นอกจากชาตรามือจะอินเตอร์กว่าที่ผมคิดเยอะบริษัทนี้มีรายได้กว่า 270 ล้านบาทในปี 2558 ถือว่าไม่ธรรมดาเลยทีเดียวสำหรับโรงงานผลิตชาแต่ที่โหดกว่านั้นคือชาตรามือมีส่วนแบ่งของตลาดชาไทยถึง 70-80% ของทั้งประเทศเลยทีเดียว เพราะร้านชาทั่วไทยส่วนใหญ่ก็ใช้ชาตรามือชง แต่รสชาติก็จะแตกต่างกันไปตามคนชงแต่ละคนถือว่าสินค้าดี ช่องทางจำหน่ายดี ยอดขายก็ดี๊ดี แต่กลับไม่ค่อยมีใครคิดถึงแบรนด์ “ชาตรามือ” ซักเท่าไหร่
ส่วนที่ว่าทำไมชาตรามือกลับมาฮ๊อตฮิตอีกครั้ง ก็ต้องบอกว่าจริงๆแล้วเค้าฮิตกันมานานแล้วแต่เป็นในต่างประเทศครับ “Cha-Yen” หรือ Thai Tea ของชาตรามือในประเทศอย่าง สิงค์โปร, บรูไน, มาเลเซีย, รัสเซีย และจีนเป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก ในไทยเองตอนนี้ก็มีสาขาอยู่ประมาณ 25 สาขา สินค้ามีการออกมาใหม่เรื่อยๆ เช่นชาเขียว, ไอติมโคนชาเย็น ซึ่งออกมาเป็นที่ฮือฮากันไปเป็นรอบๆแต่ก็ไม่ได้เป็นกระแสอะไรขนาดนั้น
สินค้าที่ออกมาแล้วพีคจริงๆส่งผลให้ “ชาตรามือ” กลายเป็น Talk of the Town คือ “ชากุหลาบ” ที่ออกมาตอนวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมาครับไม่ใช่แค่แก้วที่เปลี่ยนมาเป็นรูปกุหลาบแอบมีความกิ๊บเก๋ แต่ตัวชาเองก็เป็นรสกุหลาบด้วย ซึ่งจริงๆก็ไม่ถือว่าแปลกใหม่อะไรมากมายเพราะชากุหลายก็มีมานานแล้ว เพียงแต่ยังไม่มีร้านขายชาหรือกาแฟไหนในไทยเอามาทำขายจริงๆจังๆ
ด้วยคุณภาพที่ดีอยู่แล้ว สินค้าที่มีความแปลกใหม่ พร้อมด้วย Timing ที่ถูกต้องทำให้ “ชากุหลาบ” เข้าไปนั่งอยู่ในหัวใจและลากแบรนด์ “ชาตรามือ” ไปเป็นแบรนด์สุดฮิตของคนไทยในเวลาข้ามคืน
ตอนนี้ถ้าไปถามถึงชาว่านึกถึงแบรนด์อะไร หลายๆคนคงตอบว่า “ชาตรามือ”และไม่รู้ว่าเป็นความตั้งใจของ Brand หรือไม่ที่ทำให้ชากุหลาบกินแล้วเหมือนโดน Detox วิ่งหาห้องนํ้ากันแทบไม่ทัน สุดท้ายก็เกิดการแชร์เป็นไวรัลกันในFB คนแห่กันไปลองถือว่าประสบความสำเร็จ “ปัง” โดยใช้ “ตังค์” น้อยมากกกกกกก
กลยุทธของชาตรามือคือการทำ “Brand Revitalization” อย่างต่อเนื่อง แปลเป็นไทยว่าการชุบชีวิตแบรนด์เก่าที่คนเบื่อให้กลับมาทันสมัยมีชีวิตชีวามีคุณค่าในสายตาของผู้บริโภคอีกครั้ง ไม่ว่าจะด้วยการใช้การตกแต่งร้าน การสื่อสารช่องทางใหม่อย่าง FB หรือการออกสินค้าใหม่ๆ ตัวอย่างที่ดีของการทำ Brand Revitalization อีกหลายๆแบรนด์ก็อย่างเช่นการที่ทาโร่ออกทาโร่รสชีส, กรณีของกุลิโกะที่หลังๆมีออกรสแปลกๆใหม่ๆมาเยอะมาก หรือกรณีกระทะดำของบาร์บีคิวพลาซ่า
ชาตรามือไม่หยุดแค่กระแสแต่ยังคงสร้างความแข็งแรงให้กับแบรนด์อย่างต่อเนื่องด้วยการต่อยอดความสำเร็จของชากุหลาบเข็นไอติมโคนชากุหลาบตามออกมาขายเมื่อเร็วๆนี้อีกด้วย เรียกได้ว่าสร้างความประทับใจอย่างต่อเนื่อง แล้วแบบนี้จะไม่ให้ความรู้สึกดีๆเข้าไปติดตรึงในหัวใจของคนไทยได้อย่างไร?
แม้ตลาดชา-กาแฟแข่งกันอย่างดุเดือด กลุ่มทุนใหญ่ๆอย่าง CP ก็ยังลงมาเปิดร้านกาแฟแข่งในตลาดนี้ด้วยหากเทียบกับ CP, Starbucks,TWG หรืออเมซอนนี่ถือว่าชาตรามือแทบไม่มีอะไรสู้เขาได้เลยอย่างเดียวที่ยังมีคือความตั้งใจของคุณดิฐพงศ์ เรืองฤทธิเดช ทายาทรุ่นที่ 3 ของบริษัทชาอายุกว่า 70ปีกว่านี้ที่ได้พิสูจน์ให้หลายๆคนเห็นแล้วว่า “If there is a will, there is a way” ถ้าเราตั้งใจมันก็ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้
ที่มา : http://buffettcode.com/ชาตรามือ/