หูขับง่าย ถ้าใช้ high เสียงจะหนาขึ้นครับ จะฟังเพลงแล้วรู้สึกกระฉับกระเฉงครับ บางคนก็ชอบ บางคนก็ไม่ชอบ

คนไม่ชอบจะบอกว่า ชิ้นดนตรีมันไม่นิ่ง ไม่สงัดเท่าเปิด low gain

แต่ไม่มีกฏตายตัวครับ ว่าควรปรับ Low หรือ high ฟังอะไรเพราะกว่า ก็ใช้อันไหนไปครับ 

volume ที่เราๆ ใช้กัน gain มันไม่ linear นะครับ ค่าความต้านทานมันเพื่มขึ้นที่ละ 10 เท่า (logarithm) ดังนั้นบิดแป๊บเดียวเสียงก็ดังลั่นบ้านแล้ว

หูฟังกินวัตต์ถ้าเลือก low gain บิด volume กันจนเมื่อยกว่าจะได้ยิน เลยแนะนำให้เลือก high gain เพราะจะได้บิด volume ไม่มาก

หูฟังไม่กินวัตต์ถ้าเลือก high gain บิด volume นิดเดียวก็ดังแทบหูแตก เลยแนะนำให้เลือก low gain เพราะจะได้บิด volume ไม่มากเช่นกัน

ปล. วงจรภายในแอมป์เค้าไม่ได้ทำอะไรเลยนะครับ แค่ปรับสัดส่วน gain การขยายสัญญาณเท่านั้น ไม่ได้ไปยุ่งเรื่องเสียงสูง เสียงต่ำแต่อย่างใด

การเลือก low gain หรือ high gain จึงไม่มีผลกับแนวเสียงว่าจะเปลี่ยนไปยังงัย เพียงแต่การบิด volume ที่ละเอียดขึ้น

จะช่วยให้เราปรับเสียงได้ตามความต้องการง่ายขึ้นเท่านั้นครับ

การปรับเป็น high gain นั้นมีทั้งข้อดีและข้อเสีย คือข้อดีจะได้สัญญาณที่แรงขึ้น ทำให้ได้ไดนามิกที่ดีและเหมือนกำลังขับสูงขึ้น ทุกอย่างชัดเจนจะแจ้งขึ้น แต่ก็อาจจะมีเสียง background noise (เสียงพื้นหลัง) ที่อาจจะมีนอยซ์บางๆให้ได้ยิน

ต่างจาก low gain ที่ทุกอย่างจะต้องเริ่มต้นจากจุดนี้ ดีไม่ดีวัดกันที่จุดนี้ก่อน low gain ให้ background noise ต่ำกว่า ความเพี้ยนต่ำกว่า แต่อาจจะต้องเร่งมากกว่าในหูฟังบางตัว

วิธีง่ายๆ ให้เริ่มจาก low gain ถ้าฟังแล้วโอเคดีมาก ไม่ต้องปรับเป็น high ถ้าจะปรับ high ต้องหมายถึงปรับแล้วรู้สึกดีกว่า low จริงๆแบบมีนัยยะ ถ้ากั๊กๆให้ปรับ low gain ไว้ก่อนโอเคกว่าครับ 555

ที่รู้สึกว่าเสียงหนาขึ้นกระฉับกระเฉงขึ้นเป็นเพราะเสียงมันดังกว่ากันนิดหน่อยครับ หูคนเราถ้าเสียงมันดังกว่านิดเดียวเช่น 0.x dB จะไม่รู้ว่าดังกว่า แต่จะคิดว่าเสียงดีกว่า มีน้ำมีนวลกว่า ดุดันกว่า หรืออะไรก็ว่าไปครับ และอย่างที่คุณ hsung บอก เกนมันแค่ค่าที่เปลี่ยนไปครับ ทุกอย่างในวงจรเหมือนเดิม (แค่เปลี่ยนค่าในรีซิสเตอร์สองตัวที่ไปเซ็ทค่าของปุ่มปรับวอลลุ่มอีกที) หากทำ volume matching ในระดับ 0.1dB แล้วเสียงที่ได้จะเหมือนกันครับ แต่ถ้าฟังเอาแล้วดังเท่ากัน มันดังไม่เท่ากันนะครับ ใช้ไมค์วัดกับ test tone เอาก็ได้ครับไม่ต้องละเอียดมาก ไม่ก็ลองหมุนวอลลุ่มตอน low gain ขึ้นมาเรื่อยๆ จะพบว่าเสียงมันจะเหมือน high gain ที่คุณกล่าวมาครับ เพราะฉะนั้นประโยชน์อีกข้อของ low gain คือ fine tuning ของวอลลุ่ม ที่ทำให้รู้สึกเสียงดีขึ้นได้ โดยไม่ได้ดังขึ้นมากครับ

