การอัพแชมปลิ้งหรือแปลงไฟล์ที่เล็กให้ใหญ่ขึ้น หรือเปลี่ยนฟอร์แมทด้วยโปรแกรมเพลงต่างๆ ผมว่าคุณภาพเสียงไม่ดีขึ้นแต่อย่างใดครับ มีแต่เปลืองพื้นที่จัดเก็บเปล่าๆ

เปรียบไปก็เหมือนไฟล์รูปครับ สมมุตเราโหลดรูปจากเน็ทมาขนาด 800x600 แต่เราแก้ไข image size ให้เป็น 2400 x 1800 รูปมันก็แตกดูไม่ได้อยู่ดีครับ สรุปคือต้นฉบับไม่ดีทำยังไงไม่น่าจะดีขึ้น (อาจจะมีคนค้านว่าเดี๋ยวนี้มีโปรแกรมทำแล้วดี) แต่ผมก็ยังค้านต่อว่าควรจัดการต้นฉบับด้วยการหาไฟล์คุณภาพที่ดีที่สุดจะดีกว่าครับ 555

aac กับ alac คนละอย่างนะครับ
aac เป็น lossy ที่มี psychoacoustic model ที่ดีกว่า mp3 มากครับ จึงให้เสียงที่ fidelity สูงกว่าที่บิทเรทเดียวกัน
alac กับ aiff ของแอปเปิล แต่ aac ของจ้าวอื่น แต่แอปเปิลดันชอบใช้ครับ

target rate ของ aac คือ 192-256kbps
alac เป็น vbr (variable btr)
aiff เป็น uncompressed เราเลือกบิทเรทเองไม่ได้ครับ

M4A AAC = MP3
M4A ALAC = FLAC

ผมว่าไม่จำเป็นต้องแปลงเลยนะครับ ผลลัพท์ไม่ต่างจากเดิมหรืออาจจะแย่ลง เพราะถ้าแปลง ALAC เป็น FLAC ก็เท่ากับว่าแปลงไฟล์จากไฟล์ที่แปลงมาอีกที ไม่ใช่ไฟล์ที่มาจากต้นฉบับโดยตรงครับ

m4a เป็น container (ตัวหุ้ม เหมือนกล่องบรรจุครับ) ของ alac/ aac ครับ ไม่ใช่ audio codec

แล้วถ้าอย่างงั้นบางเว็บเขาขายพวก H-Audio พวก Flac wav งี้เขาทำมาตั่งแต่แรกแล้วใช่ไหมครับ รายละเอียดเสียงจะต่างจากพวกเวลาเราไปซื้อเพลงแล้วมาแปลง. ถ้าเราจะดูรายละเอียดเสียงต้องดูในโปรแกรมหรือเปล่า ///แล้วถ้าผมอยากฟังเพลงที่ละเอียดนี่ต้องซื้อจากต้นฉบับอย่างเดียวถูกต้องไหมครับ

สรุปว่า ถ้าผมจะฟังเพลงนี่เป็นจากต้นฉบับที่ให้รายละเอียดเสียงครบก็ ต้องซื้อจากพวกเว็บที่ขายใช่ไหมครับหรือเราสามารถทำได้

ถ้าอยากได้ไฟล์เพลงคุณภาพดีๆ 2 ช่องทางครับ

1. ซื้อCD มาริปเอง เสียงดีกว่าซื้อจาก iTune แน่นอน เพราะiTuneไม่มีไฟล์เพลงคุณภาพระดับ CD หรือHi-Res ขาย อย่างเก่งก็มีแค่ Master for iTune เป็นไฟล์เพลงแบบLossy(มีการสูญเสียความละเอียด) ซึ่งเป็นไฟล์เพลงที่ได้รับการควบคุมการแปลงความละเอียดเป็นพิเศษ ทำให้เสียงดีกว่าLossy ทั่วๆไป(ส่วนตัวผมแยกไม่ออก555)

2. ซื้อจากเว็บที่มีไฟล์เพลงคุณภาพสูงจำหน่าย เช่น เว็บHDTrack เว็บนี้สามารถโหลดไฟล์ตัวอย่างมาทดลองฟังดูก่อนได้ครับ ถ้าไม่เห็นความต่างจากที่ฟังอยู่ก็ไม่ต้องซื้อครับ555

