สวัสดีครับ หลังจากมีโอกาสได้ลองสัมผัสเจ้า X5 3rd gen (โดยได้รับความอนุเคราะห์เครื่องจากทาง fiiothai.com (พอดีลูกของพวกผมเรียนพิเศษที่เดียวกัน)) เลยอยากมาเล่าประสบการณ์แบบมือ "ไม่โปร" ไห้ฟังครับ
โจทย์ที่ผมตั้งไว้คือ
1. ฟังด้วย PK2 แล้วต้องสัมผัสได้เลยว่าเสียงดีกว่าฟังจากมือถือ (Note 5)
2. ต้องใช้งานร่วมกับ Apple Music ได้ (ที่บ้านใช้ Family Share กันอยู่)
3. ต้องโหลดเพลงมาเก็บไว้ฟังออฟไลน์ได้
4. [อันนี้ไม่เชิงเป็นโจทย์] ผมเลือกสายซื้อ Player + หูฟัง ไม่เลือกสายที่เป็น Player + Amp + หูฟัง เพราะไม่อยากให้มีสายเพิ่มอีกเส้น
( O .. o ' )
## Round 1: Fight!!! ##
โจทย์ที่ผมตั้งไว้คือ
1. ฟังด้วย PK2 แล้วต้องสัมผัสได้เลยว่าเสียงดีกว่าฟังจากมือถือ (Note 5)
2. ต้องใช้งานร่วมกับ Apple Music ได้ (ที่บ้านใช้ Family Share กันอยู่)
3. ต้องโหลดเพลงมาเก็บไว้ฟังออฟไลน์ได้
4. [อันนี้ไม่เชิงเป็นโจทย์] ผมเลือกสายซื้อ Player + หูฟัง ไม่เลือกสายที่เป็น Player + Amp + หูฟัง เพราะไม่อยากให้มีสายเพิ่มอีกเส้น
( O .. o ' )
## Round 1: Fight!!! ##
โดยแรกสัมผัสเครื่อง ผมค่อนข้างชอบนะ งานประกอบเนี๊ยบมาก น้ำหนักจับถนัดมือ ของที่แถมมาให้ในกล่องครบมาก เรียกว่าแทบไม่ต้องหาซื้ออะไรเพิ่มแล้ว ประทับใจมากในจุดนี้
ส่วนตัว Interface ในความคิดผม มันช้าไปนิดนึง คือ กดแล้วอาจต้องรอซักวิสองวิให้มันประมวลผล บางครั้งเลยไม่มั่นใจว่ากดไม่โดนหรือมันคิดนาน
การลงโปรแกรมง่ายมาก เพราะมันมี Google Play Store อยู่แล้ว อยากลงอะไรก็ลงได้เลย ซึ่งผมก็ไม่รอช้า ติดตั้ง Apple Music ทันที การใช้งานก็ไม่ได้ต่างอะไรจากใช้บนมือถือ แค่ช้ากว่า
ประเด็นคือ เรื่องเสียง ผมเองฟังไม่ค่อยออกถึงความแตกต่าง เว้นแต่บางเพลงที่ผมเดาว่าอาจจะอัดมาไม่ดี ที่พอฟังบน X5 แล้วผมไม่ชอบ เช่น เพลง Any Dream Will Do พอฟังบน X5 แล้วเสียงมันก้องๆ เบสออกจะบวมๆ มัวๆ ครับ
แต่จุดที่เป็นประเด็นใหญ่กว่า (สำหรับผม) คือ Apple Music มันมองเห็นแค่ Partition ที่ลงแอพ (อธิบายนิดนึงสำหรับท่านที่ไม่รู้ เจ้า X5 นั้น Internal Memory จะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่ลงแอพ 2 GB กับส่วนที่เหลือที่ใช้เก็บเพลง) ทำให้ตอนผมพยายามดาวน์โหลด Playlist ที่สร้างไว้มาเก็บเพื่อฟังแบบออฟไลน์มันฟ้องว่า Mem เต็ม ทั้งๆ ที่จริงๆ เหลืออีกเป็นสิบๆ กิ๊กเลย