ก่อนหน้านี้ผมก็สงสัยแทบตายเหมือนกันครับ แต่คนส่วนใหญ่มักจะบอกว่าตามทฤษฎีแล้ว no gain (+0dB) สมควรจะดีที่สุดครับ ถ้าแอมป์มีพละกำลังเพียงพอที่ +0dB ซึ่งพอคิดตามลอจิกแล้วก็น่าจะใช่นะครับ เพราะที่ +0dB เมื่อไม่มีการขยายสัญญาณ โอกาสการ clip ย่อมน้อยกว่าครับ

นอกจากมีข้อดีข้อด้อยในแง่การใช้งานกับหูฟังที่ขับง่าย/ยากต่างกัน
มันมีประเด็นเรื่อง ระดับราคาด้วยหรือเปล่าครับ
รุ่นใหม่ๆผมยังไม่เคยได้ลอง แต่ก่อนหน้านี้ ยกตัวอย่างถ้าเป็นแอมป์ระดับราคาไม่สูงนัก ถ้าฟังละเอียดจริงๆ มักเจอว่าปุ่มไฮเกนใช้งานจริงไม่ค่อยได้ ยกเว้นฟังเพลงแบบอัดๆโหดๆหน่อยครับ เพราะที่เจอมาหลายเครื่องมันเพิ่มความพร่าเพี้ยนขึ้นมาด้วย..จนฟังนานๆแล้วรับไม่ค่อยได้(ฟังแป๊บๆพอไหว)
ในขณะที่แอมป์ระดับราคาสูงขึ้นมา (ยกตัวอย่าง ALO International, Algorithm Duet)เวลาปรับระดับความดังไปที่hihg gain มันไม่ค่อยพร่าเพี้ยนเท่าไหร่ แต่ลักษณะเสียงเปลี่ยนไปบ้าง นอกเหนือจากความดังที่เพิ่มขึ้น

ส่วนเพลเยอร์ เคยลองแต่DX90ที่ใช้อยู่ครับ ก็เข้าลักษณะเดียวกัน แต่เพลเยอร์กลุ่มล่างกว่าไม่เคยได้ลองพวกที่มีปรับไฮโล(เกนครับเกน)

การปรับ gain มันทำได้หลายแบบครับ จะโต้งๆ ราคาถูกแบบที่คุณ Artnoi บอกแค่ใข้ R ที่ภาค Volume ก็ได้

หรือจะเป็นการปรับค่า impedance ระบบภายในวงจรขยาย ที่ทำให้ดูราคาแพงก็ได้เช่นกัน

แต่การออกแบบก็มีหลักที่สำคัญอย่างที่เฮียมั่นได้กล่าวไว้คือการปรับ high gain ต้องไม่ทำให้  background noise เพิ่มขึ้นครับ noise

ซึ่งตัวราคาแพงมักทำได้ ขณะที่ตัวราคาถูกมักทำไม่ได้

ปล. แบบที่คุณ@เหน่งบาว่ามา เคยเจอครับถ้าออกแบบไม่ดี high gain มีค่ามากจนสัญญาณ saturate

รูปคลื่นมันจะเพี้ยนไปจากเดิม ทำให้เสียงเปลี่ยนครับ คือภาคแอมป็จะมีการทำงานอยู่ 2 ส่วน

ส่วนแรกจะเป้นการขยายแรงดันขาเข้า (pre amp) กับ ส่วนสองจะเป้นภาคขยายกำลัง (power amp)

ถ้าเราปรับ gain ที่ภาคใดภาคหนึ่งเยอะเกินไป ก็อาจทำให้สัญญาณภาคนั้นเพี้ยนไปครับ

โดยเฉพาะภาค pre amp ซึ่งเป็นภาคที่ต้องใช้ gain เยอะๆ ขณะที่ภาค power amp โดยทั่วไป

gain จะเท่ากับ 1 เพราะมันทำหน้าที่เปลี่ยนสัญญาณไฟฟ้าจาก pre amp ให้เป็นกำลังไฟฟ้าเพื่อขับลำโพงหรือ หูฟัง

เป็นไปได้ครับว่าแอมป์ที่ออกแบบไม่ดีมักจะมีข้อเสียเวลาปรับ high gain ผมว่าความพิถีพิถันในการออกแบบ คือสิ่งที่ทำให้ต่างกัน ไม่ใช่ราคาครับ

nuforce icon mobile ของผมราคาตอนซื้อปี 2011 สี่พันกว่าๆ ปรับ high gain แล้ว noise เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ในหูฟังขับง่ายอย่างกราโด้
ในขณะที่ fiio a5 อีกตัวราคา 4190 ไม่เจอปัญหา noise ใน high gain ในหูฟังที่กล่าวมาครับ