ในการเลือกหูฟังตัวนี้ โจทย์คือใช้ง่ายในชีวิตประจำวัน พกพาไปไหนมาไหนได้สมบุกสมบันไม่กลัวพังมาก ราคาไม่เสียดายมากถ้าพัง พร้อมให้เสียงเพลงที่ดีและไมค์ที่พูดคุยกันได้ชัดพอประมาณ... เพลงที่ใช้เลือกหลักๆเป็น Tidal กับ JOOX เปิดด้วย Hauwei P10 plus และ Iphone 7plus >> เน้นไลฟ์ไสตล์จริงๆ

เครื่องเล่นและแอมป์ในครอบครอง Astell & Kern AK320, AK XB10, Hauwei p10 plus, Iphone 7plus, Fiio A5 

เพลงที่ฟังประจำ While we're young ของ Jhene' Aiko, That what i like ของ Bruno Mars, Attention ของ Charlie Puth, the Chainsmokers  ทุกเพลง, The weekend+Daft punk, 

ผู้ชายแม้จะมีแค่สองหู แต่จะมีหูฟังกี่คู่ก็ได้ ฮ่าๆ
เพื่อให้เข้าใจไลฟ์สไตล์และแนวการฟังที่ชอบ ขอแนะนำหูฟังที่มีอยู่ในครอบครองตอนนี้ครับ 

1) JH audio Lola "the midrange beauty" + สายสต๊อก (สายอัพเกรดตอนนี้ติดทัณฑ์บน รอยื่นอุทธรณ์)
2) Cosmic ears CEIM CE4P+สาย ARES2
3) Oriveti Primacy + Oriveti silver cable ให้ ผบ ใช้
4) Grado SR60e (เบิร์นยังไม่เสร็จ)
5) Bose soundlink onear BT 
6) Bose soundsport wireless pulse ไว้เวลาออกกำลังกาย
7) Sony หูฟัง เพลยเยอร์รุ่นกันน้ำ ไว้ใส่ว่ายน้ำ

ปล. ภาพประกอบเป็นภาพกล่อง v2 จะมีสติ๊กเกอร์ติดว่า Improved sound

หลังจากแกะกล่อง จะมีพลาสติกใสอยู่ด้านหน้า ภายในมีโฟมบุ แถมหูฟังให้สองคู่ กับที่ติดตัวหูอีกหนึ่งคู่ สายสต๊อกม้วนเก็บอย่างมีระเบียบ

specs คร่าวๆ

Hybrid driver (1 balance 1 dynamic)

ข้อมูลรายละเอียดจากเว็บมั่นคงเองครับ

งานประกอบทำได้ดี พลาสติกหุ้มชิลทับตัวไดรเวอร์ไว้อย่างดี มีรอยต่อนิดหน่อยตรงกลางตัวหูฟัง อาจบาดใบหูผู้ใช้ได้ หลังซื้ออาจต้องลบคมนิดหน่อย ในราคาพันต้นๆด้วยกันเองถือว่างานประกอบทำได้ดีมากๆครับ 

ข้อต่อสาย MMCX ทำได้แน่นหนาดี ไม่หลุดง่าย แต่ก็ถอดค่อนข้างยากเช่นกัน ยากกว่าแบรนด์อื่นๆนิดหน่อย

ข้อดีคือหาซื้อง่ายพอๆกับ 2 pin แต่ใสคอนเซปของหูฟังสุดคุ้มเราจะไม่ทำการอัพเกรดสายใดๆทั้งสิ้น เราจะไม่ผิดคอนเซปเด็ดขาด ฮ่าๆ

อาจมีคนอุตริซื้อ pandora หรือสั่ง Freiyja มาใส่กับ Kinera ก็ตามใจครับ  !!! ผมจะไม่ยุ่ง อิอิ 

ในส่วนของจุกซิลิโคน ขนาดเทียบเท่าจุกโฟมของ Comply TX500 ถ้า Spinfit ก็ซีรี่ย์ CX100 ครับ คอนเฟิมเพราะมีอยู่ในมือ (ใช้กับโลล่าอยู่แล้ว)