สรุป ผมเลยเลิกทดสอบ เพราะมันไม่ตอบโจทย์ผมละ
## Round 2: Fight!!! ##
ผ่านไปหนึ่งคืน (หลังจากที่ไล่หาข้อมูลเรื่อง Partition และเรื่องอื่นๆ เพราะเห็นคนชมเยอะ) ก็ระลึกได้ว่ามันมี Fiio Market ด้วย ซึ่งในนั้นมีแอพ Streaming Musice อยู่ (ไม่มั่นใจว่าเป็นตัวเดียวกับของ Play Store หรือไม่ แต่เวอร์ชั่นไม่ตรงกัน) เลยขอลองอีกรอบ แต่รอบนี้เนื่องจากมันไม่มี Apple Music เลยลง Spotify แทน (พอดีช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา Spotify มีโปรจ่าย 13 บาท ใช้ได้ 3 เดือน ผมเลยสมัครไว้กะลองเล่น แต่ลืมไปแล้วจนถึงตอนเทสนี่แหละ)
เมื่อลงเสร็จ (ตั้งค่าให้โหลดเพลงที่ quality สูงสุดแล้ว) ก็รีบสร้าง playlist และโหลดเพลงมาเก็บบนเครื่องก่อนเลย เพื่อเช็กว่ามันจะเห็นแค่ 2 GB เหมือน Apple Music หรือเปล่า ปรากฏว่า มันแยกเก็บตัวโปรแกรมไว้ที่ 2 GB ส่วนเพลงเก็บไว้ในส่วนที่เหลือ (จำไม่ได้ว่าพื้นที่เท่าไหร่ 26 GB มั๊ง) ซึ่งอันนี้แก้ปัญหาที่มีกับ Apple Music ได้แล้ว
ถัดมาก็เป็นเรื่องเสียง โดยเทียบสองแบบคือ
<<< Spotify บน X5 ฟังเทียบกับ Spotify บน Note 5 >>>
ผมรู้สีกว่า Image และ Impact ดีขึ้นประมาณนึงเลย อย่างในเพลงคลาสสิกที่มักจะมีการเล่นเครื่องดนตรีชิ้นเล็กๆ พริ้วๆ เป็นพื้นหลัง ถ้าฟังบน x5 จะค่อนข้างได้ยินเสียงเครื่องดนตรีนั้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ถ้าฟังบน Note 5 เสียงเครื่องดนตรีบางชิ้นจะมาๆ หายๆ (เหมือนโดนเครื่องดนตรีด้านหน้ากลบ) จริงๆ นอกจาก 2 เรื่องนี้มันก็ยังมีเสียงอื่นที่ดีกว่าด้วย แต่ผมอธิบายชัดๆ ไม่ได้ครับ ฮา
อ้อ ตอนทดสอบผมจะเปิดเสียงบน Note 5 ดังกว่าบน X5 นิดนึงนะครับ เพราะต้องการให้ Note 5 ได้เปรียบ เพราะถ้าไม่ดีกว่าอย่างชัดเจน ผมจะได้ตัดสินใจได้ง่ายครับ
<<< Spotify บน X5 เทียบกับ Apple Music บน Note 5 >>>
Spotify บน x5 เสียง "ดีกว่า" Apple Music บน Note 5 อย่าง "ชัดเจน" จบ
## สรุป ##
ในส่วนของการซื้อมาเพื่อใช้ฟัง Streaming Music ในความเห็นผม ถ้าใช้กับ Spotify ก็ถือว่าโอเค ดีขึ้นครับ (มากหรือไม่ต้องขึ้นกับความเทพของหูแต่ละท่านครับ) ที่สำคัญมันเห็น Memory ครบอย่างที่ควรจะเป็นด้วย แต่ถ้าใช้กับ Apple Music ผมว่าอาจจะไม่เหมาะครับ
