เบรคเกอร์แบบนี้จะเป็นลูกเซอร์กิตย่อยจากแผงเมนก่อนจะไปปลั๊กผนัง ผังทางเดินจะเป็นแบบนี้ครับ

สายไฟจากนอกบ้าน > มิเตอร์ > เมนแผงไฟใหญ่ > เมนแผงไฟย่อย > เบรคเกอร์ audio grade > ปลั๊กผนัง > เครื่องเสียง


ตัวนี้ส่วนมากมักจะเอาไว้คุมแผงเมนที่ต่อมาจ่อหน้าห้องหรือบริเวณใกล้ๆห้อง หรือบ้านไหนแยกแผงเป็นชั้น 1 ชั้น 2 ชั้น 3 ก็ให้ไปต่อในชั้นที่ต้องการใช้ชุดเครื่องเสียงเลยครับ

การต่อเบรคเกอร์ก็คือการอัพเกรดอีกรูปแบบหนึ่ง เหมือนกับฟิวส์ในตัวเครื่องครับ มันเป็นตัวคั่นกลางซึ่งตรงนี้จะมีไฟไหลผ่านตลอด เบรคเกอร์ดีๆมีผลต่อคุณภาพเสียงแน่นอนครับ ซึ่งผมให้ผลมันเท่ากับหัวปลั๊กผนัง แต่พวกเบรคเกอร์มันไม่เหมือนอีตรงมันฟังเปรียบเทียบได้ยาก ระหว่างใช้กับไม่ใช้ หรือเบรคเกอร์ A กับเบรคเกอร์ B

เพราะช่างเค้าไม่ทำให้ และโดยเทคนิคก็ไม่ควรเปลี่ยนเข้าเปลี่ยนออก เพราะทำให้พวกน๊อตยึดต่างๆคลายจนหลวม ทางที่ดีเลือกจากแบรนด์ที่ตัวเองมั่นใจครับ ถ้าซิสเต็มดี และมีเวลาฟัง ผมว่าการลงทุนทำทุกจุดให้ดีที่สุดไม่มีความเสียหายแต่อย่างใดนอกจากเสียเงิน เพราะยังไงอุปกรณ์ออกแบบมาเฉพาะทาง ดีกว่าอุปกรณ์ระดับพื้นฐานทุกกรณีครับ^^

ขอบคุณเฮียมั่นมากๆ ครับ อ่านแล้วกระจ่างเลย เดวอนาคตระบบผมนิ่งกว่านี้ ค่อยจัดครับ เพราะราคาค่าตัวแรงมากกกกก TT

ส่วนตัวว่าฟังเปรียบเทียบออกยากนะคะ คิดว่าลงทุนให้ระบบลงตัวหมดทุกส่วนแล้วค่อยมาเปลี่ยนเบรคเกอร์ก็ได้ค่ะ (ตอนนี้ใช้ Perflow อยู่)

ส่วนตัวว่าฟังเปรียบเทียบออกยากนะคะ คิดว่าลงทุนให้ระบบลงตัวหมดทุกส่วนแล้วค่อยมาเปลี่ยนเบรคเกอร์ก็ได้ค่ะ (ตอนนี้ใช้ Perflow อยู่)

ครับคุณปอ ถ้าจะเล่นผมคงให้ทุกอย่างนิ่งจริงๆ ก่อนละครับ

เปลี่ยนแล้วเห็นผล และฟังออกได้โดยไม่ต้องเพ่งคับ

ไหนๆก็เดินระบบไฟแล้ว ใส่เบรกเกอร์ออดิโอเกรดที่ต้นทางอีกสักตัว ถิอว่าเป็นการลงทุนครั้งเดียวจบคับ

ยิ่งเป็นของ abl sursum ไว้ใจได้เลยคับ เซฟตี้ดีกว่าเบรกเกอร์ที่มีขายทั่วไป ตามร้านอุปกรณ์ไฟฟ้าบ้านเราแน่นอนคับ

