ปกติก็วัดกันที่เงินละมั้งครับ

แต่สำหรับผม ถ้าจะถาม ก็ถามว่า แบบไหนถึงขั้นที่เรียกว่า Hi-Fi มากกว่าแฮะ

100,000 up ถึง​จะ​เ​ริ​่​ม​เรียก​ได้ว่า high end นะ​ครับ​ ส​สำหรับ​มุมมอง​ผม

ลองอ่านตามนี้่ครับ https://en.wikipedia.org/wiki/High-end_audio

ผมว่าเป็นคำที่แต่ละคนอาจจะนิยามไม่เหมือนกันซะทีเดียว
แต่ส่วนตัว  ถ้าแปลตรงแบบทื่อก็จะได้ว่า รุ่นระดับ (สูง)  ที่ (จบ) ได้  = Hi - end  พอดี  55+
ประมาณว่าพวกรุ่นท็อปของแต่ละแบรนด์ หรือตัวรองท็อป  อาจจะไม่ต้องถึงขั้นแพงสุดระดับแสน  แต่ตัวท็อปบางแบรนด์อยู่ที่ 3-4 หมื่น  ก็สามารถพอจะเกาะกลุ่มกับตัวท็อปแบรนด์อื่นได้  แบบมีคาแรคเตอร์ที่ถือว่าอยู่ในขั้นสุดได้เหมือนกัน  อย่างเช่น Campfire Andromeda กับ Vega ก็น่าจะรวมเข้าไปกันได้ครับ

ตีความแล้วก็ยังคลุมเครื่อไม่มีกฏเกณฑ์ที่ตายตัว เอาเป้นว่าเสียงคนส่วนใหญ่ว่างัยก้ว่าตามนั้น

ปล. พอดีผมไม่มีของยี่ห้อ wilson audio กับ Nordost ที่เขายกตัวอย่าง

แสดงว่าที่ใช้อยู่ยัง low end อยู่มั้ง เพราะผม DAC ยังใช้ของจีนอยู่เลย

ผมว่าคนไม่รู้ไม่น่าจะเรียกว่าโชว์โง่นะครับ  จะอยู่มายี่สิบสามสิบปี ถ้าไม่รู้ก็คือไม่รู้  บอกตรงๆผมก็ไม่รู้เหมือนกัน555

แต่เอาตามความเข้าใจของคนทั่วๆไป  ก็พวกของแพงนั่นแหละครับ  ยิ่งราคาสูงเท่าไหร่ก็ไฮเอนด์เท่านั้น(แต่ไม่ใช่แพง แล้วข้างในกลวงนะ555)

ผมเข้าไปดูความหมายตามที่ท่านอาร์ทบอกคือหมายถึง อุปกรณ์(เครื่องเสียง)ที่มีราคาสูง คุณภาพที่สูงตามราคา อะไรประมาณนี้(แปลผิด ขออภัยด้วย)
ผมอยากเสริมว่า เราเล่นเครื่องเสียงบ้านหรือgadget เพื่ออะไรครับ เพื่อให้ได้สิ่งที่ดีที่สุดเท่าที่เงินเราจะหาได้ แน่นอนว่ามันต้องเกี่ยวข้องกับคำนี้ คือทุกคนอยากมีsystem hi-endทั้งหมด ทั้งชุด
ผมเคยอ่านรีวิวของคนเล่นเครื่องเสียงบ้าน+โฮมๆ โพสรูปไปลงตั้งแต่ สร้างห้อง ขุดดิน ฝังเสา เอาอุปกรณ์ราคาแพงที่สุดที่มีในตลาดใส่เข้าไปทั้งหมด มีทีมงานดัง(ขอไม่เอ่ยชื่อ)มาเซท-อัพให้ อ่านและดูภาพประกอบจบ ความรู้สึกคือ ผมไม่ได้อะไรเลย
กับอีกรีวิวน่าจะในเวปนี้นี่แหละ บอกหูฟังราคา 200 เสียงเหมือน 2000 บาท โหคนอ่านเป็นหมื่น นั่นแสดงว่ามีคนเหลียวมองรถเฟอร์รารี่ แต่มือกำเศษสตางค์แน่นเดินขึ้นรถเมล์(เหมือนผม) แต่ละคนอ่านแล้วไปซื้อมาลอง แลกเปลี่ยนทัศนะกัน เอาไปเล่นกับ เครื่องอะไร แบบไหน ทุ้ม-แหลมเป็นยังไง เสียงมีแตกไหม
2 เรื่องที่ยกมาเหมือนเศรษฐีกับยาจก(ที่อาจเป็นมากกว่านั้นในวันข้างหน้า)ถ้าไปถามเศรษฐี เขาอาจไม่ตอบเนื่องจาก 1.ฉันไม่ตอบแกหรือ2.ไม่รู้หรอก ไฮอง ไฮเอนด์ รวยซะอย่าง ไม่รู้ว่าจะเอาตังไปเก็บที่ไหน
ผมถึงบอกว่าศึกษาให้เข้าใจ ในอุปกรณ์แต่ละชิ้น บทความทั้งไทย/เทศเยอะแยะมีให้อ่านเพื่อความแตกฉาน กล้าที่จะถามในคำถามที่ควรถามกับผู้รู้ ซึ่งคุณไม่มีทางรู้ว่าเขารู้จริงแค่ไหน จนกว่าคุณจะตัดสินใจเล่นเอง ลองเอง เชื่อตัวเอง ใช้ดนตรีสดช่วยในการเปรียบเทียบ ถ้าคุณมีหูฟังราคา 2-300 บาทแล้วบอกว่าเสียงใกล้เคียงกับเสียงกีตาร์ที่เพื่อนเล่น ผมจะไม่แปลกและยินดีที่ ความเป็นไฮเอนด์ไม่จำเป็นต้องแพงหรือราคาสูงเสมอไปครับ

