1. เบิร์นพวก capacitor มั้งครับผมว่า
https://www.head-fi.org/f/threads/capacitor-burn-in-how-long-does-it-really-take.442436/

2. ต่างมากต่างน้อยคงตอบไม่ได้ แล้วแต่รุ่น ยี่ห้อมั้งครับ แต่ที่แน่ๆ ฟังไปเรื่อยๆ หูเราก็เบิร์นปรับตัวตามไปด้วยเช่นกันครับ อิอิ

3. ข้อนี้ถือว่าสำคัญมาก ห้ามพลาดเด็ดขาดครับ ห้ามพลาดในที่นี้หมายถึงห้ามพลาดไปหลงกลคนไร้จรรยาบรรณที่พร่ำบอกชาวบ้านชาวช่องเค้าว่า ต้องเบิร์นด้วยเพลงนั้นเพลงนี้ก่อนหลัง ต้องใช้ไฟเท่านั้นเท่านี้โวลต์ ต้องใช้หูฟังความต้านทานเท่านั้นเท่านี้มาเสียบ ถ้าไม่ทำตาม จะฟังเพลงออกมาไม่เป็นสุข พวกนี้อย่าได้ไปเก็บเอามาใส่ใจครับ ดังที่ผู้ใหญ่ท่านหนึ่งที่ผมนับถือท่านได้กล่าวเอาไว้ในกระทู้นี้ครับ
https://forum.munkonggadget.com/detail.php?id=206025

dap กับ amp ของใหม่ ถ้าใช้ไปเรื่อยๆ เสียงจะเปิดขึ้น เต็มขึ้น คับ

การตั้งใจเบิร์น ก็จะทำให้เสียงมันเปิดเต็มเร็วขึ้น

การเบิร์นแบบต่างๆ มีผลกับเสียงหลังเบิร์น นิดหน่อย คับ ... ถือเป็นความสนุกระหว่างการเบิร์นคับ

1. เค้าว่าต้องเบิร์นครับ แต่ส่วนตัวซื้อมาก็เปิดฟังเลย
2. แล้วแต่แบรนด์ครับ อย่าง opus นี้เค้าว่าต้องเบรินนาน ส่วนตัวฟังไม่ค่อยต่าง
3. ไปวัดพระแก้วครับ

ผมว่าท่านเจ้าของกระทู้ก็เป็นนักฟังเพลงที่มีประสบการณ์ ท่านหนึ่งนะครับ  น่าจะมาถามเพื่อเอาคำตอบไปหักล้างหรือเปล่าครับ

เบิร์นแล้วดีขึ้น 30% หรือมากกว่านั้นหรือเปล่า บอกตรงๆไม่ทราบเหมือนกันครับ  เพราะไม่รู้จะเอาหน่วยอะไรไปวัด  แต่ใช้ความรู้สึกล้วนๆว่า ฟังแล้วรู้สึกเสียงดีขึ้นจริง แต่ก็แค่ในระดับความรู้สึกที่ว่า อืมดีกว่าตอนแกะกล่องใหม่ๆเท่านั้น ทุกอย่างก็เป็นแคแรกเตอร์เดิมล้วนๆ แค่มันเข้าที่เข้าทางมากกว่าเดิม(ยิ่งพูดยิ่งงง555)

ส่วนเรื่องอภินิหารนี่ผมก็ไม่ทราบเช่นกัน   อาจจะเหมือนผี ที่คิดว่ามีอยู่จริงแต่มองไม่เห็น555  เบิร์นจนเจ๊งเสียงผิดเพี้ยนนี่ ผมเองไม่เคยเจอกับตัวนะครับ และก็ไม่เชื่อว่าต้องใช้วิธีพิสดารอะไรมากมายด้วย (หมายถึงเปิดฟังธรรมดา แบบที่คนธรรมดาเขาฟังกันนะครับ  แต่ถ้าเปิดทั้งวันทั้งคืน เอาไปลุยแดดลุยฝนทั้งวัน อันนั้นก็ไม่แน่555 )

ถ้าใครบอกเบิร์นพิสดารแล้วมีผล  ก็ให้ไปหาเฮีย(ไม่ต้องมาหาผม555)  เห็นเฮียเขามีวิธีทดสอบคนพวกนี้ครับ

ช่วงนี้ผมเบิร์นเยอะไป......กล้ามลีบเลยครับ

ผมอยู่เชียงใหม่ ขอไปวัดพระสิงห์ได้มั้ย เฮียหมี อิๆ

มีผลนี่จริงครับ แต่ 30% ส่วนตัวผมว่าไม่ใช่ล่ะ มันไม่ได้มีความแตกต่างหน้าหลังขนาดหูฟังครับ

แอมป์ที่ใช้มาแล้ว 500 ชม. กับอันที่เพิ่งแกะใช้เสียงต่างกันอยู่ครับแต่เสียงยังไปทางเดียวกันอยู่และต่างไม่เยอะหรอกครับ เอาจริงๆหูฟังที่ใช้มานานแล้วกับแกะกล่องบางคนยังแยกไม่ออกเลยครับอย่าไปซีเรียสครับ 

ปล. เบิร์นอย่างระมัดระวังนะครับหลายคนเบิร์นไม่ดีต้องเข้าโรงพยาบาลเพราะติดเชื้อคออักเสบมาเยอะละครับ!!

