ตัวนี้ก็มีมาแน่นอน ราคาผมออกให้เล่นๆๆก่อนนะครับ อยุ่ที่ราวๆๆ 119,000 บาทจ้าๆๆๆ

ขอบคุณมากครับเฮีย คราวนี้แฟน LCD จะมีหูฟังน้ำหนักเบา (แต่ราคาไม่เบา) และขับง่าย ใช้กันแล้วนะครับ อิๆๆๆ

LCD4 มัน 600 g ลด 30% ก็เหลือ 420 g

ผมว่าก็ยังหนักพอสมควรอยู่นะ -_-"

แค่เบากว่าเดิม น้ำตาก็จะไหลละ 5555

แล้วตัว LCD2C จะมีมาไหมครับ เฮีย ราคาประมาณเท่าไหร่ครับ
เห็นราคาใน web audeze ระบุไว้ US$599
 

ขอตอบแทนเฮียครับ LCD2C มาแน่ ราคาราว 23,500 ครับ

ตัว Head Band ที่เป็น Carbon Fiber นี่สำคัญมากเลยครับเพราะเวลาใส่เเล้วกระจายน้ำนักได้ดีกว่าเดิมมากๆครับ ซึ่งการสวมใส่ LCD4 ตัวเเรกนั้นจะสบายกว่า 3 อยู่พอสมควรเลยครับเนื่องจากใช้  Head Band ที่เป็น Carbon Fiber นี่เเหละครับ

อีกประเด็นคือขับง่ายขึ้น  ซึ่งอาจจะต่อตรงกับ DAP ได้เลยครับถ้าดูจากสเป็คพื้นฐานของตัวนี้ครับ

วิธีแก้หูฟังหนักหัว ให้ซื้อลูกโป่งสวรรค์สัก 2 ใบ ผูกปลายเชือกไว้ที่ headband ของหูฟัง แล้วปล่อยลูกโป่งให้มันลอยขึ้น มันจะช่วยลดแรงกดหัวลงได้เเยอะเลย 555

ผมกำลังจินตนาการถึงการใช้ฟองน้ำประเภท memory foam มารองเฮดแบนตัวที่บอดี้ยังเป็นรุ่นเก่าอย่าง LCD X น่าจะช่วยลดอาการเจ็บได้มาก
...ทั้งๆที่ตัวเองไม่ได้มีผลิตภัณฑ์ของ Audeze อยู่ในครอบครองแต่อย่างไร 555

สำหรับผม พอไม่มีไม้แล้ว ทำให้หูฟังพวกนี้ขาดเสน่ห์ไปเยอะเลย
ดูแล้วไม่รู้สึกอยากหยิบมาใช้งาน

ความเห็นส่วนตัวนะครับ
เข้าใจว่าผู้พัฒนาคงมุ่งประเด็นเรื่องเสียงเป็นหลัก

หลุยส์ครับ  Head Band LCD4 เอามาใช้แทน  Head Band  LCD3 ได้ป่าว น้ำหนักมันเบาลงเยอะมั้ยครับ

ภาพเพิ่มเติมจากงาน Canjam RMAF โพสท์โดย  Mice Blue ใน Head-Fi ครับ พร้อม comment

Speaking of Audeze (again: Aw-dih-see, not Aw-deeze), I visited their table next since it was within the same aisle. I gave their LCD-MX a listen. No Fazor? Check. Really sublime sound? Check. Comfortable fit? Check. Man I really enjoyed listening to these. It has a pretty flat sound to it from what I heard. No weird upper-midrange coloration, pretty smooth treble response, warm bass and lower-midrange. Just a clean-sounding headphone as a whole. One problem I did have was that it had a pretty noticeable channel imbalance. Perhaps this was due to the cabling, or maybe the unit was defective. I don't think it was the Nagra stack.

A thumbs up from me, and I can't wait to hear more of it.

เห็นด้วยครับ
LCD3 เป็นอะไรที่สวยมาก เห็นแล้วอยากหยิบมาฟัง
ผมคิดว่าก็เหมือนกับหน้าปกเพลงครับ อัลบั้มไหน ทำหน้าปกออกมาสวยๆ มักจะหยิบมาฟังบ่อย
มีอาหารหูแล้วก็ต้องมีอาหารตาด้วยถึงจะครบสูตร

ส่วนตัวได้ลองที่ RMAF ครับ เบากว่า LCD3 เยอะมากๆ และใส่สบายกว่ามากๆ เรื่องเสียงผมชอบกว่า LCD i4 ครับ
AK380+Amp ขับออกสบายๆครับ