ผมว่ามันก็เหมือนสินค้าทั่วไปทุกอย่างแหละครับ ยี่ห้อนึงเค้าก็ทำออกมาหลายรุ่นตามวัสดุและสเปคให้เหมาะกับคนทุกระดับ ผู้บริโภคก็เลือกซื้อตามความเหมาะสมของแต่ละคนละครับ เช่นราคาอาหาร มื้อละ 40 บาท ก็มี มื้อละ 4,000 บาทก็มี

1,500

ก็ต้องถามว่านิยาม Hi end สำหรับใครครับ

สำหรับคนเงินเหลือจ่ายเยอะๆ ก็หลักล้าน สิบๆ ล้าน หรือกว่านั้น

สำหรับคนเงินเหลือจ่ายกลางๆ ก็หลักหมื่น หลักแสน

สำหรับคนเงินเหลือจ่ายน้อยๆ ก็หลักร้อย หลักพัน

แต่ความสุข ความพอใจ ในการฟังเพลง หรือเล่นเครื่องเสียง

ก็ไม่ได้แปรผันตามจำนวนเงินที่จ่ายออกไปเสมอไปหรอกนะครับ

เงินนั้นส่วนสำคัญส่วนนึง แต่มันมีปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง อีกเยอะเลยครับ 

จริงๆถ้าจะแปลกันตรงๆเลยก็คือ สูงสุดสายที่ปลายรุ้ง 555

หรือน่าจะแปลว่าของอะไรก็ได้ที่แพงๆครับ ซึ่งถ้าจะใช้คำว่าไฮเอนด์ในวงการไหนก็ตาม มักจะหมายถึงกลุ่มสินค้าที่มีราคาสูงสุดหรือเกือบจะสุดของกลุ่มนั้นๆ ส่วนกลุ่มที่ราคาต่างลงมามากๆๆอาจจะใช้เรียกคำว่าไฮเอนด์ไม่ได้

แต่คำนี้สับสนกับคำว่าออดิโอไฟล์ครับ เพราะถ้าเราฟังหูฟังตัวหนึ่งถึงจะไม่ได้ราคาแพงอะไร แต่เราสามารถบอกว่าหูฟังตัวนี้เสียงมันออดิโอไฟล์จริงๆ หมายถึงว่ามันมีคุณภาพเสียงที่ถึงขั้น ทั้งๆที่มันอาจจะไม่แพงอะไรก็ยังได้ครับ คนมักจะเข้าใจว่าเสียงที่ดีแบบที่ออดิโอไฟล์ชอบ ส่วนมากจะต้องแพงอย่างเดียว จริงๆคือไม่จริงครับ

แต่สินค้าที่ผลิตดีๆให้เสียงที่ดีเข้าขั้นออดิโอไฟล์ ส่วนมากก็มักจะราคาสูงเหมือนกัน 555