เรื่องเบิร์นนี่จัดเป็นสาขาหนึ่งของ "อภิปรัชญา" (Meta-Physics) เพราะเป็นเรื่องที่มนุษย์ถกเถียงหาความจริงที่ไม่มีข้อยุติตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน และยังดำเนินต่อไปถึงอนาคต เช่นเดียวกับ "ตายแล้วไปไหน", "ผีมีจริงหรือไม่" บลาๆๆ  555

ผมได้ยินเรื่องการเบิร์นมาตั้งแต่เริ่มเล่นหูฟังจวบจนเลิก (พัก) เล่นหูฟัง ก็ยังคงได้ยินคำถามการเบิร์นอยู่ตลอดเวลาราวกับว่ามันคือแก่นสารของการฟังเพลง หรือสาระของการฟังเพลงให้ไพเราะอยู่ที่การเบิร์นอย่างถูกต้องถูกวิธี

และวิธีที่ถูกต้องคืออะไร?

ความหวาดหวั่นวิตกเริ่มเข้าครอบงำความปีติที่ได้ครอบครองหูฟังที่ใฝ่ฝันแทบจะทันทีที่หิ้วถุงออกจากร้าน แกะกล่องไปคิดไป จะเริ่มจากอะไร? ใช้กับตัวไหน? ไฟล์อะไร? ความดังเท่าไหร่? นานแค่ไหน? จบเมื่อไร? จะดีเท่าคนอื่นหรือไม่? ผิดแล้วจะแก้อย่างไร?

นี่คือสนธยาแห่งการฟังเพลงอย่างแท้จริง ! สาระการฟังความไพเราะเพื่อขับกล่อมประโลมใจจากความตึงเครียดเหนื่อยล้าจากการดำเนินชีวิต กลับยิ่งตึงเครียดทวีคูณด้วยความวิตกกังวลกับคุณภาพเสียงของอุปกรณ์ฟังเพลงราคาแพงที่เพิ่งเสียเงินซื้อมา

แสงสว่างเดียวกลางความมืดมิด คงเป็นการไถ่ถามจาก "ผู้รู้" (ผู้คร่ำหวอด, กูรู, เซียน, ศาสดา) แต่คำตอบที่ได้รับกลับเป็นความตึงเครียดหนักขึ้นไปอีก ! กับความหลากหลายยากหาข้อยุติของสารพัด "ความเชื่อ"

ความคิดของผมในขณะนี้ก็คือ "เอาที่สบายใจ" และกลับมา "ฟังเพลง" ให้เร็วที่สุดครับ
ส่วนตอนนี้ผมขอตัวออกไป "รันอิน" รถตามคู่มือ (ห้ามใช้รอบเกินสี่พัน, ห้ามเร็วเกินแปดสิบ, ห้ามแช่รอบเครื่องนานๆ, ห้ามออกตัวกระชาก, ห้ามแช่เกียร์จนเครื่องสะท้าน, ห้ามๆๆๆๆ) ให้มันครบๆระยะ 800 กม.ไปะซะที จะได้เข้าศูนย์เปลี่ยนน้ำมันและจบเรื่องเครียดขี่ไปมองหน้าปัทม์ไปซะที 5555

เท่าที่ลองกับหูตัวเอง เบิร์นมาเล็กๆน้อยๆ
1.หลังจากเบิร์นมาสักพัก เสียงมันจะเปิดกว้างกว่าตอนแรก บางอย่างเสียงจะเข้าจุดสมดุลหรือเข้าที่ในสิ่งที่ควรจะเป็น 
2.เห็นด้วยกับอ.Ahura ที่ว่า "เอาที่สบายใจ" ส่วนตัวอยากฟังอะไรก็ฟังไปครับ ชอบเพลงแนวไหนก็ฟังไป อย่าไปซีเรียสมากครับ เปิดด้วยความดังปรกติครับ ใช้บ้างพักบ้างครับ พอถึงจุดหนึ่งจะได้ยินความแตกต่างครับ แต่สุดท้ายแล้วมันก็ขึ้นอยู่กับหูเราว่าฟังออกหรือเปล่า แยกออกแค่ไหน อันนี้หูใครหูมันครับ

จัด ak300 เมื่อนานมาแล้ว ตอนแรกตกใจมากเพราะเสียงต่างจาก demo ที่หน้าร้านพอสมควรเลยครับ แต่พอใช้งานไปเหยียบๆร้อย ชม. เสียงเริ่มเข้าที่เข้าทาง และในที่สุด ก็ลงตัวอย่างที่ต้องการครับ 
ส่วนรายละเอียดเกี่ยวกับการ burn ก็อย่างที่คุณ พี่ๆข้างบนกล่าวมาครับ เรื่อง capacitor อาจเกี่ยวส่วนนึง แต่ยังไงมันก็ไม่มีหลักการชัดเจนอะไรมารองรับขนาดนั้นตามที่ อ. Ahura บอกครับ 

ส่วนตัว ผมไม่อยากใช่คำว่า "จำเป็น" ในการ burn แต่แค่มายืนยันว่าแค่จเย็นๆ ใช้งานไปเรื่อยๆ เดี๋ยวเข้าที่เข้าทางเองครับ