ไฟล์เพลงคุณภาพสูง หรือ Hires ต้องซื้อจากค่ายที่เชื่อถือได้ ถึงจะได้ของที่ผลิตมาเพื่อคุณภาพที่แท้จริงตามที่โฆษณาไว้ หรือการลงมือ Rip จากซีดีเพลง ด้วยโปรแกรม rip ที่ได้มาตรฐานก็ทำให้ได้เสียงทัดเทียมต้นฉบับครับ

ส่วนไฟล์ที่ปล่อยให้โหลดบิทต่างๆ บางทีคนปล่อยก็อัพแชมปลิ้งหรือแปลงให้ไฟล์ใหญ่ขึ้นเล่นๆ เพื่อให้คนเข้าใจผิดแล้วเข้ามาโหลดเอาไปฟังครับ ทางที่ดีคือซื้อหรือขอจากเพื่อนอีกทีครับ 555

ถ้าเป็นผมอ้างอิงจากเว็บนี้ http://www.e-onkyo.com/music/album/trin54275/ เพราะว่าทางเว็บไซต์ Official เขาแปะมาอย่างงี้ก็พอน่าเชื่อถืออยู่ไหมครับ
--ถ้าผมมี ตัว Walkmanหรือเครื่องเล่นพกพานี่ เสียงมันขึ้นอยู่กับไฟล์เท่านั้นใช่ไหมครับ ตามที่เข้าใจ ไม่เชิงว่าจะเกี่ยว กับ ตัวเครื่องเล่นพกพา หรือแค่มีส่วนช่วยนิดๆ 

ถ้าผมต้องการจะฟังเพลงผ่าน ตัว เครื่องเล่นพกพา ควรเป็น ไฟล์สกุลไหนครับ 

ถ้าเราซื้อไฟล์เสียงจากต้นฉบับ แล้วมาแปลงไฟล์นี่คือให้บางโปรแกรมมันอ่าน แต่ข้อมูลไรจากต้นฉบับก็ครบรายละเอียดครบใช่ไหมครับ

ตอบรวมๆๆเลยนะครับ^^

- เป็นเว็บขายเพลงลิขสิทธิ์โดยเฉพาะ ผมเห็นมีขายไฟล์ 24 bit ใน format ของ WAV, และ FLAC ซึ่งถ้าซื้อให้เลือกซื้อไฟล์ WAV ก็แล้วกันครับ (ขนาดไฟล์ใหญ่กว่า ไม่ถูก compress)

- ถ้ามีเครื่องเล่นพกพา ที่สำคัญคือตัวเครื่องต้องคุณภาพดีก่อนครับ ถ้าเครื่องไม่ดี ต่อให้ไฟล์ดีขนาดไหนก็ไม่ค่อยช่วยครับ วอล์คแมนของ Sony คุณภาพและโทนเสียงก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี เล่นกับไฟล์ดี ฟังแล้วดีขึ้นครับ

- ฟังด้วย Wav ครับ ส่วนตัวผมว่าข้อมูลเยอะและจัดเก็บในที่ขนาดใหญ่ ยังไงก็ดีกว่าข้อมูลเยอะแต่ที่จัดเก็บแคบๆ 555 เปรียบไปเหมือนห้องนอนขนาดใหญ่ครับ ยัดตู้ เตียง โทรทัศน์ เก้าอี้ เข้าไปได้สบายๆ แต่ถ้าจะเอาของเท่าๆกัน ยัดเข้าห้องเล็กๆ ยังไงก็อึดอัดกว่าครับ 555

- ถ้าซื้อไฟล์ต้นฉบับมา ผมไม่เห็นความจำเป็นต้องแปลงไฟล์เลยครับ เพราะไฟล์เหล่านี้ เครื่องเล่นพกพาส่วนมากเล่นได้ นอกจากเอาไปเล่นบนโทรศัพท์ อาจจะต้องใช้โปรแกรมแปลงให้อ่านได้ หรืออาศัยแอฟในการอ่าน ซึ่งคุณภาพเสียงลดทอนลงบ้าง ซึ่งว่ากันจริงๆบางทีฟังความต่างยากเหมือนกันครับ 555

ขอบคุณครับเห็นภาพละ