แต่ก็แอบรู้สีกว่าถ้าใช้แค่กับ Streaming Music ออกจะเสียของนิดๆ (จริงๆ ก็เยอะอยู่) เพราะฟีเจอร์เจ๋งๆ อื่นๆ ที่มันมีให้มาจะไม่ได้ใช้เลย อย่างการเล่นไฟล์ Hi-Res หรือ SD Card Slot ที่มีให้ตั้ง 2 slots แน่ะ และถ้าไม่เล่น Streaming Music นี่ก็มีตัวเลือกอื่นๆ ให้ลองอีกหลายตัวเหมือนกัน
ช่อง Balance 2.5 ก็อยากลองนะ แต่ไม่มีหูฟัง 2.5 ฮา
สำหรับโจทย์ที่ตั้งไว้ ก็ตามนี้ครับ
1. ฟังด้วย PK2 แล้วต้องสัมผัสได้เลยว่าเสียงดีกว่าฟังจากมือถือ (Note 5) - [ผ่าน ถ้าใช้ Spotify แต่ตกถ้าใช้ Apple Music]
2. ต้องใช้งานร่วมกับ Apple Music ได้ (ที่บ้านใช้ Family Share กันอยู่) - [คาบเส้น]
3. ต้องโหลดเพลงมาเก็บไว้ฟังออฟไลน์ได้ - [ผ่าน ถ้าใช้ Spotify แต่ตกถ้าใช้ Apple Music]
## อื่นๆ ##
มีปุ่มกด (Physical Button) ก็ดีนะ ใช้งานสะดวกดี ไม่ต้องมองก็กดได้ (คนที่หูฟังมีตัว Controller อยู่แล้วก็อาจไม่รู้สึกอะไร) แต่ปุ่ม Next/Previous บางครั้งก็เกะกะ เพราะกดโดนโดยไม่ได้ตั้งใจบ่อยอยู่ (เวลาจะปิดเครื่อง จับเครื่อง)
ผมว่า Apple Music บน android ต๊องๆ นะ ใครมีปัญหาแบบผมไหม คือ ใน For You พวก Playlist ที่มันให้มา หลายๆ ครั้งเพลงที่มันบอกว่ากำลังเปิดอยู่ มันไม่ตรงกับเพลงที่มันเปิดอยู่ เช่น ปกและชื่อเพลงที่เพลงคลาสสิก แต่ที่ได้ยินนี่มันเพลงไทยชัดๆ ฮา แก้ได้ด้วยการ sign out แล้ว sign in ใหม่ แต่เพลงที่เราดาวน์โหลดมาก็หายหมด ต้องโหลดใหม่
Spotify มีฟีเจอร์เจ๋งดี คือ มัน sync ระหว่าง player ด้วย (ไม่รู้ว่าเรียกว่าอะไร) คือ สมมุติเราเปิด Spotify บน Note 5 อยู่ แล้วเราเปลี่ยนมาใช้ X5 มันก็จะเล่นต่อจากที่เล่นบน Note 5 เลย และตอนที่มันเล่นอยู่บน X5 เราก็ยังควบคุมผ่าน Note 5 ได้ด้วย ทำให้ตอนเทสง่ายขึ้นมาก
ใน X5 มันจะมีเพลงเดโมมาด้วยเพลงนีง ฟังแล้วอยากเปลี่ยนมาเล่น Hi-Res เลยทีเดียว ฮา
ขอบคุณครับ
ส่วนตัว Interface ในความคิดผม มันช้าไปนิดนึง คือ กดแล้วอาจต้องรอซักวิสองวิให้มันประมวลผล บางครั้งเลยไม่มั่นใจว่ากดไม่โดนหรือมันคิดนาน
การลงโปรแกรมง่ายมาก เพราะมันมี Google Play Store อยู่แล้ว อยากลงอะไรก็ลงได้เลย ซึ่งผมก็ไม่รอช้า ติดตั้ง Apple Music ทันที การใช้งานก็ไม่ได้ต่างอะไรจากใช้บนมือถือ แค่ช้ากว่า
ประเด็นคือ เรื่องเสียง ผมเองฟังไม่ค่อยออกถึงความแตกต่าง เว้นแต่บางเพลงที่ผมเดาว่าอาจจะอัดมาไม่ดี ที่พอฟังบน X5 แล้วผมไม่ชอบ เช่น เพลง Any Dream Will Do พอฟังบน X5 แล้วเสียงมันก้องๆ เบสออกจะบวมๆ มัวๆ ครับ