งงไม๊เนี่ย

สำหรับผม
ผมว่าความไฮเอนขึ้นอยู่กับปัจจัย 2 อย่างนะครับ 

1. ยี่ห้อ (การวางตำแหน่งbrandในตลาด)
2. ราคา (การตั้งราคาสูง เพื่อยกระดับสินค้า)

1.1 ยี่ห้อที่ใช้วัสดุคุณภาพดี ดีไซน์เรียบๆหรูๆ มีเอกลักษณ์ของตัวเอง ผลิตจำนวนน้อย งานแฮนเมด แบบเห็นยี่ห้อปุ๊บรู้เลยว่านี่ห้อนี้มีแต่ของดี นั่นคือไฮเอน ถ้าตีกรอบลงมาเรื่องอุปกรณ์เครื่องเล่นเพลงก็พวกยี่ห้อ dCS, McIntoch หรือ chord อะไรประมานนี้ ถ้ายี่ห้อลำโพงก็พวกที่เรา แค่เพียงได้ยิน "ชื่อยี่ห้อ" ปุ๊บรู้เลยว่าไฮเอน เช่น b&w, mbl หรือ wilson audio เป็นต้น

2.1 ราคาที่สูงมากๆ ราคาที่คนส่วนใหญ่ และเน้นย้ำว่าส่วนใหญ่ มีกำลังซื้อไม่ถึง หรือต่อให้มีเงินซื้อ ก็ยังต้องคิดแล้วคิดอีกคิดหน้าคิดหลังว่ามันดีสมราคาขนาดนี้จริงหรือ? เช่นลำโพงคู่ละเป็นล้าน dac ตัวละล้าน นั่นคือความไฮเอน (ถ้าหลักแสน ผมว่ามันยังเป็นเพียง mid-end หรือ entry level)

ทีนี้เมื่อนำเรื่อง ยี่ห้อที่มีชื่อเสียง และเรื่อง ราคาที่แพงหูฉี่ มาบรรจบกันมันก็คือความไฮเอนแบบสมบูรณ์แบบ

A. แต่เนื่องจากสินค้าไฮเอน มักขายได้จำนวนน้อย ผู้ผลิตสินค้าไฮเอนบางรายจึงมีการผลิตสินค้าที่เรียกว่า entry level ออกมาเพื่อให้คนสามารถเข้าถึงได้อีกนิดโดยก็ยังคงอาศัยชื่อเสียงความไฮเอนของตัวเองในการทำตลาดและสร้างรายได้ให้บริษัทผู้ผลิตมากขึ้นโดยขายของให้ถูกลง (ทีนี้ผู้ซื้อก็จะได้ใช้สินค้า "ยี่ห้อไฮเอน" ในราคาแบบสบายกระเป๋าขึ้นมา)

B. ส่วนยี่ห้อตลาดๆ ซึ่งไม่ได้มีความเป็นไฮเอนแต่โดยกำเนิดก็มักจะมีสินค้า premium ราคาแพงแบบก้าวกระโดดกว่าปกติไว้ซักรุ่นหรือสองรุ่น เพื่อขายให้กับคนที่มีกำลังซื้อสูงขึ้น ความได้เปรียบคือฐานลูกค้าที่มีคนรู้จักมากกว่า เมื่อกลุ่มลูกค้ากลุ่มนี้เห็นสินค้ายี่ห้อนี้มีราคาแพงกว่ารุ่นอื่นถึงสิบเท่า ก็จะมีความรู้สึกว่ารุ่นนี้มัน "รุ่นไฮเอน" ขึ้นมาทันที 

ทั้งนี้ทั้งนั้นส่วนตัวผมมองว่าในแบบข้อ A และ B มันยังไม่ไฮเอนแท้ๆ เพราะไฮเอนแท้ๆมันต้องชื่อเสียงยี่ห้อที่ดีบวกกับราคาที่โคตรแพงแบบที่คนส่วนมากจริงๆเข้าไม่ถึงครับ

ถ้าตีกรอบลงมาที่ชุดหูฟังพกพาและgadget ซึ่งมีราคาเริ่มต้นที่หลักร้อยจนถึงสูงสุดที่แสนกว่า ผมว่าเราๆท่านๆในบอร์ดนี้รู้ดี ว่ายี่ห้อไหนไฮเอน ยี่ห้อไหนไม่ไฮเอน ราคาไหนไฮเอน และราคาไหนไม่ไฮเอนครับ