ทีนี้ก็มาเลือกดูว่าเราชอบค่ายไหน ที่เอา abl ไปทำระบบ cryo แบบแช่แข็ง แบบร้อน ชุบทอง ชุบโรเดียม 

ที่สำคัญ เปลี่ยนแล้วจะได้ไม่ต้องมีอะไร ค้างคาใจเราด้วย 5555

คุณตู้มาบอกแบบนี้ อนาคตผมจัดแน่ครับ ^^ แอบถามว่าชุดที่บ้านใช้เบรคเกอร์ยี่ห้ออะไรอยู่ครับ

ตอนนี้ใช้ตัวนี้อยู่คับ

สว่นผมใช้ตัวนี้อยู่ครับ Power house เป็นภาพถ่ายก่อนปิดผนัง เมื่อ3ปีที่แล้ว

สายเดินยั่วเยี้ยเลยครับ

อันนี้ตอนเสร็จแล้ว แต่ตอนนี้เพิ่งให้ช่างมาถอดสายเปลี่ยนสายย้ายไปทำระบบของบ้านอีกหลังครับ สรุปว่า ผมก็กำลังทำระบบไฟใหม่อยู่เหมือนกันครับ ^  ^

อันนี้ตอนเสร็จแล้ว แต่ตอนนี้เพิ่งให้ช่างมาถอดสายเปลี่ยนสายย้ายไปทำระบบของบ้านอีกหลังครับ สรุปว่า ผมก็กำลังทำระบบไฟใหม่อยู่เหมือนกันครับ ^  ^

มาเสริมเติมอีกหน่อยครับ การพิจารณาเรื่องอุปกรณ์เสริมที่ไม่ใช่อุปกรณ์หลักของซิสเต็ม มันเป็นเรื่องการสร้างความเชื่อมั่นให้กับตัวเองด้วยอีกทางหนึ่งครับ การเข้าไปปรับปรุงในรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ ทำให้หลายอย่างไม่คาใจอย่างที่คุณ 0898138147 บอก

เพราะเวลาคาใจแล้วรังแต่จะหงุดหงิด แต่บางทีบทจะง่ายเราก็ง่ายจนอะไรก็ได้ เอาสะดวกเข้าว่าอย่างเดียว 555

ยกตัวอย่างให้ดูครับ อันนี้เป็นหม้อแปลงไฟ Step Down ซึ่งมีไว้สำหรับแปลงไฟบ้านเราที่มีแรงดัน 220-240 V ให้ลดลงมาเหลือ 110-120 โวลท์ เพื่อให้เล่นได้กับเครื่องเสียงวินเทจของอเมริกาที่ใช้ไฟ 110-120 เป็นหลัก

หม้อแปลงลูกนี้เป็นหม้อแปลงเก่า แต่เป็นเก่าแบบที่ของใหม่ผลิตไม่ได้ดีเท่า ผมใช้เวลารอหม้อแปลง Toyozumi อยู่หลายเดือน(จริงๆร่วมปี) เพราะว่าไฟเดินเรียบกว่า ให้กำลังไฟที่สม่ำเสมอ และไร้อาการฮัม ไฟไม่มีอาการสวิง ซึ่งส่งผลต่อคุณภาพเสียงของชุดเครื่องเสียงหลัก ไม่ว่าจะเป็นปรีหรือเพาเวอร์แอมป์

หม้อแปลงลูกนี้หนัก 20 กิโลเห็นจะได้ แผ่นพลาสติกอะคีลิคขนาดประมาณ A4 ซึ่งถือว่าใหญ่เอาเรื่อง ลูกนี้เป็นหม้อแปลงขนาดกลางๆคือ 1500 VA จะเห็นว่าหน้าตามันเอาจริง และที่เห็นนี้เบ็ดเสร็จแล้วหมื่นกว่าบาท ซึ่งจริงๆการซื้อหม้อแปลงทั่วไปอาจจะจ่ายเพียง 1000-1500 บาท แต่ทั้งหมดที่บ้าก็เพราะไม่อยากคาใจนี่ล่ะ 555