แต่จุดที่เป็นประเด็นใหญ่กว่า (สำหรับผม) คือ Apple Music มันมองเห็นแค่ Partition ที่ลงแอพ (อธิบายนิดนึงสำหรับท่านที่ไม่รู้ เจ้า X5 นั้น Internal Memory จะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่ลงแอพ 2 GB กับส่วนที่เหลือที่ใช้เก็บเพลง) ทำให้ตอนผมพยายามดาวน์โหลด Playlist ที่สร้างไว้มาเก็บเพื่อฟังแบบออฟไลน์มันฟ้องว่า Mem เต็ม ทั้งๆ ที่จริงๆ เหลืออีกเป็นสิบๆ กิ๊กเลย
สรุป ผมเลยเลิกทดสอบ เพราะมันไม่ตอบโจทย์ผมละ
## Round 2: Fight!!! ##
ผ่านไปหนึ่งคืน (หลังจากที่ไล่หาข้อมูลเรื่อง Partition และเรื่องอื่นๆ เพราะเห็นคนชมเยอะ) ก็ระลึกได้ว่ามันมี Fiio Market ด้วย ซึ่งในนั้นมีแอพ Streaming Musice อยู่ (ไม่มั่นใจว่าเป็นตัวเดียวกับของ Play Store หรือไม่ แต่เวอร์ชั่นไม่ตรงกัน) เลยขอลองอีกรอบ แต่รอบนี้เนื่องจากมันไม่มี Apple Music เลยลง Spotify แทน (พอดีช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา Spotify มีโปรจ่าย 13 บาท ใช้ได้ 3 เดือน ผมเลยสมัครไว้กะลองเล่น แต่ลืมไปแล้วจนถึงตอนเทสนี่แหละ)
เมื่อลงเสร็จ (ตั้งค่าให้โหลดเพลงที่ quality สูงสุดแล้ว) ก็รีบสร้าง playlist และโหลดเพลงมาเก็บบนเครื่องก่อนเลย เพื่อเช็กว่ามันจะเห็นแค่ 2 GB เหมือน Apple Music หรือเปล่า ปรากฏว่า มันแยกเก็บตัวโปรแกรมไว้ที่ 2 GB ส่วนเพลงเก็บไว้ในส่วนที่เหลือ (จำไม่ได้ว่าพื้นที่เท่าไหร่ 26 GB มั๊ง) ซึ่งอันนี้แก้ปัญหาที่มีกับ Apple Music ได้แล้ว
ถัดมาก็เป็นเรื่องเสียง โดยเทียบสองแบบคือ
<<< Spotify บน X5 ฟังเทียบกับ Spotify บน Note 5 >>>
ผมรู้สีกว่า Image และ Impact ดีขึ้นประมาณนึงเลย อย่างในเพลงคลาสสิกที่มักจะมีการเล่นเครื่องดนตรีชิ้นเล็กๆ พริ้วๆ เป็นพื้นหลัง ถ้าฟังบน x5 จะค่อนข้างได้ยินเสียงเครื่องดนตรีนั้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ถ้าฟังบน Note 5 เสียงเครื่องดนตรีบางชิ้นจะมาๆ หายๆ (เหมือนโดนเครื่องดนตรีด้านหน้ากลบ) จริงๆ นอกจาก 2 เรื่องนี้มันก็ยังมีเสียงอื่นที่ดีกว่าด้วย แต่ผมอธิบายชัดๆ ไม่ได้ครับ ฮา
อ้อ ตอนทดสอบผมจะเปิดเสียงบน Note 5 ดังกว่าบน X5 นิดนึงนะครับ เพราะต้องการให้ Note 5 ได้เปรียบ เพราะถ้าไม่ดีกว่าอย่างชัดเจน ผมจะได้ตัดสินใจได้ง่ายครับ