ถ้าคิดแบบพุทธนะ 
ผมว่า พวกเราทั้งหลาย เดินมาถูกทางแล้วครับ
เพราะท่านว่า ควรเลือกทางสายกลาง นั่นก็คือ MID-END นั่นเอง

ระดับ high end ผมว่าวัดจากค่าแรงขั้นต่ำและ gdp ต่อหัวของคนในประเทศครับ ฮาๆ

อุปกรณ์ระดับ $3,000 - $5,000+ ในไทยนี่ก็เรียกว่า high end แล้ว แต่เมืองนอกที่ gdp ต่อหัวสูงๆ ห้าพันเหรียญนี่เรียกว่าเด็กๆ เอาไปโม้ว่า high end คงโดนเหยียดกลับมา ต้องระดับ $10,000++ ขึ้นไปถึงจะพูดได้ว่าชั้นใช้ของ high end นะยะ น่ะครับ 555+ 

ปล. ขำๆ นะครับ จริงๆ จะไฮท์จะโลว์ก็โดนเมียบ้องหูเหมือนกัน หากเราบอกราคาจริงครับ 555+ 

จะเป็นหูฉลาม หรือกุ้งมังกร อาจไม่ถูกอกถูกใจเท่าข้าวผัดกระเพราก็ได้ อยู่ที่ความพอใจและความเหมาะสมของคนกิน^^

แต่หูฉลามร้านนี้อร่อยมากนะครับ ไม่แพงด้วย
อยู่หน้าทางเข้าเดอะหลอดพอดีครับ ^^

Hi = สูง
End = จบ

พูดก็คือ สินค้าเกรดสูงที่ใช้แล้วจบ
ส่วนจบไม่จบ มันก็ขึ้นกับความพึงพอใจและงบประมาณส่วนบุคคลแล้วละครับ

ส่วนตัว ตามที่ได้อ่าน ๆ มา  
แบรนสินค้า + ราคา + ความนิยม + คุณภาพ =  ไฮเอน 
น่าจะใช่ใช่มั้ย....

ส่วนใหญ่ที่เห็นๆกันจะ High อย่างเดียวไม่ End ครับ อิอิ

ผมกลับคิดว่าความนิยม ไม่เกี่ยวนะครับ
ยิ่งไฮเอน ยิ่งไม่นิยมนะผมว่า 
หรืออาจจะนิยมเฉพาะในหมู่คนเล่นไฮเอนด้วยกัน อันนี้ก็อาจจะเป็นได้ครับ

สมัยก่อน ตัวเลือกน้อยสมัยเกือบ ๆ 10 ปีก่อน AKG k701 นี่ Hi - End โคตร ๆ ทั้ง รีวิว จากไทย และต่างประเทศ และจากนั้นถ้า ผมซื้อเมื่อปี 2553 AKG k702 ที่เปลี่ยนสายได้ ไม่นับสาย Rock อย่าง rs 1 หรือพวก Ms pro นะ ตอนนั้น K701 นี่ราคา หมื่นต้น ๆ ก็ถือว่าแพงแล้วครับ แต่ ณ ปัจจุบัน 6990 บาท แต่ยังคงทรงรั้งตำแหน่ง พระกาฬ class A อยู่ ในโลก Audiophile

อืมม.. เวลาผ่านไป ไม่เคยหยุด ราคาก็ไม่ได้เป็นตัวแปลเสมอไปในความ hi - End ปัจจุบันยอมรับตรง ๆ ครับ หูฟังไม่ว่าจะ เป็น inear ไปจนถึง Full ถ้าราคาต่ำกว่าหมื่น เอาเสียงเทียบกันแทบไม่ได้เลย มันจบ ไม่ได้เลยจริง ๆ วงการนี้ 5555+
ทั้ง ๆ ที่คิดว่าได้เสียงที่พอใจแล้วนะ พอเข้าไ ปเที่ยว ร้านเฮีย ทีไร กิเลส ตัวใหม่ก็เกิดขึ้นได้ตลอดเลย อันตราย ๆ 