มีแผ่นกรองขี้หูให้ในตัว 

สรุปคะแนนงานประกอบ ชนะเลิศ (ในราคาพันต้นๆด้วยกัน)

ในส่วนของสายแถม ทำได้ดีดูแข็งแรงและทนทาน เหมือนเคลือบด้วยพลาสดิกสีดำแล้วเคลือบใสอีกชั้น แจ็ค 3.5 แบบเฉียง 60 องศา พร้อมไมค์

ในส่วนของการสวมใส่

ด้วยรูปทรงและน้ำหนัก จัดได้ว่าใส่สบายมาก ไม่หลุดง่าย หากเปลี่ยนจุกของเดิม เช่น Spinfit หรือ comply จะได้ความฟิตและความเงียบของแบ็คกราวน์มากขึ้นไปอีก

แต่ถ้าไม่อยากผิดคอนเซปหูฟังสุดคุ้ม ไม่อัพจุก ก็จัดได้ว่าพอใช้ได้ ทดลองฟังเพลงยาวๆ รวมสองชั่วโมงไม่รู้สึกปวดหรือล้าหูแต่อย่างใด (จุกสต๊อก) แต่หลังจากรีวิวเสร็จ อาจจะขอเปลี่ยนใช้จุกโฟมด้วยฟิลลิ่งส่วนตัว

การสวมใส่นี้ใส่สบายแน่นอน เรื่องหลุดไม่แน่ใจแต่คิดว่าแน่น อาจจะใส่ออกกำลังกายได้เลย เช่น วิ่งมาราธอน (ถ้าใครลองใส่ออกกำลังกายแล้วขอความเห็นด้วยครับ)

การรับสายเข้าสายออก ทำได้ดี ปลายทางบอกว่าเสียงชัดดีไม่ก้องมาก (อาจไม่ดีเท่าระบบไมค์ของแพลนโทรนิกส์ ปล. ผมมี Plantonics Voyager ไว้ใช้รับสายเวลาทำงานด้วยครับ) ไม่ต้องขยับตำแหน่งสายไมค์เลยเวลาคุยโทรศัพท์

ในส่วนสำคัญของการรีวิว คือเสียง....

แรกฟังยังไม่ได้เบิร์น

ที่เด่นลอยออกมาเลยคือเสียงเบส ลงได้ลึก ทุ้ม เก็บตัวไว บวมเล็กน้อยแต่ไม่รู้สึกอุดอู้ เบสบังย่านอื่นเล็กน้อย มั่นใจเลยว่าเป็นหูฟังที่ฟังสนุก เชื่อว่าคอเบส (Bass lover) จะต้องรักหูฟังตัวนี้แน่นอน 

ส่วนผมนั้นหลงไหลในเสียงเบสอยู่แล้ว.... ซื้อทันทีไม่คิดนานครับ ฮ่ะๆๆ 

หลังจากนี้ผมจะขอเบิร์นเจ้ามังกรตัวนี้สักระยะ 3-5 วัน หลังจากเบิร์นเสร็จ จะกลับมาเล่าถึงรายละเอียดเสียงในคอมเม้นถัดไปครับ

ช่วยเทียบกับ v1 หน่อยครับ ว่าคงแนวเสียงหรือบุคลิกเดิม หรือเปล่าครับ แล้วมาเติมเสียงสูงให้มากขึ้น

พอดีไม่ได้ครอบครอง V1 แต่เท่าที่เคยฟัง v1 คร่าวๆ รู้สึกว่าเสียงดีขึ้นกว่าเดิมทุกด้าน ด้านละเล็กน้อย เช่น เสียงเบสกระชับกว่าเดิม บวมลดน้อยลง เก็บตัวไวกว่าเดิม เสียงกลางมีมิติและรายละเอียดดีขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ยังแยกแยะชิ้นดนตรีได้ไม่เด็ดขาด เสียงแหลมที่ดีขึ้นแหลมใสละเอียดขึ้น ไม่บาดหูเหมือนตัวก่อน 

โดยรวมจูนเสียงและอัพเสียงได้ฟังสนุกขึ้นสำหรับแนวเพลงที่ผมชอบครับ