<<< Spotify บน X5 เทียบกับ Apple Music บน Note 5 >>>
Spotify บน x5 เสียง "ดีกว่า" Apple Music บน Note 5 อย่าง "ชัดเจน" จบ
## สรุป ##
ในส่วนของการซื้อมาเพื่อใช้ฟัง Streaming Music ในความเห็นผม ถ้าใช้กับ Spotify ก็ถือว่าโอเค ดีขึ้นครับ (มากหรือไม่ต้องขึ้นกับความเทพของหูแต่ละท่านครับ) ที่สำคัญมันเห็น Memory ครบอย่างที่ควรจะเป็นด้วย แต่ถ้าใช้กับ Apple Music ผมว่าอาจจะไม่เหมาะครับ
แต่ก็แอบรู้สีกว่าถ้าใช้แค่กับ Streaming Music ออกจะเสียของนิดๆ (จริงๆ ก็เยอะอยู่) เพราะฟีเจอร์เจ๋งๆ อื่นๆ ที่มันมีให้มาจะไม่ได้ใช้เลย อย่างการเล่นไฟล์ Hi-Res หรือ SD Card Slot ที่มีให้ตั้ง 2 slots แน่ะ และถ้าไม่เล่น Streaming Music นี่ก็มีตัวเลือกอื่นๆ ให้ลองอีกหลายตัวเหมือนกัน
ช่อง Balance 2.5 ก็อยากลองนะ แต่ไม่มีหูฟัง 2.5 ฮา
สำหรับโจทย์ที่ตั้งไว้ ก็ตามนี้ครับ
1. ฟังด้วย PK2 แล้วต้องสัมผัสได้เลยว่าเสียงดีกว่าฟังจากมือถือ (Note 5) - [ผ่าน ถ้าใช้ Spotify แต่ตกถ้าใช้ Apple Music]
2. ต้องใช้งานร่วมกับ Apple Music ได้ (ที่บ้านใช้ Family Share กันอยู่) - [คาบเส้น]
3. ต้องโหลดเพลงมาเก็บไว้ฟังออฟไลน์ได้ - [ผ่าน ถ้าใช้ Spotify แต่ตกถ้าใช้ Apple Music]
## อื่นๆ ##
มีปุ่มกด (Physical Button) ก็ดีนะ ใช้งานสะดวกดี ไม่ต้องมองก็กดได้ (คนที่หูฟังมีตัว Controller อยู่แล้วก็อาจไม่รู้สึกอะไร) แต่ปุ่ม Next/Previous บางครั้งก็เกะกะ เพราะกดโดนโดยไม่ได้ตั้งใจบ่อยอยู่ (เวลาจะปิดเครื่อง จับเครื่อง)
ผมว่า Apple Music บน android ต๊องๆ นะ ใครมีปัญหาแบบผมไหม คือ ใน For You พวก Playlist ที่มันให้มา หลายๆ ครั้งเพลงที่มันบอกว่ากำลังเปิดอยู่ มันไม่ตรงกับเพลงที่มันเปิดอยู่ เช่น ปกและชื่อเพลงที่เพลงคลาสสิก แต่ที่ได้ยินนี่มันเพลงไทยชัดๆ ฮา แก้ได้ด้วยการ sign out แล้ว sign in ใหม่ แต่เพลงที่เราดาวน์โหลดมาก็หายหมด ต้องโหลดใหม่
Spotify มีฟีเจอร์เจ๋งดี คือ มัน sync ระหว่าง player ด้วย (ไม่รู้ว่าเรียกว่าอะไร) คือ สมมุติเราเปิด Spotify บน Note 5 อยู่ แล้วเราเปลี่ยนมาใช้ X5 มันก็จะเล่นต่อจากที่เล่นบน Note 5 เลย และตอนที่มันเล่นอยู่บน X5 เราก็ยังควบคุมผ่าน Note 5 ได้ด้วย ทำให้ตอนเทสง่ายขึ้นมาก
ใน X5 มันจะมีเพลงเดโมมาด้วยเพลงนีง ฟังแล้วอยากเปลี่ยนมาเล่น Hi-Res เลยทีเดียว ฮา
ขอบคุณครับ