ด้านหลังผมใส่ปลั๊กผนังแบบเบสิคลงไปก่อน คือของ Hubbell และ Tesla Plex ซึ่งทั้ง 2 ตัวต่างมีบุคลิคแบบคนละขั้ว ตัวนึงหนานุ่ม อีกตัวคึกคักจัดจ้าน และสายไฟยังเป็นแบบธรรมดาๆ แต่เดี๋ยวก็คงจะเปลี่ยนเพื่อไม่ให้คาใจอีกเช่นกัน 555

แต่จริงๆแล้ว ทุกอย่างขอให้ขึ้นกับดุลพินิจครับ การจ่ายสตางค์แบบทิ้งขว้างโดยไม่ทราบว่ามันจะทำให้ดีขึ้นได้อย่างไร อันนี้ผมไม่สนับสนุนเช่นกัน อย่างน้อยเราต้องทราบว่ากำลังจ่ายเพราะอะไร แล้วคุ้มค่ากับผลที่ได้มากน้อยขนาดไหน ถ้าไม่แน่ใจเลย ผมแนะนำว่าอย่าเพิ่งซื้อ แต่ถ้าแน่ใจก็จัดการอย่าให้คาใจซะ 555

ABL เลย สุดยอดเลยครับคุณตู้ เอ สังเกตจากภาพ L กับ N เข้าเบรคเกอร์ 2 POLE แต่กราวด์แยกเฉพาะอีกตัวใช่ไหมครับ (เพื่อเสียงที่ดีขึ้นหรอครับ)

คุณ Nueng_Dot.Sound จัดเต็มมากครับ ที่สำคัญงานสวยมากกกเลย น่าจะได้ช่างมีฝีมือ ^^

แอบถามว่าระบบไฟที่จะทำใหม่ ใช้สายไฟ in wall ของยี่ห้ออะไรครับ ของผมเลือกอยู่นานมาก จนมาจบที่ตัวนี้ Monster Power Line 400 ไม่ให้ค้างคาใจครับ 555

โอ้โห ของเฮียนี่เปิดความรู้ใหม่เลยครับ สุดยอดมากกก ต้องใช้คำว่าพิถีพิถัน มากๆๆ ครับ 

นี่แสดงว่าเฮียมั่นมาทางวินเทจเลยนะครับนี่ ^^ ถ้าว่างๆ รบกวนถ่ายระบบที่ใช้มาโชว์หน่อยนะครับเฮีย อยากเห็นๆ 

ผมมาทางวินเทจครับ ตอนแรกก็มาตามปกติ พอยิ่งซื้อยิ่งเก่าขึ้นไปเรื่อยๆๆ ตอนนี้ผมยังซื้อวิทยุหลอดของ Telefunken รุ่น Opus8 มาเล่นอีกตัวนึง เป็นวิทยุหลอดของเยอรมัน 9 หลอด

สมัยโบราณเราจะได้ยินคำว่า "เสียงดังลั่นบ้านราวกับวิทยุ 8 หลอด" ก็มาจากวิทยุหลอดโบราณเหล่านี้ครับ สมัยก่อนจะมีวิทยุทำกันตั้งแต่ 5-11 หลอด ถ้า 8 หลอดถือว่าดังลั่นแล้ว

