอมีโอกาสได้บริการเพื่อนๆๆ ที่สะดวกแนวรถไฟฟ้า หรือแนวอื่นๆๆ ก็สุดแท้แต่ ผมถือโอกาสมาเล่าว่า กว่าที่เราจะมีปัญญาทำอะไรซักอย่างหนึ่ง ผมว่ามันช่างจะยากเย็นแสนเข็ญจริงๆๆ แต่ในที่สุดเราก็ต้องพยายามฟันฝ่าอุปสรรคไปให้ได้ .....ถึงมันจะเล็ก เราก็น่าจะรักมันได้ไม่ยาก
จากที่เปรียบเปรยในครั้งแรกว่า จะสักมังกรตัวใหญ่ๆๆ มี 7 หัว คาบแก้ว 7 ลูก ก็ต้องลดนั่นลดนี่ไปเรื่อยๆๆ จนตอนนี้เรากลายเป็นงูดินหรือไส้เดือนตัวผอมๆๆ ท่ามกลางพญามังกรในละแวกสยามแสควร์ไปแล้วล่ะนั่น......
ขอทุกท่านจงหลับและฝันดีเทอญ........
5555