ถ้าเมื่อ 3-4 ปีที่แล้วมีใครบอกว่าหูฟัง flagship ตัวละแสนนี่คงไม่มีใครเชื่อหรอกครับ 555 สมัยนั้น HD800 หรือ LCD2 ตัวนึงไม่ถึง 5 หมื่นก้อเทพสุดๆแล้ว ซื้อสายดีๆประมาณ Cardas Clear ก้อหมื่นเศษๆเอง ที่จะแพงหน่อยก้อเป็น Stax เพราะมันต้องซื้อแอมป์ด้วย แต่ยุคนี้สิเห็นราคาตัวท็อปๆแล้วมีสะดุ้ง 555

ก

คำว่า HI-END สำหรับผม คิดว่า คือ ของดี + ราคาแพง และจับต้องได้ยาก (ต้องดีจริงๆนะ ของไม่ดี แต่แพง ไม่ถือว่า hi-end) 

Hi-End สำหรับผมก็น่าจะเอาจริงเอาจังกับการฟังเพลงมากขึ้นมั้งครับ^^

ความสุนทรีย์

ไฮเอนด์เสียงใสกระจ่าง หนักแน่น แต่ไม่ลึก

มิดเอนด์ เสียง สั่นเครือ ฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง พริ้วไหว โหยหวน แต่ ล้ำลึก

ระดับที่มีขายอยู่ในหมวดนี้ไงครับ 555+
หูฟังอออิโอไฟล์/ไฮเอ็นด์

HI-END อีกคน อาจเป็นเสียงที่ธรรมดาสำหรับอีกคน
ในขณะที่ของราคาธรรมาดหลักพัน อาจเป็นของ HI-END สำหรับคนที่ ไม่เคยสัมผัสของแบบนี้ 
เรียกได้ว่า ไม่มีคำว่าพอดีสำหรับ มนุษย์    อาหาร้านนี้ที่เค้าว่าอร่อยอาจไม่ถูกใจเรา แต่เราดันไปถูกใจอาหารข้างทาง อีกคนบอก มันต้องซูชิคำละ 500 ดิวะ ไม่ใช้คำละ 5 บาท มันคนละเกรดกัน  

เรื่องแบบนี้เถียงกันไม่มีวันจบสิ้น เค้าถึงได้บอกเราว่า กิเลสดับด้วยการซื้อ 555

โสตปสาทรูป (คือ ประสาทหู) เป็นรูปที่มีความใสสามารถรับ เสียง (สัททารมณ์) ได้ มีลักษณะเหมือนวงแหวน มีขนสีแดงเส้นละเอียดอยู่โดยรอบ หน้าที่ของโสตปสาทรูปมี 2 อย่าง คือ เป็นที่ตั้งแห่งโสตวิญญาณจิต (สถานที่ที่โสตวิญญาณจิตรับรู้เสียง) และ โสตทวารวิถี (ขบวนการของจิตที่เกิดดับติดต่อกันเป็นชุด ๆ ทางหู )

โสตประสาทรูป เป็นรูปละเอียด นะครับ
ไม่อาจมองเห็นได้ ด้วยตา หรือ ไม่อาจใช้
เครื่องมือ ทางวิทยาศาตร์
แต่มีอยูู่ จริง  ผู้เห็นได้มีเพียงผูู้เดียว

จิต เป็น นามธรรม


ส่วน. ความไฮเอนด์  เป็น บัญญัติ ธรรม

ก็พวกของคุณภาพที่ราคาไม่ใช่ัญหาน่ะครับ เป็นเครื่องเสียงที่ทำออกมาโดยยึดปรัชญาว่าทำออกมาให้ดีที่สุดโดยไม่สนใจเรื่องต้นทุน และไม่สนใจว่าจะขายได้เท่าไหร่

ส่วนพวกไฮไฟ คือพวกที่ทำออกมาโดยมีการกำหนดตลาดที่ชัดเจนว่าไม่ใช่ตลาดบน มีการกำหนดงบประมาณต้นทุนและราคาขายที่เหมาะสม (คือมีการคุมต้นทุนนั่นแหละ) ง่ายๆ คือถ้ายังมีการคุมต้นทุน ประเภททำไปยังมีห่วงเรื่องต้นทุนว่าจะเกินงบไหม อันนั้นไม่ใช่ไฮเอ็นด์ ถ้าไฮเอ็นด์ต้องจัดเต็มครับ ใส่ให้หมดแม๊กซ์แล้วค่อยไปกำหนดราคาขายหลังจากทำเสร็จอีกที แพงเท่าไหร่ไม่ว่ากัน