ถือว่าเป็นของเล่นสลับฉากกับพวกหูฟังละกัน 555

หน้าตาแบบนี้ล่ะ 555

และเพิ่งประมูลได้ตัวนี้มา 555 (ไม่ใช่รูปจริง) ผมเห็นสวยดี เลยซื้อมานั่งมองไฟ 555

ผมกลัวตายครับ เลยตัดใจใช้ Icbo แทนที่จะใช้ mcb น่าเสียดายจริงๆ

ผมไม่รู้ว่าเสียงดีขึ้นมั้ยนะ บางคนก็บอกว่าดีขึ้น บางคนก็บอกว่าไม่มีผล

ผมทำพร้อมระบบไฟ ไม่เคยถอดมาวัดเทียบกับแผง busbar ทองเหลืองปกติสักที

แต่ความจริงๆคือผมซื้อมาเกินคับ เลยใส่ๆมันไปงั้นแหละ 5555

เฮียมั่น เล่นมาจนเลย จุดที่นักเล่นปกติทั่วไปเล่นไปแล้วคับ อย่างเฮีย ต้องยกนิ้วโป้ง แถมนิ้วก้อย ให้ด้วยคับ 5555

เฮียมั่นคับ ผมลืมแนะนำตัว "ไอ้ตู้หัวโล้น" เด็กเล่นหูฟังร้านเฮียยุคแรกไง อิอิ

^
^
โธ่นึกว่าใคร ไอ้ตู้นี่เอง 555 แหมจะยกนิ้วกลางให้เลยเรอะ 555

จริงๆผมเล่นหมดทุกอย่างที่เกี่ยวกับเสียง และก็เวียนไปอย่างอื่น แล้วก็กลับมาเล่นเกี่ยวกับเสียงอีก เมื่อคืนเพิ่งซื้อหลอดไปอันนึง ปี 1940 ปลายๆ คนขายมันยุว่าถ้าหมดก็หมดโลกเลย ผมก็เลยซื้อขึ้นมา

และอีกไม่นาน บริษัท Roon จะออก มิวสิคเซิฟเวอร์ของตัวเองเป็นเครื่องแรก ราคาแว่วๆๆว่า 50000 บาท เชื่อมต่อกับสตรีมมิ่งค่ายต่างๆ หลักๆก็ Tidal และน่าจะเล่น MQA ได้ ส่งสัญญาณดิจิตอลไปเข้า dac ผมเองสงสัยก็ต้องโดนเอง 1 ตัว เพราะพฤติกรรมแยกการฟังเพลงออกจากการใช้คอม ก็เลยต้องไปทาง music server แทน 555

และวันนี้ก็โดนหมูหวานเป่าหูบอกให้ซื้อปลั๊กของ Pangea Nema ไปเล่น ถือว่าเป็นของดีราคาไม่แรง คือตัวละ 2500 บาท ก็เลยกะว่าว่างก็คงต้องลองอีกเช่นเคยครับ 555

ท่านใดที่ผ่านมาอ่าน อย่าคิดว่าสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องเหลวไหลนะครับ เพราะอุปกรณ์เหล่านี้เค้าผลิตมาเพื่อเติมเต็มสิ่งที่นักเล่นยังขาดอยู่ อาจจะไม่ถึงขนาดเปลี่ยนเสียงเป็นคนละตัว แต่ของเหล่านี้สามารถคัดท้ายซิสเต็มของท่านให้มีโทนเสียงไปตามที่ต้องการได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนอุปกรณ์หลักทั้งกะบิ

ก็เช่นเดียวกับเบรคเเกอร์นั่นแล.......

55555 อย่างนี้นี่เองครับ 

ผมนับถือเฮียอย่างนึงคือเฮียเปิดรับทุกอย่างเลยนะครับ เฮียเล่นเครื่องเสียงแบบ 2 ด้านที่ต่างกันสุดขั้วเลย คือใจรักวินเทจ แต่ก็เปิดรับทางด้านดิจิตัลด้วย เพราะผมมีคนรู้จักในแวดวงเล่นเครื่องเสียง บางคนเขาเล่นไวนิลเขาจะไม่เปิดรับดิจิตัลเลย แต่เฮียเล่นทั้งสองอย่าง สุดยอดครับ ^^

อีกเรื่อง เฮียมาเปิดประเด็นเรื่องปลั้กผนัง ถูกใจเข้าทางผมเลยครับ 555 เพราะตอนนี้กำลังเฟ้นหาปลั้กผนังตัวที่ 2 ที่จะมาใช้คู่กับ SR Z-1 ตัว Pangea Nema ผมก็มองๆ อยู่ แต่ตัวที่ผมสนใจที่สุดคือตัวนี้ครับ Cardas Duplex 4181US เฮียเคยผ่านหูมาบ้างไหมครับ

อันนี้เอาไว้เป็นข้อมูลแระกันนะ

ปลั๊กผนัง cardas ตัวนี้แนวเสียงไปทาง สดใส พริ้ว เกนเสียงละเอียดระยิบระยับ เสียงนักร้องบอดี้จะเล็กหน่อย เบสจะออกนุ่มๆ ทีเด็ดตัวนี้อยู่ที่การนำเสนอที่มีลีลา ติดหวานนิดๆ ไม่รุกเร้า โฉงฉ่าง เกินความจริงครับ

โอ้ววววว สุดยอด คุณตู้นี่ตัวจริงเลยนะครับนี่ อ่านที่บรรยายมา น่าใช้มากๆ เลยครับ

ผมเล่นหมดแหละครับ แต่น่าจะยังห่างจากน้าชาอยู่หลายแขน 555 คือจริงๆแล้วการเล่นเครื่องเสียง หัวใจคือต้องเปิดกว้างรับการมาของเทคโนโลยีด้วย เพราะว่าเทคโนโลยีทุกวันนี้ก้าวหน้าไปทุกๆๆวัน มีอะไรใหม่ มีอะไรให้ศึกษา โลกหมุนไปข้างหน้า เราก็ต้องวิ่งตามไปด้วยครับ โลกดิจิตอลคือผู้มาใหม่ครับ

ส่วนความชอบของการเล่นวินเทจ อันนี้เหมือนเราอยากลองแต่งกายย้อนยุค อยากเป็น Hipster หรือแต่งบ้านแนววินเทจ และการเล่นเครื่องเสียงวินเทจ มันเหมือนการย้อนเวลาไปดูประวัติศาสตร์ ไปดูที่มาที่ไปของเครื่องเสียงครับ ซึ่งใครชอบทางไหนไม่มีใครถูกหรือผิดทั้งสิ้นครับ ใครถนัดเล่นไฟล์ ฟังสตรีมมิ่งก็สุดแท้แต่ ใครจะฟังแผ่นเสียงหรือเทปรีลก็สุดแท้แต่เช่นกัน

แต่การจะไม่ยอมลองให้ครบทุกอย่างนี่มันน่าเสียดายโอกาสของชีวิตนะครับ 555

----------------

และอันนี้มาสดๆๆร้อนๆวันนี้เลยครับ เป็นสายไฟที่ผมเคยเล่นมานานเป็น 10 ปีแล้ว นั่นคือสาย Hifi tuning พอดีมันเหลืออยู่เมตรกว่าๆๆ ก็เลยเอามาใส่หัวราคาถูก เพื่อเอาไปเสียบกับ Step Down ซึ่งถือว่าเป็นการรีดประสิทธิภาพของทุกๆจุดออกมาให้เกลี้ยง หรือไปในทิศทางที่เราต้องการมากที่สุด

ใครชอบโทน dark ฉากหลังมืดๆ เบสต่ำลึกๆดี รายละเอียดครบ ลองพิจารณาดูสายไฟเส้นนี้ครับ 555

แต่การจะไม่ยอมลองให้ครบทุกอย่างนี่มันน่าเสียดายโอกาสของชีวิตนะครับ 555 

^
^
^
ถูกใจประโยคนี้มากๆ ครับ นำมาใช้ได้กับเรื่องอื่นๆ ในชีวิตได้เลยนะครับ 


อ่านที่เฮียเอานู่นนี่มาแนะนำ คิดถึงกระทู้ "ปรับชุดฟังเพลง" ขึ้นมาตระหงิดๆ 555